ตอนพิเศษ 3-3 เพื่อนเล่นในวัยเยาว์
เคยมีชายรูปงามคนหนึ่ง คอยทะนุถนอมเธอ รักเธอฝังใจ จดจำคำพูดที่เธอพูดโดยไม่ได้คิดอะไรไว้ในใจอย่างแม่นยำ ยอมทุ่มเทเพื่อความฝันตอนเด็กของเธอ
เธอเคยคิดว่าตนเองเป็นนกน้อยในกรงทอง ไม่มีสิทธิ์รัก โลภ โกรธ หลง แต่จนถึงตอนนี้เธอถึงค้นพบว่า ในสายตาของพ่อแม่ เธออาจจะเป็นแค่หุ่นเชิดตัวหนึ่งที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลย แต่สำหรับเผยอี้ เขากลับทะนุถนอมเธอมาตลอด รักเอาใจใส่เธอประหนึ่งเจ้าหญิง
เธอร้องไห้ออกมาเสียงดัง เหมือนตอนเด็ก ตอนที่เธอเจอเผยอี้ครั้งแรก…
หลังจากคุณปู่เสีย เธอก็มาอยู่ที่ฝรั่งเศสเป็นการถาวร หัวใจเหมือนถูกกักขังเอาไว้ แต่กลับสงบนิ่งกว่าเมื่อก่อนที่อยู่อย่างกระวนกระวายมากนัก
ความสงบแบบนี้เป็นเพราะรู้ว่ามีคนรักเธอมากถึงเพียงนี้ สิ่งที่มอบให้เธอ ถึงแม้เขาไม่อยู่แล้ว แต่ความรักที่มีให้เธอ จะคงอยู่ในใจของเธอตราบนานเท่านาน
คุณนายเผยเคยมาเยี่ยมเธอ อยากจะพูดแต่ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไร กลัวว่าทั้งชีวิตของเธอจะต้องจบลงแบบนี้
งานแต่งระหว่างตระกูลเฝิงและตระกูลจ้าวถูกเลื่อนออกไปเรื่อยๆ พ่อแม่ไม่พอใจกับความเอาแต่ใจของเธอเป็นอย่างมาก แต่เพราะเป็นตระกูลเผยจึงไม่กล้าทำอะไรเธอ
เธอได้ยินจากปากคุณนายเผยว่าชีวิตส่วนตัวของจ้าวจวินฮั่นวุ่นวาย มีหญิงสาวข้างกายมากมาย หึงหวงกันจนเกิดฆ่ากันตายมาแล้ว แต่ทั้งหมดนี้ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับเธอแต่อย่างใด
เป็นครั้งแรกที่เธอค้นพบว่า การเอาแต่ใจไม่ได้ยากอย่างที่ตนเองคิด เธอเสียใจที่ตนเองเพิ่งจะเรียนรู้การเอาแต่ใจในยามที่สายเกินไป
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เธอจะไม่ยอมให้เวลาเสียไปโดยเปล่าประโยชน์
เธอจะเลือกใช้ชีวิตอย่างที่ตนเองต้องการ ไม่กังวลแทนตระกูลเฝิง ไม่ต้องถูกฐานะและตำแหน่งควบคุม
ถ้าเธอกับเผยอี้มีวาสนาต่อกัน บางทีเธออาจจะรักษาวาสนานั้นเอาไว้เป็นอย่างดี
*
*
*
*
*
เฝิงหนานจะยี่สิบห้าแล้ว พ่อแม่โทรมาพูดเป็นนัยๆ ว่าเธออายุไม่น้อยแล้วควรจะคบเพื่อนเอาไว้บ้าง
หลายปีมานี้วิสาหกิจจงหนานและเจียงหัวกรุ๊ปต้องร่วมงานกันในหลายโครงการ เฝิงชินหลุนเองก็ให้ความสำคัญกับโครงการเหล่านี้เป็นอย่างมาก ได้ข่าวว่าทายาทตระกูลจ้าวอายุมากกว่าเธอเพียงไม่กี่ปี จึงต้องการให้เธอไปสานสัมพันธ์กับจ้าวจวินฮั่น
แต่พ่อแม่ไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับเฝิงจงเหลียง ทำได้เพียงแค่ลงมือกับเธอ โทรมาบอกเธอครั้งแล้วครั้งเล่า
ครั้งแรกที่เธอเจอจ้าวจวินฮั่นก็ถูกเผยอี้จับได้ แล้วเขาจากไปพร้อมความโกรธ เธอยังไม่ทันง้อเขา พอตื่นมาก็พบว่าตนกลายเป็นเจียงเซ่อ ลูกสาวของอีกหนึ่งครอบครัวที่ยากจนมากในตี้ตู
คิดเพียงแค่ว่าอยากเข้าวงการด้วยรูปลักษณ์อันงดงามและโดดเด่นกว่าใคร เธอถอนหายใจ เพื่อหาเลี้ยงชีพ เธอไปแคสติ้งกับเพื่อนนักเรียนและจนสุดท้ายก็ได้ถ่ายหนัง
แม้ชีวิตจะยากจน แต่ก็มั่นคงกว่าที่ผ่านมา ไม่ใช่นกน้อยในกรงทองอีกต่อไป ต่างจากชีวิตของเฝิงหนานคนเดิมโดยสิ้นเชิง เธอแอบรู้สึกโล่งอก
ในโรงเรียนฝึกทหาร เธอเห็นเผยจิ้นฮว๋ายพาเผยอี้มาปรากฏตัวในสนามฝึก เธอคิดว่าระหว่างตนเองกับเผยอี้ อาจจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันอีกต่อไปแล้ว
แม้จะเสียดายไม่น้อย เธอเห็นเขาตั้งแต่เด็กๆ จากเด็กน้อยกลายเป็นผู้ใหญ่ ความผูกพันแบบนั้นใช่จะตัดขาดได้ง่ายๆ แต่พอมาเจอกันอีกครั้ง เขาก็จำตนเองไม่ได้เสียแล้ว
เขาเพียงแค่รู้สึกว่าผู้หญิงที่ยืนลูบฝาขวดน้ำอยู่ใต้ต้นไม้ดูคุ้นๆ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เห็นเพียงแค่แวบเดียว แต่กลับลืมไม่ลง
หลังจากถ่ายหนังเรื่อง ‘ฝันที่เป็นจริง’ จบ ในลิฟต์เธอแอบใช้นิสัยของเผยอี้ในการเอาตัวรอด แต่เขาไม่แม้กระทั่งจะมองตนเอง ดูเย็นชา จึงทำให้เธอรู้สึกอึดอัดไม่น้อย
เธอคุ้นชินกับการที่เขามองตนเองอย่างหนักแน่นมั่นคง จึงยากที่จะรับความเย็นชาแบบนี้ได้ ความเสียใจแบบนั้นเธอเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เธอเป็นคนเก็บความรู้สึก จึงพยายามกดมันเอาไว้ในใจ
จนกระทั่งในงานเลี้ยงวันเกิดของเพื่อนในหอพักมหาวิทยาลัย เขาเมา เดินหลงทางมากอดเธอเอาไว้
เขา ‘เจอ’ เธอแล้ว!
ที่ผ่านมา เพราะอายุที่ห่างกัน เขาจึงไม่เคยกล้าสารภาพรัก ในที่สุดตอนนี้ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลอีกแล้ว
หลังจากเธอเกิดใหม่ เธอมีอายุน้อยกว่าเขาสองปี ในขณะที่ระยะห่างนั้นไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป ในขณะที่เธอคุ้นชินความเอาแต่ใจของเขา ในขณะที่เขาพบว่าเธอไม่ได้ปฏิเสธตนเองที่เติบโตมาด้วยกันแต่เด็ก เธอไม่ได้ไม่รู้สึกอะไรกับความสัมพันธ์ที่ต่างรู้กันดีของทั้งสอง สุดท้ายเขาก็กลายเป็นแฟนเธอตามที่ควรจะเป็น
เผยอี้เริ่มรู้สึกว่าตนเองโง่นัก เขาเอาแต่ใจกับเธอตั้งแต่เด็กจนชินไปแล้ว เธอเองก็ยอมเขามาโดยตลอด อ่อนโยนกับเขา เมื่อก่อนเขาคิดว่าความเอาแต่ใจที่ตนเองปฏิบัติกับเธอมันดูเด็กเกินไป จึงพยายามควบคุมด้านนี้ของตนเองมาตลอด อยากรีบโตให้เธอได้เห็นตัวเขาที่แตกต่างไปจากเดิม
ต่อมา เขาจึงพบว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงไปเพื่ออะไร เธอที่เคยเห็นตนเองที่นิสัยเด็กๆ แล้วยังรับได้เลย เป็นเพราะเขารักมากเกินไปแท้ๆ กลัวจนเกินเหตุ ลังเลไม่กล้าเดินไปข้างหน้า จนทำให้เสียเรื่องไปหมดแบบนี้
ตอนนี้ถ้าเขาจะบังคับจับมือเธอเอาไว้ เธอต้องถูกจับมือเอาไว้อยู่ดีไม่ใช่เหรอ?
เขาอยากพาเธอไปเที่ยวฝรั่งเศสก็บอกเธออย่างตรงไปตรงมา
ความรักสามารถปกป้องได้ด้วยวิธีอื่น เฝ้ามองเธอเติบโต ไม่กักขังเธอเอาไว้ในกรงทองเหมือนตระกูลเฝิง เฝ้ามองเธอทำอาชีพที่ตนเองอยากทำและเฉิดฉายในพื้นที่ของตัวเอง
อยากขอเธอแต่งงาน ให้เธอเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของตนเอง คืนวันแต่งงานกอดเธอเอาไว้ในอ้อมอกอย่างชอบธรรม ก้าวข้ามความกลัวจากการถูกลักพาตัวในวัยเด็ก เฝ้ามองเธอเดินออกจากความมืดมน เรียนรู้ที่จะให้อภัยเจียงจื้อหยวนและเรียนรู้การให้ต่อไป
เธอตั้งท้องแล้ว!
ตัวแทนความรักของทั้งสองอยู่ในครรภ์ของเธอ เผยอี้เห็นรูปอัลตร้าซาวของเจ้าตัวเล็กแล้ว แม้ว่าเขาจะสามารถควบคุมอารมณตนเองได้เป็นอย่างดีมาตั้งนานแล้ว ความเอาแต่ใจในอดีตได้แปรเปลี่ยนเป็นความเป็นผู้ใหญ่และหนักแน่น แต่ตอนที่เห็นรูปนั้น ดวงตาของเขาก็ยังคงอดร้อนผ่าวขึ้นมาไม่ได้อยู่ดี
เซี่ยเชาฉวินเว้นเวลาพักงานให้เธอหนึ่งปี เฝิงจงเหลียงดีใจจนแทบบ้า ความจริงช่วงก่อนฤดูใบไม้ผลิเขาติดเชื้อหวัด มีอาการไอมาหลายวันแล้ว ไม่ค่อยแข็งแรงนัก แต่พอรู้ข่าวดี อาการกลับดีขึ้นทันตาเห็น รักษาตัวได้ไม่ถึงครึ่งเดือนก็หายแล้ว
ที่บ้านตระกูลเผย คุณปู่เผยมักจะเปิดพจนานุกรม อยากตั้งชื่อให้เด็กรุ่นใหม่ในตระกูลเผย เขาสามารถมีชีวิตอยู่จนถึงตอนที่หลานชายคนเดียวมีลูกได้ สำหรับคุณปู่เผยแล้วเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นอย่างไม่ต้องสงสัย คุณย่าเผยและสะใภ้ก็กำลังวุ่นอยู่กับของจำเป็นตอนเด็กคลอด
ตอนที่เจ้าหญิงตัวน้อยของตระกูลเผยคลอดออกมา ทุกคนต่างดีใจ ทั้งชีวิตนี้คุณปู่เผยผ่านอะไรมามากมาย เคยรบ ขี่ม้า ถือปืน จับปากกา แต่วินาทีที่รับเด็กมาจากมือพยาบาล มันก็ทำให้เขาตื่นเต้นจนแทบจะอุ้มไม่ไหว
ในฐานะพ่อของเจ้าหญิงตัวน้อย เผยอี้ไม่ได้ไปดูลูกสาวเป็นคนแรก จุดสนใจของเขาอยู่ที่เจียงเซ่อ
เจียงจื้อหยวนเป็นห่วงลูกสาว อยากมาเยี่ยมเธอ เขาเปิดประตูห้องเบาๆ เห็นเจียงเซ่อนอนอยู่บนเตียง ผ้าม่านในห้องถูกปิดเอาไว้ เงียบสงบมาก เผยอี้ที่ทุกคนพลิกแผ่นดินหามาโดยตลอดเอนตัวอยู่ข้างๆ เธอ จับมือเจียงเซ่อเอาไว้
“พยาบาลบอกว่าเจ้าหญิงตัวน้อยของตระกูลเผยคลอดแล้ว แต่สำหรับพ่อ เจ้าหญิงของพ่อมีเพียงลูกคนเดียว”
เด็กสาวที่ตอนเด็กเคยบอกเขาว่า อยากได้ปราสาทที่มีหน้าต่างสีขาว บนหลังคาต้องเต็มไปด้วยไม้เลื้อย และอยากจะเป็นเจ้าหญิงคนนั้น เขาล้วนจดจำได้ขึ้นใจไม่เคยลืมเลือน…
ปล. ความจริงเจียงจื้อหยวนรู้สึกสับสนมาก ลูกสาวมีครอบครัวที่ดี เขาควรดีใจถึงจะถูก แต่เขากลับไม่ชอบหน้าเผยอี้อย่างไม่มีสาเหตุ
เขามีความรู้สึกหนึ่งที่ยากจะบรรยาย แม้แต่ตนเองก็ยังไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร จนกระทั่งเห็นเจ้าหญิงตัวเล็กของตระกูลเผยและคิดได้ว่าหลังจากนี้อีกไม่กี่ปี เผยอี้อาจจะรู้สึกเหมือนเขาในตอนนี้ จึงรู้สึกดีขึ้นมากทีเดียว
ฟ้ามีตาจริงๆ! เหอะเหอะ...