webnovel

1123 พานพบ

ตอนที่ 1123 พานพบ

กู่ฉิงซานยืนอยู่ในถิ่นทุรกันดารขณะรอเงียบ ๆ

ถ้าคนที่ขโมยถุงเก็บของคืออาจารย์ ทันทีที่อาจารย์พบของจากสำนักร้อยบุปผาเหล่านั้นอยู่ในถุงเก็บของ เขาจะกลับมาหาเองในไม่ช้า

และเป็นอย่างที่คาดไว้

หลังจากผ่านไปยี่สิบอึดใจ สายลมแรงกล้าเคลื่อนลงมาจากท้องนภา ดูดก้อนกรวดขึ้นจากพื้น หลอมรวมเข้าด้วยกันก่อนค่อย ๆ ก่อตัวเป็นรูปร่างของผู้หญิง

ชั้นแสงวิญญาณส่องประกาย รูปลักษณ์ของผู้หญิงเด่นชัด

นางสวมชุดขนนกสีขาว มีมงกุฎหยกอยู่บนศีรษะ ใบหน้าไร้ที่ติ

ตรงหว่างคิ้วกับดวงตาของนางดูชัดเจนและละเอียดอ่อน ดวงตาแน่วแน่ราวกับดวงจันทร์ในสระน้ำสารท

เซี่ยเต้าหลิง

นางโยนแผ่นหยกขนาดใหญ่มาตรงหน้ากู่ฉิงซานแล้วถามอย่างแผ่วเบาว่า “เจ้าไปเอาแผ่นหยกนี่มาจากไหน”

กู่ฉิงซานหัวเราะ

“ในตอนนั้น ข้าเพิ่งมาถึงโลกเซินหวู่ จึงได้ขอวิชาจากพี่สอง จากนั้นเขาก็มอบมันให้ข้า”

เขาประสานมือก่อนชื่นชม “ตอนนี้อาจารย์สามารถหลอมรวมร่างจริงด้วยทรายกับหินได้ ความมหัศจรรย์ของวิชาเกินกว่าที่ข้าจะจินตนาการได้”

เซี่ยเต้าหลิงมองเขาเงียบ ๆ ก่อนถามว่า “เจ้าคือกู่ฉิงซานหรือ ทำไมสภาพถึงเป็นแบบนี้ล่ะ”

กู่ฉิงซานบอกเหตุผลให้ฟังอีกครั้ง

เซี่ยเต้าหลิงตั้งใจฟังก่อนกล่าวว่า “สิ่งที่เจ้าพูดมาไม่ผิดก็จริง แต่ตอนข้าออกจกาโลกเซินหวู่เพื่อฝึกฝนพันธมิตร ใครบางคนแสร้งปลอมตัวเป็นกู่ฉิงซานแล้วเข้ามาอยู่ในสำหนักร้อยบุปผาของข้า พวกเสี่ยวหลัวผ่อนคลายเกินไปจนเกือบจะทำร้ายกันเอง แต่โชคยังดี ฉิงโหรวกับหวั่นเอ๋อร์ฉลาด เรื่องนี้ไม่ได้น่าประหลาดใจแต่อย่างใด”

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ถ้างั้น…”

เซี่ยเต้าหลิงกล่าวว่า “วิชาดาบคือลมหายใจและวิญญาณของผู้ใช้ดาบ ถึงตัวคนจะสามารถปลอมได้ แต่วิชาดาบไม่สามารถปลอมได้ เจ้าต้องพิสูจน์ว่าเจ้าคือกู่ฉิงซานตัวจริง”

กู่ฉิงซานคว้าดาบพิภพจากความว่างเปล่าแล้วกล่าวอย่างจริงจังว่า “ในอดีต ข้าได้รับการยอมรับจากอาจารย์ ได้รับการดูแลสอนสั่งเป็นอย่างดี ศิษย์ทั้งหลายต่างรู้สึกซาบซึ้งอยู่ในใจ ตั้งแต่สมาพันธ์โลกเก้าร้อยล้านชั้นเกิดขึ้น ทุกอย่างไม่แน่นอน ศิษย์ทั้งหลายต่างหลงทาง แต่ใจข้ายังนึกถึงอาจารย์ วันนี้ข้าจะพิสูจน์ตัวเองด้วยวิชาดาบ หวังว่าอาจารย์จะช่วยชี้แนะ”

เซี่ยเต้าหลิงยิ้มแล้วกล่าวอย่างอบอุ่นว่า “เอาล่ะ ให้อาจารย์ดูหน่อยว่าเจ้าคืบหน้ามากแค่ไหน”

กู่ฉิงซานประสานมือ ทันใดนั้น เขาหายไปจากที่ที่เคยอยู่

ปัง!

ดาบยาวระเบิดออกเป็นชั้นเยือกแข็ง ทันใดนั้น มันแทงเข้าสู่หัวใจของเซี่ยเต้าหลิง

ร่างของเซี่ยเต้าหลิงหายไปอย่างช้า ๆ

…มันคือเงาเสมือน

กู่ฉิงซานเงยหน้ามองก่อนเห็นเซี่ยเต้าหลิงลอยขึ้นไปในอากาศ เสื้อผ้าของนางปลิวไสวราวกับภูต

กู่ฉิงซานถือดาบศักดิ์สิทธิ์ไว้ด้วยหลังมือก่อนชี้ไปที่ท้องนภา

แสงเจิดจ้าทะยานออกจากดาบ หลอมรวมเป็นเงาดาบยักษ์

ตูม!

เงาดาบพุ่งออกไป ธุลีรอบข้างสั่นไหวอย่างรุนแรงราวกับแผ่นดินไหวได้อุบัติขึ้น

…ดาบลับ ดาบเหล็กเหิงเจียง!

ด้วยทักษะวิชาดาบตอนนี้ของกู่ฉิงซาน ดาบลับ “ตัดขาดกระแสวารี” เป็นสิ่งที่เข้าใจมานานแล้ว เขาได้สร้างดาบลับใหม่ที่ทรงพลังยิ่งกว่าขึ้นมา!

เมื่อเห็นเงาดาบยักษ์วูบไหว เขาก็มาถึงตรงหน้าเซี่ยเต้าหลิงในพริบตา

เซี่ยเต้าหลิงไม่แตกตื่น แขนเสื้อยาวของนางร่ายรำในสายลม

…วิชาเหนือธรรมชาติ จักรวาลในแขนเสื้อ!

เงาดาบยักษ์พลันหายไป ไม่รู้ว่าจะรับมือเซี่ยเต้าหลิงจากทางไหน

เซี่ยเต้าหลิงพลันหันกลับมาแล้วชกเข้าไปในอากาศ

กู่ฉิงซานปรากฏตัวขึ้นที่นั่น เขากำลังจะฟันดาบออกไป แต่เซี่ยเต้าหลิงลงมือก่อน เขาทำได้เพียงขัดขืนด้วยการฟันดาบแนวนอน

ตูม!

ความว่างเปล่าสั่นไหว

กู่ฉิงซานกระแทกลงกับพื้นราวกับกระสุนปืนใหญ่

เซี่ยเต้าหลิงยืนอยู่ในความว่างเปล่าในสภาพมือเปล่า ทันใดนั้น นางรู้สึกถึงสายลมไม่มีสิ้นสุด

“พายุดาบ… ดูท่าจะเป็นค่ายกลดาบสินะ”

นางกระซิบขณะตวัดแส้ยาวออกไป

ฟิ่ว… เพี้ยะ!

แส้ฟาดออกไป เกิดเสียงฟ้าร้อง

สายลมคล้ายกับถูกแส้นี้ฟาดจนสลายหายไป

ไม่มีสายลมในท้องนภาแล้ว

เซี่ยเต้าหลิงเก็บแส้ยาวก่อนค่อย ๆ เคลื่อนลงจากท้องนภา

ตรงข้ามนาง กู่ฉิงซานเพิ่งกระโดดขึ้นจากหลุมขนาดใหญ่

“ไม่ต้องสู้แล้ว ข้าขอถามเจ้าหน่อย เจ้าทำแบบนี้กับศัตรูข้างนอกหรือเปล่า” เซี่ยเต้าหลิงถาม

กู่ฉิงซานตอบว่า “เป็นเรื่องปกติที่จะเห็นคนฆ่าคนอยู่ข้างนอก เห็นผีฆ่าผี”

เซี่ยเต้าหลิงชำเลืองมองเขาแล้วกล่าวว่า “ชายผู้ขลาดกลัวการต่อสู้กลับชอบวิชาดาบ เพราะอย่างนั้นในฐานะที่ข้าเป็นอาจารย์ พอได้เห็นภาพความสำเร็จในเคนโด้ดั้งเดิมแล้วก็รู้สึกตื้นตันนัก”

กู่ฉิงซานมีความสุขขณะกล่าวอย่างสงบว่า “นานมากแล้วที่ข้าไม่ได้พบอาจารย์ วิชาดาบของข้าพัฒนาเร็วนักก็เลยเกรงว่าจะเผลอไปทำร้ายอาจารย์โดยไม่ได้ตั้งใจ”

…ถึงเซี่ยเต้าหลิงจะวิจารย์เขาเช่นนี้ แต่นั่นแสดงให้เห็นว่านางยอมรับเขา

เซี่ยเต้าหลิงออกความเห็นว่า “วิชาดาบของเจ้าเหนือกว่าระดับนักดาบนิรันดร์ก็จริง แต่ข้าไม่รู้ว่าตอนนี้มันอยู่ระดับไหน”

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “หลังจากหนึ่งพันดาบ ยังมีหนึ่งดาบอีก”

ด้วยความสามารถของเซี่ยเต้าหลิง ทำให้นางเข้าใจทันที “หนึ่งดาบเทียบเท่าพันดาบ กลายเป็นว่ามันคือวิธีดึงและปลดปล่อยพลังได้อย่างอิสระ แล้วในอนาคตจะมีระดับไหนอีก”

“หนึ่งดาบสามารถกลายเป็นหนึ่งแสนดาบได้ มันคือเทพดาบ” กู่ฉิงซานตอบ

เซี่ยเต้าหลิงครุ่นคิดสักพักก่อนชื่นชมออกมา “ดาบลับหนึ่งแสนเล่มพุ่งออกมาพร้อมกัน พวกมันช่างไร้เทียมทาน”

เซี่ยเต้าหลิงสามารถคาดเดาเส้นของวิชาดาบได้เพียงแค่ประโยคเดียว!

กู่ฉิงซานนับถือนางขณะกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ในอนาคต ข้าอยากให้อาจารย์ชี้แนะมากกว่านี้”

ไม่มีใครพูดถึงเรื่องขโมยถุงเก็บของ

เซี่ยเต้าหลิงมองรูปลักษณ์ของเขาพลางขมวดคิ้ว “ฉิงซาน สภาพของเจ้าออกจะดูเหมือนผู้หญิงไปหน่อย ไม่ใกล้เคียงกับผู้ใช้ดาบเลย”

กู่ฉิงซานอธิบายว่า “นี่คือพลังทางฝั่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มันคือการปลอมแปลงระดับพันธุกรรม ต่อให้เป็นวิชาของภูตก็เป็นไปไม่ได้ที่จะตรวจจับรูปลักษณ์เดิมของคนคนนั้นได้ ดังนั้นข้าจึงยอมปลอมตัวเป็นแบบนี้”

“ก่อนหน้านี้ข้าก็คิดหาวิธีเปลี่ยนกลับเหมือนกัน แต่ดูเหมือนจะทำไม่ได้แล้ว”

เซี่ยเต้าหลิงพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ข้าสามารถเปลี่ยนเจ้าให้กลับเป็นรูปลักษณ์เดิมได้ เจ้าว่ายังไงล่ะ”

กู่ฉิงซานตอบว่า “แน่นอนว่าไม่มีปัญหา ให้อาจารย์ตัดสินใจเลย”

“เดี๋ยวก่อน รอเดี๋ยวก่อนนะ”

“ขอรับ”

เพี้ยะ!

กู่ฉิงซานถูกตบหน้า

เขาจับหน้า มันเปลี่ยนกลับมาเป็นดังเดิมจริง ๆ

“ขอบคุณ อาจารย์” เขากล่าวอย่างยินดี

“อืม” เซี่ยเต้าหลิงกล่าวขณะกุมมือทั้งสองข้างเอาไว้ “เสี่ยวหลัวใจเสาะ ซิ่วซิ่วยังเด็ก ฉิงโหรวและหวั่นเอ๋อร์เริ่มต้นช้าเกินไป เจ้าคือคนเดียวที่ไปได้ไกลที่สุดในบรรดาสำนักร้อยบุปผา จำให้ดี เลิกปลอมตัวเป็นผู้ชายที่เหมือนผู้หญิงด้วย”

“ขอรับ” กู่ฉิงซานกล่าว

เซี่ยเต้าหลิงกล่าวอีกว่า “เทียบกับรากฐานการฝึกฝนแล้ว ข้าถึงกับอยากให้เจ้าเป็นคนตรงไปตรงมาและมีมโนธรรมชัดเจนตลอดเวลา”

กู่ฉิงซานพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ข้าต้องยึดอาจารย์เป็นแบบอย่างและจะมุ่งมั่นในการเป็นผู้ใช้ดาบที่เดินทางอย่างเถรตรง”

เซี่ยเต้าหลิงกล่าวอย่างพึงพอใจว่า “อืม นี่สิถึงจะเป็นรูปแบบสำนักร้อยบุปผาของข้า”

ขณะทั้งสองสนทนา ทันใดนั้นพวกเขาเห็นจุดสีดำบางส่วนกำลังลอยอยู่ไกลออกไป

เซี่ยเต้าหลิงระงับกลิ่นอายก่อนหน้านี้ทันทีแล้วกล่าวว่า “ฉิงซาน ไว้ข้าจะติดต่อมาใหม่ ในฐานะอาจารย์ ข้ามีบางสิ่งที่ต้องทำ…”

ทันทีที่สิ้นเสียง กลิ่นอายวิเศษบนร่างนางหายไปสิ้นก่อนกลายเป็นทรายและหินที่ร่วงกระจายไปตามพื้น

กู่ฉิงซานตกตะลึง

อาจารย์รีบไปเหลือเกิน

มีบางสิ่งมาคุกคามหรือ

กู่ฉิงซานหรี่ตาขณะมองจุดสีดำที่ลอยอยู่ในท้องนภา

จิตสังหารของเขาปรากฏขึ้นขณะเอื้อมมือไปหยิบดาบ

สิบนาทีต่อมา

ผู้ฝึกยุทธ์จำนวนมากเดินไปมารอบตัวกู่ฉิงซาน

พวกเขาปลดปล่อยวิชามากมายขณะค้นหาเบาะแสตามพื้น บางคนถึงขั้นทะยานขึ้นในอากาศขณะส่งจิตเทพกวาดไปทั่วความว่างเปล่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า

คนอื่น ๆ เข้ามาปลอบกู่ฉิงซาน “สหายเต๋ากู่ เรื่องนี้จบลงแล้ว เจ้าควรปรับสภาพจิตใจก่อน ยังไงเสีย เจ้าเพิ่งก้าวข้ามภัยพิบัติมาได้”

กู่ฉิงซานยืนอยู่กับที่ด้วยความลำบากใจ อดทนอดกลั้น เขากระซิบว่า “อย่าเสียแรงเปล่าเลย หัวขโมยเร็วมาก ไม่มีทางหาเจอหรอก”

“หึ!”

ผู้ฝึกยุทธ์โยนอาวุธลงกับพื้นอย่างเกรี้ยวกราด

“ไม่มีร่องรอย หาไม่เจอจริง ๆ ด้วย!” ผู้ฝึกยุทธ์อีกคนถอนหายใจ

ผู้ฝึกยุทธ์ทมองกู่ฉิงซานก่อนถามอย่างไม่เต็มใจว่า “สหายเต๋ากู่ ขอบังอาจถามได้ไหมว่าหน้าตาหัวขโมยเป็นเช่นไร”

กู่ฉิงซานกำลังจะตอบ แต่ผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ข้างเขาส่งรอยยิ้มขมขื่นออกมาแล้วกล่าวอย่างเศร้าใจว่า “ไม่มีทางที่เขาจะมองเห็นได้อย่างชัดเจน หัวขโมยใช้การจุติแล้วอาศัยประโยชน์จากทุกคนที่เดินอยู่ในตลาดเพื่อลงมือ…พวกเจ้าคนไหนทันเล่ห์เหลี่ยมคนคนนั้นบ้าง”

ทุกคนหดหู่เล็กน้อยอยู่พักใหญ่

…ใช่ คนเหล่านี้คือผู้ฝึกยุทธ์ระดับนภายามค่ำ เหมือนกับกู่ฉิงซาน พวกเขาคือผู้ฝึกยุทธ์ที่มาโลกเทียนจูเพื่อก้าวข้ามภัยพิบัติ

หลังจากพูดเรื่องก้าวข้ามภัยพิบัติ ถุงเก็บของของทุกคนก็ถูกขโมย…

กู่ฉิงซานลอบถอนหายใจ

อาจารย์ช่างใจกว้างจริง ๆ …

ทว่า อาจารย์ไม่ใช่คนที่ละโมบเพื่อแสวงหาผลประโยชน์แท้ ๆ ทำไมนางถึงเอาถุงเก็บของของทุกคนไปล่ะ

ขณะคิด ใครบางคนพลันกล่าวว่า “สหายเต๋ากู่ ข้าคิดว่าเจ้าได้เผชิญหน้ากับคนคนนั้นอยู่พักใหญ่เลยนะ พวกเจ้ารู้จักกันหรือเปล่า”

กู่ฉิงซานตอบอย่างเคร่งขรึมว่า “จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง! ถามข้าได้เลย ข้าคือศิษย์คนที่สามของสำนักร้อยบุปผา สำนักข้าขึ้นชื่อเรื่องความตรงไปตรงมา… ศิษย์อย่างพวกข้ากระทำการทุกสิ่งด้วยความเถรตรง มีมโนธรรมชัดเจนตลอดเวลา ไม่มีทางที่จะไปติดต่อกับคนน่าสงสัยอย่างแน่นอน!”

ทุกคนเห็นเขาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง เพราะคิดว่าสาเหตุมาจากการถูกขโมย พวกเขาจึงเข้าใจความรู้สึกอีกฝ่าย จึงไม่ถามอะไรอีก

ใช่แล้ว

ถ้าทั้งสองฝ่ายรู้จักกัน แล้วอีกฝ่ายจะขโมยของของกู่ฉิงซานทำไม

ตอนนี้ ทุกคนพลันรู้สึกถึงบางอย่างก่อนมองท้องนภาพร้อมกัน

พวกเขาเห็นถุงเก็บของเจ็ดถึงแปดใบตกลงมาจากท้องนภา

“ถุงเก็บของข้า!” ใครบางคนตะโกน

ทุกคนยื่นมือออกไป ถุงเก็บของทั้งหมดกลับมาที่มือตัวเอง

ทุกคนรวมถึงกู่ฉิงซานพลิกดูถุงเก็บของ

ใครบางคนสงสัย “น่าแปลก ไม่มีอะไรหายไปเลย แต่แผ่นหยกวิชาเต๋าของข้าเหมือนจะถูกใช้”

..............................