webnovel

1077 ทางเดินลับ

ตอนที่ 1077 ทางเดินลับ

กู่ฉิงซานชำเลืองมองไปอีกทาง

คนเหล่านั้นยังยืนนิ่ง ไม่มีใครกล้าก้าวมาข้างหน้า

กู่ฉิงซานถูกล้อมด้วยภาพติดตามสามร่าง มันช่างดูลึกลับสุดบรรยาย

นี่คือพลังที่หินแห่งสรรพสิ่งมอบให้ “พลังแห่งความว่างเปล่าเงาพิฆาต”

ความจริง ภาพติดตามสามร่างนี้ไม่มีพลังโจมตี

แต่กู่ฉิงซานเพิ่งจัดการกลุ่มคนได้ด้วยดาบเดียว ใครล่ะจะกล้าเข้ามาลองง่ายๆ

กู่ฉิงซานหยุดสนใจคนเหล่านี้ขณะมองบาดแผลบนแขนของซูเสวี่ยเอ้อร์

คิ้วของเขาขมวด

โลหิตไม่หยุดไหล

ตอนนี้ไม่สามารถใช้วิชาได้ บาดแผลนี้นับว่าสาหัสมากนัก

ซูเสวี่ยเอ้อร์ยังยิ้มขณะกล่าวว่า “เมื่อครู่ข้ารู้สึกว่าท่าทางกับนิสัยของเจ้าช่างคุ้นเคยเล็กน้อย ทำให้ในใจเกิดความสงสัย ใครจะนึกล่ะว่าเป็นเจ้าจริงๆ”

กู่ฉิงซานมองนางที่กระตือรือร้นจนอดที่จะถามไม่ได้ว่า “แขนของเจ้ายังเลือดไหลอยู่ ไม่เจ็บเลยหรือ”

ซูเสวี่ยเอ้อร์ตกตะลึง ดวงตาค่อยๆ เปียกชื้นขณะกระซิบว่า “มันเจ็บเหลือเกิน!”

กู่ฉิงซานพูดไม่ออก

เขานึกบางอย่างออกก่อนพลันกล่าวว่า “อุปกรณ์เทคโนโลยีเหนือกาลอวกาศ เจ้ามาจากการวิจัยและการผลิตของเทพธิดาแห่งความยุติธรรม แสดงว่าต้องมีความสามารถการรักษาบ้างใช่หรือเปล่า?”

เสียงจักรกลอิเล็กทรอนิกส์ดังขึ้น “ข้าคือสิ่งมีชีวิตทางวิทยาศาสตร์ มีวิญญาณและจิตสำนึก ทำให้เมื่อครู่สูญสิ้นความสามารถทั้งหมดไปเช่นกัน”

ด้วยเหตุผลบางอย่าง กู่ฉิงซานรู้สึกถึงความขุ่นเคืองจากคำพูดของอีกฝ่าย

“ถ้างั้นความสามารถแบบไหนที่เจ้าเหลือเอาไว้ล่ะ” กู่ฉิงซานถาม

“ความสามารถไร้ประโยชน์ พูดง่ายๆ มันช่วยนางไม่ได้” เสียงอิเล็กทรอนิกส์ตอบอย่างหนักแน่น

กู่ฉิงซานคร้านจะถามต่อจึงไม่ได้ถามอีก

เขายื่นมือออกไปสัมผัสแขนครึ่งหนึ่งของซูเสวี่ยเอ้อร์ จากนั้นสัมผัสจุดลมปราณที่แผ่นหลังสองสามแห่ง เมื่อห้ามโลหิตไหลได้ชั่วคราวแล้ว เขาใช้ดาบพิภพฟันผ้าออกก่อนเอามาพันแขนให้ซูเสวี่ยเอ้อร์

ถึงแม้เขาจะเสียพลังทั้งหมดไป แต่เขาต่อสู้มาสองชั่วอายุคน ในฐานะคนธรรมดา เขายังจำวิธีพื้นฐานในการรักษาบาดแผล

เชาสวมชุดของโลกฝึกฝน… ชุดนี้ไม่มีอะไรนอกจากพลังเวทมนตร์เล็กน้อยในการทำความสะอาดและแยกฝุ่นเท่านั้น

วิชาแบบนี้เหมาะเอามาใช้พันแผลจริงๆ

“อดทนหน่อยนะ ข้าจะหาทางรักษาเจ้าทีหลัง” กู่ฉิงซานกล่าว

“ไม่ต้องห่วง” ซูเสวี่ยเอ้อร์เอนศีรษะมาซบไหล่เขาขณะกล่าวด้วยปากที่เบ้เล็กน้อยว่า “ข้าไม่ยอมตายหรอก”

ทุกคนมองด้วยความไม่เข้าใจ

นี่มันสถานการณ์อะไรกัน

ตอนแรกทั้งสองคนไม่รู้จักกัน

ผลที่ได้ ทันทีที่ผู้ชายก้าวเข้าไปหา ผู้หญิงกลับยอมเชื่อฟัง

เมื่อเห็นว่าภาพติดตามสามร่างที่อยู่ด้านหลังกู่ฉิงซานยังคงระแวดระวัง หลายคนจึงถอยออกมา

มีอีกหลายคนที่เลือกจะไป

แทนที่จะเฝ้าไพ่ที่เอามาได้ยาก รีบออกไปสำรวจทางเดินลับยังจะดีเสียกว่า

เผลอๆ อาจจะเจอสมบัติของจริงเข้าก็ได้!

“หึ ไปกันเถอะ” คนสวมหน้ากากกล่าว

ดวงตาของกู่ฉิงซานคมปลาบขึ้นมา

คนเหล่านี้ทำร้ายซูเสวี่ยเอ้อร์

แต่… ในสถานการณ์ตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าซูเสวี่ยเอ้อร์ไม่สามารถสู้ได้อีกแล้ว

หากต้องสู้กันขึ้นมา เขาไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยให้นางได้

เว้นแต่ว่าเขาจะสามารถสังหารคนเหล่านี้ได้ในพริบตา

ยังไงล่ะ…

เกรงว่าจะต้องทุ่มสุดตัว…

กู่ฉิงซานเอามือวางบนดาบพิภพ

แล้วกุมไว้มั่น

“ช่วย…”

ทันใดนั้น เสียงแตกตื่นดังมาจากทางเดินลับ

ทุกคนตกตะลึงขณะมองไปทางหลุมสีดำ

“อา!”

“ใครก็ได้ช่วยข้าด้วย!”

“เร็ว! วิ่ง”

“ไม่นะ!”

ความโกลาหลจากเสียงร้องและเสียงตะโกนพลันปะทุในทันที

พวกที่พุ่งเข้าไปในทางเดินลับก่อนหน้านี้วิ่งกลับมาอย่างแตกตื่น

หลายคนเต็มไปด้วยบาดแผล

พวกเขาวิ่งกลับมาอย่างสิ้นหวัง ทำให้ผู้คนที่เดิมยืนอยู่ในจัตุรัสนั้นมองดูด้วยความวิตก

กู่ฉิงซานมองไปยังทางเดินลับ

เขาเห็นศีรษะและแขนขาที่หลุดออกจากร่างเจ็ดถึงแปดส่วนถูกโยนออกมาจากทางเดิน

หมอกโลหิตหนาพุ่งออกมาจากความมืด

ฟ่อ!

ฟ่อ!

ฟ่อ!

มีเสียงแปลกประหลาดดังขึ้น

พื้นสั่นสะเทือนเล็กน้อย

กู่ฉิงซานปกป้องซูเสวี่ยเอ้อร์ขณะถอยไปที่มุมหนึ่งขณะอาศัยจังหวะนี้ชำเลืองมองกลุ่มคนสวมหน้ากาก

เขาเห็นว่าคนเหล่านั้นล้วนระแวดระวังขณะตั้งกระบวนทัพต่อสู้ เตรียมพร้อมเปิดฉากโจมตีทรงพลังทุกเมื่อ

กี้…

ถ้าแบบนี้ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสังหารทั้งหมดได้ในคราวเดียว

กู่ฉิงซานขมวดคิ้ว

ตอนนี้สถานการณ์ซับซ้อน ไม่ชัดเจนว่าสิ่งใดกำลังมาจากทางเดินลับ

เพื่อความปลอดภัยของซูเสวี่ยเอ้อร์ เขาปล่อยวางจิตสังหารในใจลงชั่วคราว

ตอนนี้ แถวตัวอักษรขนาดเล็กปรากฏขึ้นบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม

“เวลาหมดแล้ว หินแห่งสรรพสิ่งจะเริ่มทำการรีเซต”

“ความสามารถของท่าน: เงาพิฆาต หายไปแล้ว”

“ท่านได้รับพลังแห่งความว่างเปล่าใหม่ ฟาดฟันความว่างเปล่า”

“ฟาดฟันความว่างเปล่า: พลังฟาดฟันที่หลอมรวมจากกฎแห่งความว่างเปล่าช่างคมปลาบนัก”

“ความสามารถนี้ไม่สามารถใช้งานเลยได้ ต้องมีการติดกับอาวุธก่อน”

“เปิดใช้งานวิชา: ความว่างเปล่าจะคงอยู่ตลอดไป”

กู่ฉิงซานอ่านจบในรอบเดียว

“ฉิงซาน ตอนนี้พวกเราควรทำยังไงดี” ซูเสวี่ยเอ้อร์ถามอย่างวิตก

ตอนกู่ฉิงซานไม่อยู่ นางตัดสินใจทุกสิ่งด้วยตัวเองได้ แต่ทันทีที่กู่ฉิงซานปรากฏตัวขึ้น นางกลับทำไม่ได้

กู่ฉิงซานมองไปตรงทางเดินลับ

สายลมรุนแรงพัดพา แฝงด้วยความโหดเหี้ยมจากบรรพกาล

ถึงแม้จะเสียพลังวิญญาณไปแล้ว แต่สัญชาตญาณของกู่ฉิงซานที่ฝึกฝนมาจากการต่อสู้แห่งความเป็นความตายมาชั่วชีวิตยังคงอยู่

“ไม่ดีแล้ว”

เขาพึมพำก่อนมัดดาบเสียงคลื่นไว้กับเอวอย่างรวดเร็ว มือข้างหนึ่งถือดาบพิภพ อีกข้างคว้าซูเสวี่ยเอ้อร์ เท้ายังคงก้าวถอย

คนอื่นยังคงรอ แต่เขาพาซูเสวี่ยเอ้อร์ถอยมาอยู่หลังจัตุรัสแล้ว

ตอนนี้ หลายคนที่แตกตื่นเริ่มวิ่งมาข้างหลังเช่นกัน

“สัตว์ประหลาดกำลังมาหนี!”

“หนี!”

พวกเขาตะโกนอย่างบ้าคลั่ง

ดวงตาของซูเสวี่ยเอ้อร์ขยับ กู่ฉิงซานกระซิบว่า “ข้างหลัง”

ซูเสวี่ยเอ้อร์มาซ่อนอยู่ข้างหลังเขาทันที

หลายคนพุ่งออกมาขณะกำลังจะวิ่งไปตามทาง

กู่ฉิงซานพลันทักทายด้วยดาบ

คนเหล่านั้นเพิ่งเผยสีหน้ามุ่งร้ายออกมาไม่ทันไร แต่ดาบยาวเคลื่อนผ่านร่างพวกเขาไปแล้ว

หนึ่งดาบ

ยังเป็นหนึ่งดาบ

บัดซบ!

บัดซบ!

อาวุธที่พวกเขาเพิ่งชักออกมาตกลงกับพื้น

แน่นอนว่าพวกเขาอยากขยับ แต่ชีวิตกลับดับสูญก่อนจะทันได้ทำอะไร

ใครบางคนตรงหน้าเขากล่าวอย่างเกรี้ยวกราดว่า “บังอาจนัก เจ้ากล้าฆ่าคนของพวกข้างั้นหรือ!”

กู่ฉิงซานสลัดโลหิตบนดาบยาวออก มองอีกฝ่ายแล้วกระซิบว่า “ฆ่าแล้วจะทำไม ถ้าอยากตายนักก็เข้ามา”

คลื่นจิตสังหารที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายบ้าคลั่งพุ่งออกจากร่างของเขา

เขาฝึกฝนวิชาดาบพื้นฐานของราชวงศ์อสุราได้สำเร็จ ประสบการณ์การต่อสู้ด้วยดาบของราชาอสุรา ทักษะวิชาดาบของราชาเทพอสุรา วิชาดาบเทพ เคลื่อนตะวันบดบังจันทรา ตอนนี้กู่ฉิงซานมีกลิ่นอายการต่อสู้ของอสุราเพิ่มมากขึ้น

วิชาดาบของเขาเหนือกว่าระดับหนึ่งดาบแล้ว มันกำลังก้าวเข้าสู่วิถีระดับดาบเทพ

ชายที่เปิดปากต้องหุบลงอีกครั้ง

ทุกคนหวาดกลัวและตกตะลึง

คนคนนี้น่าหวาดกลัวจริง ๆ เขาฟันผู้คนมากมายด้วยดาบเดียว วิชาดาบของเขาเหนือกว่าขีดจำกัดของพละกำลัง

ในขณะที่ทุกคนมีเพียงทักษะเดียว คนคนนี้กลับไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะใด ๆ ในการเป็นเครื่องจักรสังหาร

เทียบกับวิชาดาบแล้ว สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือความเข้าใจในทุกสิ่งของเขา

คนเหล่านั้นอยากหนีเอาตัวรอดอย่างเห็นได้ชัด เขาสามารถตัดสินความตั้งใจของอีกฝ่ายได้อย่างแจ่มแจ้ง นอกจากนี้ยังพบช่วงเวลาก่อนที่อีกฝ่ายจะทันได้ลงมือก่อนจะชิงลงมือสังหารเสียก่อน

กู่ฉิงซานปกป้องซูเสวี่ยเอ้อร์ขณะยังคงถอย

ตอนนี้ เสียงแหบพร่ามาจากทางเดินลับขณะกล่าวด้วยภาษาเทพโบราณว่า

“ที่ที่เต็มไปด้วยธุลีไม่อาจขัดขืนได้ ผู้บุกรุกมีแต่ต้องตายเท่านั้น”

ร่างขนาดใหญ่เคลื่อนออกมาจากทางเดินลับ

ร่างเป็นงู ศีรษะเป็นมนุษย์ ทั่วร่างมีเกล็ด มีกรงเล็บสี่ข้าง เปลวเพลิงพวยพุ่งจากร่างกายไม่มีสิ้นสุด

เป็นสัตว์ประหลาดที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน!

กู่ฉิงซานรู้สึกไม่สบายใจมากยิ่งขึ้น

“ความว่างเปล่าจะคงอยู่ตลอดไป”

เขากระซิบ

ระลอกคลื่นที่มองไม่เห็นพลันปรากฏขึ้นในความว่างเปล่า

ระลอกคลื่นเหล่านี้เคลื่อนลงมาก่อนเกาะติดพื้นผิวดาบพิภพอย่างเงียบงัน

ฟาดฟันความว่างเปล่าทำงาน!

วินาทีต่อมา ใบหน้าของสัตว์ประหลาดเผยความโหดเหี้ยมขณะท่องคาถา

“การเดินทางคือความลึกลับ”

ทันทีที่คาถาถูกร่าย มีเสียงครืนดังมาจากด้านหลังของทุกค

ทุกคนอดที่จะหันไปมองไม่ได้

พวกเขาเห็นว่าเส้นทางลับตอนเข้ามาได้หายไปแล้ว

กำแพงราบเรียบ

นอกจากจัตุรัส ไม่มีทางให้ถอยกลับแล้ว

สัตว์ประหลาดยิ้มกว้างขณะแลบลิ้นยาวออกมาเลียริมฝีปาก

“เจ้าพวกอาหารหน้าโง่ ในเมื่อไม่มีที่ไปแล้ว เช่นนั้นก็ตายอยู่ที่นี่เสียเถอะ”

ตูม!

เปลวเพลิงทะยานออกจากมันก่อนพุ่งเข้าหาทุกคนทันที

………………………………….