webnovel

1127 ผู้รับใช้

ตอนที่ 1127 ผู้รับใช้

เมื่อเซี่ยเต้าหลิงชี้ไปที่หว่างคิ้วของกู่ฉิงซาน ข้อความหนึ่งพลันปรากฏในจิตเทพของกู่ฉิงซาน

ในเวลาเดียวกัน บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม แถวหิ่งห้อยได้ทำการรีใหม่เช่นกัน

“จากระดับราชาแห่งอิสรภาพ กฎเกณฑ์แห่งสวรรค์และปฐพีเริ่มทำการตอบแทนผู้ฝึกยุทธ์”

“เซี่ยเต้าหลิงคือผู้ฝึกยุทธ์ระดับราชาแห่งอิสรภาพ ตามกฎเกณฑ์แห่งสวรรค์และปฐพี พลังเหนือธรรมชาติหลายคนของนางได้ตื่นขึ้นแล้ว”

“นางสามารถมีผู้รับใช้ได้ทั้งสิ้นสี่สิบแปดคน”

“ท่านมีโอกาสกลายเป็นผู้รับใช้ของเซี่ยเต้าหลิง”

“ท่านเต็มใจจะเป็นผู้รับใช้ของนางหรือไม่”

“เต็มใจ” กู่ฉิงซานตอบ

ไม่ว่าคนอื่นจะทำร้ายหรือไม่ แต่อาจารย์ไม่มีวันทำร้ายอย่างแน่นอน

บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม หิ่งห้อยขนาดเล็กยังคงปรากฏขึ้น

“ท่านกลายเป็นผู้รับใช้ของเซี่ยเต้าหลิง”

“ท่านสามารถระบุวิธีการสำแดงพลังต่าง ๆ อาทิ พลังเหนือธรรมชาติ กระบวนท่า วิชาและอื่น ๆ รวมถึงแบ่งปันร่วมกับเซี่ยเต้าหลิงได้”

“หมายเหตุ: ความสามารถที่ท่านแบ่งปันจะต้องเป็นของฝั่งผู้ฝึกยุทธ์เท่านั้น”

“หมายเหตุ: เซี่ยเต้าหลิงต้องใช้พลังวิญญาณของตัวเองเพื่อใช้ความสามารถนี้ พลังวิญญาณของท่านจะไม่ถูกหัก”

“หมายเหตุ: การใช้ความสามารถนี้ของเซี่ยเต้าหลิงจะไม่ส่งผลกับท่านเวลาใช้ความสามารถนี้”

“คำอธิบาย: ทุก ๆ สามวัน ราชาแห่งอิสรภาพสามารถเลือกหนึ่งในผู้รับใช้สี่สิบแปดคนเพื่อใช้งานได้”

กู่ฉิงซานอดที่จะประหลาดใจไม่ได้

ในอดีต เหล่าผู้ฝึกยุทธ์จะเผชิญกับอสนีบาตทุกครั้งที่พัฒนาจนท้ายที่สุดก็ไปสู่ระดับที่สูงขึ้น เมื่อมาถึงระดับพันวิบัติ มันทำให้ผู้ฝึกยุทธ์หวาดกลัวทุกวัน; หลังจากผ่านระดับพันวิบัติก็ต้องรอจนกระทั่งระดับแสวงโลกาและระดับวงแหวนนภาจึงจะเริ่มก้าวข้ามภัยพิบัติดิน น้ำ ไฟและลม จากนั้นจะเจอกับระดับนภายามค่ำที่บังคับให้อยู่กับความผาสุก หลังจากผ่านช่วงนี้ไปได้ มุมมองของกฎเกณฑ์แห่งสวรรค์และปฐพีจะถึงกับเปลี่ยนไป!

ผู้รับใช้สี่สิบแปดคน นั่นก็คือความสามารถสี่สิบแปดอย่าง

หนึ่งความสามารถใช้ได้ทุก ๆ สามวัน

สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ มันคือพรที่ดียิ่งนัก!

กู่ฉิงซานเริ่มคิดเกี่ยวกับความสามารถที่เขาควรใช้ในการแบ่งปันกับอาจารย์

เนื่องจากมันต้องเป็นความสามารถของฝั่งผู้ฝึกยุทธ์ ถ้างั้นก็เอาเป็นสิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างเคลื่อนตะวันบดบังจันทรา

น่าเสียดายที่อาวุธของอาจารย์เป็นแส้ยาว ไม่ใช่ดาบ จึงไม่สะดวกนักที่จะใช้วิชานี้เมื่อถึงเวลา

เขาคือผู้ใช้ดาบ แทบทุกวิชาเกี่ยวกับดาบ ดังนั้นจะมีอะไรที่สามารถให้อาจารย์ใช้ได้

ขณะที่เขากำลังคิด เซี่ยเต้าหลิงหัวเราะออกมาก่อนกล่าวว่า “ไม่ต้องคิดมาก แค่ส่งวิชามาให้ข้าผ่านวิถีของผู้รับใช้ ยังไงเสีย เจ้าก็คือผู้ใช้ดาบนี่นะ”

นางกล่าวต่อว่า “ข้าให้เสี่ยวหลัว ซิ่วซิ่ว ฉิงโหรวและหวั่นเอ๋อร์เป็นผู้รับใช้เช่นกัน แบบนี้ ข้าสามารถรู้สภาพของพวกเจ้าได้ทุกเมื่อ ส่วนกระบวนท่าและวิชา อันนั้นเป็นเรื่องรอง”

กู่ฉิงซานถามว่า “ท่านจะรู้สภาพของพวกข้าได้ยังไง”

“ถ้าผู้รับใช้ของข้าได้รับบาดเจ็บหรือตาย ข้าจะเสียความสามารถของผู้รับใช้คนนั้นไป” เซี่ยเต้าหลิงตอบ

กู่ฉิงซานพยักหน้า แต่เขายังใคร่ครวญอย่างละเอียดอยู่ในใจ

เคลื่อนย้ายก็ดี

สะเทือนฝันก็ดี

ในด้านพละกำลังกายภาพ อาจารย์มีก้าวพริบตาอยู่แล้ว

ในการต่อสู้ อาจารย์แข็งแกร่งมากพออยู่แล้ว แถมนางใช้แส้ยาวด้วย…

กู่ฉิงซานแยกความคิดของเขาขณะครุ่นคิด

สะเทือนฝันคือพลังเหนือธรรมชาติอสนีบาตที่ผ่านความก้าวหน้ามามากมายจนค่อย ๆ สมบูรณ์แบบ

พลังเหนือธรรมชาตินี้เป็นของฝั่งผู้ฝึกยุทธ์ มันคือพลังเหนือธรรมชาติที่ได้รับผ่านภารกิจเทพสงคราม นับว่าทรงพลังมาก

เป็นภาพที่ไม่เกินคาดนักที่เซี่ยเต้าหลิงจะถือแส้ยาวอสนีบาตพร้อมกับเสียงฟาดใส่ศัตรูดัง “เพี้ยะ”

ศัตรูจะถูกฟาดโดย “สะเทือนฝัน” จนไม่สามารถขยับได้

เพี้ยะ! เพี้ยะ! เพี้ยะ!

แบบนี้มีแต่ตายกับตายไม่ใช่หรือ

อืม นี่แหละดี

กู่ฉิงซานตัดสินใจได้แล้ว เขาจึงหลับตาเพื่อส่งพลังเหนือธรรมชาติอสนีบาตไป

นี่เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดมาก ราวกับกฎเกณฑ์แห่งสวรรค์และปฐพีเข้าสู่จิตใจเพื่อทำการคัดลอกพลัง จากนั้นส่งไปให้อีกฝ่าย

เซี่ยเต้าหลิงไม่สนใจ แต่ก็ยังเผยรอยยิ้มเจื่อนออกมา

แต่ไม่ช้า นางคล้ายกับสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง ปากขนาดเล็กจึงอ้าออกเล็กน้อย

“ฉิงซาน พลังเหนือธรรมชาติอสนีบาตของเจ้าก้าวหน้าจนมาถึงจุดนี้เลย มันหายากจริง ๆ น่าจะเป็นประโยชน์ในการจำกัดศัตรูมาก”

ขณะพูด นางดึงแส้ยาวออกมาตามคาด

เปรี้ยะ ๆๆๆ !

อสนีสีน้ำเงินและขาวปรากฏขึ้นจากแส้ยาว

เซี่ยเต้าหลิงมองอสนีขณะยกแส้ขึ้นยาว

เพี้ยะ

ตูม!

เสียงระเบิดเสียดแทงหูดังขึ้น

ธุลีปลิวว่อนไปทั่วโถงราวกับอสนีบาตฟาดลงมาที่โลก

เซี่ยเต้าหลิงชื่นชม “เป็นพลังอสนีบาตที่ดีมาก!”

กู่ฉิงซานเงียบ

เขาเริ่มสงสัยศัตรูในอนาคตของเซี่ยเต้าหลิงแล้ว

นี่อยู่เหนือขอบเขตของการถูกฟาด มันเหมือนกับข้อบังคับเรียบง่ายสำหรับผู้คนที่ต้องการเอาชนะอสนีบาตและภัยพิบัติ!

กู่ฉิงซานหัวเราะอย่างมีความสุข

เขายังมีความสุขมากที่สามารถเสริมพละกำลังเล็กน้อยให้กับอาจารย์ได้

เซี่ยเต้าหลิงเก็บแส้ยาว จากนั้นหยิบยันต์ออกมาแล้วมอบให้กู่ฉิงซาน

แถวตัวอักษรขนาดเล็กผุดขึ้นบนหน้าต่างระบบเทพสงครามทันที

“โปรดทราบว่ายันต์ใบนี้กำลังจะเปิดการสนทนาผู้รับใช้หลายคน”

กู่ฉิงซานรู้สึกถึงจิตเทพบางส่วนในทะเลแห่งความตระหนักรู้

อันหนึ่งเป็นของเซี่ยเต้าหลิง ส่วนอันอื่น ๆ ก็คุ้นเคยยิ่งนัก

ทันใดนั้น เสียงผู้หญิงที่เปี่ยมด้วยความสุขดังขึ้น “พี่สาม นั่นพี่สามซานใช่หรือไม่”

กู่ฉิงซานประหลาดใจ “ซิ่วซิ่วหรือ”

“อา ข้าเอง พี่สามซานได้พบกับอาจารย์หรือยัง” ซิ่วซิ่วถาม

กู่ฉิงซานยังไม่ทันตอบ เสียงของหวั่นเอ๋อร์ก็ดังขึ้น “เดี๋ยวนะ จะบอกว่าเจ้ากำลังพัฒนาสู่ระดับราชาแห่งอิสรภาพงั้นหรือ”

“ใช่ ข้าเพิ่งได้พบกับอาจารย์น่ะ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” กู่ฉิงซานตอบพร้อมรอยยิ้ม

มีอีกหลายคนที่ส่งเสียงหลงออกมา

ระดับราชาแห่งอิสรภาพเชียวนะ!

อาจารย์ร้ายกาจก็จริง แต่ใครจะคิดล่ะว่าพี่สามก็ร้ายไม่แพ้กัน

แบบนี้ผู้คนจะใช้ชีวิตอย่างไร

ทันใดนั้น จิตเทพหนึ่งได้หายไป

กู่ฉิงซานถามอย่างกังวลว่า “ใคร ใครหายไปหรือ”

เสียงของฉิงโหรวดังขึ้นอย่างอ่อนโยน “ศิษย์พี่ ไม่ต้องห่วง เป็นเพราะพี่สองไม่สามารถอดกลั้นความรู้สึกได้ก็เลยตัดขาดจิตเทพชั่วคราว”

พี่สองหรือ…

ฉินเสี่ยวหลัว!

กู่ฉิงซานกลั้นยิ้มไว้ก่อนถามว่า “ตอนนี้เขาอยู่ระดับไหนแล้ว”

ผู้หญิงสามคนพูดพร้อมกันว่า “ระดับพันวิบัติ”

“ระดับพันวิบัติมีภัยพิบัติมากมาย ฝากคำพูดข้าไปถึงเขาด้วยว่าระวังตัวหน่อย” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างมีอารมณ์

“ไม่ต้องห่วง” ซิ่วซิ่วกล่าว “พี่สามอาจจะไม่รู้ พี่สองไม่เคยฆ่าใครเลย ไม่มีปัญหาหรอก”

“ใช่ เขาแทบไม่เคยชนะผู้ฝึกยุทธ์สำนักอื่นเลย เป็นพวกข้าไปที่เข้าไปช่วยทุกครั้ง” หวั่นเอ๋อร์เห็นด้วย

หลังจากสนทนาอย่างเรียบง่ายอีกสองสามครั้ง ทุกคนรู้ว่าเซี่ยเต้าหลิงและกู่ฉิงซานอยู่ระดับหว่างการก้าวข้ามภัยพิบัติ พวกเขาจึงกล่าวลาทีละคน

“วิชายันต์ของพวกเรามาถึงจุดนี้แล้วหรือ” กู่ฉิงซานถาม

เซี่ยเต้าหลิงยิ้มก่อนส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “นี่คือยันต์ส่งเสียงชั้นสูง มีเพียงไม่กี่ใบเท่านั้น โปรดเก็บใบนี้ไว้ด้วย”

กู่ฉิงซานเก็บยันต์ไว้อย่างระวัง

“เป็นไงบ้าง เจ้าคิดถึงพวกเขามากหรือเปล่า” เซี่ยเต้าหลิงถาม

“ใช่ วันฝึกยุทธ์เหล่านั้นทำให้ผู้คนอยากกลับไปเมื่อคิดถึงมันจริง ๆ นั่นแหละ” กู่ฉิงซานตอบ

น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถกลับไปได้

กู่ฉิงซานสงสัยก่อนถามว่า “อาจารย์ ราชาแห่งอิสรภาพมีผู้รับใช้สี่สิบแปดคน จ้าวแห่งขุนเขาเซียวหมีมีผู้ติดตามหนึ่งร้อยยี่สิบคน มันมีความหมายอะไรหรือเปล่า”

เซี่ยเต้าหลิงตอบว่า “ผู้รับใช้คือผู้ที่ตามติดเป็นเงาตามตัว ที่จริง มันคือพลังเหนือธรรมชาติแบบหลายคนนั่นแหละ จ้าวแห่งขุนเขาเซียวหมีสามารถมีผู้ติดตามได้หนึ่งร้อยยี่สิบคน ตราบที่ถูกอัญเชิญ อีกฝ่ายสามารถก้าวข้ามมิติและเวลาเพื่อมาปรากฏตรงหน้าจ้าวแห่งขุนเขาเซียวหมีแล้วต่อสู้ร่วมกันได้”

“อย่างนี้นี่เอง” กู่ฉิงซานพยักหน้า

นี่มันเหมือนกับการอัญเชิญ แต่มีประโยชน์ยิ่งกว่าการอัญเชิญ

ก้าวข้ามมิติและเวลา ปรากฏตรงหน้า

เพียงแค่สองจุดนี้ก็เอาชนะวิชาอัญเชิญทั่วไปได้แล้ว

กู่ฉิงซานยืนขึ้นแล้วกล่าวลากับเซี่ยเต้าหลิง “อาจารย์ ข้าจะไปเดินดูว่าสามารถหาข้อมูลได้หรือเปล่า ท่านสามารถใช้พลังเหนือธรรมชาติของผู้รับใช้เพื่อตามหาข้าได้เมื่อต้องการ”

“เอาเถอะ เจ้าไปได้แล้ว ข้าต้องคิดทบทวนเรื่องพรุ่งนี้อีกรอบ” เซี่ยเต้าหลิงกล่าว

กู่ฉิงซานคำนับก่อนออกจากโถงหลักไป

เขามาอยู่ที่ถนนด้านนอก

ทั่วเมืองเป็นสิ่งปลูกสร้างดั้งเดิมทางฝั่งผู้ฝึกยุทธ์ มันดูมีความเก่าแก่ น่าสนใจและงดงาม

น่าเสียดาย ภายใต้แสงราตรี ไม่มีใครอยู่บนถนน

ไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้

กู่ฉิงซานชำเลืองมองเสาหลักแห่งสวรรค์ที่ตั้งตระหง่านขณะลอบครุ่นคิด

ไม่ต้องรีบร้อนปีนเสาหลักแห่งสวรรค์ เพราะเมื่ออาจารย์ก้าวข้ามภัยพิบัติ ทุกคนจะต้องปีนเสานี้

ทันใดนั้น ดอกไม้ไฟปรากฏขึ้นในท้องนภายามราตรี

กู่ฉิงซานเงยหน้ามอง

เขาเห็นชุดดอกไม้ไฟพุ่งขึ้นท้องนภา พวกมันบานสะพรั่งก่อนจะถูกสายลมพัดพาราวกับดวงดาว

“ดูจากทิศทางแล้ว พวกมันล้วนมาจากนอกกำแพงเมือง…”

กู่ฉิงซานพึมพำขณะครุ่นคิดอีกสิ่งอยู่ในใจ

ทุกคนเตือนเขาว่าไม่ให้อยู่นอกเมืองตอนกลางคืน

ก่อนหน้านี้เขาไม่มีเวลาถามให้ละเอียด แต่ตอนนี้ดอกไม้ไฟกลับปรากฏขึ้นที่นอกเมือง

ไม่ว่ายังไง เขาก็แค่อยากไปตรวจสอบสถานการณ์ ไปตรงกำแพงเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นสักหน่อยดีกว่า

กู่ฉิงซานเคาะส้นเท้าเล็กน้อยก่อนกลายเป็นภาพติดตาขณะพุ่งไปบริเวณนอกเมือง

ไม่ช้า

เขายืนอยู่บนกำแพง

ตอนนี้ มีผู้ฝึกยุทธ์สองถึงสามคนกำลังคุ้มกันกำแพงเมืองขณะมองไปบริเวณข้างนอก

กู่ฉิงซานก้าวมาข้างหน้าขณะทักทายพวกเขา

ทุกคนกำลังสนทนา ทันใดนั้นผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งกล่าวว่า “ดูนั่น มันกำลังมาแล้ว”

ทุกคนมองออกไป

พวกเขาเห็นเยื่อโปร่งแสงค่อย ๆ ปรากฏขึ้นนอกกำแพงเมือง มันปกคลุมท้องนภาและดวงจันทร์ ถิ่นทุรกันดารนอกเมืองเทียนจูถูกปกคลุมจนสิ้น

ทุกคนรอเงียบ ๆ

ทันใดนั้น โลกมายาเคลื่อนลงมา

ผู้คนเหมือนกับกระแสน้ำ

รถเหมือนกับม้า

แสงสาดส่อง ทุกสิ่งดูเจริญรุ่งเรือง

โลกทั้งใบคล้ายกับฟื้นคืนชีพ เผยให้เห็นความรุ่งเรืองเมื่อนานมาแล้ว

ผู้คนพลุกพล่าน บางคนทำธุรกิจและเจรจาพาที บางคนทักทายกัน บางคนกรีดร้องและชกต่อยในร้านเหล้า บางคนต่อยตีกลางถนน บางคนถอดชุดเกราะออกแล้วเริ่มสู้ตรงถนนกันทันที มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นมากมาย

กู่ฉิงซานมองผู้คนในชุดโบราณเงียบ ๆ

เขาพบว่าตัวเองไม่ได้ยินอะไร

ดอกไม้ไฟปะทุขึ้นบนท้องนภา ส่องแสงเจิดจ้าในความมืดมิด

มังกรมายาค่อย ๆ ปรากฏขึ้นก่อนเริ่มลอยอยู่เหนือท้องนภายามค่ำ

กู่ฉิงซานกุมศีรษะเล็กน้อยขณะมองไปที่อีกฝั่ง

อีกฝั่งของกำแพงเมือง เขตอาคมโปร่งแสงปรากฏขึ้นอย่างเงียบงัน

เขตอาคมนี้ยังเชื่อมต่อเข้าหากันขณะแยกโลกมนุษย์ที่มีชีวิตชีวาออกจากกัน

โลกอีกใบปรากฏขึ้น

หินประหลาด

เปลวเพลิงสีเขียวน่าสะพรึงพุ่งตรงขึ้นไปบนท้องนภา

บนดินแดนแห้งแล้ง วิญญาณชั่วร้ายนับไม่ถ้วนอาละวาด ต่อสู้กับอีกฝ่าย เข่นฆ่าและกลืนกินร่างของคนที่แพ้

ไกลออกไป เขตอาคมโปร่งแสงปรากฏขึ้นอีกครั้ง

โลกใบใหม่ปรากฏขึ้นตรงหน้าผู้ฝึกยุทธ์จนดูเหมือนจริงมา

โลกยิ่งมากยิ่งน่าตื่นตา

ผู้ฝึกยุทธ์อยู่นิ่งตรงกำแพงขณะมองเงียบ ๆ

ทันใดนั้น ท่ามกลางผู้คนในตลาดกลางคืน ผู้หญิงงดงามคนหนึ่งเหาะขึ้นมาที่นอกกำแพงเมือง

นางพิงกับเขตอาคมที่คล้ายกับเยื่อก่อนกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “สหายเต๋าที่น่ารักทุกท่าน กรุณาก้าวมาข้างหน้าด้วย”

ผู้ฝึกยุทธ์ไม่ขยับ

ใครบางคนเตือนเขาเสียงต่ำว่า “จำเอาไว้ อย่าออกไป ทันทีที่ออกไป เจ้าจะไม่สามารถกลับมาได้”

อีกคนถอนหายใจออกมา “ครั้งที่แล้วเป็นสหายเต๋าหวง…เฮ้อ…”

ไม่มีใครตอบ

การที่สามารถฝึกฝนจนถึงรดับนภายามค่ำได้ ทุกคนคือผู้ฝึกยุทธ์หนึ่งในล้านที่มีประสบการณ์โชกโชนและพบเจอกับสิ่งแปลกประหลาดมามากมาย

แต่ฉากนี้ยังทำให้ทุกคนขนลุกอยู่ดี

กู่ฉิงซานมองทุกคนที่ระแวดระวังก่อนทะลวงเข้าไปในทะเลแห่งความตระหนักรู้เพื่อพันรอบไม้เท้าราชาภูตผีจองจำ

ไม้เท้าราชาภูตผีจองจำไม่ขยับ

ดูท่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่วิญญาณคนตาย

ในเมื่อไม่ใช่วิญญาณคนตาย แล้วเป็นตัวตนแบบไหนกันล่ะ

กู่ฉิงซานมองผู้หญิงแล้วพึมพำว่า “น่าสนใจ”

..............................