webnovel

1154 เข้าร่วมสงคราม!

ตอนที่ 1154 เข้าร่วมสงคราม!

“ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว” ลอร่ากล่าว

กู่ฉิงซานหลับตาแล้วถามว่า “มีโลกติดต่อมากี่ใบ”

ลอร่าตอบว่า “มีโลกนับไม่ถ้วนที่กำลังจับตาดูการต่อสู้ของพวกเรากับค่ายความโกลาหลอยู่ ตอนข้าติดต่อกับโลกนับไม่ถ้วนพวกมันยอมรับการติดต่อของพวกเราทันที”

กู่ฉิงซานเงียบสักพักแล้วกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ชะตากรรมในอนาคตของโลกเก้าร้อยล้านชั้นอยู่ที่วันนี้”

ตอนนี้ลิเลียก้าวมาข้างหน้าด้วยสีหน้าที่ต้องการคำยืนยัน

ลอร่าพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “เริ่มได้”

“รับทราบ”

บนแท่นสูงแสงสว่างเจิดจ้าเคลื่อนลงมาจากท้องนภา สาดส่องไปทั่วทุกหนแห่ง

กู่ฉิงซานลืมตาขึ้นขณะมองไปที่แท่นสูง

ทุกคนมองเขา

เขาชักดาบพิภพออกมา ก้าวขึ้นไปพร้อมกับดาบก่อนยืนนิ่งอยู่บนแท่นสูง

หลังจากนิ่งไปสักพัก

ในสายตาของโลกหลายร้อยล้านใบ เขาชูดาบขึ้น

เสียงผู้หญิงอันเศร้าโศกกระซิบอย่างแผ่วเบา

ขลุ่ยเสนาะหูลอยล่องไปตามสายลม

ดาบยาวตวัดข้ามความว่างเปล่าอย่างแผ่วเบาราวกับลำแสงเย็นเยือก

ทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเขาถูกฟันเป็นชิ้น ๆ ด้วยประกายดาบ โลกนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน

การเผาไหม้ การสังหาร การปล้นชิง ร่างคนตายที่ถูกแผดเผา การต่อสู้และการทรมานอันโหดเหี้ยมที่ไม่มีสิ้นสุด

สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นทุกโลก

กู่ฉิงซานเปิดปากพูด น้ำเสียงของเขาดังก้องในใจทุกคน

“ยุคแห่งความโกลาหลเริ่มโหมโรง โลกทั้งหลายมุ่งหน้าสู่การทำลายล้าง”

“เพราะตัวตนของเทพแห่งความโกลาหลที่แท้จริง ทำให้ไม่มีใครสามารถขัดขืนการมาถึงยุคอันโหดร้ายนี้ได้”

หัวใจของทุกคนหนักอึ้งยิ่ง

ใช่แล้วทันทีที่คนของความโกลาหลเหล่านั้นเผชิญหน้ากับการขัดขืนอย่างรุนแรง พวกมันจะยายพลังจำนวนมากเพื่อบูชาเทพแห่งความโกลาหลที่แท้จริง ทำให้สามารถหยิบยืมพลังของเทพแห่งความโกลาหลที่แท้จริงมาสังหารผู้ที่ขวางทางได้

ความโกลาหลถูกโหลดเอาไว้มากมาย พลังพิเศษปรากฏขึ้นอย่างไม่มีสิ้นสุด แถมยังมีการหนุนหลังจากเหล่าเทพอีก ความโกลาหลเหล่านี้จึงยากที่จะพ่ายแพ้

ความโกลาหลยังคงกระจายออกและไม่อาจขัดขืนได้

ตอนนี้เสียงของกู่ฉิงซานดังขึ้นอีกครั้ง

“วันนี้พวกเราพบความหวังที่จะต่อสู้กับความโกลาหลแล้ว”

ดาบยาวร่ายรำอย่างแผ่วเบา

ภาพทั้งหมดพลันหายไป

ภาพใหม่ปรากฏขึ้นในประกายดาบ

ทหารจักรกลสองนายยืนอยู่บนยอดเขาเหล็กกล้าโดดเดี่ยว

ทหารนายหนึ่งยกไรเฟิลซุ่มยิงขึ้นก่อนเล็งไปยังตำแหน่งที่ไกลออกไป

ในลำกล้องปืนอันหนาทึบ แสงสีน้ำเข้มไม่มีสิ้นสุดดับลงเป็นระยะ

ทหารอีกนายจมเข้าสู่ขุนเขาเหล็กกล้าโดดเดี่ยวก่อนหายไป

แมลงเหล็กกล้าขนาดยักษ์ยาวหลายสิบเมตรปรากฏขึ้น

เปลือกของมันล้วนเป็นเหล็ก ไม่มีเลือดเนื้อ ดวงตาหนึ่งคู่ทอประกายด้วยกระแสไฟฟ้า

แมลงเหล็กกล้ายักษ์ตัวนี้สยายปีกเหล็กสิบสองปีกที่บางราวจักจั่นออกก่อนลอยขึ้นสูงอย่างไร้การหยุดยั้ง

ตอนนี้ทหารที่มีปืนเหนี่ยวไกทันที

ภาพตามมาด้วยแสงแรงกล้าที่พุ่งมาจากปากกระบอกปืนอย่างรวดเร็ว มันเดินทางไปหลายพันไมล์ก่อนกระแทกใส่วิญญาณกรีดร้องอย่างรุนแรง!

มันยืนอยู่ท่ามกลางสัตว์ประหลาดนับไม่ถ้วนขณะถูกโจมตีกลางอากาศด้วยการโจมตีจากระยะไกลมาก

แมลงเหล็กกล้ายักษ์เคลื่อนลงมา คว้าวิญญาณกรีดร้องไว้แล้วจับหมุนอย่างต่อเนื่อง

ชั้นเส้นใยสีขาวเริ่มพันรอบสัตว์ประหลาด

เสียงของกู่ฉิงซานดังขึ้นอีกครั้ง “ในวันสิ้นโลก เทพแห่งความโกลาหลไม่ได้ไร้เทียมทาน เพราะมันมีศัตรูคู่อาฆาตนามว่าบัญญัติ”

ดาบยาวตวัดออกไป

ภาพทั้งหมดหมองหม่นและหายไป

กู่ฉิงซานวาดประกายดาบโค้งอีกครั้ง ทำให้ภาพหายไปอย่างสมบูรณ์

เขาร่ายรำดาบอย่างต่อเนื่องราวกับเทพที่แสดงปาฏิหาริย์ให้ทุกสรรพสิ่งชม

ในโลกหลายร้อยล้านใบ ทุกคนกำลังดูการกระทำของเขาอย่างใกล้ชิดด้วยเกรงว่าจะพลาดรายละเอียดบางอย่างไป

ใช่ ไม่มีใครเคยเห็นวิญญาณกรีดร้องพ่ายแพ้มาก่อน

ตอนความโกลาหลเรียกหาพลัง ชัยชนะอันท่วมท้นจึงจะตามมา

นี่คือความจริงที่ทุกชีวิตรับรู้ได้โดยไม่มีข้อยกเว้น

แต่เห็นได้ชัดว่าวิญญาณกรีดร้องถูกยิง!

ถูกยิง!

นี่มันคือพลังอะไรกัน!

ตึง ๆ ๆ ๆ !

กลองศึกดังขึ้นช้า ๆ

เสียงกลองหมองหม่นโทนเดียวดังขึ้นจนทำให้อารมณ์ของผู้คนค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น

“ฟังให้ดี”

กู่ฉิงซานถือดาบยาวแล้วพลันแผดเสียงคำรามอันบ้าคลั่งออกมา

“คนที่ยังมีชีวิตอยู่ จงฟัง!”

“ไม่ว่าจะประสบกับความพ่ายแพ้ในยุคนี้มากี่ครั้ง ไม่ว่าจะเสียศักดิ์สิทธิ์และผิดหวังมามากแค่ไหน ไม่ว่าสถานที่ล้ำค่าจะถูกพรากไปเท่าไหร่ ทุกสิ่งมีชะตาว่าจะไม่โดนเรื่องเดิมซ้ำรอย!”

ตึง ๆ ๆ ๆ ๆ !

เสียงกลองค่อย ๆ ดังขึ้น เผยให้เห็นฉากอันโดดเดี่ยวและเศร้าโศก

ประกายเย็นเยือกบนประกายดาบก้าวกระโดด กลายเป็นเส้นโค้งยาวงดงามก่อนฟันให้เห็นอีกภาพขึ้นมา

ยุคโบราณ

วิญญาณกรีดร้องถูกแทงที่ศีรษะด้วยหอกหลากสีสัน มันเดินโซเซไปหลายก้าว คุกเข่าลงกับพื้น ไม่ขยับไปไหน

มันตายแล้ว

ซากศพของมันสะท้อนเข้าสู่ดวงตาทุกคนก่อนสลักลึกลงไปในใจ

เสียงกลองศึกอีกเสียงดังขึ้น เสียงกลองสองใบซ้อนทับและดังไล่เลี่ยกันก่อนค่อย ๆ ปลุกกำลังใจในการต่อสู้ขึ้นมา

กู่ฉิงซานฟาดดาบยาวลงกับพื้นแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สงบและทรงพลังว่า “ถึงแม้ทุกสิ่งจะไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่ตอนนี้มีโอกาสที่พวกเราจะได้รับชัย”

“จะต้องมีสักวันที่พวกข้าออกจากโลกใบนี้ เผชิญหน้ากับสมบัติล้ำค่า เผชิญหน้ากับสิ่งล้ำค่าที่ถูกยุคแห่งความโกลาหลพังทลาย แต่พวกเราสามารถยืดอกอย่างภาคภูมิเพื่อพูดกับพวกเขาได้”

กู่ฉิงซานพลันพูดเสียงดังขึ้นก่อนคำรามออกมาว่า “พวกเราเคยสู้เพื่อปกป้องพวกเขา!”

“ด้วยดาบในมือของพวกเรา ด้วยกระดูกสันหลังของพวกเรา ด้วยความโกรธในใจของพวกเรา ต่อให้เลือดหยดสุดท้ายจะแห้งเหือด พวกเราก็ไม่เสียดายที่ต้องตาย!”

เสียงกลองศึกรัวและดังขึ้นราวกับสายฝน

กู่ฉิงซานฟาดดาบยาวลงกับพื้น ดวงตาเผยความมุ่งมั่นออกมา

“ทุกคนที่ยังไม่สูญสิ้นความหวัง”

“หากยังหลงเหลือความกล้า จงมาสู้ร่วมกับข้า”

เสียงจางหาย

ในความว่างเปล่า เจตจำนงของโลกกรีดร้องอย่างอ้างว้าง

เจตจำนงของโลกที่ยังเหลืออยู่ในโลกเก้าร้อยล้านชั้น!

พวกมันล้วนอยู่ที่นี่!

เสียงกระซิบนับไม่ถ้วนดังขึ้นในหูของสิ่งมีชีวิตหลายร้อยล้านชีวิต

ตอนนี้พวกเขารู้ว่าตราบที่เต็มใจเข้าร่วมสงคราม โลกจะปลดปล่อยพละกำลังเพื่อให้พวกเขาไปหาคนคนนั้น

เพื่อเข้าร่วมสงคราม…

เศษเสี้ยวโลก

เขาหยิบคัมภีร์เก่าด้วยมือที่สั่นเทา ผู้หญิงบนภาพวาดกำลังยิ้มราวกับบุปผา

เสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น

“ข้าอยากเข้าร่วมสงคราม!”

โลกที่เต็มไปด้วยสงคราม

ผู้ชายคุกเข่าลงตรงหน้าหลุมศพแล้วกล่าวอย่างหนักแน่นว่า “ข้าอยากเข้าร่วมสงคราม!”

ในโลกที่ตายไปแล้ว

ท่ามกลางซากปรักหักพังอันว่างเปล่า เสียงที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังพลันดังขึ้น “ข้าอยากเข้าร่วมสงคราม!”

ในโลกที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาด

ในกลุ่มคนที่ติดอาวุธหนัก มีเสียงดังขึ้นเป็นครั้งคราว “ข้าอยากเข้าร่วมสงคราม!”

โลกเทพ

เชี่ยนหยาอุ้มลูกไว้ในอ้อมแขน นางลุกขึ้นจากบัลลังก์แล้วกล่าวว่า “ถ่ายทอดคำสั่ง เทพทั้งหลาย จงออกไปเข้าร่วมสงคราม!”

“ขอรับ!”

โลกแดนชำระ

ฉ่าเฉียงลูบคางแล้วบ่นว่า “ทำไมเจ้าเด็กนี่ถึงสู้กับเทพแห่งความโกลาหลอีกล่ะ ไม่บอกไม่กล่าวอะไรล่วงหน้าเลย”

“ถึงจะไม่บอกไม่กล่าว แต่คราวที่แล้วเทพแห่งความโกลาหลก็ส่งคนมาล่อลวงด้วยความโกลาหล แล้วหลังจากนั้นมันเกิดอะไรขึ้นล่ะ”

ปีศาจตนหนึ่งตอบว่า “ท่านราชา คนคนนั้นอยู่ใต้เท้าของพวกเราแล้ว”

ฉ่าเฉียงมองศีรษะใต้เท้าแล้วถอนหายใจออกมา “พวกข้าไม่ใช่ปีศาจที่เป็นลูกสมุนของพวกมันสักหน่อย”

“ปีศาจทั้งหลาย ฟังคำสั่งข้าให้ดี ไปเข้าร่วมสงคราม!”

บนจัตุรัสที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ปีศาจส่งเสียงหวีดหวิวมาจากขุนเขาจนเกิดเป็นคลื่น “ขอรับ ราชาแดนชำระ!”

โลกเทียนหลาน

หลานซิ่วสวมชุดเกราะศึกแล้วก่อนเผยรอยยิ้มออกมา “แน่นอนว่าความโกลาหลคือศัตรูของพวกเรา ถ่ายทอดคำสั่งของข้าเพื่อให้ทุกคนเข้าร่วมสงคราม!”

“ขอรับ นายท่าน!”

โลกลาวา

กู่เหยียนสวมถุงมือเพลิงแล้วกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ไปกันเถอะ ข้าจะสู้ด้วย”

“ขอรับ! นายท่าน”

เศษเสี้ยวโลกทั้งหกบางส่วน

ปีศาจ มารและอสุราบางส่วนกำลังสนทนากัน

“นี่มันราชาภูตผีไม่ใช่หรือ”

“นั่นสิ นี่คือผู้ที่แปลกเปลี่ยนกับพวกเราในคราวที่แล้ว”

“ใช่ อย่างที่เจ้าบอกนั่นแหละ ว่าแต่ทำไมครั้งนี้พวกเราไม่ออกไปล่ะ”

“เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า นั่นคือเทพแห่งความโกลาหลเชียวนะ ทั่วโลกเก้าร้อยล้านชั้นถึงกับตกตะลึง ไม่มีใครกล้าปรากฏตัวหรอก!”

“แต่อีกฝ่ายคือราชาภูตผีเชียวนะ เจ้าก็เห็นแล้วนี่ ราชาภูตผีหาทางจัดการกับมันได้”

“จะว่าไปราชาภูตผี… ฉลาดกว่าเจ้าอีกนะ”

เกิดความเงียบ

“แสดงว่าเรื่องราวใหญ่โตเกินไป ราชาภูตผีเกรงว่าพวกเราจะไม่สามารถรับมือได้งั้นหรือ”

“เหมือนจะเป็นอย่างนั้น”

เกิดความเงียบอีกครั้ง

“เข้าร่วมสงคราม”

“เข้าร่วมสงคราม”

“เข้าร่วมสงคราม”

“ไป ไปสู้กับราชาภูตผี!”

โลกภูต

“อ่ะฮ่า โลกเก้าร้อยล้านชั้นมาถึงจุดวิกฤติของชะตากรรมแล้ว พ่อของพ่อของพ่อของพ่อของพ่อ ท่านคิดว่าไง”

“ก็เห็นแล้วนี่ เข้าร่วมสงคราม!”

“ทำไมล่ะ”

“พวกเราล้วนถูกเขาช่วยเอาไว้ ภูตไม่มีทางติดหนี้ใคร อีกอย่างสิ่งที่เขาแสดงทำให้ข้าเชื่อว่าเขามีความมั่นใจ”

“ควรค่าแก่การจะเอาโชคชะตาของภูตมาเดิมพันงั้นหรือ”

“แน่นอนหากเขาล้มเหลว ยุคแห่งความโกลาหลจะมาเยือนอย่างสมบูรณ์ จากนั้นเหล่าภูตจะไม่มีชีวิตสุขสบายอีก”

“ถ้างั้นเป็นอันตกลง ภูตอย่างพวกเราจะเข้าร่วมด้วย!”

ภูตสนทนาจบก่อนเตรียมที่จะออกไป

ชายชราเครายาวพลันนึกบางอย่างออกก่อนถามว่า “อา จะว่าไปแล้ว เทวภัณฑ์ของพวกเราอยู่ไหนล่ะ”

ราชาภูตตอบว่า “อย่าห่วงไปเลย ครั้งนี้ข้าจะเตรียมพร้อมให้อย่างดีเลย”

ชายชราเครายาวตื่นเต้นก่อนโบกไม้เท้าสั้นอันใหม่ “พวกเราชาวภูตไม่ได้แสดงฝีมือมานานแล้ว ครั้งนี้พวกเราได้รับบทบาทยิ่งใหญ่! ไปเข้าร่วมสงครามกัน!”

อีกด้าน

หอคอยสูง

แอนนาเดินอยู่ข้างหลังกู่ฉิงซานพลางถามเสียงต่ำ “เป็นไง การต่อสู้นี้หนักหนากว่ายมโลกนะ เจ้ามั่นใจหรือเปล่า”

กู่ฉิงซานตอบว่า “ข้าไม่มั่นใจ แต่ก็ต้องทำ”

แอนนาเอนตัวมาหาเขาแล้วกระซิบว่า “ยังไงก็ตาม ข้าจะสู้เคียงข้างเจ้า ข้าคือเทพแห่งความตาย ถ้าข้าไม่ให้เจ้าตาย เจ้าก็ตายไม่ได้”

กู่ฉิงซานยิ้ม ในใจเกิดความอบอุ่น

ในความว่างเปล่า คนจำนวนมากต่างเตรียมตัวเพื่อเข้าร่วมการต่อสู้ดุเดือดครั้งนี้

มีศัตรูมากมายที่โหลดความโกลาหลเข้าไป

แต่จำนวนพวกเขามากกว่า

ในบรรดาพวกเขายังมียอดฝีมือทรงพลังมากมาย

แต่น่าเสียดาย

ถึงแม้พวกเขาจะมีจำนวนมากกว่า แต่ก็ไม่ใช่คู่มือของความโกลาหล

ยังไงเสีย ความโกลาหลมีแผงควบคุมความโกลาหลส่วนตัวอยู่ ทำให้สามารถช่วยต่อสู้ได้ดี

กู่ฉิงซานมองดูและรอเงียบ ๆ

ในเวลาเดียวกัน เขาถือสามเหรียญไว้ในมือ

..............................