webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

130

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 130 การปรากฏตัวครั้งแรก

 

บนมือถือมีบริษัทเอเจนซี่มากมายที่ส่งข้อความมาผูกไมตรี เจียงเซ่อเก็บมือถือลงแล้วเดินเข้าสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินไป และโจวฮุ่ยก็โทรมาหาเธอ

“เห็นหงหงบอกว่า เห็นลูกอยู่ในทีวี?”

น้ำเสียงของโจวฮุ่ยดูแปลกใจไม่น้อย เหมือนว่าไม่ค่อยอยากจะเชื่อว่าเจียงเซ่อไปอยู่ในทีวีจริงๆ

ถึงอย่างไรแต่ก่อนลูกสาวหล่อนก็เอาแต่พูดไม่หยุดว่าจะเข้าวงการบันเทิง แต่หล่อนก็คิดว่าเธอคงพูดไปเรื่อย

โจวฮุ่ยคิดว่า ถึงดาราในทีวีจะมีมากมายเต็มไปหมด แต่คนธรรมดาๆ บอกว่าอยากจะเป็นดาราก็เป็นได้เลยที่ไหนกัน?

จนกระทั่งเมื่อคืนได้ยินว่าเห็นเจียงเซ่ออยู่ในทีวี คนทั้งบ้านก็รู้สึกแปลกใจกันไม่น้อย เมื่อคืนโจวฮุ่ยเลยไปรื้อหาเบอร์มือถือที่เจียงเซ่อเคยให้เอาไว้ เช้านี้ก็เลยลองโทรมา ที่จริงเมื่อคืนก็ลองโทรบ้างแล้ว แต่ก็เพิ่งจะรับสายก็ตอนนี้นี่แหละ

ไม่รู้ว่าทำไม เวลาที่หล่อนคุยกับเจียงเซ่อ มันจะรู้สึกอึดอัดและทำตัวไม่ถูกไปหมด

และนี่ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกที่หล่อนโทรหาหลังจากที่เจียงเซ่อย้ายออกจากบ้านตระกูลตู้ไป

“อืม” เจียงเซ่อตอบไปเล็กน้อย โจวฮุ่ยก็ยิ่งไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรอีก ตอนนี้เธอไม่มีอะไรที่จะคุยกับลูกสาวคนนี้แล้วจริงๆ เงียบอยู่นาน ถึงค่อยได้พูดออกมา

“วันนี้ตอนเช้า มีพวกเพื่อนบ้านมาถามหลายคนเลยน่ะ เรื่องที่……” เกี่ยวกับเรื่องที่ทั้งๆ เจียงเซ่อก็สอบติดมหาลัยอันดับหนึ่งไปแล้ว ทำไมถึงยังต้องไปเข้าวงการบันเทิงอีก หล่อนเองก็สนใจแต่ที่คนที่บ้านตลอด เลยไม่รู้เรื่องราวความเป็นไปของเจียงเซ่ออีกเลย ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เธอไปเล่นหนัง และไม่รู้ว่าเพราะอะไรเธอถึงได้สอบติดมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งได้

ตอนนี้ผู้โดยสารที่อยู่รอบๆ ต่างก็พากันมองมาที่เธอเป็นระยะๆ หลังจากที่ตรวจตั๋วแล้ว จู่ๆ ก็มีคนเดินทำใจกล้าเข้ามาถาม

“คุณคือเจียงเซ่อใช่หรือเปล่าคะ? คนที่แสดงเป็น ‘หญิงสาวในฝัน’ ในหนังของจ้าวร่างที่เมื่อคืนไปออกรายการ ‘คนดังนั่งคุย’ คนนั้นใช่ไหมคะ?”

คนที่ถามคือเด็กสาวที่อายุน่าจะไล่เลี่ยกับเจียงเซ่อเลย ในมือของเด็กสาวกำมือถือไว้ ท่าทางตื่นเต้นไม่น้อย

และแค่เด็กสาวคนนั้นพูดออกมา มันก็สามารถดึงดูดให้ผู้คนหันมามองกันไม่น้อย

รายการ ‘คนดังนั่งคุย’ ถือว่าเป็นรายการที่โด่งดังมากในประเทศ ถึงแม้จะมีหลายคนที่ไม่ได้ดูรายการ แต่ชื่อเสียงของรายการก็ต่างเป็นที่คุ้นหูอยู่ไม่น้อย

พอได้ยินเด็กสาวพูดแบบนั้น ผู้คนต่างก็มองไปที่เจียงเซ่อที่กำลังโทรศัพท์อยู่ และพากันกระซิบกระซาบ

“นี่ ฉันได้เจอดาราเหรอเนี่ย?”

จากนั้นคนรอบๆ ข้างก็รีบควักมือถือออกมาอย่างรวดเร็ว เด็กสาวคนนั้นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เบาลงอีกนิด

“ฉันมั่นใจว่าเป็นคุณนะ คุณเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งนี่ ถ้านั่งรถไฟฟ้าสายนี้ไปมันก็จะผ่านมหา’ลัยเหมือนกัน”

คนรอบๆ ข้างเริ่มพากันถ่ายรูป เจียงเซ่อที่ไม่เคยคิดถึงเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน เธอเลยรีบพูดกับปลายสายอย่างโจวฮุ่ย

“ยังไม่ต้องไปสนใจว่าคนอื่นเขาจะถามอะไร ไว้วันหลังถ้าหนูว่างจะแวะไปหา”

เธอวางสายไปทันทีที่พูดจบ จากนั้นก็ได้ยินเสียง ‘แชะ แชะ’ ดังขึ้น คนรอบๆ เริ่มเดินล้อมเข้ามาเรื่อยๆ จนเยอะแยะไปหมด จนกลายเป็นว่าเธอโดนล้อมตัวเอาไว้เสียแล้ว อีกทั้งยังเบียดกันไปมาอีกด้วย

มีคนต็มไปหมด ตอนนี้มันเลยเจ็ดแปดโมงที่เป็นช่วงคนเยอะที่สุดไปแล้ว แต่ยังไงคนก็ยังเยอะอยู่ดี

“ให้ตายเถอะ เธอคือเจียงเซ่อจริงๆ ด้วย รูปร่างหน้าตาสวยจริงๆ ตัวจริงสวยกว่าตอนที่สัมภาษณ์ตั้งเยอะแน่ะ”

เด็กสาวคนนั้นยังเอาแต่ถ่ายรูปเธอไม่หยุด แล้วก็เดินเข้ามาใกล้อีก

“ขอถ่ายรูปคู่หน่อยได้ไหมคะ?”

ที่จริง เจียงเซ่อเองก็เตรียมใจในการใช้ชีวิตหลังจากที่ไปร่วมรายการ ‘คนดังนั่งคุย’ กับจ้าวร่างแล้ว แต่เธอก็ไม่คิดเลยจริงๆ ว่า จะต้องมาเจอคนที่จำตัวเองได้บนรถไฟฟ้านี่

แต่เท่าที่เคยนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมา ถึงแม้ว่าจะมีคนไม่น้อยมองมาที่เธออย่างสนอกสนใจ แต่ส่วนมากก็ได้แค่ซุบซิบและยืนมองอยู่ที่เดิม น้อยนักที่จะกล้าเข้ามาพูดคุยกับเธอแบบนี้

เด็กสาวคนนั้นพูดจบก็ไม่รอให้เธอได้ตอบอะไรทั้งนันก็รีบเข้ามาแอบถ่ายไปรูปหนึ่ง จากนั้นก็คลำไปที่ตัวเอง

“โธ่ ไม่ได้เอาปากกามา”

เด็กสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอยากจะร้องไห้ “ใครมีปากกาบ้างคะ ขอยืมหน่อย ฉันอยากได้ลายเซ็นของหญิงสาวในฝันคนนี้ เซ็นไว้บนเสื้อไปเลย!”

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ของสถานีเริ่มรู้สึกแปลกๆ ก็รีบเดินเข้ามาให้ทุกคนกระจายตัวออกไป

แต่เรื่องที่ได้เจอดาราในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินนี่ แค่ครู่เดียวก็แพร่กระจายกันออกไป

เจียงเซ่อเห็นท่าไม่ดีแล้ว เลยตัดสินใจตอบตกลงกับเด็กสาวคนนั้นว่าจะถ่ายรูปด้วย จากนั้นก็รีบก้มหน้าถอยออกไปทางเดิมที่เข้ามา พลางล้วงเอามือถือขึ้นมาโทรหาเผยอี้ทันที

“อาอี้ นายช่วยมารับฉันตอนนี้เลยได้ไหม?”

ด้านหลังเธอยังมีคนตามมาอีกมากมาย เธอไม่กล้าจะหยุดเดินเลยด้วยซ้ำ พอเผยอี้ถามสถานที่แน่ชัดแล้ว เขาก็รีบขับรถออกมาอย่างรวดเร็ว เธอเองก็รีบก้าวเท้าไปยังจุดนัด พอเห็นรถของเผยอี้แล้วก็รีบเปิดประตูขึ้นไปทันที

เธอรีบเสียจนหน้าแดงไปหมด แถมด้านหลังก็ยังมีคนตามมา เธอขึ้นรถมาแล้วก็ยังต้องมองกระจกดูหลังรถ

“ตอนนี้คนพากันชอบเธอขนาดนี้เลยเหรอ?”

เด็กสาวที่จำเธอได้ก็ยังอยู่ด้านหลังด้วยเช่นกัน หล่อนถือมือถือมองซ้ายมองขวาไปมา

เป็นครั้งแรกที่เผยอี้เห็นเธอเป็นแบบนั้น เขาพยายามไม่ขำแล้วรีบขับรถออกจากที่นั่นมาทันที

 “เธอสมควรที่จะถูกชื่นชอบจริงๆ นั่นแหละนะ”

เจียงเซ่อก็ยังไม่ตอบอะไร จากนั้นมือถือของเธอก็ดังขึ้นมาอีก เสียงแหลมของยวี๋เสี่ยวโจวดังเข้ามาจนแทบจะบาดแก้วหูเธอทันที่กดรับ

 “อ๊ากกกกกกก เซ่อเซ่ออ่ะ เธอนี่เองที่เป็นหญิงสาวในฝัน ทำไม่เธอไม่เห็นบอกอะไรเลยอ่ะ ทำไมไม่บอกกันบ้าง!”

เมื่อคืนสาวๆ พากันเลื่อนเวยป๋อดูแล้วเจอเข้า แต่พอนึกถึงเวลาชีวิตของเจียงเซ่อที่เป๊ะมากๆ แล้ว เลยอดทนที่จะไม่โทรไปตอนกลางดึกแบบนั้น แต่ก็ทนไม่ไหวถึงได้โทรมาเช้าขนาดนี้

แค่คิดว่าพอเจียงเซ่อเปิดมือถือขึ้นมาตอนไหนก็จะโทรมาหาทันที แต่ตอนที่โทรมาครั้งแรกก็เหมือนจะสายไม่ว่างอยู่ จนกระทั่งตอนนี้ก็รับได้แล้ว

“เธอปิดพวกเราซะสนิทเลยอ่ะ!” แถมก่อนหน้านี้ ยวี๋เสี่ยวโจวยังเดาไปต่างๆ นาๆ ว่าคนที่เป็น ‘หญิงสาวในฝัน’ จะเป็นใคร ตอนนั้นก็ยังพูดออกมาเล่นๆ ว่าถ้าเป็นเจียงเซ่อก็พอจะเหมาะสมที่จะได้รักกับชุยซิ่งด้วย แต่ใครจะไปรู้ว่าคำพูดเล่นๆ ในวันนั้นจะกลายเป็นความจริง ว่าเจียงเซ่อก็คือ ‘หญิงสาวในฝัน’ ในหนังเรื่อง ‘99 Love Letter’

การที่ในหอมีดารา เมื่อคืนในเว็บเพจของมหาวิทยาลัยก็ได้ระเบิดการถกเถียงกันเต็มไปหมด

เพราะได้เห็นว่าเจียงเซ่อไปอยู่ในทีวี พอมั่นใจว่าคือเจียงเซ่อจริงๆ นักศึกษาของมหา’ลัยอันดับหนึ่งก็พากันมาแชร์รูปที่แอบถ่ายเธอกันเต็มไปหมด

“นี่เธอรู้ไหม เมื่อคืนนี้มีคนจากหออื่นเยอะแยะเลยมาถามถึงเรื่องเธอ เช้าวันนี้เลยมีพวกสื่อโทรมาหาทางหอพักว่าอยากจะสัมภาษณ์เธอด้วยนะ!”

 ยวี๋เสี่ยวโจวยังพูดน้ำไหลไฟดับ น้ำเสียงดูจะตื่นเต้นไม่น้อยเลย

“ทุกคนต่างก็คิดไม่ถึงกันทั้งนั้น แต่ว่าพวกเรารู้สึกว่าเธอแสดงได้ไม่เลวเลยนะ ถ้าเกิดว่าพี่ต้าซิ่งของฉันจะตกหลุมรักใครสักคน ก็ต้องเป็นแบบเธอนี่แหละ ไม่ใช่ยัยจูพ่านน่ารังเกียจคนนั้น หล่อนจะเอาอะไรมาสู้กับเธอกัน?”

เจียงเซ่อยิ้มฝืด ยวี๋เสี่ยวโจวก็ตะโกนอย่างตื่นเต้นขึ้นมาอีกครั้ง

“เฮ้ยยยยยย บนเวยป๋อมีข่าวเกี่ยวกับเธอด้วย เธอลองดูสิ มีคนบอกว่าได้เจอเธอที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ที่เป๋ยไห่ซีลู่ แถมยังแอบถ่ายรูปมาด้วยนะ” หล่อนเอามือป้องลำโพงมือถือแล้วตะโกน “ซวงซวง เอามาให้ฉันดูหน่อยเร็ว”

“เธอจริงๆ ด้วยอ่ะเซ่อเซ่อ เป็นเธอจริงๆ! เธอรีบเข้าเน็ตดูเร็ว”

ยวี๋สี่ยวโจวพยายามเก็บความตื่นเต้นของตัวเองลง คุยกับเจียงเซ่อไปเกือบยี่สิบนาที สุดท้ายก็ถามเจียงเซ่อไปอีกว่าวันนี้จะไปที่มหา’ลัยไหม จากนั้นก็วางสายไป

“อาอี้ ของยืมมือถือหน่อยสิ”

เผยอี้ใช้มือเดียวจับพวงมาลัยเอาไว้ จากนั้นก็ยื่นมืออีกข้างไปเอากระเป๋าหนังของตัวเองส่งให้เธอ มือถือของเขาอยู่ในนั้นแหละ