ตอนที่ 116 การเปลี่ยนแปลง
คิ้วสวยของเฝิงหนานขมวดเข้าหากัน ผมที่แต่เดิมยาวตรงสีดำขลับตั้งแต่โคนจรดปลาย ถูกเธอดัดเสียจนเป็นลอนสวยปล่อยยาวมาจนถึงกลางอก
จากตำแหน่งที่จ้าวจวินฮั่นนั่งอยู่นั้น เขาสามารถมองเห็นขาอ่อนอวบขาวที่โผล่พ้นออกมาจากกระโปรงของเธออย่างชัดเจนโดยไม่ต้องสงสัย
ราวกับว่าเธอเองก็รู้ถึงเสน่ห์อันน่าเย้ายวนของตัวเองดี ทุกท่วงท่าที่เธอขยับเคลื่อนไหวนั้นสามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนได้ดีหาใดเปรียบ ต้นขาที่ราวกับผลลูกท้อสุกจนได้ที่ ดึงดูดผู้คนจนถอนตัวได้ยาก
จริงๆ แล้วหากพูดถึงความสัมพันธ์ของจ้าวจวินฮั่นกับเฝิงหนานในตอนแรกนั้น ตอนที่ไปทานข้าวด้วยกันครั้งแรก เขาก็เพียงรู้สึกว่าบุคลิกของเธอเป็นคนที่เอาจริงเอาจังก็เท่านั้น ไม่ได้มีความน่าสนใจอะไรเป็นพิเศษ เป็นเพียงแค่เด็กสาวที่มีการศึกษาดี มารยาทเรียบร้อย รู้จักกาลเทศะคนหนึ่งเท่านั้น เดิมทีเขาคิดว่าเธอเหมาะสมกับการเป็นภรรยาที่ดี แต่ใครจะรู้ล่ะว่าหลังจากที่คุ้นเคยกันแล้ว เขาถึงจะพบว่านั่นเป็นเพียงแค่ลักษณะภายนอกของเธอเท่านั้น
เธอมีบางอย่างที่นอกเหนือจากความคาดหมายของจ้าวจวินฮั่นไปมากนัก ถ้าหากให้เขามองแล้ว เฝิงหนานก่อนหน้านั้นไม่ได้มีท่าทีเหมือนกับหญิงสาวที่อยากจะเข้าสู่วงการบันเทิง หรืออยากเล่นละครเลยแม้แต่น้อย และเมื่อเขาได้รู้ถึงฐานะของครอบครัวของเธอแล้ว ก็ยิ่งทำให้เขาสนใจในตัวเธอมากขึ้นไปอีก
เขานั่งหลังตรง ยื่นมือออกไปลูบขาเนียนสวยคู่นั้น เธอเองก็ไม่ใจร้าย กลับยืดขาเรียวสวยออกมาตรงหน้าของเขา ตอนที่เขายื่นมือออกมาสัมผัสนั้น เธอยังคงลดตัวลงเพื่อที่ให้เขาดื่มด่ำกับความสุขมากเสียหน่อย
ท่าทีที่ดูเหมือนกับว่าเธอกำลังรู้ใจเขานั้น อดที่จะทำให้เขาแปลกใจไม่ได้ ทำไมก่อนหน้านั้นเขาถึงคิดว่าเธอเป็นหญิงสาวที่สง่างาม แต่จิตใจเย็นชาได้กันนะ ?
“จ้าวร่างอยากจะพาเธอไปออกในรายการ ‘คนดังนั่งคุย’ งั้นเหรอ จะเป็นไปได้ยังไง” เธอพึมพำกับตัวเองเบาๆ ตอนที่จ้าวจวินฮั่นลูบขาของเธออยู่นั้น เธอก็ชักขาของตัวเองออกน้อยๆ ตามสัญชาตญาณ
“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ล่ะ ?” จ้าวจวินฮั่นลูบขาข้างหนึ่งของเธอเบาๆ สัมผัสได้ถึงความนุ่มลื่นที่บริเวณฝ่ามือ อีกทั้งจมูกก็สูดดมกลิ่นกายที่หอมหวานของเธอเข้าไปอีกครั้ง
“ได้ยินมาว่าจ้าวร่างนั้นสนับสนุนเด็กใหม่คนนี้มาก เพราะงี้ตอนแรกเขาเลยปฏิเสธคำขอร้องของพวกเรา”
“ผมถามจริงๆ นะ ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคุณถึงอยากได้บทนี้นัก” จ้าวจวินฮั่นลูบอยู่สักพัก ก็ยืดตัวนั่งตรง แล้วหยิบกล่องบุหรี่บนโต๊ะทำงานขึ้นมา “ตอนนี้ดูเหมือนว่า จ้าวร่างจะใช้โอกาสนี้ทำให้เด็กใหม่คนนั้นมีชื่อเสียงขึ้นมา ก็ถือว่าเริ่มต้นได้ดีทีเดียว แต่ฐานะของคุณมันไม่เหมือนกัน มันไม่มีความจำเป็นอะไรเลยที่คุณต้องลดตัวเองเพื่อไปแย่งบทบาทที่แม้แต่หน้าก็ไม่ได้เห็นแบบนั้น”
ตอนแรกเป็นเพราะเฝิงหนานไม่สนใจคำเตือน ออกหน้าติดต่อคนของบริษัทรุ่ยเหอด้วยตัวเอง ทำให้สุดท้ายไม่เพียงแต่เรื่องราวจะไม่สำเร็จเท่านั้นยังทำให้ตนเองต้องติดหนี้น้ำใจของคนบริษัทรุ่ยเหออีก
และก็เพราะเรื่องนี้ ทำให้ท่าเฝิงจงเหลียงไม่ค่อยพอใจเฝิงหนานสักเท่าไหร่นัก เร็วๆ นี้ยังพูดเหมือนเป็นการเตือนเธอเสียด้วย
“คุณต้องเข้าใจนะว่า วงการบันเทิงนั่นมันก็เป็นแค่การสมมติเท่านั้น คุณอย่าไปยั่วให้คุณปู่ต้องโมโหเลยจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นคุณคงถูกส่งตัวกลับไปที่ฮ่องกงแน่”
เธอไม่ได้สนใจคำเตือนของจ้าวจวินฮั่นเลยแม้แต่น้อย แต่หันไปแย่งกล่องบุหรี่ที่อยู่ในมือของเขามาไว้ในมือแทน ก่อนที่จะหยิบบุหรี่ออกมามวนหนึ่งด้วยท่าทีที่เป็นธรรมชาติ หลังจากนั้นก็ใช้ไฟแช็กจุดไฟ ก่อนที่จะสูบควันเข้าไปลึกๆ แล้วส่งบุหรี่ที่มีรอยลิปสติกไปให้กับจ้าวจวินฮั่นด้วยสายตาเย็นชา
“ฉันมีแผนในใจแล้ว”
เธอพ่นควันออกมา แล้วแสร้งพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจนัก
“จริงสิ คุณรู้ไหมว่าบทหญิงสาวในฝันในละครเรื่องใหม่ของจ้าวร่าง ใครเป็นคนแสดง และมีความสัมพันธ์กับจ้าวร่างยังไง”
เธอหรี่ตาลง จ้าวจวินฮั่นส่ายหัวไปมา
“ก็แค่เด็กใหม่ ถามนิดหน่อยก็รู้แล้ว”
เฝิงหนานรู้สึกผิดหวังนิดหน่อย ความจริงแล้วตอนที่ละครเรื่องใหม่ของจ้าวร่างอย่าง 99 Love Letterเริ่มถ่ายทำนั้น เธอก็ตั้งใจที่จะแย่งชิงบทของ ‘หญิงสาวในฝัน’ มาอยู่แล้ว
คนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่ภายในใจของเธอนั้นรู้ดี บทนี้มันเหมาะกับนักแสดงมือใหม่ที่ต้องการประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
ได้แสดงในหนังของจ้าวร่าง และยังได้ร่วมงานกับนักแสดงชายชื่อดังจากแผ่นดินใหญ่อย่างชุยซิ่ง แค่เริ่มก็ถือว่าประสบความสำเร็จมากแล้ว
แต่ใครจะรู้ล่ะว่าเพราะว่าก่อนหน้านี้เธอเอาเงินก้อนหนึ่งมาลงทุนหนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ ของจางจิ้งอานร่วมกับจ้าวจวินฮั่นไปแล้ว และนอกจากนั้นเธอยังได้ร่วมแสดงบทหนึ่งในเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ อีกด้วย ทำให้เฝิงจงเหลียงเห็นเข้า และทำให้เขาไม่พอใจเธอเป็นอย่างมาก เขาตำหนิเธออย่างรุนแรง ทำให้เธอเสียเวลาจนรีบไปแย่งบทหญิงสาวในฝันในเรื่อง ‘99 Love Letter’ ไม่ทัน
แต่สิ่งที่ทำให้เฝิงหนานยิ่งคิดไม่ถึงก็คือ บทนี้ที่เดิมทีกำหนดตัวคนแสดงไม่ได้นั้น กลับคาดไม่ถึงว่าในที่สุดก็สามารถกำหนดตัวคนแสดงได้แล้ว และสุดท้ายเธอก็พลาดโอกาสที่จะเล่นบทนี้ไป
ตอนนี้ภาพยนตร์ออกฉายแล้ว และราคาบัตรก็ค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้น และจ้าวร่างก็มีความคิดที่จะดันเด็กใหม่คนนี้อีก เฝิงหนานขมวดคิ้วแน่น สีหน้าของเธอมืดครึ้มไปด้วยความสับสน ผ่านไปครู่หนึ่งถึงได้เปิดปากพูดออกมา
“ช่างเถอะ แต่ถ้าฉันอยากดังขึ้นมา ไม่ว่าเด็กใหม่คนไหนก็สู้ฉันไม่ได้หรอก”
คำพูดของเธอแสดงให้เห็นถึงความต้องการอยากจะเอาชนะเด็กใหม่อย่างชัดเจน เรื่องนี้เองก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร จ้าวจวินฮั่นพยักหน้าออกมาอย่างไม่ได้คิดอะไรมาก
หลังจากที่ได้รับการแจ้งจากสตูดิโอของจ้าวร่าง ในเว็บทางการของรายการ ‘คนดังนั่งคุย’ ก็มีความคิดเห็นจำนวนมาก ทุกๆ วันมีคนจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น
ผู้น้อยผู้มีอารยะธรรม : พรุ่งนี้ก็วันที่ 6 แล้ว หลังจากที่ได้ดู 99 Love Letter มาแล้ว 3 ครั้งติด ก็เกิดความรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับบทหญิงสาวในฝันที่ผู้กำกับจ้าวดันขึ้นมาเป็นอย่างมาก ในที่สุดก็จะได้เห็นหน้าคนที่แสดงบท ‘หญิงสาวในฝัน’ แล้ว คิดๆ แล้วก็รู้สึกตื่นเต้นจริงๆ
หัวหอมชิ้นใหญ่ : ได้แต่นับนิ้วถอยหลังทุกวัน มันไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ กว่าจะรอมาจนถึงวันที่ 6 ได้ ได้เวลานับถอยหลังอีกแล้วสินะ
เกิดมาทั้งทีฉันต้องมีประโยชน์ : (เน้นตัวหนา) ขอถาม จะมีเทพธิดาที่ไหนมาออกรายการเหรอ?
เกลียดไปจนตาย : ให้ตายเหอะ ความเห็นข้างบนไปอยู่ที่ไหนมา ข่าวที่ดังขนาดนี้ ไม่เคยอ่านหรือไง ?
สวรรค์แกล้ง สาวน้อยกลัว : เรื่อง ‘คนดังนั่งคุย’ ในวันพรุ่งนี้ จ้าวร่างจะพาทีมนักแสดงมาให้สัมภาษณ์ด้วย ข่าวในอินเตอร์เน็ตก็ออกมาแล้ว แล้วฉันจะไม่ไปได้เหรอ ?
การถกเถียงกันในอินเตอร์เน็ตนั้นเป็นไปอย่างร้อนแรงมาก และเมื่อวันที่ 6 มาถึง ถึงแม้รายการสัมภาษณ์จะบอกว่าจะออกอากาศตอน 1 ทุ่มตรง แต่เจียงเช่อก็ได้ทำตามคำแนะนำของจ้าวร่าง เธอเตรียมตัวตั้งแต่บ่าย 2 โมงครึ่งเพื่อที่จะออกไปพบกับหัวหน้าฝ่ายของรายการของสถานีโทรทัศน์หัวเซี่ย
รายการนี้เป็นรายการที่ออกอากาศสด ถึงแม้ว่าไหวพริบของพิธีกรเซิ่งจิ้งจือจะมากขนาดไหน หรือว่าการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าจะดีมากเท่าไหร่ แต่เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ระหว่างการสัมภาษณ์เกิดอะไรขึ้น ปกติก่อนที่จะถ่ายทอดสดนั้น ทีมงานของรายการจะต้องคุยกับผู้ช่วยของดาราก่อน ระหว่างการทำงานร่วมกัน ต้องรู้จักกันและกันให้มากที่สุด อย่างน้อยก็เพื่อที่จะสามารถหลีกเลี่ยงความเย็นชา หรือสถานการณ์ที่กระอักกระอ่วนระหว่างการสัมภาษณ์พูดคุย
ตอนที่เจียงเซ่อมานั้น เผยอี้เป็นคนส่งเธอมา คืนนี้นอกจากพิธีกรอย่างเซิ่งจิ้งจือและจ้างร่างแล้ว ยังมีผู้ชมในห้องส่งกับแขกรับเชิญอีกด้วย เผยอี้ที่รู้เรื่องนี้ตั้งแต่แรกแล้ว ก็เลยได้บัตรที่นั่งของผู้ชมมาด้วยสองสามใบ เพื่อที่จะร่วมอยู่ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ด้วยกันกับเธอ
นอกจากนั้นเขายังได้นัดกับพวกของเนี่ยต้านไว้ และโทรหาพวกนั้นระหว่างทาง เพื่อที่จะได้มั่นใจว่าพวกของเนี่ยต้านจะมาที่สถานีโทรทัศน์ได้ทันเวลา