webnovel

1253 คิดที่จะเสี่ยง

ตอนที่ 1253 คิดที่จะเสี่ยง

“ข้ากลับมาแล้ว!” กู่ฉิงซานตะโกน

“อืม รีบล้างมือแล้วไปทำอาหารในครัว” หลี่ชิวอวี่กล่าว

“ทำไมไม่ใช่ล้างมือก่อนกินข้าว แต่เป็นทำอาหารแทนล่ะ” กู่ฉิงซานถามด้วยความไม่พอใจ

หลี่ชิวอวี่ชำเลืองมองเขาแล้วถามเสียงเจื่อนว่า “เจ้ากล้ากินของที่ข้าทำงั้นหรือ”

กู่ฉิงซานล้างมือแต่โดยดีก่อนเข้าครัวเพื่อทำอาหาร

วันนี้จ้าวเฉียงไม่มา

คนที่ช่วยเหลือจะเป็นนักดาบนิรันดร์หวังชุ่น

กู่ฉิงซานเผยสีหน้าประหลาดใจราวกับความรู้ความเข้าใจถูกโค่นล้ม

“พี่หวัง… คนใหญ่โตเช่นท่านไม่ต้องทำเรื่องอย่างการทำอาหารก็ได้” มือของเขาขยับไปมาไม่มีพัก

“ไม่เป็นไร ตอนอยู่บ้านข้าก็ทำกินเองน่ะ”

ขณะสนทนา หวังชุ่นสวมผ้ากันเปื้อนก่อนเริ่มล้างและเก็บผัก

การเคลื่อนไหวของเขาเรียบร้อยและชำนาญ เขาดูเหมือนกับคนมีประสบการณ์

“นักดาบนิรันดร์… ยังรู้วิธีทำอาหาร ข้าคิดว่ามันไม่ถูกต้อง” กู่ฉิงซานพึมพำ

“ไม่ดูตัวเองเลย!”

ดาบสามเล่มในทะเลแห่งความตระหนักรู้กล่าวพร้อมกัน

ความคิดของกู่ฉิงซานขยับ

ความจริง เขาไม่มีสิทธิ์พูดอยู่แล้ว

ถ้าผู้ใช้ดาบรู้วิธีทำอาหาร มันก็ยังถือว่ารับได้

แต่ถ้าเป็นคนใหญ่โตที่ถูกทำลายล้างโดยวันสิ้นโลกในหวนคืนชาติภพหกวิถีที่แตกสลาย สุดท้ายหนีรอดจากอันตรายเพราะเข้ายึดครองร่างของผู้อื่น จากนั้นมานั่งยองๆ ข้างเขาเพื่อล้างและเก็บผัก กู่ฉิงซานรู้สึกเสมอว่ามันมีบางอย่างผิดปกติ

หวังชุ่นยังเป็นตัวเองตัวเองอยู่หรือเปล่า

“เอาล่ะ จานล้างทำความสะอาดเรียบร้อย ข้าได้ยินมาว่าเจ้าทำอาหารเก่ง ดังนั้นวันนี้ข้าจะไม่ทำแล้วกัน” หวังชุ่นล้างมือก่อนมายืนด้านข้างพร้อมกอดอกเพื่อเตรีมสังเกตการณ์การทำอาหารของกู่ฉิงซาน

กู่ฉิงซานหยุดคิดก่อนเริ่มทำอาหารอย่างกระตือรือร้นและแข็งขัน

ยังไงเสีย หลี่ชุนเตาจะกลับมาตอนเที่ยง หากรวมหวังชุ่นกับกู่ฉิงซานเข้าไปด้วยแล้ว ชายร่างใหญ่สามคนจะมานั่งกินกันอย่างแข็งขัน

“เอาล่ะ ชิวซาน จานเนื้อของเจ้าทำได้ดีทีเดียว แต่เจ้าทำซอสนี้ยังไงหรือ” หวังชุ่นถามหลังจากมองดูอยู่สักพัก

กู่ฉิงซานครุ่นคิดเล็กน้อย

หมอนี่น่าขัดใจนัก มาทำตัวเป็นหัวขโมยไปได้

ขอแค่เนื้อในสะอาดและอุ่นก็เกินพอแล้ว

แต่แก่นที่แท้จริงถึงกับอยู่ในซอส

ด้วยกรรมวิธีการทำซอสจิ้ม เนื้อที่ปรุงจานนี้จึงมีจิตวิญญาณ

“ถ้าพี่หวังชอบกิน หลังจากกินแล้ว ข้าจะเขียนเมนูให้” กู่ฉิงซานกล่าว

“เอาเถอะ ในเมื่อเจ้าฝึกฝนวิชาหมัด ข้าจะมอบถุงมือให้ภายหลังแล้วกัน” หวังชุ่นยิ้มเจื่อน

กู่ฉิงซานก้มศีรษะขณะทำอาหารจานต่อไป

ตอนนี้ หลี่ชุนเตากลับมาพักผ่อน เขาเปิดประตูครัวก่อนเดินเข้ามา

“โอ้ เนื้อจานนี้ดูดีทีเดียว!”

ดวงตาของเขาทอประกายขณะเดินออกไปพร้อมกับจานและเครื่องปรุงรส

เสียงของหลี่ชิวอวี่ดังมาจากข้างนอก “พี่ใหญ่ ข้าขอกินก่อนนะ”

กู่ฉิงซานเงียบ

คนพวกนี้…

ถ้าติดอยู่ในที่เดิมๆ จริง หลังจากประสบกับความพินาศของวันสิ้นโลกมานานนับไม่ถ้วน มันย่อมไม่มีจิตวิญญาณเหมือนอย่างทุกวันนี้ได้หรอก

มันคือการแสดงงั้นหรือ

กู่ฉิงซานครุ่นคิดอยู่ในใจ

เขาทอดจานสุดท้ายก่อนนำออกมา

“น้องชิวซาน ขวดนี้เข้ากับอาหารที่เจ้าทำวันนี้จริงๆ ” หลี่ชุนเตากล่าว

หลี่ชิวอวี่ชำเลืองมองเขาแล้วกล่าวว่า “ไม่ได้! เขายังเป็นเด็กอยู่ จะให้ดื่มสุราได้ยังไง!”

“ดื่มน้ำผลไม้ดีกว่า ที่นี่มีเครื่องดื่มหวานๆ อยู่ด้วย เขาดื่มได้แน่นอน” หวังชุ่นกล่าว

ก๊อกๆๆ !

มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

จ้าวเฉียงเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มก่อนกล่าวว่า “ขอโทษที ข้ามากินข้าวน่ะ”

ตอนนี้นางทำงานเสร็จแล้ว หน้าจึงแดงก่ำอย่างไม่ต้องสงสัย

ยังไงก็ตาม นางแค่อยากกินอาหารฝีมือของซานหลางเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นนั้น ไว้กินเสร็จค่อยคุยทีหลังก็ได้

ทว่า นางได้รับการเลื่อนขั้นเป็นอาจารย์โบราณระดับสูง หน้าที่ส่วนใหญ่คือการดูแลของโบราณของสำนัก อำนาจของนางย่อมไม่ใช่น้อยๆ ประกอบกับที่ตัวเองเป็นผู้หญิง หลี่ชุนเตาและหวังชุ่นย่อมไม่อยากทำให้นางอับอายกับเรื่องเล็กน้อยอย่างการกิน

“จ้าวเฉียงนั่งตรงนี้ อาหารที่ทำวันนี้ไม่ธรรมดา ข้าพยายามทำอย่างหนักเลยล่ะ” กู่ฉิงซานทักทาย

จ้าวเฉียงเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มก่อนส่งชิ้นเกราะกระดูกให้

“นี่อะไรน่ะ”

ตอนนี้กู่ฉิงซานระแวดระวังมาก ไม่ยื่นมือออกไปรับทันที

“การจัดอันดับของปรมาจารย์ทั่วถ้ำทะเลตะวันตก รวมถึงเรื่องราวชีวิตของพวกเขาในห้าร้อยปีที่ผ่านมาน่ะ ว่ากันว่าเด็กวัยอย่างเจ้าชอบดูกันมาก” จ้าวเฉียงกล่าว

นางจะมากินอาหารฝีมือซานหลางโดยไม่ตอบแทนอะไรเลยมันก็ยังไงอยู่

กู่ฉิงซานตกตะลึง

สิ่งนี้ไว้ใช้เก็บความรู้เองสินะ

…ขอดูหน่อยก็แล้วกัน

“ขอบคุณพี่จ้าว” เขารับชิ้นส่วนกระดูกมาเก็บไว้ในกำไล

ทุกคนต่างรับประทานอาหาร

จ้าวเฉียงกลับไปหลังจากกินเสร็จ ช่างตรงไปตรงมานัก

หวังชุ่นและหลี่ชุนเตาสับเปลี่ยนกัน หวังชุ่นออกไปตรวจตราตอนกลางคืน หลี่ชุนเตารับผิดชอบในการปกป้องหลี่ชิวซาน

หลี่ชุนเตาฉวยอโอกาสตอนน้องเล็กล้างจานอยู่ด้วยการส่งขวดสุราให้กู่ฉิงซาน

“ซ่อนดีๆ ค่อยๆ ดื่ม” เขากล่าวพลางขยิบตา

กู่ฉิงซานพลิกมือก่อนเก็บใส่กำไลทันที

เขายืนขึ้น ยืดเส้น หาวแล้วกล่าวว่า “ข้าง่วงแล้ว ง่วงเหลือเกิน ข้าไปนอนก่อนล่ะ”

ปัง!

ประตูปิดไล่หลัง

สีหน้าของกู่ฉิงซานเคร่งขรึม

เขาหยิบขวดสุราออกมาเงียบๆ ก่อนเปิดฝาแล้วสูดดม

สุราดี

ความแรงไม่มากเกินไป เป็นของสดใหม่มาก

กู่ฉิงซานเก็บขวดสุราขณะนั่งอยู่ขอบเตียงด้วยความสับสน

หวังชุ่นอยากมอบถุงมือให้เข

จ้าวเฉียงมอบชุดเกราะกระดูกที่เต็มไปด้วยเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของปรมาจารย์ให้

หลี่ชุนเตานับว่าใจดีเช่นกัน เขามอบขวดสุราให้เป็นการส่วนตัว

หลี่ชิวอวี่ให้การดูแลเขามาตลอด

คนพวกนี้

ถ้าไม่ใช่คนที่ถูกแทนที่ก็ไม่เป็นไรหรอก

แต่ถ้าพวกเขาถูกแทนที่ไปแล้วจะทำอย่างไรล่ะ

มีร่องรอยความสับสนในแววตาของกู่ฉิงซาน

เขาดูชุดเกราะกระดูกที่จ้าวเฉียงมอบให้มา จิตของเขาขยับอย่างไม่ใส่ใจเพื่ออ่านรายละเอียดทั้งหมดที่อยู่ข้างใน

ทันใดนั้น เขาพบปรากฏการณ์แปลกประหลาด

ไม่ว่าจะเป็นนักรบพลังจิต ผู้สร้างอาวุธหรือผู้เชี่ยวชาญกระดูก ทุกคนจะต้องผ่านอย่างน้อยสี่ระดับก่อน

การตื่นขึ้นครั้งแรก การขัดเกลา การทะลวงและการสาดส่อง

สี่ระดับนี้ไม่ข้องเกี่ยวกับพละกำลัง เป็นเพียงตัวแสดงความคืบหน้าของการรวมมรดก

เมื่อไปถึงระดับการสาดส่องแล้วก็จะสามารถปลุกมรดกได้อย่างสมบูรณ์

ผู้คนมากมายติดอยีที่ระดับนี้บ่อยครั้งต้องทุ่มเวลาเป็นจำนวนมากจึงสามารถเลื่อนขั้นได้

ผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงเหล่านั้น ส่วนใหญ่เมื่อไปถึงระดับการสาดส่อง พวกเขาจะถูกอัญเชิญโดยคนใหญ่โตในสำนัก จากนั้นจะกลายเป็นแกนหลักของสำนัก

กู่ฉิงซานพลันนึกถึงการตระเตรียมก่อนที่ซานไห่ชีเสียจะจากไปขึ้นมาได้

ผู้เฒ่ากระดูกและร้อยหัตถ์ศักดิ์สิทธิ์ทำลายล้างไปกับนาง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นมือขวาตัวจริง

ส่วนนักดาบนิรันดร์หวังชุ่นกับท่านหมื่นดาบศักดิ์สิทธิ์หลี่ชุนเตา พวกเขาถูกสั่งให้ดูแลข้างหลัง

บางที…

กู่ฉิงซานครุ่นคิดอยู่ในใจ ในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะเสี่ยง

ราตรีมืดมิดมากขึ้น

หวังชุ่นและลูกน้องจำนวนมากกำลังตรวจสอบพื้นที่ห่างไกล

“ระวัง!”

ทันใดนั้น หวังชุ่นถือดาบก่อนมายืนอยู่หน้าทุกคน

เมื่อได้ยินเสียง “ตึง” ร่างหนึ่งปรากฏตรงหน้าทุกคน

หวังชุ่นตะโกนเสียงดัง “เจ้ากล้ามากที่มา!”

เขาไม่โจมตีทันที แต่หยิบชิ้นเกราะกระดูกออกมาบดขยี้ทันที

หลังจากผ่านไปสามอึดใจ หลี่ชุนเตาจะมา

กู่ฉิงซานมองเขาขยี้กระดูกจนละเอียดเงียบๆ ทันใดนั้นก็กล่าวว่า “หวังชุ่น วิชาดาบของเจ้ามีข้อบกพร่อง”

หวังชุ่นกล่าวอย่างเย็นชาว่า “นั่นไม่สำคัญหรอก สิ่งสำคัญคือเจ้าจะต้องตายที่นี่และวันนี้”

“โห เจ้ามั่นใจว่าจะจัดการข้าได้งั้นหรือ” กู่ฉิงซานถามด้วยความสนใจ

ในวินาทีต่อมา หลี่ชุนเตาเคลื่อนลงมาจากท้องนภา

กู่ฉิงซานไม่ลงมือ เพียงแค่ชำเลืองมองแล้วกล่าวว่า “หลี่ชุนเตา ข้าจะเรียกหาเจ้า เจ้ากล้ายอมรับหรือไม่”

“ไปบอกปู่ของเจ้านู่นไป! สวะที่ทรมานเด็กอย่างเจ้าจะต้องโดนปู่คนนี้ฆ่า!” หลี่ชุนเตาคำรามอย่างเดือดดาล

เขาและหวังชุ่นพุ่งเข้าหากู่ฉิงซานพร้อมกัน

ปัง!!!

คล้ายกับมีกำแพงในความว่างเปล่ามาขวางกั้นทั้งสองเอาไว้จนมิด

พวกเขายืนอยู่กับที่ ไม่สามารถพุ่งเข้าไปสู้ได้แต่อย่างใด

ไม่เพียงไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้เท่านั้น พวกเขาพบว่าตัวเองถูกขังไว้กับที่

“ช่างเป็นวิธีที่ชั่วร้ายอะไรอย่างนี้!”

หวังชุ่นถือดาบยาวก่อนฟาดฟันใส่ความว่างเปล่าตรงหน้าด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี

ประกายดาบทรงพลังกวงาดผ่านท้องนภาโดยไม่สัมผัสสิ่งใด

หลี่ชุนเตาทำแบบเดียวกัน

กู่ฉิงซานมองทั้งสองที่เดือดดาล ทันใดนั้นก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

“วางใจเถอะ ข้าแค่เรียกหาพวกเจ้าเท่านั้น”

เขาสะบัดมือ

……………………………………..