webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

020

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 20 แนะนำตัว

รูปร่างลักษณะของเจียงเซ่อตรงกับคาแรคเตอร์ที่กู้เจียเอ่อต้องการทุกอย่าง แต่ถ้าพูดถึงฝีมือการแสดงของเธอแล้ว คงเทียบไม่ได้กับคนที่เรียนการแสดงมาแน่นอน

ยิ่งไม่ได้เรียนโรงเรียนสอนการแสดงแล้วด้วย สวยไปก็เท่านั้น คงเป็นได้แค่แจกันดอกไม้ตกแต่งเท่านั้นแหละ

สำหรับกู้เจียเอ่อ หนังเรื่อง ‘ฝันที่เป็นจริง’ นั้นสำคัญสำหรับเขามาก เนื้อเรื่องและตัวบทเขาก็เป็นคนดูแลเอง กว่าจะผ่านก็ต้องแก้ตั้งหลายครั้ง

เขาหวังจะอาศัยนักแสดงจากหนังเรื่องนี้เพื่อที่จะได้รางวัลใหญ่ ดังนั้นตอนที่เขาจะเลือกบริษัทมาร่วมลงทุนจึงต้องคิดและระมัดระวังเป็นอย่างมาก

เขากลัวว่าถ้าลงทุนทุกอย่างไปแล้วแต่ดันเลือกคนที่จะมาแสดงเป็นพระเอกนางเอกผิด อย่างนั้นหนังเขาจะต้องพังแน่ๆ

บทนางเอกเขาก็พิจารณาอยู่ตั้งหลายครั้งถึงได้เลือกคนที่ดูดีและมีฝีมือในการแสดงอย่าง จ้าวรั่วจวิน

ซุนฉี่หมิงหยิบรายชื่อนักแสดงขึ้นมาเปิดดูสองสามที ตำแหน่งพระเอกและนางเอกถูกวางไว้ตั้งนานแล้ว ส่วนบทบาทอื่นๆ ส่วนมากก็โดนพวกบริษัทที่ร่วมลงทุนเสนอชื่อเข้ามาเช่นกัน

การแคสติ้งครั้งนี้ก็แค่หาตำแหน่งบทบาทเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น แต่ก็อย่างว่าละนะ เขายังต้องการคนที่มีฝีมือในการแสดงอยู่

ประสบการณ์ของเจียงเซ่อคงไม่พอสำหรับกองถ่ายนี้ หรือมากสุดเธอก็คงเป็นได้แค่ตัวประกอบเท่านั้นแหละ

ซุนฉี่หมิงวางรายชื่อนักแสดงในมือลง พอกำลังจะพูดก็ดันมีคนพูดขึ้นมาจากข้างหลังเสียก่อน

“พี่ซุน” เขาหันกลับไปมอง ผู้ชายใส่แว่นคนหนึ่งเอนตัวเข้ามาหา ในดวงตาปรากฏความหยาบโลนขึ้นมา

“มันมีฉากที่เจ้ารั่วจวินขอนักแสดงแทนด้วยไม่ใช่เหรอ?”

ซุนฉี่หมิงเข้าใจสิ่งที่เขาพูดทันที

เพราะหนังเรื่องนี้เป็นหนังรัก ในหนังก็หนีไม่พ้นต้องมีการเล่นฉากเลิฟซีนใกล้ชิดกันค่อนข้างมาก

แต่ตั้งแต่ที่เจ้ารั่วจวินเข้าวงการบันเทิง หล่อนได้เซ็นสัญญากับบริษัทคนกลางที่มีชื่อเสียงอย่างบริษัทหัวซิง ความสัมพันธ์ใกล้ชิดและบริษัทก็ดันหล่อนอย่างเต็มที่

หล่อนเลือกที่จะเดินสายนางเอกที่แสนดี ดังนั้น บริษัทจึงเข้มงวดกับหล่อนมากกว่าปกติ ครั้งนี้ที่หล่อนได้รับเล่นหนังเรื่อง ‘ฝันที่เป็นจริง’ และได้กลายเป็นนางเอกหนังของกู้เจียเอ่ออีก ถึงแม้ว่าทางหัวซิงจะผ่อนปรนกฎบางข้อให้บ้างแต่ก็มีฉากบางฉากที่ต้องใช้ตัวแสดงแทน

ในวงการบันเทิงมีคนตั้งมากมาย อยากจะดังก็มีเยอะแยะ แต่คนที่มีความสามารถจริงๆ กลับน้อยเหลือเกิน

มีคนไม่น้อยที่ยอมเปลื้องผ้าตัวเองออกเพื่อที่จะดัง

ซุนฉี่หมิงไม่ได้รีบร้อนที่จะหาตัวแสดงแทนด้วยซ้ำ ไว้ถึงวันถ่ายค่อยหาดูก็ได้ พวกคนที่อยากจะมาปรากฏตัวในหนังแม้แค่เงาก็ยังดี คนพวกนั้นมีอยู่มากมาย

แต่คำพูดของชายสวมแว่นที่อยู่ด้านหลังทำให้เขาลังเล เขาประเมินเจียงเซ่ออีกครั้ง สายตาที่เขามองเธอเหมือนกำลังครุ่นคิด

ในวงการบันเทิงมีพวกเด็กอุปถัมภ์มากมายที่ทั้งสวยและยังสาวแบบเจียงเซ่อ เด็กสาวที่คิดแต่อยากจะดังเขาเองก็เห็นมาเยอะ

ถ้าอยากจะเข้ามาอยู่ในเฟรมกล้องแล้วก็ นอกจากปูมหลังและทักษะในการแสดงที่ดีแล้ว เธอยังสามารถใช้สามารถใช้ข้อได้เปรียบของตัวเองในการที่จะได้รับโอกาสนั้นอีกด้วย

พวกผู้ชายผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้านหลังเขาต่างก็รู้กฎการเล่นของวงการบันเทิงเป็นอย่างดี ดังนั้น ทุกคนจะทำเป็นไม่ได้ยินคำของผู้ชายคนนั้นก็แล้วกัน แล้วรอฟังคำพูดของซุนฉี่หมิงแทน

“เธอไม่เคยผ่านการแสดงมาก่อน ดังนั้นครั้งนี้……”

ตั้งแต่ที่เข้ามาในห้องนี้ ในขณะที่กำลังโดนสายตาของทุกคนประเมินตัวเธอไปต่างๆ นาๆ ตัวเธอเองก็กำลังประเมินคนในห้องกลับด้วยเช่นกัน ลักษณะท่าทางต่างๆ ของซุนฉี่หมิงและคนอื่นๆ ที่เปลี่ยนไปอยู่ในสายตาของเธอมาโดยตลอด

ฟังดูก็รู้แล้วว่ากำลังจะเปิดปากปฏิเสธ แต่เจียงเซ่อก็พูดแทรกขึ้นทันที

“ก่อนหน้านี้ฉันได้ไปถ่ายหนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ ที่เซิ่นจวง ฉันยังได้คำชมจากผู้กำกับจางจิ้งอานและยังได้เล่นบทบทหนึ่งในเรื่องด้วยค่ะ”

เธอจงใจพูดให้ดูคลุมเครือ ไม่ได้บอกว่าตัวเองได้เล่นเป็นแค่ตัวประกอบที่มีบทพูดเท่านั้น

แต่พอเจียงเซ่อพูดจบ ซุนฉี่หมิงเองก็ยังไม่เชื่อว่าเธอจะพูดเรื่องจริง จึงถามออกไปอีกครั้ง

“อะไรนะ?”

เขานั่งตัวตรงแล้วเอื้อมมือไปเอาประวัติขึ้นมาดูอีกครั้ง

“เธอเคยแสดงเรื่องปฏิบัติการผู้พิทักษ์งั้นเหรอ?”

“ใช่ค่ะ” เจียงเซ่อพยักหน้า แววตาของเธอแน่วแน่ไม่ได้ดูล่อกแล่กเลยสักนิด ดูๆ แล้วก็ไม่น่าจะพูดโกหกได้

ตอนนี้หนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ กำลังถ่ายที่เซิ่นจวงจริงๆ ข้อนี้เขารู้ดี

“แล้วทำไมในใบประวัติเธอถึงไม่เขียนลงไปล่ะ”

“ต้องเขียนด้วยหรือคะ?”

เจียงเซ่อทัดผมยาวยาวของเธอไปด้านหลัง ใบหน้าเธอปรากฏรอยยิ้มที่แสนดึงดูด “ที่ฉันได้แสดงหนังเรื่องปฏิบัติการผู้พิทักษ์ก็เป็นเพราะโชคดีที่รุ่นพี่หลิวเย่ช่วยแนะนำให้ ฉันเลยไม่อยากที่จะเขียนลงไป ขอโทษด้วยนะคะ”

พอเธอพูดจบก็ก้มตัวลงขอโทษ ผมยาวสลวยของเธอเกลี่ยหัวไหล่ลงมา ขาเรียวยาวคู่กันดูแล้วน่าหลงใหลไม่น้อย

“ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะคะ”

แต่ทว่าตอนนี้ในสายตาของซุนฉี่หมิงมองเจียงเซ่อไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เขาไม่ได้ใช้สายตาในตอนแรกมองเธออีกตั้งแต่ตอนที่เธอพูดถึงดารายอดเยี่ยมอย่างหลิวเย่ขึ้นมา

เขาไม่ได้เชื่อเธอทั้งหมด แต่ก็ไม่ใช่ว่าสงสัยไปเสียทุกเรื่อง

ที่สำคัญคือเจียงเซ่อเป็นคนสวย คงไม่แปลกที่จะสามารถดึงดูดดาราชายยอดเยี่ยมคนนั้นได้

แถมยังมีผู้กำกับจางจิ้งอานชมเธออีก เจียงเซ่อที่อยู่ในใจของเขาเปลี่ยนไปแล้ว ซุนฉี่หมิงเอื้อมมือไปดูรายชื่อนักแสดงอีกครั้ง พอเจียงเซ่อได้เห็นท่าทีแบบนั้นก็เริ่มมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองป่าวประกาศออกไปว่ามันยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เจียงเซ่อก็ยังไม่แน่ใจว่าเธอจะได้ถูกเลือกให้เล่นจริงๆ

ซุนฉี่หมิงไล่สายตาดูรายชื่อนักแสดงในใบรายชื่อที่มีทั้งคุณสมบัติและสิ่งที่ต้องการในบทละครเขียนเอาไว้ ทว่าแต่ละบทบาทนั้นถูกขีดฆ่าด้วยสีแดงไปหมดแล้ว

หรือถ้าพูดให้ถูก พวกที่โดนปากกาแดงขีดฆ่าคือได้เลือกคนเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว และไม่สามารถแก้ไขได้เด็ดขาด

เจียงเซ่อสามารถแสดงปฏิบัติการผู้พิทักษ์ได้ ถึงจะเป็นแค่บทเล็กๆ แต่ก็ถือว่าสำคัญสำหรับเขา

จางจิ้งอานเป็นผู้กำกับใหญ่ ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ ก็เป็นหนังฟอร์มใหญ่ ถ้า ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ เข้าฉายแล้ว นอกจากจะได้นักแสดงอย่างเจ้ารั่วจวินมาเล่นในหนังของแล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะใช้เจียงเซ่อได้อีก

ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วล่ะก็ เจียงเซ่อในสายตาของเขาก็ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ความสวยที่มีอยู่แล้ว แถมยังรู้จักพูดจา ถ้าหากได้มาอยู่ในหนังคงดูดีไม่น้อย เขาไล่นิ้วไปเรื่อยๆ จนถึงบทบาทบทหนึ่ง มันเขียนว่า ‘แอร์โฮสเตสจาง’

แล้วเขาก็มองไปที่เจียงเซ่ออีกครั้ง

“เธอพอมีพื้นฐานภาษาอังกฤษบ้างไหม?”

บทบาทของแอร์โฮสเตสจางคนนี้ จะต้องมีลักษณะและคุณสมบัติและมีพื้นฐานภาษาอังกฤษ และยิ่งเป็นความต้องการของกู้เจียเอ่อที่เขียนเอาไว้ว่า ถ้าให้ดีควรพูดภาษาฝรั่งเศสได้อย่างน้อยซักสองสามประโยค

แต่ความต้องการนี้ไม่ใช่ว่าจะหากันได้ง่ายๆ

ใช่ว่าจะไม่มีพวกโรงเรียนสอนการสอนภาษาฝรั่งเศสเลย แต่หากต้องการที่จะหาคนที่พูดภาษาฝรั่งเศสได้คล่องและสวยด้วยมันก็มีไม่มากนักหรอก

ดังนั้นเงื่อนไขของกู้เจียเอ่อจึงลดขั้นลงมาเหลือแค่ควรมีพื้นฐานภาษาอังกฤษเท่านั้น

ตอนแรกคิดว่าจะไปจ้างแอร์โฮสเตสตัวจริงมาเป็นนักแสดงเลยด้วยซ้ำ

พอเขาถามจบ เจียงเซ่อก็ลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มขึ้น