128

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 128 โลกก่อนหน้านี้

หลิ่วอี้อันที่แสดง ‘แผ่นหลังหญิงสาวในฝัน’ มีทั้งถูกชมและถูกด่า ทำให้ง่ายต่อการที่จะสร้างชื่อเสียงขึ้นมา และได้เซ็นสัญญากับซื่อจี้หยินเหอ

             แต่เพราะฝีมือการแสดงอันโดดเด่นของนางเอกอย่างจูพ่าน จูพ่านเลยได้กลายเป็นคู่จิ้นในจอกับชุยซิ่งและเหยียบหลิ่วอี้อันลงได้ เพราะจูพ่านมีแบคมากกว่า ทำให้หล่อนกลายเป็นนางเอกเบอร์หนึ่งที่ซื่อจี้หยินเหอผลักดัน

เฝิงหนานกำหมัดแน่น ตอนนั้นเธอเองก็เคยเสี่ยงโชคในวงการบันเทิงอยู่หลายปี จนกระทั่งได้มารู้จักกับคนที่มีฐานะดีอย่างจ้าวจวินฮั่น และกลายเป็นผู้หญิงของเขา มีเขาเป็นคนลงแรงให้จนตัวเธอพอจะมีอะไรดีขึ้นมาบ้าง และเธอก็ค่อยๆ ดังขึ้นมาจริงๆ

             แต่ใช่ว่าเรื่องดีๆ จะอยู่กับเราตลอดไป!

             เธอคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย มือก็เลื่อนไปคลำหาบุหรี่อย่างเคยชิน แต่สุดท้ายกลับเจอแต่ความว่างเปล่า เธอเลยนึกขึ้นได้ว่าเพื่อไม่ให้เกิดพิรุธต่อหน้าเฝิงจงเหลียง เธอเลยไม่ได้เอาบุหรี่ติดตัวเอาไว้

ที่จริงตั้งแต่ที่เธอเกิดใหม่มา เธอก็ไม่ได้มีความอยากหรือติดบุหรี่อะไรแล้ว แต่ทว่าความเคยชินของชีวิตเก่ามันยังติดมา เลยทำให้ทุกครั้งที่เธอคิดเรื่องต่างๆ แล้วเกิดความไม่สบายใจ ก็เกิดอยากจะได้บุหรี่มาดูดสักมวน เพื่อให้จิตใจผ่อนคลายลงบ้าง เวลาที่พ่นควันนั่นออกมา มันก็ทำให้รู้สึกโล่งไปทั้งตัว

             ตอนนั้นเธอค่อนข้างจะเละเทะทีเดียว เธอผ่านมือผู้ชายมาหลายคน ใช้ทุกวิถีทางเพื่อไต่เต้าขึ้นมา

            เธอยื่นแขน แบมือออกไป

           “มีบุหรี่ไหม?”

            จ้าวจวินฮั่นขมวดคิ้วแล้วส่ายหัว

           “สูบน้อยๆ หน่อยเถอะ”

           เธอยื่นมือออกไปเพื่อคลำหาบุหรี่ตามตัวเขา แต่มือบางก็โดนจับห้ามเอาไว้

            เฝิงหนานเงยหน้ามาเขาครู่หนึ่ง ก่อนจะสะบัดมือจ้าวจวินฮั่นออกแล้วลุกขึ้นเดินไปทันที

“คุณจะไปไหน?”

จ้าวจวินฮั่นเอื้อมมือไปรั้งเธอเอาไว้ เธอเสยผมขึ้นแล้วยิ้มเย็นออกมา แต่ไม่พูดอะไรสักคำ

เธอจะไปเช็กดูว่าเพราะอะไร บท ‘หญิงสาวในฝัน’ ในเรื่อง ‘99 Love Letter’ ที่ควรจะเป็นของหลิ่วอี้อันถึงกลายเป็นของเจียงเซ่อไปได้ และเธอก็อยากจะรู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้จูพ่านต้องตกอยู่ในสภาพแบบนั้น

ที่จริงเธอควรที่จะรู้สึกแปลกๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งนานแล้ว เพราะบัตรหนัง ‘99 Love Letter’ ในวันแรกก็ขายดีมาก แต่มันก็ดีกว่าที่เธอคิดเอาไว้เกินไป

จ้าวร่างดูจะเทคแคร์และสนับสนุนดาราใหม่คนนั้นอยู่พอสมควร แม้แต่รายการ ‘คนดังนั่งคุย’ ก็ยังพา ‘หญิงสาวในฝัน’ ไปด้วย

แต่ตอนนั้นเธอไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลยสักนิด เพราะยังไงซะตั้งแต่เกิดใหม่มา เรื่องทุกอย่างในชีวิตมันก็แปรเปลี่ยนไปหมด ตอนที่เธอได้ยินว่าจ้าวร่างได้พูดเรื่องนี้ผ่านสื่อ เธอก็ไม่ได้เก็บเอาเรื่องนี้มาใส่ใจอะไร แต่ใครมันจะไปรู้ว่าคนที่เล่นเป็น ‘หญิงสาวในฝัน’ จะเป็นเจียงเซ่อ!

คนที่มีแต่ความสวย ดอกไม้ที่คอยแต่จะแย่งชิงบุรุษอย่างผู้หญิงชั้นต่ำ หล่อนมีสิทธิอะไร? ถึงมาแย่งของของเธอไป!

เฝิงหนานนึกขึ้นมาได้ว่า ตอนนั้นเธอคิดหาวิธีมากมาย เพื่อที่จะแย่งชิงการที่จะได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกองถ่ายจ้าวร่าง แต่สุดท้ายจ้าวร่างก็ดันปฏิเสธคำขอของเธอ และให้เจียงเซ่อแสดงบทนี้แทน นี่มันเป็นเรื่องที่เธอคงไม่มีวันรับได้

“คุณรู้จักเหรอ ดาราใหม่คนนี้?”

จ้าวจวินฮั่นเอาลิ้นดุนแก้ม สายตาอันเฉียบคมจ้องไปที่ใบหน้าของเฝิงหนาน จากนั้นก็ได้เห็นอารมณ์ของเธอที่ดูสงบลงไปอย่างชัดเจน และเขาก็พอจะเดาได้ว่าเธอเปลี่ยนเรื่องคิดแล้ว

“แต่ว่าเป็นแค่ดาราหน้าใหม่ อาศัยกระแสแค่นี้ จะดังไปได้สักเท่าไหร่กันเชียว?”

แต่ถึงแม้ว่าจะพูดแบบนั้นออกไป ตอนที่พูดถึงเจียงเซ่อขึ้นมา เขาก็ยังหันหน้าไปดูอีกครั้ง

ถึงแม้จะเป็นภาพบันทึกหน้าจอ และถึงแม้ว่าในรูปนั้นจะมีจูพ่านที่คอยแต่จะแย่งกล้องตลอดเวลา แต่สายตาของเจ้าจวินฮั่นก็ยังโดนเจียงเซ่อดึงดูดไว้

“จำเป็นต้องโมโหขนาดนั้นเลยเหรอ?”

เขาคิดว่าอาจเป็นเพราะเฝิงหนานโดนจ้าวร่างปฏิเสธในวันนั้นเสียอีก แต่จู่ๆ เฝิงหนานก็สบถออกมา แล้วกัมหน้าลง

ก็ถ้าเกิดครั้งนี้ คนที่แสดงหนังใหม่ของจ้าวร่างเป็นคนอื่นก็ไม่เป็นไรหรอก ถ้าคนที่จะได้เล่นบท ‘หญิงสาวในฝัน’ เป็นหลิ่วอี้อันก็ไม่เป็นไร เพราะในใจของเฝิงหนานรู้ดี ว่าหลิ่วอี้อันไม่มีอะไรสู้เธอได้เลย เธอเลยทนได้ถ้ามันจะเป็นแบบนั้น

แต่สุดท้ายคนที่ได้บทนี้ไป เป็นใครไม่เป็น ดันเป็นเจียงเซ่อ?

การจะเป็นดาราของเธอนั้นมันไม่ราบรื่นเอาเสียเลย และก็ไม่ใช่เพราะเธอไม่มีฝีมือการแสดง ไม่ใช่เพราะเธอไม่สวย แต่แค่เธอไม่มีแบค และเธอไม่ได้เกิดมาในที่ที่สูงส่ง

เธอเห็น ว่ามีดาราผู้หญิงหลายคนที่เทียบไม่ได้กับเธอเลยด้วยซ้ำ แต่กลับได้อยู่ในวงการจนมีชื่อเสียงมากมาย ในใจของเฝิงหนานมันรู้สึกแค้นไปหมด

ตอนที่เข้ามาสู่เส้นทางนี้ ตอนนั้นเธออายุน้อยเกินไป และตัดสินใจผิดอย่างใหญ่หลวงในการเซ็นสัญญากับค่ายบริษัท สุดท้ายทุกสิ่งทุกอย่างก็ตกไปอยู่ในมือของค่ายหน้าเลือดนั่น และต้องใช้ชีวิตราวกับไม่ใช่คน

แต่เธอไม่ยอมที่จะติดอยู่ในโคลนตมตลอดไป เธอไต่ขึ้นมาจนได้มาพบกับจ้าวจวินฮั่น และถึงแม้ว่าจ้าวจวินฮั่นจะมีคู่หมั้นอยู่แล้ว แต่ข้างกายเขาก็ยังมีผู้หญิงไปๆ มาๆ อยู่ไม่ขาด เธอพยายามอดทน จนสุดท้ายเธอก็ได้ให้กำเนิดลูกชายของจ้าวจวินฮั่นออกมาคนหนึ่ง

ความสัมพันธ์ระหว่างคู่หมั้นของเขาไม่ค่อยสนิทสนมอะไรนัก ทั้งสองคนหมั้นกันมาหลายปีแล้ว แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะแต่งกัน เธอเองก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน ว่าคู่หมั้นคนนั้นแซ่เฝิง เป็นคนในตระกูลเฝิง มหาเศรษฐีของวิสาหกิจจงหนานในฮ่องกง และเคยอยู่ที่ฝรั่งเศสมาหลายปี

และดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะไม่ค่อยได้ติดต่อกันนัก ส่วนมากจะเป็นเพราะการร่วมมือกันระหว่างสองตระกูลนั้นมากกว่า ที่ต้องการสร้างชื่อเสียงขึ้นมา

เธอเคยคิดมาตลอดว่าถ้าตัวเองให้กำเนิดลูกชายกับจ้าวจวินฮั่นแล้ว เธอก็น่าจะมีอำนาจอะไรขึ้นมาบ้าง และเธอก็มั่นใจในการที่จะได้แต่งเข้าตระกูลจ้าวมากขึ้น

แต่ทว่าตอนที่เธออุ้มลูกชายเพื่อไปขอ ‘ความยุติธรรม’ ที่บ้านของตระกูลจ้าว พ่อของจ้าวจวินฮั่นกำลังนั่งสูบบุหรี่อย่างสบายใจ สายตาหยิ่งยโสและหยามเหยียดจ้องมาที่เธอ สีหน้าของเขากำลังเหยียบย่ำเธอจนเละติดพื้น

“อยากได้เท่าไหร่ล่ะ บอกมาสิ?”

คำดูถูกที่มาพร้อมกับสายตาหยามเหยียดนั่น มันสะท้านไปทั้งร่างจนเข้ากระดูกดำ เขามองเธอราวกับมองโคลนตมที่แสนสกปรก คำพูดนั่นเหมือนกับจะเอาเศษเงินเล็กๆ น้อยๆ ให้ขอทานอย่างนั้น

พ่อของเขาไม่ชอบและรังเกียจคนในวงการบันเทิง จ้าวจวินฮั่นเองก็เก็บเรื่องที่มีลูกเอาไว้ และยังคงเห็นเธอเป็นแค่ของเล่นเหมือนเดิม

ลูกเธอก็คลอดมาแล้ว เพื่อที่จะได้แต่งเข้าตระกูลจ้าว เธอจะยอมแพ้ง่ายๆ ได้ยังไงกัน?

จ้าวซินหงไม่เพียงแค่ดูถูกเธอเท่านั้น เขาคิดว่าเธอน่ะเกิดมาฐานะต้อยต่ำ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะให้เขาได้ เทียบไม่ได้กับมหาเศรษฐีอย่างตระกูลเฝิง ไม่เหมาะที่จะเป็นนายหญิงของตระกูลจ้าวสินะ?

งั้นเธอก็จะไปเรียนมารยาท ไปเรียนรู้การปฏิบัติตัวให้เรียบร้อย คอยเป็นเด็กดีอยู่ข้างๆ จ้าวจวินฮั่น สืบเรื่องทุกอย่างของคู่หมั้นเขา เธอไม่เชื่อว่าเธอจะทำลายการแต่งงานในครั้งนี้ไม่ได้

เธอมีความทะเยอทะยานสูง แต่ก็น่าเสียดายที่เธอไม่สามารถทำลายการแต่งงานระหว่างเฝิงหนานและจ้าวจวินฮั่นได้ สุดท้ายก็ถูกเจียงเซ่อเข้ามาขัดขวาง หญิงสาวสองคนทะเลาะกันอย่างรุนแรง และในท้ายที่สุด เธอก็ตายด้วยน้ำมือของเจียงเซ่อ 

พอคิดย้อนไปถึงเรื่องนี้แล้ว อารมณ์ของเธอก็ดิ่งลงอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่เธอตายแล้ว สิ่งที่น่าเยาะเย้ยที่สุด ก็คือการที่เธอได้กลายเป็นเฝิงหนานที่ชีวิตที่แล้วเธอทั้งเกลียดทั้งอิจฉาที่สุดไป

หลังจากที่รู้แล้วว่าเธอกลายเป็นใคร เธอก็รู้สีกมีความสุขสุดๆ ไปเลย

เธอนึกถึงสายตาดูถูกเหยียดหยามของจ้าวซินหงที่เคยมองเธอ เธอนึกถึงตอนที่ตัวเองดิ้นรนทำทุกอย่าง เธอนึกถึงทุกครั้งที่เธอเลียนแบบคู่หมั้นของจ้าวจวินฮั่น เพื่อที่จะได้เป็นภรรยาที่ถูกต้องในอนาคต

ตอนนี้ตายไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่เธอกลับได้สิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดมาได้อย่างง่ายดาย

แต่ก่อนตัวเธอต้องทำอะไรมากมายและลำบากแค่ไหนเพื่อที่จะได้เป็นแบบเฝิงหนาน พอตายไปแล้ว ดูท่าสวรรค์จะได้ยินเสียงเธอสักที เลยทำให้เธอได้สมหวังดั่งปรารถนา

ร่างกายนี้เคยเป็นสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกอิจฉาริษยา ทำให้เธอชังเฝิงหนานที่เกิดมามีฐานะสูงส่ง แต่ในขณะเดียวกันเธอก็อดไม่ได้ที่จะแอบดีใจอยู่ลึกๆ

แต่เฝิงหนานไม่ได้เป็นอย่างที่เธอเคยคิดเอาไว้ ว่าหล่อนจะเป็นพวกหัวสูง ชีวิตของหล่อนมันช่างจืดชืดไม่มีอะไรน่าสนใจเลยสักอย่าง หล่อนก็แค่ได้เป็นคนที่ครอบครองตำแหน่งว่าที่ภรรยาของจ้าวจวินฮั่น และนั่นก็ไม่ใช่เพราะหล่อนมีอะไรดีกว่าตนเอง แต่เป็นเพราะฐานะของหล่อนต่างหาก

ตอนนี้เธอก็ยังคงใช้สิ่งที่เธอเคยเรียนรู้มาจากชาติก่อนทำให้คนอื่นมาคอยตามล้อมหน้าล้อมหลังจนหัวหมุน เธอก็ยังเป็นเธอคนนั้น ที่สามารถทำให้จ้าวจวินฮั่นหลงได้จนหัวปักหัวปำ

เธอได้พบกับจ้าวซินหงอีกครั้ง สายตาของผู้นำตระกูลที่เคยมองมาด้วยความดูถูก  หลังจากที่ได้พบเธออีกครั้ง กลับเรียกเธอให้เข้าไปหาด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ

“เสี่ยวหนาน มาแล้วเหรอ”