webnovel

1263 ถูกกลืนกิน!

ตอนที่ 1263 ถูกกลืนกิน!

กู่ฉิงซานพักผ่อนครู่

อีกคนบอกว่ามันคือวันสิ้นโลกที่ไม่รู้จัก

นี่พิสูจน์ว่าพวกเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร พวกเขาเพียงชำเลืองมองไกล ๆ จากชายฝั่งเท่านั้น

ถ้าหากเป็นวันสิ้นโลกทั่วไปยังพอมีความหวังที่จะทะลวงผ่านไป

แต่ถ้ามันคือวันสิ้นโลกจากนอกประตูโลกเหมือนกับหัวกะโหลกคางยาวจริง ทุกสิ่งก็จบสิ้น

ยังไงก็ตาม…

จะมาเดิมพันไม่ได้

“เจ้าตามรอยการเคลื่อนไหวของคนเหล่านั้นหรือเปล่า” กู่ฉิงซานถาม

เด็กตอบอย่างเสียดายว่า “พวกมันระแวดระวังมาก ไม่ยอมให้โอกาสข้าใช้วิชาตามรอยเลย”

ยังไงก็ตาม ปลายทางของคนเหล่านั้นคือความตาย ดังนั้นเขาย่อมไม่ใช้พลังงานเพื่อตามรอยพวกมัน

กู่ฉิงซานรู้ว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ คำพูดที่ติดอยู่ตรงริมฝีปากถูกกล่าวออกไป

“ในเมื่อไม่สามารถหาพวกมันได้ สุสานก็กว้างใหญ่เกินไป คงดีกว่าที่พวกเราจะแยกกันแล้วคอยแจ้งให้ทราบเวลาพบข่าวอะไร”

ทันทีที่สิ้นเสียง เด็กยังคงครุ่นคิด แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กพลันปรากฏบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม

“โปรดทราบ!”

“โปรดทราบ!”

“ชิ้นส่วนมายาของวันสิ้นโลกกำลังรุกรานมิติที่ท่านอยู่”

“วันสิ้นโลกเป็นวันสิ้นโลกที่กระตุ้นการรับรู้ หมายความว่าทันทีที่มีใครบางคนที่รับรู้ถึงตัวตนของมัน คนคนนั้นจะถูกดึงดูดเข้าไป”

“โชคยังดี มันไม่ใช่วันสิ้นโลกที่แท้จริงจากนอกประตูโลก แต่เป็นแค่ชิ้นส่วนมายาของวันสิ้นโลกที่แท้จริง”

“หลังจากผ่านไปสิบวินาที พวกท่านทั้งหมดจะถูกกลืนกินโดยชิ้นส่วนมายาของวันสิ้นโลก มีเพียงผู้ที่รอดจนถึงท้ายที่สุดเท่านั้นถึงสามารถกลับสู่ความเป็นจริงได้”

“สิบ”

“เก้า”

หัวใจของกู่ฉิงซานดิ่งวูบ

มีวันสิ้นโลกแบบนั้นอยู่ด้วย

พอรู้สึกตัวก็ถูกมันจับและกลืนกินเข้าไปแล้ว

กู่ฉิงซานอีกคนบอกเขาว่าวันสิ้นโลกจะมา

แค่เพียงประโยคเรียบง่ายอย่างวันสิ้นโลกนี้มาหาโดยตรง!

เพราะหน้าต่างระบบเทพสงครามกล่าวเช่นนั้น ดูท่าวันสิ้นโลกนี้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้

เขาถอนหายใจก่อนตรวจสอบกลุ่มคนด้วยจิตเทพ

วันสิ้นโลกนี้กำลังรุกรานมิติที่เขาอยู่ ตอนนี้มันสายเกินกว่าจะมาซ่อนตัวแล้ว

เพราะตราบที่บอกใบ้ว่าให้หลบหนี นั่นเท่ากับเป็นการบอกอีกฝ่ายให้รู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นที่นี่

ทันทีที่รู้ก็จะถูกดึงเข้าสู่เศษเสี้ยวมายาของวันสิ้นโลกนี้

ไม่มีทางหนีแล้ว

ทันใดนั้น สีหน้าของเด็กเปลี่ยนไปก่อนตะโกนว่า “แย่แล้ว!”

เขาเป็นคนแรกที่สัมผัสวันสิ้นโลกได้!

บนแผ่นหลังของซากศพวิญญาณชั่วร้าย สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปคนแล้วคนเล่า

“เกิดอะไรขึ้น วันสิ้นโลกมาจากไหน”

“นี่มันสัมผัสของวันสิ้นโลก ใช่เลย แต่พวกเรายังไม่ได้เข้าแม่น้ำสุสานเลยนะ!”

“ตอนนี้หนีไม่ได้แล้ว ทำได้แค่สู้เท่านั้น!”

ทุกคนกล่าวอย่างร้อนรนขระชักอาวุธมาคนแล้วคนเล่า พวกเขากลั้นหายใจเพื่อเตรียมตัว

ลมหายใจของวันสิ้นโลก พวกเขาไม่มีทางลืมได้

ว่ากันว่าการเหนี่ยวนำนี้จะรุนแรงขึ้นตามระดับพละกำลัง

ยิ่งสัตว์ประหลาดแข็งแกร่งเท่าไหร่ ความรู้สึกอันลึกล้ำของสัตว์ประหลาดยิ่งมากตามไปด้วยจนรู้สึกได้ล่วงหน้าว่าวันสิ้นโลกกำลังมาเยือน

จิตเทพของกู่ฉิงซานกวาดผ่านทุกคน ในที่สุดก็มาหยุดอยู่ที่ซานไห่ชีเสีย

ซานไห่ชีเสียสับสนเล็กน้อยในตอนแรก แต่ในที่สุดก็ได้สติขึ้นมา

กลายเป็นว่านางคือคนที่อ่อนแอที่สุดในหมู่คนเหล่านี้งั้นหรือ

ความคิดของกู่ฉิงซานขยับ เขาเห็นว่าผู้เฒ่ากระดูกกับร้อยหัตถ์ศักดิ์สิทธิ์ทำลายล้างยืนอยู่ข้างนางด้วยสีหน้าเคารพยำเกรง

ก่อนจะทันได้คิดอะไร เวลานับถอยหลังบนหน้าต่างระบบเทพสงครามก็กลายเป็นศูนย์

ม่านแสงวูบไหว

ทุกคนหายไปจากแผ่นหลังของวิญญาณชั่วร้าย

กู่ฉิงซานลืมตาขึ้น

เขาพบว่าตัวเองสวมชุดเครื่องแบบทหารขระนั่งอยู่บนขั้นบันไดเย็นเยือก

เขายังคงเป็นหลี่ซานหลาง

ด้านหลังของเขาคือประตูยักษ์โอ่อ่า

กลุ่มทหารรวมตัวกันขณะเฝ้าประตูยักษ์

พวกเขาไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไรกับรูปลักษณ์จนถึงขั้นมีคนหนึ่งมาตบบ่าของเขาแล้วกล่าวว่า “หลี่ซานหลาง หลังจากเปลี่ยนเวรสักพักแล้ว ไปดื่มด้วยกันไหม”

กู่ฉิงซานยิ้มแล้วกล่าวว่า “ข้าต้องขอคิดก่อนนะ”

ทันใดนั้น ด้วยอาการปวดหัวสุดแสน ชิ้นส่วนข้อมูลลอยอยู่ในจิตใจของเขา

กลายเป็นว่านี่คือโลกที่ถูกทำลายแล้ว

เขากลายเป็นส่วนหนึ่งของโลกนี้และต้องอยู่รอดที่นี่จนถึงช่วงเวลาสุดท้ายของการทำลายล้างโลกทั้งใบ

ถึงตอนนั้น หากยังรอดชีวิตอยู่ก็สามารถออกจากชิ้นส่วนมายานี้ได้

นี่มันช่าง…

ช่างเป็นวันสิ้นโลกที่แปลกประหลาดนัก

กู่ฉิงซานยอมรับตัวตนช้า ๆ ก่อนถอนหายใจออกมา เขามองลมหายใจกลายเป็นหมอกสีขาวในสายลมที่เย็นเยือกไปถึงกระดูก

ตอนนี้มีหิมะตกลงมาจากท้องนภา

ราตรีคล้อยต่ำลงมากแล้ว

กู่ฉิงซานกล่าวในใจอย่างแผ่วเบา “หน้าต่างระบบเทพสงคราม”

ทันใดนั้น แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กปรากฏขึ้น

“ท่านสามารถใช้พลังวิญญาณหนึ่งร้อยแต้มเพื่อตรวจสอบภูมิหลังของภาพมายาตอนนี้ได้”

“ท่านสามารถใช้พลังวิญญาณสองร้อยแต้มเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ปัจจุบันของท่านได้”

“หน้าต่างระบบนี้ได้วิเคราะห์ภาพมายาปัจจุบันกับความเชื่อมโยงต่อกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่จะส่งผลกับท่านให้แล้ว ท่านสามารถใช้พลังวิญญาณห้าร้อยแต้มเพื่อตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้”

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “หยุดพูดได้แล้ว ข้าจะให้พลังวิญญาณกับเจ้า บอกมาทีว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น”

ตัวอักษรขนาดเล็กทั้งหมดบนหน้าต่างระบบเทพสงครามหายไป ข้อความแจ้งเตือนใหม่ถูกรีขึ้นมา

“ช่วงเวลา: ยุคสุดท้าย”

“ตำแหน่ง: โลกน้ำแข็งและมงกุฏหิมะ”

“เหตุการณ์: การล่มสลายของเมืองราชวงศ์”

“ในภาพมายานี้ ท่านได้รับตัวตนแบบสุ่ม: ผู้พิทักษ์ราชวงศ์”

“สามสิบนาทีต่อมา วันสิ้นโลกจะมา โปรดเตรียมตัวด้วย”

“โปรดทราบ: ต้องจำกัดกฎเกณฑ์ของตัวตนและทักษะเอาไว้ ในวันสิ้นโลก ท่านจะไม่สามารถทำสิ่งที่ละเมิดตัวตนได้ภายใต้สายตาที่จับจ้องของสิ่งมีชีวิตพื้นเมือง ไม่อย่างนั้นท่านจะถูกโยนออกไปอยู่ใจกลางของวันสิ้นโลกแล้วถูกบีบรัดอย่างไม่มีสิ้นสุด”

“สอง ท่านสามารถเลือกความสามารถต่อสู้หลักได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น โปรดเลือกหนึ่งในนั้นเดี๋ยวนี้”

“วิชาดาบ วิชาหมัด วิชาธนู วิชาทำอาหารและวิชาร่ายรำ”

“โปรดทราบว่าทันทีที่เลือก ท่านจะสามารถใช้ได้แค่พลังดังกล่าวในภาพมายานี้เท่านั้น”

กู่ฉิงซานลังเลสักพัก จากนั้นกล่าวว่า “ข้าเลือกวิชาหมัด”

ใช่แล้ว ตอนนี้สัตว์ประหลาดทั้งหมดเข้าสู่ภาพมายาวันสิ้นโลกนี้ หากจู่ ๆ ปลดปล่อยทักษะต่อสู้อื่นขึ้นมา จะไม่เป็นที่สงสัยเอาหรอกหรือ

ยิ่งกว่านั้น พลังของ “ปู้โจว” ถึงกับเกินกว่าที่จินตนาการเอาไว้

ด้วยการเลือกของกู่ฉิงซาน หมัดเหล็กกล้าบางหนึ่งคู่ปรากฏขึ้นในมือของเขา

แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กปรากฏขึ้นมา

“ถุงมือมาตรฐานของทหารอาณาจักร”

“อุปกรณ์พื้นฐาน คุณลักษณะเพียงหนึ่งเดียว: ทนทาน”

“หมายเหตุ: ท่านมีเวลาเตรียมการยี่สิบเก้านาที”

กู่ฉิงซานเงยหน้าขึ้น สายตาของเขากวาดมองเหล่าทหาร

เขาพลันเห็นซานไห่ชีเสีย

อีกฝ่ายเหมือนจะเป็นเจ้าหน้าที่ สวมชุดเครื่องแบบสีดำรัดรูป สีหน้าเพิ่งกลับมามีสติ งุนงงและประหม่าเล็กน้อย

ภาพมายาวันสิ้นโลกจะไม่เหมือนกับหน้าต่างระบบเทพสงครามที่ทำให้ทุกสิ่งชัดเจน

เขากลัวแค่ว่านางจะรู้แค่ว่าตอนนี้อันตรายจนต้องหาทางเอาตัวรอดจนถึงท้ายที่สุด

ทันใดนั้น เสียงกระซิบดังขึ้นข้างหูของเขา

“ลูกของเจ้ากำลังมองอะไรอยู่”

อีกเสียงตอบว่า “เขากำลังมองหากุหลาบในกองทัพ เหอะ ๆๆ เป็นคางคกแต่อยากกินเนื้อห่านเสียอย่างนั้น ”

“เลิกพูดได้แล้ว เจ้ากล้าพูดไหมล่ะว่าไม่ได้แอบมองนาง”

ทหารหน้าคุ้นเคยจำนวนมากหัวเราะออกมา

ตอนนี้ พวกเขาเสร็จสิ้นการคุ้มกันในวันนี้แล้ว พวกเขาจึงสามารถพักผ่อนอย่างผ่อนคลายได้

ดวงตาของกู่ฉิงซานจับจ้องหน้าต่างระบบเทพสงคราม

“ยังเหลือยี่สิบเจ็ดนาทีก่อนวันสิ้นโลกจะมา”

เขาเงียบขณะเดินตรงไปหาซานไห่ชีเสีย

ตอนนี้ ซานไห่ชีเสียเห็นเขาเช่นกัน นางกำลังจะคำนับ แต่สีหน้าของนางเปลี่ยนไปเมื่อเสียงของกู่ฉิงซานดังขึ้น

“อย่าเปิดเผยตัวเอง เจ้าไม่สามารถกระทำสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับตัวตนในที่สาธารณะได้”

ซานไห่ชีเสียแข็งทื่อ

กู่ฉิงซานมาหานางแล้วทำความเคารพแบบทหาร “รายงานท่านหัวหน้า หลี่ซานหลางมีบางสิ่งมาแจ้งให้ทราบ”

ซานไห่ชีเสียพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “เข้าใจล่ะ มากับข้า”

นางพากู่ฉิงซานเข้าประตูเมือง ตรงไปสถานีของเจ้าหน้าที่ก่อนเข้าสู่บ้านหลังหนึ่ง

ประตูปิดไล่หลังเขา

ซานไห่ชีเสียคุกเข่าลงข้างหนึ่งทันทีแล้วกล่าวว่า “ข้าน้อยได้พบนักบุญแล้ว”

กู่ฉิงซานไม่ตอบ

เขามองรอบห้อง

เห็นได้ชัดว่ามันคือสถานที่ที่เจ้าหน้าที่หญิงอาศัยอยู่ มีเสื้อผ้าแขวนอยู่ การตกแต่งห้องเต็มเปี่ยมด้วยความเป็นผู้หญิง

บนโต๊ะข้างเตาผิง มีขวดสุราอยู่

กู่ฉิงซานก้าวไปข้างหน้าขณะจิบสุราเข้าไปคำหนึ่ง

ทั้งหอมและแรง

กู่ฉิงซานถือขวดสุราแล้วถามว่า “ดูท่าเจ้าจะอยู่ที่นี่มาทั้งชีวิต มีความประทับใจอะไรกับสิ่งนี้หรือเปล่า”

โดยไม่ขออนุญาตจากนักบุญสงคราม ซานไห่ชีเสียยังคงคุกเข่าข้างหนึ่งแล้วตอบด้วยความเคารพว่า “จู่ ๆ ก็มีความทรงจำบางส่วนผุดขึ้นมา ภาพมายาวันสิ้นโลกนี้คล้ายกับตระเตรียมตัวตนของพวกเราแต่ละคนเอาไว้ ก่อนหน้านั้น พวกเราได้สร้างตัวตนในโลกใบนี้ขึ้นมา สิ่งเหล่านี้ที่ว่าคือสายสัมพันธ์ เครือญาติ มิตรสหายและประสบการณ์”

กู่ฉิงซานพยักหน้าขณะเดินไปยังเก้าอี้แล้วนั่งลง สายตาจ้องมองซานไห่ชีเสีย

ผ่านไปพักใหญ่ เขาไม่กล่าวอะไร

“นายท่าน” ซานไห่ชีเสียมองเขาด้วยความไม่เข้าใจ

“อืม ข้าถึงกับคิดว่าเจ้าทำได้ดีเลยล่ะ ดังนั้นข้าไม่รู้ว่าจะชมเจ้ายังไงดี” กู่ฉิงซานกล่าว

เขาชำเลืองมองความว่างเปล่า

ในยี่สิบเอ็ดนาที วันสิ้นโลกจะมาถึง

บนใบหน้างดงามของซานไห่ชีเสีย มีความสงสัยยิ่งปรากฏอยู่

“นายท่าน… ข้าไม่เข้าใจว่านายท่านหมายถึงอะไร” นางกล่าวอย่างระแวดระวัง

กู่ฉิงซานคล้ายกับเขินอายเล็กน้อย

ทันใดนั้น เขายื่นมือออกไปคว้ามันในความว่างเปล่า

ไพ่หยกในความว่างเปล่าปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง

เสียงของกู่ฉิงซานดังขึ้นจากไพ่หยก “กลายเป็นว่าวันสิ้นโลกนี้กระตุ้นการรับรู้ได้ ตอนนี้พวกเราเลยอยู่ที่นี่เหมือนกัน”

กู่ฉิงซานอีกคนกล่าวว่า “ดูท่าพวกเราต้องคุยกันก่อนว่าควรรวมตัวกันหรือตรวจสอบข้อมูลของโลกใบนี้ก่อน ตัวข้าคนที่สาม เจ้าคิดว่าไง”

กู่ฉิงซานตกตะลึงเล็กน้อย

แน่นอนว่ามันคือภาพมายาวันสิ้นโลกที่กระตุ้นการรับรู้

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาสองคนอยู่ในสุสานอสุรา พวกเขาเพียงเห็นวันสิ้นโลกบนริมฝั่งแม่น้ำสุสาน ทำให้พวกเขาถูกกลืนกินเข้าไป

ตัวเขาคนที่สาม…

ความรู้สึกนี้ออกจะแปลกนิดหน่อยแต่ก็น่าติดตามเล็กน้อย

ยังไงเสีย สัตว์ประหลาดยังอยู่รอบข้าง กำลังคนของเขาช่างน้อยนิดนัก

ยกเว้นผู้หญิงคนนี้…

ไม่ว่าจะมองยังไงนางก็มีความลับซ่อนอยู่ ตอนแรก นางไม่ได้ใช้มันเพื่อฝ่าสัตว์ประหลาดวันสิ้นโลกแต่กลับรีบออกมาจากสุสานแทน

ก่อนหน้านั้น การตอบสนองของนางต่อวันสิ้นโลกไม่ได้แตกต่างจากคนเหล่านั้น

กู่ฉิงซานพลันกำหมัดแล้วซัดออกไป

หมัดนี้พุ่งเข้ามาโดยไม่มีการกล่าวเตือน ซานไห่ชีเสียอยากขัดขืน แต่มันสายเกินไปแล้ว

หมัดนี้คือ ปู้โจว หุ่นเชิดขุนเขา!

เพียงพริบตา นางยืนอยู่กับที่ ไม่สามารถขยับได้

กู่ฉิงซานลุกขึ้นแล้วเดินไปข้างหน้าก่อนวางมือบนหน้าผากราบเรียบของนาง

สืบค้นวิญญาณ ทำงาน!

ในสภาพปัจจุบันของขุนเขาเซียวหมี การใช้วิชาสืบค้นวิญญาณทำได้ง่ายมาก

ความคิดของซานไห่ชีเสียแตกสลายด้วยหุ่นเชิดขุนเขา ตอนนี้ นางไม่สังเกตเห็นด้วยซ้ำว่าเขากำลังทำอะไรอยู่

ไม่ช้า

หลังจากกู่ฉิงซานตรวจสอบแล้ว เขาเดินกลับมานั่งลงอีกครั้ง

ซานไห่ชีเสียยังยืนอยู่กับที่

เวลาผ่านไปช้า ๆ

สิบอึดใจสิ้นสุดลงในที่สุด ดวงตาของซานไห่ชีเสียกลับมามีประกายอีกครั้ง

นางไม่คุกเข่าข้างหนึ่งอีกต่อไป แต่ค่อย ๆ ยืนขึ้น สีหน้าของนางวิตกและระแวดระวัง

“นายท่าน เมื่อครู่ท่าน”

กู่ฉิงซานโบกมือแล้วกล่าวอย่างระแวดระวังว่า “อย่างแรกเลย ข้าต้องให้เจ้าเข้าใจก่อนว่าพวกเราอยู่ฝั่งเดียวกัน”

ซานไห่ชีเสียมองเขาแล้วพลันยิ้มออกมา “ท่านพูดอะไรแปลก ๆ น่ะ พวกเราก็ออกจากสุสานแล้วเกิดมาในถ้ำหมื่นอสูร เดิมข้าเป็นภรรยาของนายท่าน”

กู่ฉิงซานถอนหายใจแล้วกล่าวตามตรงว่า “ซานไห่ชีเสีย ข้ารู้ว่าเจ้าใช้วิชาฆ่าสัตว์ประหลาดที่พยายามแทนที่เจ้า แต่ข้าก็ฆ่านักบุญสงครามด้วยเช่นกัน”

ซานไห่ชีเสียสั่นสะท้านไปทั่วร่างจนกล่าวเสียงหลงว่า “นี่มันเป็นไปไม่ได้!”

………………………………………………….