webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

083

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 83 เปลี่ยนไป

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เผยอี้รู้สึกว่ามันแปลกไปจริงๆ เขารู้สึกว่าในข้อมูลตอนแรกๆ กับช่วงหลังๆ มันไม่เหมือนกันเลยสักนิด

แต่ก่อนเธอเกิดมายากจน ผลการเรียนก็แย่ คนรอบข้างต่างก็พูดว่าได้ยินเธอเคยพูดเอาไว้ ว่าจบมอปลายแล้วจะเข้าวงการบันเทิง จะเป็นดาราดัง จะทำเงินให้ได้เยอะๆ ไม่ให้ใครดูถูกเธอได้อีก

ผลการเรียนของเธอไม่ดี แถมยังไม่ใฝ่เรียนอีกด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะมีกฎบังคับว่าจะต้องเรียนจบจนถึงมอปลายล่ะก็ เธอก็อาจจะเลิกเรียนแล้วเข้าวงการบันเทิงไปแล้วก็ได้

แต่ก่อนวงจรชีวิตของเธอ เวลาส่วนมากก็จะอยู่ที่โรงเรียน คอยไล่ตามข่าวดารากับเพื่อนอีกคน เม้าท์พวกข่าวซุบซิบ พยายามอย่างยิ่งที่จะปิดบังความลำบากที่ตัวเองมี

แต่พอมาถึงช่วงหลังๆ ปรากฏว่าเธอมีผลการเรียนเธอดีขึ้นมาก ถึงจะชอบคุยกับเพื่อนในห้องเหมือนเดิม แต่เผยอี้ก็รู้สึกว่าเธอดูเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว

ผลการเรียนและคะแนนของเธอดีในขนาดที่ว่าสอบติดมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งได้

ดูจากข้อมูลที่เนี่ยต้านส่งมาให้ ก็เห็นได้ชัดว่าอาจารย์ประจำชั้นของเธอก็แทบจะไม่เชื่อว่าจะเป็นความจริง

ในขณะเดียวกัน ข้อมูลของเธอก็ยังมีพิรุธอีกหลายจุด แต่ก่อนเธอไม่เคยเรียนเล่นเปียโนมาก่อน แต่ตอนที่ไปออดิชั่นหนังเรื่อง ’99 Love Letter’ กลับมีคนพูดต่อๆ กันมาว่าในฉากๆ นั้น การดีดเปียโนและลักษณะท่าทางนั้นดูดีและสง่ามากๆ และดนตรีที่เธอเล่นก็ไม่เลวเลย

จะทำให้ได้แบบนั้นคงไม่ง่าย อย่างน้อยก็ต้องมีการฝึกซ้อมกันบ้าง หรือไม่ก็ต้องเป็นคนที่เก่งมากๆ

เพลง ‘Star’ เล่นไม่ยากนัก ที่ยากก็น่าจะเป็นเล่นออกมาให้ดี

ถึงแม้ว่าเธอจะเล่นไปแค่ครึ่งเพลง แต่เผยอี้กลับรู้สึกคุ้นเคยกับทำนองแบบนี้เหลือเกิน มันเป็นเพลงที่เฝิงหนานชอบ เขาเลื่อนกลับวิดีโอเพื่อฟังทำนองนั้นอยู่หลายรอบ ถึงจะปิดตาอยู่ก็สามารถกดตัวโน้ตได้ เธอเล่นได้ไม่เลวเลยจริงๆ

ครั้งแรกที่ได้พบเธอ คือที่ค่ายฝึกทหาร ตอนนั้นเธอกำลังถือขวดน้ำ ท่าทางการกระทำเล็กๆ ของเธอ มันละม้ายคล้ายคลึงกับเฝิงหนาน ทำให้เขาต้องหยุดมองเธอ

อีกครั้งก็เจอกันในลิฟต์ที่โรงแรมรุ่ยจี๋ ตอนที่เธอกำลังถูกคนตามตื๊อ สุดท้ายไอ้คนนั้นก็ถูกเขาอัดซะเละ

หลังจากนั้นเผยอี้ก็ไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้อีก เพราะยังไงสำหรับเขาแล้ว ที่เขาซ้อมเหยาเสียงก็ไม่ใช่เพราะเจียงเซ่อ และมันก็ไม่ได้คู่ควรให้เขาจดจำ แต่พอลองนึกดูดีๆ อีกรอบแล้ว ตอนที่เธอกำลังโดนเจ้าเหยาเสียงนั่นตามตื๊อและกำลังจะเข้ามาในลิฟต์ เธอดูไม่เต็มใจและรำคาญ พอเขาบอกให้ออกไป เธอก็เหมือนจะแสดงสีหน้ากลัวๆ ออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน แต่เขากลับรู้สึกว่าเธอตั้งใจที่จะทำแบบนั้น

แม้กระทั่งตอนที่เหยาเสียงโดนซ้อมซะขนาดนั้น คนแทบทั้งโรงแรมก็พากันตื่นตระหนกไปหมด แต่เธอกลับมีท่าทางนิ่งเฉยและสงบ พอตอนที่ตำรวจไปสอบปากคำเธอ เธอก็ยังดูนิ่งมาก

เรื่องนี้กลายเป็นข่าวดัง เนี่ยต้านจึงโทรไปบอกให้เธอห้ามไปพูดเรื่องนี้ที่ไหนเด็ดขาด และเธอเองก็ไม่ได้ไปป่าวประกาศที่ไหนจริงๆ แต่มันก็ยังดูแปลกอยู่ดี!

ถ้าเป็นอย่างที่เนี่ยต้านพูดว่าเธออยากจะเป็นดาราหน้าใหม่ในวงการบันเทิง แน่นอนว่าจะต้องหวังที่จะได้เป็นดาราดัง อยู่แล้ว งั้นเธอก็ควรจะฉวยโอกาสเอาเรื่องโรงแรมรุ่ยจี๋มาเพื่อสร้างข่าวให้ตัวเองโด่งดังมากกว่าสิจึงจะสอดคล้องกับนิสัยของเธอ

แต่เธอก็ไม่ได้ทำแบบนั้นเลย!

เขายังรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง เขาเลื่อนข้อมูลของเจียงเซ่อขึ้นไปอีกครั้ง ข้อมูลก่อนหน้านี้ก็ดูเรียบง่ายดี คะแนนที่สอบก็ไม่ดี ความสัมพันธ์กับพ่อเลี้ยงก็ดูไม่ค่อยจะลงรอยกันนักและใฝ่ฝันอยากจะเป็นดาราที่โด่งดัง

แต่ข้อมูลในช่วงหลังของเธอ เธอกลับเริ่มเปลี่ยนไปทีละเล็กละน้อย

ถึงแต่ก่อนเจียงเซ่อจะพูดเอาไว้ว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิงเป็นดารา แต่เธอก็ยังทำอะไรที่เหมือนกับเด็กอายุสิบเจ็ดเขาทำกัน เช่นสะสมโปสเตอร์ คุยกับเพื่อนในชั้นเรียนเรื่องข่าวซุบซิบของเหล่าดารา ความใฝ่ฝันในอนาคต เป็นต้น แต่จริงๆ แล้วก็ยังไม่ได้ลงมือทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง

แต่ช่วงหลังๆ มานี้เธอเปลี่ยนไปมาก เธออาศัยช่วงที่จางจิ้งอานกำลังถ่ายทำหนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ เธอจึงไปเป็นตัวประกอบกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง และอาศัยรูปร่างหน้าตาอันสวยงามและลักษณะส่วนตัวอันโดดเด่นจนเข้าตาจางจิ้งอาน และยังได้แสดงเป็นตัวประกอบที่มีบทพูดในหนังของเขาอีก

เมื่อมีประวัติว่าเคยได้เล่นหนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ มาแล้ว หลังจากนั้นเธอก็ได้รับเล่นหนังเรื่อง ‘ฝันที่เป็นจริง’ จากข้อมูลที่เนี่ยต้านให้มา เธอพูดบทภาษาฝรั่งเศสได้อย่างลื่นไหล ทำให้เธอได้รับบทนั้นมาและได้เซ็นสัญญาในทันที

เผยอี้เลื่อนจอไปมาเพื่ออ่านทวนสองสามรอบแล้ว จนแน่ใจว่าเจียงเซ่อเพิ่งจะอายุสิบเจ็ดเท่านั้น ไม่มีทางที่จะเคยไปเรียนภาษาฝรั่งเศสมาก่อน

ลักษณะท่าทางและนิสัยมันแตกต่างกันเกินไป แทบจะเรียกได้ว่าเปลี่ยนเป็นคนละคน

“อาต้าน......” น้ำเสียงของเขาที่เปล่งออกมามีความแหบพร่า ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เขานึกถึงตอนเช้าที่ตัวเองตื่นขึ้นมาแล้วมีความอิ่มเอมใจและมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก

เนี่ยต้านยังนั่งสั่งสอนเฉิงหรูหนิงอยู่

“พี่อี้ของฉันจะไปสนใจพวกดารากระจอกๆ ได้ยังไง......” พอเผยอี้เรียกเขาอีก เขาก็หันไปหา เผยอี้ก็พูดขึ้นทันที

“ฉันต้องการเทปที่บันทึกตอนเจียงเซ่อไปออดิชั่นเรื่อง ‘ฝันที่เป็นจริง’ ไปหามันมา”

“เอ๋?”

เนี่ยต้านอ้าปากค้าง เฉิงหรูหนิงที่นั่งอยู่ข้างๆ เองก็จ้องเขาตาโต ทำเหมือนกับตัวเองได้ประสบความสำเร็จในชีวิตนี้แล้ว

“ไปหามา เร็วๆ”

เขาลุกขึ้นยืนอย่างวุ่นวายใจ ในมือยังกำมือถือเอาไว้ แล้วเดินกลับไปกลับมาอยู่อย่างนั้น

การเปลี่ยนไปของเจียงเซ่อเริ่มตั้งแต่ประมาณครึ่งปีก่อน และเมื่อครึ่งปีก่อนนั้น เป็นตอนที่เขาได้ทะเลาะกับเฝิงหนาน เพราะเธอไปทานข้าวกับไอ้จ้าวจวินฮั่นทายาทเจียงหัวกรุ๊ปนั่นพอดี และเขาก็ได้ยินผู้ใหญ่ในบ้านเผยพูดกันว่า พ่อแม่ของเฝิงหนานตั้งใจที่จะให้เธอกับเจ้าจวินฮั่นแต่งงานกัน เพื่อเป็นการขยายวิสาหกิจจงหนานของตระกูลเฝิงให้ไปถึงหัวเซี่ย ตอนนั้นหัวสมองเขาโล่งและขาวโพลนไปหมด และบึ่งรถไปที่บ้านตระกูลเฝิงโดยไม่ทันได้คิดอะไรทั้งนั้น

เพราะเขารู้ว่าผู้ใหญ่ในบ้านคงไม่ได้พูดเล่นๆ กับเขาแน่ๆ ยิ่งมันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเฝิงหนานด้วยแล้ว

การที่คนในบ้านเขาพูดแบบนั้นออกมา มันก็เป็นไปได้มากว่าฝ่ายผู้ใหญ่ของทั้งสองตระกูลนั้นได้พูดคุยและได้ความคิดเห็นที่ตรงกันว่าจะให้เฝิงหนานกับจ้าวจวินฮั่นแต่งงานกัน ถึงมีข่าวแบบนี้ออกมา

ตอนที่เขาได้รู้เรื่องในตอนนั้น ในใจเขาก็ตื่นตระหนกและเจ็บเกินกว่าใครจะเข้าใจได้

ตั้งแต่จำความได้ เขาก็คิดและมั่นใจมาตลอดว่าเฝิงหนานนั้นเป็นของเขา เขาตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เธอเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่ง เขาก็จะเรียนที่มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่ง

เธอชอบนักเขียนที่ชื่อโหวซีหลิ่ง เขาก็เอาหนังสือทุกเล่มของโหวซีหลิ่งมาอ่านให้จำขึ้นใจ เพื่อที่หากมีวันหนึ่งที่เธอพูดถึงโหวซีหลิ่งขึ้นมา เขาเองก็จะได้มีเรื่องคุยกับเธอ แม้ว่าจะได้พูดคุยกันเพิ่มขึ้นอีกนิด สามารถทำให้เธอหัวเราะได้อีกหน่อยก็พอแล้ว

เธอชื่อเฝิงหนาน ไม่ว่าจะเป็นดาราที่ดังหรือไม่ดัง ชื่อคน ขอแค่แซ่เฝิง และชื่อมีคำว่าหนานอยู่ด้วย เขาก็ล้วนที่จะใส่ใจกับมัน

หรือแค่คำพูดลอยๆ ของเธอที่บอกว่าอยากไปฝรั่งเศส เขาก็รีบซื้อบ้านพักตากอากาศในย่านชนบทเขตเมด็อกเอาไว้ทันที และเก็บมันไว้เป็นความลับและจัดการมันอย่างเงียบๆ ถึงสองปีแล้ว

มีหลายครั้งที่เนี่ยต้านและคนอื่นๆ อยากจะพูดแต่ก็ไม่ได้พูด เหมือนอยากจะเตือนเขา

เขารู้ว่าคนอื่นคิดยังไง แต่เขาก็รู้ว่าตัวเองเป็นคนที่เชื่อมั่นและจะไม่มีวันหันหลังกลับ เขาชอบเฝิงหนานแล้ว ไม่คิดจะคิดเป็นอย่างอื่นอีก

ดังนั้นตอนที่ได้รู้เรื่องที่เธอจะต้องแต่งงานกับจ้าวจวินฮั่น ตอนที่ขับรถออกไปตัวเขาก็สั่นเทาไปทั้งร่าง

อาจเป็นเพราะว่าเขาเห็นว่ามันสำคัญมาก เขาไม่อยากจะให้มันเกิดข้อผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นเขาจึงปกป้องทะนุถนอมอย่างระมัดระวัง แม้แต่ความรู้สึกในใจมากมายที่เขามี ก็จะบอกออกไปไม่ได้เด็ดขาด เขากลัวว่าถ้าเฝิงหนานรู้แล้วจะอึดอัด เขาไม่อยากจะทนเห็นเธอต้องลำบากใจ เขาทนไม่ได้!

คืนนั้นที่เธอนัดกับจ้าวจวินฮั่น เขาขอให้เฝิงหนานไปบอร์โดซ์กับเขา ตอนแรกแค่คิดว่าอยากจะเอาเธอไปซ่อนไว้ ให้ไอ้แซ่จ้าวนั่นยอมเลิกหวังไปซะ แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายเขาและเธอก็ต้องแยกจากกันในแบบที่ไม่ดีนัก

ในคืนนั้นเธอไปทานข้าวกับจ้าวจวินฮั่น เขาก็คิดมาตลอดว่าจะขอให้เฝิงหนานไป*บอร์โดซ์กับเขา ตอนนั้นเขาอยากจะพาเธอไปซ่อนเอาไว้ จะไม่ให้ไอ้เวรแซ่จ้าวนั้นได้เห็นเธออีกตลอดไป แต่น่าเสียดายที่ต่างฝ่ายต่างแยกกันอย่างไม่ไยดี

*บอร์โดซ์(Bordeaux) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องไร่องุ่นและไวน์ขึ้นชื่อ