webnovel

1104 ทำให้ข้าหัวเราะ

ตอนที่ 1104 ทำให้ข้าหัวเราะ

มันจบสิ้นแล้ว

กู่ฉิงซานเหงื่อออกมาก

พลังจิตวิญญาณ พลังวิญญาณ พลังกายภาพและวิญญาณล้วนถูกใช้จนเกลี้ยง

เขาพิงกับสะพานแขวน นั่งอยู่บนพื้นขณะหอบหายใจอย่างรุนแรง

แถวหิ่งห้อยพลันปรากฏบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม

“ท่านได้รับการยอมรับจากการเต้นบูชายัญ”

“นับจากนี้ไป เมื่อท่านฝึกเต้น ท่านสามารถดึงพลังวิญญาณจากทุกสิ่งมาได้ส่วนหนึ่ง”

“ไม่เพียงแค่นั้น เพราะท่านได้รับการยอมรับจากวิญญาณโลกอดีตจำนวนมาก ท่านจึงได้รับพรพิเศษ: พลังพรจากโลกอดีต”

“ในช่วงเวลาที่ผ่านมา พละกำลังทั้งหมดของท่านจะเข้าสู่การพัฒนาอย่างรวดเร็ว”

“พลังของมังกรมารที่ยังหลงเหลืออยู่ในร่างจะถูกดูดกลืนจนสิ้นภายในสามวัน”

“ระดับการฝึกฝน ระดับไพ่และการรับรู้วิชาดาบจะพัฒนาขึ้น”

กู่ฉิงซานถอนหายใจ

ถึงแม้จะได้รับประโยชน์มามาก แต่เขาก็ไม่มีความสุขหลังจากทำการเต้นบูชายัญไปเมื่อครู่

เพราะสูญเสียพละกำลัง ร่างของเขาจึงเหนื่อยล้ายิ่ง เกิดความหดหู่ในใจที่ยากจะบรรเทา

กู่ฉิงซานเริ่มคิดฟุ้งซ่าน

ทันใดนั้น เสียงผู้หญิงไร้ตัวตนขับขานอย่างแผ่วเบา

“เมื่อโลกแตกสลาย ข้าได้สำรวจเหตุผลของทุกสิ่ง”

“สิ่งแลกเปลี่ยนคือชีวิตที่ล่วงลับเร็วปานสายลม แต่ข้าได้ตัดสินใจแล้ว”

“รำลึกถึงอดีต เคลื่อนขุนเขาและแม่น้ำ เจ้าได้มอบชีวิตใหม่ให้ข้า”

“บินให้สูง ส่องสว่างทั่วโลก ก้าวไปข้างหน้าอย่างหาญกล้า ไม่หวาดกลัวความทุกข์ทรมาน”

“ข้าจะเดินผ่านเวลาและชะตากรรมอีกครั้งเพื่อพยายามอย่างหนักในการหาทางออกให้กับทุกชีวิต”

“ทั้งหมดนี้มาจากความช่วยเหลือของเจ้า”

“ข้าเห็นว่าเจ้าเหนื่อยล้า”

“เอาล่ะ โปรดรับพลังของข้าไป มันเป็นของข้าและจะคงอยู่เพื่อเจ้า”

ทุกคนมองไปทางโบสถ์

เขาเห็นนางฟ้าขับขานยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึมขณะผสานมือทั้งสองข้างเพื่อขับขานให้กู่ฉิงซาน

กู่ฉิงซานรู้สึกถึงพลังไร้ขีดจำกัดไหลหลั่งเข้าสู่ร่างกายจากทุกทิศทาง

แสงระยิบระยับเกื้อหนุนเขาอย่างอ่อนโยนจนช่วยให้ยืนหยัดได้อีกครั้ง

กู่ฉิงซานหลับตาลงด้วยความประหลาดใจเพื่อรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย

หลังจากผ่านไปหนึ่งอึดใจ พละกำลังกายภาพทั้งหมดฟื้นคืนกลับมา

ผ่านไปสองอึดใจ พลังงานกลับมาเต็มเปี่ยม

ผ่านไปสามอึดใจ พลังวิญญาณกลับมาเต็มเปี่ยม

น่าเสียดาย พลังจิตวิญญาณที่ถูกใช้ไปนั้นไม่ได้รับการเติมเต็ม

ทว่า ความหดหู่ในใจหายไปอย่างน่าประหลาด

เขากลับมามีกำลังใจต่อสู้อีกครั้ง

ตอนนี้ เสียงร้องของนางฟ้าขับขานหยุดลงอย่างช้าๆ

“ขอบคุณ” กู่ฉิงซานประสานมืออย่างซื่อตรง

“ไม่ ต่างหากล่ะที่ข้าต้องขอบคุณ และก็”

ขณะพูด นางฟ้าขับขานชี้ไปที่ร่างของเขา

ร่างท่อนบนของนางฟื้นคืน แต่ร่างท่อนล่างยังเป็นหิน

“เอาล่ะ ถึงแม้คำสาปบนร่างของข้าจะหายไปแล้ว แต่ข้ายังต้องพลังเฮือกสุดท้ายก่อนถึงจะสามารถทำลายพลังที่เหลืออยู่ทั้งหมดได้”

“ข้าควรทำยังไงล่ะ” กู่ฉิงซานถาม

“ทำให้ข้าหัวเราะ” นางฟ้าขับขานตอบ

ใบหน้าของกู่ฉิงซานอมทุกข์

กลายเป็นว่าเรื่องนี้ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

มันคือภารกิจระดับยากที่จะทำให้นางฟ้าขับขานหัวเราะ เย่เฟยหลีน่าจะสามารถทำได้ แต่ถ้าเป็นเขา ขอไปช่วยโลกเพิ่มสักสองสามใบยังจะดีกว่า

นางฟ้าขับขานมองเขาด้วยใบหน้าเศร้าสร้อยก่อนปลอบว่า “อย่าห่วงไปเลย หลังจากคำสาปหายไปแล้ว ข้าสามารถหัวเราะได้ แต่ต้องได้รับการชี้นำสักเล็กน้อย”

“จริงหรือ”

“อืม”

กู่ฉิงซานถอนหายใจด้วยความโล่งอก เท้าก้าวขึ้นสะพานแขวนก่อนมุ่งสู่โบสถ์

ในท้องนภา บิดาบนสวรรค์มองฉากนี้เงียบๆ

“คาดไม่ถึง คนที่เจ้าส่งมาจะลบล้างคำสาปของลูกสาวข้าได้” เขาพึมพำ

ในความว่างเปล่า เสียงของยักษ์แห่งการเริ่มต้นกระซิบอย่างแผ่วเบาว่า “ถึงแม้กระบวนการจะแปลกประหลาด แต่ภารกิจก็ถือว่าเสร็จสิ้น ดังนั้นเจ้าต้องจ่าย”

บิดาบนสวรรค์มองไปยังโบสถ์เบื้องล่างแล้วกล่าวเสียงต่ำว่า “จะจ่ายก็ได้ แต่หลังจากผ่านไปสักพัก เจ้าต้องรีบพาเจ้าหนูนี่ออกไป”

“เจ้ากลัวอะไรล่ะ” น้ำเสียงของยักษ์แห่งการเริ่มต้นแปลกประหลาดเล็กน้อย

เขาอดที่จะมองสายตาของบิดาบนสวรรค์ไม่ได้

นางฟ้าขับขานเพียงมองกู่ฉิงซานด้วยสายตาอ่อนโยนราวกับไม่มีอะไรอยู่ในสายตานอกจากเขา

ยักษ์แห่งการเริ่มต้นยิ้มกว้าง แต่มันรีบหุบปากอย่างรวดเร็ว

มันกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “หลังจากช่วยนางแล้ว นางย่อมซาบซึ้งบุญคุณคนที่ช่วยนางเอาไว้ นี่เป็นเรื่องปกติ ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าเจ้าจะกังวลอะไร”

บิดาบนสวรรค์กล่าวว่า “ข้าคือพ่อของนาง ข้าใช้ความพยายามมากมายเพื่อสร้างเกาะแห่งมิติและเวลานี้ขึ้น ข้าจับตาดูผู้คนที่มาคลายคำสาปนาง แต่นางไม่เคยเหลียวแลใครจนกระทั่งตอนนี้”

ดวงตาของยักษ์แห่งการเริ่มต้นกลอกไปมาขณะปลอบว่า “เจ้านี่ล่ะก็ เจ้าหนูนี่ไม่รู้ว่าอนาคตจะไปได้ไกลแค่ไหน เจ้าไม่คิดจะปล่อยให้ลูกสาวไปคบกับคนแบบนี้เลยหรือ”

บิดาบนสวรรค์นิ่ง

ยักษ์แห่งการเริ่มต้นกล่าวอีกครั้งว่า “ดูสิ พลังของเขาช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก ซากศพเทวดากลับเข้าหลุมตัวเองไปแล้ว พวกมันไม่เพียงซ่อมแซมหลุมตัวเองเท่านั้น แต่ยังทำความสะอาดหลุมก่อนจะกลับลงไปนอนอยู่ใต้ดินอีกด้วย”

“ด้วยพลังขนาดนั้น โลกของเจ้าจะต้องสะอาดขึ้นมากในอนาคตอย่างแน่นอน”

บิดาบนสวรรค์ขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้นก่อนจ้องมองด้วยสายตาเกรี้ยวกราด “ข้าไม่ต้องการวิญญาณมาทำความสะอาด เจ้าเอาเจ้าหนูนี่ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!”

“แหมๆ เอาตามที่เจ้าว่าละกัน เมื่อเขากำจัดคำสาปสุดท้ายได้ ข้าจะพาเขาออกไป แต่เป็นความจริงที่ข้าไม่เคยเห็นเจ้าที่เป็นพ่อทำตัวแบบนี้มาก่อน”

พวกเขายังจดจ่ออยู่ที่โบสถ์ขณะสนทนา

กู่ฉิงซานมาถึงนางฟ้าขับขานแล้ว

ทั้งสองฝ่ายมองหน้ากัน

ครึ่งนางฟ้า ครึ่งรูปปั้น

“…ข้าต้องทำให้เจ้าหัวเราะใช่หรือเปล่า” กู่ฉิงซานถาม

“ใช่ ทำให้ข้าหัวเราะเลย” นางฟ้าขับขานตอบ

กู่ฉิงซานขมวดคิ้วพลางครุ่นคิดสักพักแล้วกล่าวว่า “เคยมีสมาคมเล่นซ่อนหามาก่อน”

นางฟ้าขับขานกล่าวว่า “ไม่มีใครพบประธานสมาคมดังกล่าว”

กู่ฉิงซานนิ่งขณะมองนาง

นางฟ้าขับขานกล่าวว่า “นี่มันจืดชืดเกินไป เปลี่ยนเรื่องได้หรือเปล่า”

กู่ฉิงซานครุ่นคิดอย่างหนัก จากนั้นกล่าวว่า “ในอดีต มีสัตว์สิบสองชนิดนั่งอยู่บนเรือที่น้ำเริ่มท่วม เรือไม่ใหญ่พอจะขนพวกมันไปได้ พวกมันจึงตัดสินใจผลัดกันเล่าเรื่องตลก หากเรื่องตลกของใครไม่ทำให้หัวเราะกันหมดจะต้องถูกโยนออกไป ในตอนนั้นเอง”

นางฟ้าขับขานตอบว่า”หมูหัวเราะเป็นตัวสุดท้าย”

กู่ฉิงซานแข็งทื่อขณะมองนาง

นางฟ้าขับขานเอียงศีรษะเล็กน้อย สายตาชำเลืองมองเขาแล้วกล่าวว่า “ข้าเดาว่าเจ้าน่าจะแค่เล่าเรื่องตลก ไม่ได้แอบด่าว่าข้าเป็นหมูใช่หรือไม่”

กู่ฉิงซานรีบพยักหน้า

ผู้หญิงคนนี้รู้เรื่องตลกทั้งหมดในโลก

ไม่สิ เขาต้องหาทางใหม่

เขากอดอกเพื่อทำสมาธิสักพัก ทันใดนั้น ดวงตาของเขาทอประกายแล้วกล่าวว่า “ข้าพบทางคลี่คลายแล้ว”

“โห ไหนบอกข้ามาซิ” นางฟ้าขับขานกล่าวอย่างสนใจ

กู่ฉิงซานชูนิ้วชี้ขึ้นแล้วอธิบายตามตรงว่า “จากมุมมองเชิงวิทยาศาสตร์ ร่างกายมนุษย์มีกลไกการป้องกัน เมื่อเจ้าถูกสัมผัส เจ้าจะวิตกขึ้นมาทันทีแล้วเตรียมการป้องกัน มาตรการโต้กลับ อดทนและการตอบสนองอื่นอีกมากมาย แต่เมื่อร่างกายรับรู้อยู่แล้วว่าสัมผัสนี้ไม่เป็นอันตราย แต่เป็นความใจดี ความสนิทสนมและความนึกสนุก ร่างกายจะเปลี่ยนจากการป้องกันที่ตึงเครียดเป็นการผ่อนคลายที่ไม่มีการเตรียมพร้อม ท้ายสุดก่อเกิดเป็นรูปลักษณ์เชิงกายภาพที่จะหัวเราะออกมา”

นางฟ้าขับขานประหลาดใจ

“แสดงว่าเจ้ามีทางทำให้ข้าหัวเราะอย่างนั้นหรือ”

“ใช่ ถ้าทำตามหลักวิทยาศาสตร์ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร”

กู่ฉิงซานคว้าดาบพิภพจากความว่างเปล่าก่อนกล่าวด้วยใบหน้าจริงจังว่า “อย่าห่วงไปเลย ข้าไม่สัมผัสร่างกายของเจ้าหรอก”

เขาถือปลายดาบพิภพด้วยมือก่อนชี้ด้ามดาบไปทางนางฟ้าขับขาน

ขณะกลุ่มคนมอง กู่ฉิงซานสูดหายใจเข้าแล้วกล่าวอย่างวิตกว่า “ข้ากำลังจะเริ่มแล้ว”

นางฟ้าขับขานวิตกเช่นกันจนอดที่จะถามไม่ได้ว่า “เจ้าจะทำอะไรน่ะ”

กู่ฉิงซานชำเลืองมองนางแล้วตอบอย่างฉงนว่า “ข้าก็บอกไปแล้วไม่ใช่หรือ”

“เจ้าบอกไม่ชัดเจนเท่าไหร่น่ะ” นางฟ้าขับขานกล่าว

“อ๋อ ข้ากำลังจะจั๊กจี้เจ้าน่ะ” กู่ฉิงซานตอบอย่างจริงจัง

ทั้งโลกเงียบสงัด

เขาจะจั๊กจี้

นางฟ้าขับขาน

บิดาบนสวรรค์เงียบ

ยักษ์แห่งการเริ่มต้นเงียบ

ผู้ชมเงียบ

นางฟ้าขับขานแข็งทื่อจนเหมือนรูปปั้นจริงๆ

นางมองกู่ฉิงซานแล้วพลันถามว่า “เจ้ามีคู่หรือเปล่า ถ้าเป็นภาษาในโลกมนุษย์ของเจ้า มันหมายถึงแฟนน่ะ”

“ทำไมเจ้าถามแบบนี้ล่ะ ข้ายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตกหลุมรักมันเป็นยังไง” กู่ฉิงซานตอบตามตรง

นางฟ้าขับขานพยักหน้าอย่างหนักแน่น

นี่นับว่าชัดเจนมาก

ความคิดนี้ผุดขึ้นในใจของทุกคนอย่างเป็นเอกฉันท์

นางฟ้าขับขานมองเขาถือดาบยาวกลับด้าน ในที่สุดก็กล่าวออกมาอย่างยากลำบากว่า “อย่ามาถูข้า ทำไมไม่ลองพูดอะไรดีๆ ให้ข้าฟังล่ะ ชมก็ได้ แบบนั้นข้าน่าจะหัวเราะนะ”

กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพักแล้วตอบว่า “เจ้ากล้าหาญนะที่กล้าไปโลกนั้นเพียงลำพัง”

นางฟ้าขับขานกล่าวว่า “เปลี่ยนประโยค”

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “เจ้าสามารถสู้ได้ดีเลย”

นางฟ้าขับขานกล่าวว่า “เปลี่ยนอีก”

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “เจ้าแข็งแกร่งนัก”

นางฟ้าขับขานจ้องเขาจนอดที่จะเตือนไม่ได้ว่า “ข้าเป็นผู้หญิงนะ เจ้าเข้าใจหรือเปล่า เจ้าชมคนเป็นไหมเนี่ย ผู้หญิงต้องการคำชมนะ เจ้าพูดให้มันดีๆ ได้หรือเปล่า”

กู่ฉิงซานพยักหน้าก่อนยอมรับคำโต้แย้งของอีกฝ่าย

เขาครุ่นคิดสักพักแล้วกล่าวอย่างจริงจังว่า “ข้าคิดว่าเจ้าพิเศษที่สุดในบรรดาผู้หญิงทุกคนเท่าที่ข้าเคยพบมา”

“ข้าพิเศษยังไงหรือ”

นางฟ้าขับขานอดที่จะถามไม่ได้

กู่ฉิงซานตอบว่า “เจ้ากล้าหาญที่สุด มากความสามารถที่สุดและทรงพลังที่สุดเท่าที่ข้ารู้จักผู้หญิงมา”

สายลมเย็นเยือกพัดผ่าน

โลกเงียบสงัด

ทุกคนพูดไม่ออก

บิดาบนสวรรค์ครุ่นคิด “เด็กคนนี้ดูไม่มีพิษภัยอะไรเลย”

“เจ้าไม่ได้จะขับไล่เขาไปหรอกหรือ” ยักษ์แห่งการเริ่มต้นถาม

“เปล่า หลังจากเสร็จแล้วให้เขารีบไปเลย”

“ทำไมล่ะ”

“ข้าสังหรณ์ใจไม่ดีน่ะ”

“…พ่ออย่างเจ้านี่มัน ข้าไม่อยากพูดกับเจ้าแล้ว”

ในโบสถ์ กู่ฉิงซานขมวดคิ้วขณะมองสีหน้าของนางฟ้าขับขาน

น่าแปลก

ทำไมนางไม่ส่งสัญญาณว่าอยากหัวเราะเลยล่ะ ขนาดสัญญาณส่งเสียงร้องยังไม่มีเลย

ช่างเถอะ ไม่ต้องฟังนางแล้ว

ในที่สุดกู่ฉิงซานก็ตัดสินใจได้

กู่ฉิงซานเป็นคนแบบนั้นอยู่แล้ว เวลาเขาตัดสินใจจะทำอะไร เขาจะทำทันทีต่อให้ดาบพิภพจะถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายก็ตาม

เขายื่นด้ามดาบไปที่รักแร้ของนางฟ้าขับขานเพื่อถูเล็กน้อย

นางฟ้าขับขานสั่นสะท้านขณะนึกถึงเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้น นางไม่สามารถหักห้ามได้อีกต่อไปก่อนพลันส่งเสียงออกมา

“อะฮะๆ อย่าถูข้า! อะฮะๆ หน้าไม่อาย ข้าคือ ฮ่าๆ นางฟ้า อะฮะๆ ขับขาน ในอนาคต โลกทั้งหมดจะต้อง อะฮะๆ … หัว… เราะ…”

คลิก!

คลิก!

ชั้นหินลอกออกจากตัวนาง

นางฟ้าขับขานล้มลงกับพื้นเล็กน้อย ลำแสงศักดิ์สิทธิ์บนร่างยังคงลอยขึ้นขณะล้อมรอบเอาไว้

ในที่สุดพลังคำสาปก็หายไปสิ้น!

………………………………….