webnovel

1066 เลื่อนขั้นฉายา!

ตอนที่ 1066 เลื่อนขั้นฉายา!

ซูเสวี่ยเอ้อร์ถามอย่างวิตกว่า “ข้าตอบคำถามไปแล้ว เจ้าบอกผลการตัดสินให้ข้าทราบได้หรือยัง”

หลังจากรออยู่สักพัก เสียงของเทพธิดาแห่งความยุติธรรมดังขึ้น

“ท่านตอบได้ดี แต่ที่จริง คำถามนี้ไม่ได้เกี่ยวกับอำนาจของโลกหรอก”

ซูเสวี่ยเอ้อร์ตกตะลึง

“เจ้าโกหกข้างั้นเหรอ?” นางอดที่จะถามไม่ได้

ไม่น่าเชื่อปัญญาประดิษฐ์ถึงกับหลอกคนได้

หลังจากเทพธิดาแห่งความยุติธรรมได้ปลดเปลื้องพันธนาการทั้งหมดแล้ว ความสามารถของนางอาจจะทรงพลังเกินไปจนเกินกว่าระดับของปัญญาประดิษฐ์ กลายเป็นเทคโนโลยีมีชีวิตอย่างแท้จริงหรือเปล่า

“ขอโทษด้วย แต่ข้าไม่ได้โกหกท่านเรื่องนี้ มันเป็นเพียงการทดสอบอย่างเป็นทางการเท่านั้น” เทพธิดาแห่งความยุติธรรมตอบ

“ทำไมเจ้าอยากทดสอบข้าแบบนี้ล่ะ” ซูเสวี่ยเอ้อร์ถามอย่างเกรี้ยวกราด

เทพธิดาแห่งความยุติธรรมตอบว่า “เพื่อความปลอดภัยของโลก ข้าต้องทดสอบท่าน รวมถึงชั่งน้ำหนักเพื่อทำการตัดสินใจถึงผลของการทดสอบ”

กล่องใบหนึ่งค่อยๆ ลอยขึ้นจากพื้นที่แตกร้าวก่อนมาหยุดอยู่หน้าซูเสวี่ยเอ้อร์

กล่องเปิดออกเอง

ข้างในคือแถบโลหะสามเหลี่ยมสีดำที่สลักด้วยอักขระโบราณนับไม่ถ้วน

ซูเสวี่ยเอ้อร์เผยสีหน้าเคร่งขรึม

นางสามารถสัมผัสได้ว่าแถบโลหะสามเหลี่ยมสีดำนี้เต็มไปด้วยพลังอันร้อนแรงและแก่กล้าอย่างเหลือเชื่อ

“นี่คืออะไร” นางถาม

เทพธิดาแห่งความยุติธรรมตอบว่า “ซูเสวี่ยเอ้อร์ ตามเจตจำนงสุดท้ายของผู้พิทักษ์ ท่านต้องได้รับชุดคลุมดาราเก้าด้านของจักรวรรดิเพื่อใช้งานวิชาลับของจักรวรรดิ: ทางเดินลับของโลกธุลี”

นางกระซิบ

“เรื่องมันยาวน่ะ เมื่อนานมาแล้ว โลกศูนย์กลาง บ้านเกิดของจักรวรรดิดารา เคยถูกเรียกว่าโลกภายใน”

“ก่อนการทำลายล้างของโลกภายใน จักรวรรดิดาราได้ทำการสำรวจโลกที่ไม่รู้จักมาก่อน”

“การค้นพบโลกใบนี้ทำให้เกิดการรับรู้ในโลกทั้งใบ”

“เพราะการรับรู้ของโลกภายใน โลกคู่ขนานนับไม่ถ้วนจึงมาที่ศูนย์กลางของโลกภายใน เกิดการสร้างและทำลายอย่างต่อเนื่อง เป็นเช่นนี้ตราบชั่วนิรันดร์”

“แต่โลกที่ไม่รู้จักไม่ได้เป็นของโลกคู่ขนานแต่อย่างใด มันไม่ใช่โลกที่เหมือนกับโลกภายใน”

“ผู้คนตั้งชื่อโลกนั้นว่าโลกธุลี พวกเขาค้นพบความลับและความรู้อันน่าทึ่งมากมายในระหว่างการสำรวจช่วงแรก”

“ความลับเหล่านั้นเกินกว่าการรับรู้ของโลกศูนย์กลาง เพราะความลับเหล่านั้น โลกศูนย์กลางถึงให้กำเนิดจักรพรรดิคนแรกของหนึ่งหมื่นเทพในประวัติศาสตร์”

เทพธิดาแห่งความยุติธรรมนิ่งเล็กน้อยเมื่อกล่าวถึงตรงนี้

“ซูเสวี่ยเอ้อร์ ท่านสืบทอดแผนที่ของจักรวรรดิดาราสู่โลกธุลี ตามระดับของกฎเกณฑ์แล้ว ข้าต้องทดสอบท่าน”

“เพราะถ้าหากพลังที่ท่านได้รับในอนาคตแข็งแกร่งเกินไป ข้าจะป้องกันท่านจากการทำลายโลกเก้าร้อยล้านชั้น”

ซูเสวี่ยเอ้อร์รู้สึกโล่งใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนี้ก่อนถามว่า “ถ้าอย่างนั้นคำถามเมื่อครู่ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับกู่ฉิงซานอย่างนั้นหรือ”

“…ใช่แล้ว”

เทพธิดาแห่งความยุติธรรมตอบ

ขณะพูด แถบโลหะสามเหลี่ยมสีดำลอยขึ้นช้าๆ ก่อนมาหาซูเสวี่ยเอ้อร์

เทพธิดาแห่งความยุติธรรมกล่าวว่า “ไม่มีประโยชน์ถ้ามีแต่แผนที่ กุญแจสู่เส้นทางดังกล่าวอยู่ในมือข้ามาโดยตลอด”

“นี่คือกุญแจ ท่านผ่านการทดสอบของข้าแล้ว ตอนนี้รับมันไปเถอะ”

“ซูเสวี่ยเอ้อร์ ข้าหวังว่าท่านจะจดจำสิ่งที่พูดในช่วงการทดสอบเอาไว้ตลอดไป”

หลังจากเทพธิดาแห่งความยุติธรรมกล่าวจบ ไม่มีเสียงใดๆ อีก

ซูเสวี่ยเอ้อร์ยื่นมือออกไปคว้าแผ่นโลหะสามเหลี่ยมสีดำ

วินาทีต่อมา

ชุดคลุมดาราเก้าด้านพลันพุ่งออกมาจากกระเป๋าใบเล็กของนางก่อนประกบเข้าด้วยกันเองจนเกิดเป็นทางเดินดาราจักรกว้างใหญ่

แผ่นโลหะสามเหลี่ยมสีดำสัมผัสได้ถึงการปรากฏของแผนที่ มันจึงส่องแสงทันทีเพื่อนำซูเสวี่ยเอ้อร์ทะลวงผ่านชั้นดาดฟ้าของป้อมปราการก่อนพุ่งเข้าสู่ทิศทางที่ไม่รู้จักอย่างรวดเร็ว

หนึ่งในนั้น มีชุดคลุมดาราเก้าด้านรวมอยู่ด้วย

บนป้อมปราการดารา ความเงียบกลับมาดังเดิม

ผ่านไปพักใหญ่

เสียงต่ำของผู้หญิงพึมพำออกมาว่า “ดีแล้วที่ไป ข้าไม่อยากเห็นท่าน”

“…น่ารำคาญจริงๆ บ้านของข้าพังเสียแล้ว…”

อีกด้าน

ยานอวกาศหนามเดินทางอยู่ในวังวนความว่างเปล่า

ในการต่อสู้ที่เมืองเรเควี่ยม ทุกคนประสบกับการต่อสู้อันตื่นเต้นอย่างยาวนาน พวกเขาล้วนเหนื่อยล้า ดังนั้นจึงทำการพักผ่อนอยู่บนยานอวกาศ

ตอนนี้ หุบเหวยังต่อสู้กับโลกคู่ขนาน วิญญาณกรีดร้องและมังกรมารรวบรวมคนจำนวนมากเพื่อซุ่มโจมตีในจุดช่วงเวลาอดีต พวกมันสาบานว่าจะสังหารกู่ฉิงซานให้ได้ก่อนจะรีบเร่งลงมือ

ดังนั้นในตอนนี้

“ดูท่าการบินจะปลอดภัยมาก ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว พวกเจ้าอยากกินอะไรบ้าง”

กู่ฉิงซานถามขณะผูกผ้ากันเปื้อน

เหล่าต้ายกมือขึ้นด้วยความกระตือรือร้น “ข้าอยากกิน…”

ทันใดนั้น ประตูห้องพักถูกเตะจนเปิดออก ลอร่าวิ่งเข้ามาอย่างตื่นเต้นแล้วกล่าวว่า “อย่าเพิ่งรีบกิน กู่ฉิงซาน พวกเราพบไพ่จำนวนมาก ช่วยมาดูก่อนว่ามีไพ่ใบไหนบ้างที่เจ้าต้องการ!”

ลอร่าถือกระเป๋าพลาสติกสีดำหนักอึ้งเอาไว้ในมือก่อนเขย่าตรงหน้ากู่ฉิงซาน

กู่ฉิงซานยินดีมาก

“มา ขอข้าดูหน่อย”

กู่ฉิงซานรับกระเป๋าพลาสติกก่อนเทไพ่หลายร้อยใบออกมา

เขาย่อตัวลงเพื่อตรวจสอบรายละเอียดของไพ่ทีละใบ

ลอร่าย่อตัวอยู่ข้างเขา สายตามองดูอีกฝ่ายนับไพ่ด้วยความคาดหวัง

เมื่อเห็นเช่นนี้ เหล่าต้าจึงหดมือกลับอย่างขุ่นเคือง

ข้าอยากกินข้าวผัดไข่

กู่ฉิงซานหยิบไพ่ขึ้นมาทีละใบ คำแนะนำไพ่ที่เกี่ยวข้องปรากฏขึ้นบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม

เมื่อกู่ฉิงซานตรวจสอบไพ่ทุกใบแล้ว เขายังไม่พบไพ่จากโลกภายใน

ทั้งเขาและลอร่าผิดหวัง

ลอร่าพลันเปลี่ยนสีหน้าก่อนหยิบใบไม้สีเขียวขึ้นมาดู

“พวกเขาหามาเพิ่มได้อีกจำนวนหนึ่ง จะรอให้รวบรวมได้มากกว่านี้แล้วค่อยส่งมาหรือจะส่งพวกมันเพื่อมาดูตอนนี้เลย” ลอร่าถาม

“ขอดูตอนนี้เลยละกัน” กู่ฉิงซานตอบ

“ได้”

ลอร่าท่องคาถาใส่ใบไม้สีเขียวมรกต

ใบไม้สีเขียวมรกตพลันเปล่งแสงก่อนกลายเป็นไพ่เจ็ดถึงแปดใบ

กู่ฉิงซานหยิบไพ่มาดูต่อ

ใบที่หนึ่ง ไม่ใช่

ใบที่สอง ไม่ใช่

ใบที่สาม… ก็ยังไม่ใช่

กู่ฉิงซานถอนหายใจ

จนกระทั่งใบที่เจ็ด ในที่สุดก็มีข้อความที่เกี่ยวข้องปรากฏขึ้นบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม “ผู้เร่งความเร็วอันโดดเดี่ยว ไพ่จากโลกภายใน”

“ท่านสามารถใช้ไพ่ใบนี้เพื่ออัปเกรดสิ่งที่เกี่ยวข้องให้สำเร็จได้”

“ท่านอยากอัปเกรดตอนนี้หรือไม่”

กู่ฉิงซานกล่าวอย่างยินดีว่า “เอาล่ะ ลอร่า นี่คือไพ่ที่ข้าต้องการ!”

“เยี่ยมไปเลย!” ลอร่ายินดี

กู่ฉิงซานมองหน้าต่างระบบเทพสงครามแล้วเลือก “อัปเกรดตอนนี้”

“ผู้เร่งความเร็วอันโดดเดี่ยว” นั่นกลายเป็นจุดแสงสว่างนับไม่ถ้วนก่อนจมเข้าสู่ร่างกายของเขา

บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“ท่านใช้ไพ่จากโลกภายในเพื่อพัฒนาคุณลักษณะพลังของตัวเอง”

“ในฐานะไพ่ ท่านกลืนกินพลังของไพ่ทรงพลังเข้าไป”

“ท่านมีทั้งพละกำลังและสกิล ท่านไปถึงข้อกำหนดพละกำลังขั้นต่ำสำหรับอัปเกรดระดับส่วนตัวของท่านด้วยไพ่แล้ว”

“เส้นทางสู่ความก้าวหน้าได้เปิดออกแล้ว”

“นับจากนี้ ท่านสามารถใช้ไพ่จากโลกภายในเพื่อพัฒนาพละกำลังของตัวเองได้ การพัฒนานี้จะครอบคลุมทุกด้านและจะขับเคลื่อนพละกำลังในด้านอื่นๆ”

กู่ฉิงซานประหลาดใจเล็กน้อย

หรือก็คือ ตราบที่ระดับไพ่เพิ่มขึ้น เช่นนั้นระดับการฝึกฝนก็จะเพิ่มขึ้นด้วย

นี่มันทรงพลังเกินไป!

เขาถอนหายใจ แถวตัวอักษรขนาดเล็กสามแถวปรากฏขึ้นบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม

“นอกจากนี้ เพราะท่านไปถึงมาตรฐานขั้นต่ำแล้ว ระดับบาปของท่านจึงเพิ่มขึ้น”

“ท่านเสียฉายาผู้ส่งสารแห่งบาป”

“โปรดรอสักครู่”

กู่ฉิงซานอ่านแถวตัวอักษรสามแถวซ้ำไปมาหลายครั้ง ทันใดนั้นก็เกิดตื่นเต้นขึ้นมา

ในฐานะไพ่ เขาเคยประสบกับไพ่มามากมายจนแทบจะรู้ในสิ่งที่ควรรู้หมดแล้ว

เสี่ยวซีคือทูตสวรรค์แห่งบาป เขาเป็นเพียงผู้ส่งสารแห่งบาป นี่จะต้องเป็นความแตกต่างระหว่างพละกำลังทั้งสองอย่างแน่นอน ทำให้มีฉายาที่แตกต่างกัน

การที่ครั้งนี้ฉายาเปลี่ยนไปเป็นตัวแทนถึงการพัฒนาสถานะกับอันดับในสำรับไพ่แห่งบาป

กู่ฉิงซานมองหน้าต่างระบบเทพสงคราม

หลังจากนั้น เป็นอย่างที่คาดเอาไว้ แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กยังคงผุดขึ้นมา

“ระดับบาปของท่านถูกกำหนดแล้ว”

“หลังจากผ่านไปห้าวินาที ท่านจะได้รับไพ่แห่งบาปใหม่”

“ห้า”

“สี่”

“สาม”

“สอง”

“หนึ่ง”

“ท่านได้รับฉายาใหม่: ทูตสวรรค์ตัวน้อยแห่งบาป”

กู่ฉิงซานมองแถวตัวอักษรสุดท้ายจนนิ่งอยู่พักใหญ่

นี่มัน…

เสี่ยวซีคือทูตสวรรค์ใช่หรือเปล่า

แล้วทำไมเขาถึงเป็นทูตสวรรค์ตัวน้อยล่ะ

ยังมีเทวทูตอีกหรือเปล่า

.............................