webnovel

1083 ความลับของทางเดิน

ตอนที่ 1083 ความลับของทางเดิน

คาถาเวทมนตร์จำนวนมากกระหน่ำใส่กรงเล็บกระดูกยักษ์

ถึงแม้ทุกคนจะสูญเสียพละกำลังทั้งหมดไป แต่พวกเขายังสามารถโจมตีด้วยพลังทั้งหมดได้เมื่อปล่อยทักษะออกมา

กรงเล็บกระดูกไม่ขยับ ไม่มีความเสียหายใดๆ

นี่ออกจะน่ากลัวนิดหน่อย

กู่ฉิงซานมองรูปลักษณ์น่าสะพรึงของกรงเล็บกระดูกก่อนกล่าวกับตัวเองว่ามันช่างน่าเสียดาย

…น่าเสียดาย เขาไม่สามารถนำหอกปีศาจแดงออกมาตอนนี้ได้ ไม่อย่างนั้น เขาคงสับสัตว์ประหลาดตัวนี้ตั้งแต่หัวจรดหางไปแล้ว

เขาเปลี่ยนใจ ดวงตาของเขาจับจ้องในความว่างเปล่าขณะมองแถวหิ่งห้อยขนาดเล็ก

“ท่านเสร็จสิ้นการฝึกฝนแรกของการร่ายรำจากเทพปฐพี”

“ด้วยการฝึกฝนนี้ พละกำลังของท่านเพิ่มขึ้นในระดับหนึ่ง”

“ด้วยการฝึกฝนนี้ ความเร็วการตอบสนองของท่านพัฒนาขึ้น”

“ด้วยการฝึกฝนนี้ สมรรถภาพทางร่างกายของท่านเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว”

“ผลพวงจากการร่ายรำของเทพปฐพีกำลังแผ่ขยายไปยังส่วนลึกของทางเดินลับ”

“พรและโชคร้ายเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้”

ขณะอ่าน กู่ฉิงซานรู้สึกว่าร่างกายที่อ่อนแอยิ่งของเขามีพลังขึ้นมาเล็กน้อย

แน่นอนว่าพลังเหล่านี้น้อยมากจนไม่สามารถเทียบเท่ากับตัวเองในฐานะผู้ฝึกยุทธ์ได้

แต่ในสภาพแวดล้อมที่ทุกคนสูญเสียพลัง การพัฒนานี้ยังเป็นประโยชน์อยู่ดี

“หน้าต่างระบบเทพสงคราม เจ้าหมายความว่ายังไงที่ว่าพรและโชคร้ายเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้” กู่ฉิงซานถาม

ไม่มีคำตอบจากหน้าต่างระบบเทพสงคราม

กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพักแล้วกล่าวว่า “ข้าจะติดพลังวิญญาณสองร้อยแต้มไว้กับเจ้าก่อน ข้าจะจ่ายคืนเมื่อกลับออกไปแล้ว”

หน้าต่างระบบเทพสงครามยังคงเงียบ

กู่ฉิงซานยักคิ้วแล้วกล่าวว่า “จ่ายคืนสองเท่ารีบพูดมา”

ติ๊ง!

เสียงตอบรับคมชัดดังขึ้น

หน้าต่างระบบเทพสงครามตอบว่า “สิ่งที่เรียกว่าพรและโชคร้ายเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ มันหมายความว่าผลพวงของระบำสังเวยชีพกำลังแผ่ขยาย บางสิ่งสัมผัสได้ถึงระบำสังเวยชีพขณะพยายามตอบกลับมาอย่างอ่อนแรง แต่พวกเราไม่รู้ว่ามันคืออะไร?”

กู่ฉิงซานครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นจึงมองซูเสวี่ยเอ้อร์ เขาลดเสียงลงก่อนถามว่า “เสวี่ยเอ้อร์ เจ้ามาที่นี่ได้ยังไง?”

ซูเสวี่ยเอ้อร์ตอบว่า “ข้าคือผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของเก้าคฤหาสน์ ข้าได้รับชุดคลุมดาราเก้าชุดมา”

“ชุดคลุมดาราหรือ?” กู่ฉิงซานทวนซ้ำ

“ใช่ ดูท่าพละกำลังของข้าจะไปถึงมาตรฐานขั้นต่ำ ดังนั้นพวกมันจึงประกอบเข้าด้วยกันเป็นแผนที่ดาราก่อนพาข้ามาที่นี่”

“อีกอย่าง มันบอกว่าสิ่งนี้จะนำไปสู่โลกธุลี สถานที่ที่สามารถได้รับพลังของฝั่งแปลกประหลาด… เจ้าน่าจะรู้ว่าในโลกเก้าร้อยล้านชั้น ฝั่งแปลกประหลาดคือพลังที่พบได้บ่อยที่สุด”

อย่างนี้นี่เอง!

…ดูท่าโลกธุลีจะข้องเกี่ยวกับฝั่งแปลกประหลาดจริงๆ ดังนั้นจู่ๆ ระบำสังเวยชีพจึงถูกกระตุ้นขึ้นมา

กู่ฉิงซานถึงกับสัมผัสได้เช่นกัน เพราะตั้งแต่มาที่นี่ ระบำสังเวยทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกดึงดูดด้วยอะไรบางอย่าง

ในฐานะพลังที่ทรงพลังและควบคุมไม่ได้มากที่สุดในตัวเขา ระบำสังเวยกลับตอบสนองเช่นนั้น แสดงว่าต้องมีเหตุผลบางอย่างแน่ๆ

คำตอบก็คือ…

กู่ฉิงซานมองทางเดินลับข้างหน้า

ลึกเข้าไปในทางเดินลับหรือ

หรือว่าอยู่ในโลกธุลี

กรงเล็บกระดูกยักษ์วางอยู่ตรงนั้น ไม่ขยับไปไหน ขวางทางเอาไว้อย่างสมบูรณ์

ในการวิเคราะห์สุดท้าย พวกข้ายังต้องหาทางค้นหาให้ได้

“เสวี่ยเอ้อร์ เจ้าลองดูหน่อย”

กู่ฉิงซานกล่าวกับซูเสวี่ยเอ้อร์

ซูเสวี่ยเอ้อร์จั่วไพ่ออกมาก่อนโยนออกไป

ชิ้นส่วนของเทพทะเลโลหิตยังคงวูบไหวจากความว่างเปล่าขณะฟาดฟันใส่กรงเล็บกระดูกยักษ์อย่างเกรี้ยวกราด

กรงเล็บกระดูกยังไม่ได้รับความเสียหาย แต่มันคล้ายกับรู้สึกถึงความเจ็บปวด ทำให้พ่ายการโจมตีหลบทหารทะเลโลหิตจำนวนมาก แต่มันยังคงไม่ถอยแม้แต่นิดเดียว

ซูเสวี่ยเอ้อร์นำไพ่กลับมาเช่นกัน

ฉ่าเฉียงถามว่า “ตอนนี้ไปข้างหน้าต่อไม่ได้แล้ว บอกข้าทีว่าพวกเราควรทำยังไงต่อ?”

ทุกคนตกอยู่ในความเงียบ

กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพักแล้วถามว่า “ใครมีความสามารถค้นหาผ่านกำแพงบ้าง?”

ในบรรดาผู้ติดตามของกู่เหยียน มีหนึ่งคนก้าวออกมา

“ข้าสามารถทำได้ด้วยการใช้หูแทนตาทิพย์เพื่อมองผ่านกำแพง” ผู้ชายกล่าว

กู่ฉิงซานหันศีรษะมาถามฉ่าเฉียงว่า “เจ้าพบกระดูกที่เต็มไปด้วยซากศพของภูตที่ไหน?”

ฉ่าเฉียงก้าวถอยออกมาหลายสิบเมตร ชี้ไปที่มุมหนึ่งของกำแพงแล้วตอบว่า “ตรงนั้นแหละ”

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ภูตซ่อนตัวเก่งที่สุด ตราบที่ไม่อยากถูกพบเห็น พวกมันย่อมไม่มีทางถูกพบเห็นได้”

ดวงตาของหลานซิ่วทอประกายแล้วกล่าวว่า “เจ้าหมายความว่า…”

“เจ้าต้องลงถึงจะรู้” กู่ฉิงซานกล่าว

กู่เหยียนกล่าวกับผู้ติดตามว่า “ทำตามคำสั่งของนักฆ่ามังกรจากยุคโบราณ ตรวจสอบเร็ว”

“ขอรับ”

ผู้ติดตามกล่าว วิ่งไปที่มุมหนึ่งก่อนเอาหูแนบกำแพง

ทุกคนมองเขาขณะรอผลลัพธ์อย่างเงียบงัน

เขาฟังสักพัก จากนั้นส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “กำแพงนี้หนามาก ไกลออกไปหนึ่งหมื่นไมล์ ข้าไม่ได้ยินอะไรเลย”

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ฟังข้างบนดู”

ผู้ชายขอให้คู่หูของเขาอุ้มขึ้น

เขาเอาหูแนบกับเพดานเพื่อฟังอยู่สักพักก่อนกล่าวว่า “ข้างบนมีทะเล ไม่มีที่สิ้นสุด ไร้ดินแดน”

กู่ฉิงซานคาดเดาเรื่องนี้เอาไว้แล้ว เดิมที ข้างนอกทางเดินลับไม่เป็นกำแพงก็ต้องเป็นทะเล ถึงแม้ทุกคนจะเดินไกลแค่ไหน เห็นได้ชัดว่ามันไม่ไกลเลยเมื่อเทียบกับความกว้างใหญ่ของทะเล

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ฟังกำแพงจากฝั่งตรงข้ามดู”

ผู้ชายกระโดดลงจากไหล่ของคู่หูก่อนฟังตรงกำแพงอีกด้าน

“ยังเป็นกำแพงหนึ่งหมื่นไมล์ ไม่ว่าจะไกลแค่ไหนก็ไม่ได้ยินอะไรเลย” เขาถอนหายใจขณะตอบ

ทุกคนท้อแท้เล็กน้อย

กู่ฉิงซานยังคงไม่ขยับขณะยังกล่าวว่า “ฟังใต้ดิน”

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายอย่างดื้อดึง ผู้ชายจึงต้องนอนลงกับพื้นแล้วเอาหูแนบกับพื้นเพื่อฟัง

ผ่าไนปหลายอึดใจ

เขาไม่ยืนขึ้นหรือพูดอะไร แต่สีหน้าค่อยๆ เผยความประหลาดใจขึ้นมา

ตอนนี้ทุกคนกำลังให้ความสนใจ

“เจ้าได้ยินอะไร?” กู่เหยียนอดที่จะถามไม่ได้

“นายท่าน ข้างล่างมืดมิด ข้ามองเห็นไม่ชัด แต่ดูเหมือนจะมีแมลงขนาดใหญ่นอนอยู่ที่นั่น” ผู้ชายตอบ

“แมลงใหญ่ขนาดไหน?” ฉ่าเฉียงถาม

ผู้ชายทำท่าทางก่อนตอบว่า “ตามหน่วยวัดสากลของเผ่าพันธุ์มนุษย์ มันอยู่ที่ประมาณหนึ่งร้อยเมตร”

แมลงขนาดเกือบหนึ่งร้อยเมตร

เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้น พวกเขาตกใจเล็กน้อย

“ร่างวขนาดหนึ่งร้อยเมตร… ด้วยพละกำลังของพวกเราตอนนี้ ไม่อาจรู้ได้ว่าจะชนะหรือเปล่า” กู่เหยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ไม่ต้องคิดหรอก หากทรงพลังเท่ากับกรงเล็บกระดูกจริง พวกเราก็ไม่อยากจะรับมือกับมันหรอกนะ”

“ทำไมล่ะ?” ฉ่าเฉียงไม่เห็นด้วย

หลานซิ่วตอบอย่างแผ่วเบาว่า “เพราะแมลงสามารถเคลื่อนไหวได้ โจมตีและถอยได้โดยไม่มีอะไรมาพันธนาการ ส่วนกรงเล็บกระดูกทำได้เพียงติดอยู่กับที่จนไม่สามารถขยับได้”

กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพัก จากนั้นถามเสียงดังว่า “ใครเข้าใจนิสัยของภูตบ้าง”

ทุกคนส่ายหน้า

ภูตคือเผ่าพันธุ์ที่ลึกลับที่สุด ทุกวันนี้ยังพบเห็นได้ยาก พวกเขาจะไปเข้าใจได้อย่างไร

กู่ฉิงซานถอนหายใจ

นี่ไม่ง่ายเลย

เขากำลังครุ่นคิด ทันใดนั้น มีใครบางคนดึงมุมเสื้อของเขา

ซูเสวี่ยเอ้อร์

“เรื่องนั้น… ข้าพอจะรู้” นางกระซิบ

กู่ฉิงซานถามด้วยความประหลาดใจว่า “เจ้ารู้เรื่องภูตได้ยังไง เจ้าติดต่อกับพวกเขาได้ยังไงหรือ”

“ข้าไม่เคยติดต่อกับพวกเขา”

ซูเสวี่ยเอ้อร์ส่ายหน้าแล้วกล่าวต่อว่า “ตอนข้าศึกษาอยู่ที่สถานศึกษาเกาะหมอก ข้าได้อ่านหนังสือในห้องสมุดมหาลัย จากนั้นก็ติดตามอาจารย์ท่านหนึ่งจนได้อ่านหนังสือของอาจารย์ท่านนั้นทุกเล่ม ข้าจำวิชาพวกนั้นได้เมื่ออ่านจบ หลังจากนั้นก็เดินทางมาถึงวิหาร… ห้องสมุดของวิหารใหญ่ยิ่งกว่า ข้าทำงานเป็นบรรณารักษ์ชั่วคราว ทำให้อยู่ในห้องสมุดนานแค่ไหนก็ได้ก็เลยไม่ค่อยได้ออกมา”

กู่ฉิงซานประหลาดใจเล็กน้อยก่อนกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าจบการศึกษาระดับมัธยมปลาย ทำไมเจ้ายังรักที่จะเรียนอยู่อีกล่ะ”

ซูเสวี่ยเอ้อร์ตอบอย่างเคร่งขรึมว่า “ข้าเชื่อสิ่งหนึ่งมาตลอด ยิ่งข้ารู้เท่าไหร่ โอกาสยิ่งมากขึ้นเท่านั้น… ความรู้สามารถทำให้ผู้คนมีโอกาสเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของตัวเองได้”

กู่ฉิงซานกอดอกขณะกล่าวว่า “ดูท่าเจ้าและเทพธิดาแห่งความยุติธรรมจะมีความสัมพันธ์ที่ดีมาก นางก็มีมุมมองแบบนี้ตลอด”

“เทพธิดาแห่งความยุติธรรมดีบกับข้ามาก กลับไปเมื่อไหร่ ข้าต้องขอบคุณนางหน่อยแล้ว” ซูเสวี่ยเอ้อร์กล่าวต่อ “ตอนนี้ เรื่องเกี่ยวกับภูต ข้าอาจจะยังพอจำได้ ฉิงซาน เจ้าอยากรู้อะไรล่ะ”

“ข้าอยากรู้ว่าภูตทั้งหลายทำยังไงเมื่อเผชิญหน้ากับอันตราย… จะดีมากถ้าสามารถจำกัดข้อมูลได้ด้วยสภาพแวดล้อมอย่างทางเดินลับ” กู่ฉิงซานตอบ

ซูเสวี่ยเอ้อร์ครุ่นคิดสักพักแล้วกล่าวว่า “ขุดดิน”

“ขุดดินหรือ?”

“ใช่ พวกเขาจะเข้าไปในดินก่อนหายไปเมื่อเผชิญหน้ากับอันตรายที่ยิ่งใหญ่มาก”

ซูเสวี่ยเอ้อร์กล่าวต่อ

“ใครบางคนเคยสำรวจเทวภัณฑ์โบราณมาก่อน ทันทีที่เข้าอุโมงค์ไป อุโมงค์ก็เริ่มพังทลายลงมา”

“ด้วยความสิ้นหวัง เขาไม่มีทางเลือกนอกจากหนี”

“ขณะหนี เขาพลันเห็นภูตขนถุงอัญมณีเจิดจ้าออกมาขณะรีบหนีออกจากซากปรกหักพัง”

“ตอนนี้เอง อุโมงค์พังทลายลงมาเร็วมากจนไม่สามารถหนีออกมาได้”

“ผู้ชายใช้งานคัมภีร์เคลื่อนย้ายพริบตา ในช่วงวินาทีสุดท้าย เขาเห็นภูตกระโดดลงไปในพื้นก่อนหายไปจากสายตา”

หลังจากฟังถึงตรงนี้ กู่ฉิงซานถามว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างภูตกับแมลงคืออะไร… มีแมลงประเภทไหนที่เป็นมิตรกับพวกเขาหรือเปล่า แล้วก็พวกเขาชอบเลี้ยงแมลงหรือไม่”

ซูเสวี่ยเอ้อร์นึกสักพักแล้วตอบว่า “ภูตเกลียดแมลง พวกเขาชอบแต่ของสวยงามและของน่าทึ่ง ที่จริง พวกเขาสร้างยาฆ่าแมลงขวดแรกในโลกเก้าร้อยล้านชั้นขึ้นมา จากนั้น็แจกจ่ายยาฆ่าแมลงไปตามโลกหลายร้อยล้านแห่งอย่างเงียบๆ”

“เอาล่ะ ข้าเข้าใจแล้ว เสวี่ยเอ้อร์สุดยอดจริงๆ”

กู่ฉิงซานสัมผัสศีรษะนาง เขาชักดาบออกมาก่อนเดินไปที่มุมหนึ่งของทางเดินลับ

“ที่นี่หรือ” เขาชี้ไปที่พื้นขณะถามผู้ติดตามคนนั้น

“ที่นี่แหละ แค่ไม่รู้ว่าจะลงไปยังไง” ผู้ติดตามตอบ

กู่ฉิงซานกระแทกอย่างแรงด้วยสันดาบ

เมื่อกระแทกครั้งที่สิบเอ็ด พื้นสั่นสะเทือน

หลังจากนั้น แผ่นหินเปิดออก กู่ฉิงซานตกลงไป

มีความโกลาหลในกลุ่มคน

ซูเสวี่ยเอ้อร์อุทานขณะพุ่งตัวอย่างรวดเร็วก่อนกระโดดลงไป

นางยังอยู่ในอากาศ มือจั่วไพ่ออกมาเพื่อเตรียมสู้ทุกเมื่อ

แต่ไม่มีการต่อสู้เกิดขึ้น

แขนทรงพลังหนึ่งคู่คว้านางเอาไว้

“วางใจได้ ที่นี่ปลอดภัย” กู่ฉิงซานกล่าว

…เขาคาเดาเอาไว้ทุกสิ่งแล้ว แต่ดันลืมการตอบสนองของซูเสวี่ยเอ้อร์ไปได้

โชคยังดี พละกำลังและความเร็วการตอบสนองในร่างกายของเขาพัฒนาขึ้น ไม่อย่างนั้นอาจจะไม่สามารถคว้าซูเสวี่ยเอ้อร์ไว้ได้

“แมลงตัวใหญ่นั่นยาหนึ่งร้อยเมตร…” ซูเสวี่ยเอ้อร์กล่าวขณะมองตามสายตาของกู่ฉิงซาน

ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรออกมา

นั่นไม่ใช่แมลง

มันคือรถไฟเหล็กกล้าที่มีฝุ่นเกาะ มันอยู่บนรางยาวที่นำไปสู่เส้นทางมืดมิดโดดเดี่ยวและว่างเปล่าอย่างโดดเดี่ยว

“ฉิงซาน”

“มีอะไร?” กู่ฉิงซานถามขณะจ้องรถไฟเหล็กกล้า

ซูเสวี่ยเอ้อร์ลดเสียงแล้วตอบว่า “…แผนที่ดาราของข้าทำงานแล้ว”

………………………………….