1064 เข้าร่วมสงคราม
ตอนที่ 1064 เข้าร่วมสงคราม
แผ่นเสียงกลายเป็นไพ่ก่อนกลับมาอยู่ในมือของกู่ฉิงซาน
ไพ่หายไป
นี่คือไพ่ของเสี่ยวซี มีเพียงในโหมดเงาคู่เท่านั้นที่จะถูกเลือกโดยเสี่ยวซีได้
หลังจากกู่ฉิงซานใช้ไปแล้วหนึ่งครั้ง มันจะกลับไปหาเสี่ยวซี
เหล่าต้าหรี่ตาแล้วกล่าวว่า “ข้าปฏิบัติกับมันในฐานะสุนัข ใครจะคิดล่ะว่ามันคือหมาป่า”
เย่เฟยหลีกล่าวว่า “ตอนนี้พวกเราควรทำยังไงดี พวกเราเพิ่งจะวางแผนกลับไปที่จุดเวลานั้น ใครจะนึกล่ะว่าอีกฝ่ายเตรียมซุ่มโจมตีพวกเราที่นั่นเอาไว้”
กู่ฉิงซานก้มศีรษะโดยไม่กล่าวอะไร
จางหยิงห่าวกล่าวว่า “ความจริง นี่คือข่าวดีเลยนะ ดีกว่าพวกเราวิ่งเข้าไปดดยที่ไม่รู้อะไร”
ลอร่ามองกู่ฉิงซานด้วยความกังวล
นางเห็นเขากำลังมองความว่างเปล่า คล้ายกับกำลังครุ่นคิดบางสิ่ง
ความสนใจของกู่ฉิงซานถึงกับจดจ้องหน้าต่างระบบเทพสงคราม
“หน้าต่างระบบเทพสงคราม มีหนทางที่จะฟื้นคืนพละกำลังของเสี่ยวซีหรือเปล่า” กู่ฉิงซานถาม
แถวตัวอักษรขนาดเล็กผุดขึ้นบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม
“หากอยากช่วยนางฟื้นคืน มีเพียงสองหนทาง หนึ่งคือช่วยนางฟื้นคืนพละกำลังทันทีด้วยไพ่จากโลกภายในสิบใบ สองคือรอนางสั่งสมพละกำลังช้าๆ เป็นกระบวนการที่นาน แต่โชคดีที่ไม่เป็นอันตรายใดๆ”
หลังจากพูดจบ ค่าพลังวิญญาณที่เหลืออยู่ของกู่ฉิงซานลดลงสองร้อยแต้มอย่างเงียบงัน
กู่ฉิงซานพยักหน้าเล็กน้อย
ใช่แล้ว ไพ่จากโลกภายใน
ความก้าวหน้าของเขาก็ต้องการไพ่จากโลกภายในเหมือนกัน
เสี่ยวซีต้องการถึงสิบใบ
เขาจะไปหาไพ่จากโลกภายในมาจากไหน
ตอนนี้ ทุกคนขยับพร้อมกัน
คลื่นแปลกประหลาดจากคาถากำลังกวาดไปทั่วโลก
“นี่คือลมหายใจของวิญญาณกรีดร้อง!” ลอร่ากล่าวด้วยความประหลาดใจ
เหล่าต้ากล่าวอย่างสงบว่า “ไม่เป็นไร นี่คือวิชาปกคลุมโลกเก้าร้อยล้านชั้น คาดว่าเป็นวิชาบางอย่างที่อยู่ในระดับเทพ แต่มันไม่ใช่วิชาสังหาร”
วินาทีต่อมา
เสียงของวิญญาณกรีดร้องดังขึ้น
เสียงของมันดังก้องทุกหนแห่งและทุกมุมโลกเก้าร้อยล้านชั้น
“ความโกลาหลทั้งหลาย ข้าคือผู้ก่อตั้งยุค คือผู้ถือคทาแห่งความโกลาหล คือเทพบิดาของพวกเจ้า”
“ข้าต้องการพละกำลังของพวกเจ้า!”
“จงมา มามีส่วนร่วมเพื่อการเติบโตของยุคแห่งความโกลาหล พวกเจ้าจะได้รับผลประโยชน์มากมายมหาศาล!”
“ความโกลาหลที่แข็งแกร่งที่สุดสามหมื่นคน พวกเจ้าได้ยินคำเรียกขานของข้าแล้ว ต้องตอบรับด้วยการเคลื่อนย้ายพริบตาทันทีเพื่อมาหาข้า”
“มหาอำนาจแห่งความโกลาหลเอ๋ย จงมา จงมา จงมาเป็นสักขีพยานการเริ่มต้นของยุคร่วมกันกับข้า”
“ความโกลาหลกำลังมาแล้ว เหลืออีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้น”
“ทุกคนที่เข้าร่วมสงครามจะได้รับรางวัลก้อนโตจากความโกลาหล”
“การต่อสู้ครั้งสุดท้ายกำลังมาแล้ว!”
“ในฐานะเทพของพวกเจ้า ข้าจะรอพวกเจ้าอยู่ที่นี่”
เสียงของวิญญาณกรีดร้องหายไปอย่างช้าๆ
ในเวลาเดียวกัน วังวนจำนวนมากปรากฏขึ้นรอบความว่างเปล่า
เหล่าต้าเตือนว่า “อย่าไปตรงนั้น มันคือประตูมิติที่สามารถพาไปถึงสถานที่ที่วิญญาณกรีดร้องอยู่ได้”
ทุกคนตกตะลึงสักพัก
นี่คือการลงทุนครั้งใหญ่ มันระดมพลังศักดิ์สิทธิ์เพื่อพูดกับโลกเก้าร้อยล้านชั้น จากนั้นอัญเชิญความโกลาหลทรงพลังทั้งหมดมา
เพื่อจัดการกับกู่ฉิงซาน วิญญาณกรีดร้องจึงได้เริ่มสงคราม!
เห็นได้ชัดว่ามันอัญเชิญกลุ่มคนที่ซ่อนตัวอยู่จากมหาอำนาจแห่งความโกลาหลโดยไม่เกรงกลัวว่ากู่ฉิงซานจะหาพบ
เพราะมันเชื่อว่ากู่ฉิงซานไม่รู้เรื่องที่มันพากลุ่มคนย้อนเวลากลับไปรอกู่ฉิงซาน
จางหยิงห่าวกล่าวอย่างยินดีว่า “โชคยังดีที่มีเสี่ยวซี พวกเราถึงได้รู้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง”
เย่เฟยหลีถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “พวกเราก็รู้ว่ามันเปล่าประโยชน์ มันรวบรวมคนจำนวนมาก แต่ละคนเป็นปัญหามากกว่าเจ้ากับข้า แถมพวกเรามีคนไม่มาก ดังนั้นจึงไม่มีทางรับมือได้”
กู่ฉิงซานพลันเงยหน้าขึ้นแล้วกล่าวว่า “ยังมีทางอยู่”
“ทางแบบไหนล่ะ” ทุกคนถามพร้อมกัน
“พวกเราจะระดมกำลังของทุกคนเช่นกัน ข้าไม่เชื่อว่าคนแข็งแกร่งทั้งหมดจะเต็มใจโหลดความโกลาหล ยังไงเสีย โลกเก้าร้อยล้านชั้นก็ถูกทำลายด้วยความโกลาหล พวกที่ถูกกลั่นแกล้งย่อมไม่อยู่เฉยแน่ จะต้องมีคนแข็งแกร่งมาอยู่ข้างเดียวกันอย่างแน่นอน” กู่ฉิงซานกล่าว
“แต่… ใครจะเชื่อพวกเราล่ะ” เหล่าต้าถาม
ลอร่าขัดว่า “ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ พวกเราสามารถกลับอาณาจักรหนามได้ จากที่นั่น พวกเราจะระดมคนจากทั่วโลกเก้าร้อยล้านชั้น”
นางตบอกแล้วกล่าวว่า “ความน่าเชื่อถือของพวกข้าอาณาจักรหนามยังควรค่าแก่การเชื่อใจของทุกคน”
กู่ฉิงซานกล่าวอย่างตื่นเต้นเช่นกันว่า “ใช่ ข้ามั่นใจมากว่าแบร์รี่ เสี่ยวเมียว อาจารย์ข้าและแม้กระทั่งคนแข็งแกร่งทั้งหมดของคำสาบานแห่งดาบจะเต็มใจเข้าร่วมการต่อสู้”
“ไม่มีใครสามารถแบกรับโชคชะตาของโลกเก้าร้อยล้านชั้นได้ โชคชะตานี้เป็นของทุกคนที่เต็มใจเข้าร่วมต่อสู้”
“พวกเราต้องรวบรวมคนที่มีความคิดเหมือนกันมาต่อสู้”
“ข้าจะพาทุกคนย้อนอดีตเพื่อต่อสู้กับวิญญาณกรีดร้องและมังกรมาร!”
เหล่าต้ากล่าวอย่างสงบว่า “ถ้าจะทำให้ได้แบบนั้น พวกเราก็มีปัญหาที่ต้องแก้ล่วงหน้าก่อน”
“ปัญหาอะไรหรือ” กู่ฉิงซานถาม
เหล่าต้าตอบว่า “ทูตสวรรค์แห่งบาปของพวกเราตกอยู่ในอาการสาหัส ไม่สามารถใช้พลังของสามเหรียญได้ นางไม่สามารถพาพวกเราย้อนกลับอดีตได้”
กู่ฉิงซานเรียกหน้าต่างระบบไพ่ออกมาแล้วถามอย่างแผ่วเบาว่า “หน้าต่างระบบเทพสงคราม ข้าสามารถแทนที่เสี่ยวซีได้หรือเปล่า”
หน้าต่างระบบเทพสงครามตอบว่า “ขอบคุณสำหรับพลังวิญญาณสองร้อยแต้ม ในฐานะผู้ส่งสารแห่งบาป ท่านมีคุณสมบัติที่จะทำได้”
“ท่านเพียงต้องการไพ่จากโลกภายในขั้นต่ำหนึ่งใบในการอัปเกรดเพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขขั้นต่ำในการระดมพลังดังกล่าว”
กู่ฉิงซานพยักหน้าเล็กน้อย
“ลอร่า ดูท่าพวกเรายังต้องรวบรวมไพ่อยู่ พวกเราต้องตามหาไพ่จากโลกภายใน… จะเป็นประเภทไหนก็ได้ทั้งนั้น”
ลอร่าหยิบใบไม้สีเขียวออกมาแล้วกล่าวว่า “ข้าจะขอให้พวกเขารวบรวมไพ่ในราคางามให้ เมื่อกลับไปถึงอาณาจักรหนาม พวกเราจะสามารถรวบรวมมันได้อย่างแน่นอน”
“ดี ออกเดินไปทางอาณาจักรหนามกันเถอะ!”
ยานอวกาศพลันเร่งความเร็วในวังวนความว่างเปล่าอันมืดมิดก่อนกลายเป็นเส้นตรงแล้วจากไปอย่างรวดเร็วโดยไม่เหลือร่องรอย
…
หลังจากพวกกู่ฉิงซานไปแล้ว
ในกระแสวังวนความว่างเปล่าแห่งนี้
เมืองเรเควี่ยมล่มสลาย
ที่นี่วุ่นวายไปหมด ซากปรกหักพังนับไม่ถ้วนลอยอยู่ในความว่างเปล่าอย่างเงียบงัน
เศษซากเหล่านั้นที่กลายเป็นผุยผงชิ้นเล็กชิ้นน้อยคืออาคารบ้านเรือน
ในการต่อสู้ของสองเทพ ส่วนเดียวของสิ่งปลูกสร้างที่สามารถคงสภาพเดิมไว้ได้คือตำหนัก
ตอนนี้
หอคอยลอยผ่านความมืด
นี่คือห้องสมุดของตำหนัก สถานที่ที่ราชายุคอดีตอยู่
พวกเขาซ่อนอยู่ในหนังสือฝุ่นหนาด้วยเกรงว่าจะถูกเทพแห่งชีวิตพบตัวเข้าก่อนพิธีบรมราชาภิเษกจะเริ่มขึ้น
ราชายุคอดีตจะสังหารเทพแห่งชีวิต!
พวกเขาไม่เชื่อกู่ฉิงซาน ดังนั้นพวกเขาจึงมีแผนสำรองมากมาย
อย่างไรเสีย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในฐานะที่เป็นวิญญาณทำให้พวกเขาไม่มีอะไรทำ
กู่ฉิงซานก็ไม่เชื่อใจพวกเขาเช่นกัน
กู่ฉิงซานผนึกพวกเขาไว้ที่นี่ ปล่อยให้พวกเขาพลาดทุกสิ่งที่เกิดขึ้นข้างนอก
จนกระทั่งทุกสิ่งจบแล้ว จนกระทั่งทุกคนแยกย้าย
ในห้องสมุดอันเงียบสงัด เสียงแตกร้าวแจ่มชัดพลันดังขึ้น
นาฬิกาทรายขนาดเล็กโปร่งใสที่กู่ฉิงซานวางไว้แตกสลาย
ผนึกเวลาคลายออกแล้ว!
หนังสือหนาพลันเปิดออกเอง
แสงสว่างวูบไหว
ชายวัยกลางคนปรากฏตัวขึ้นในหอคอย
เขายกมือขึ้นมองนาฬิกาข้อมือ
“ถึงเวลาแล้ว พิธีบรมราชาภิเษกจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่นาที”
“…คนนอกพวกนั้นยังไม่มา”
เขากล่าวกับตัวเอง
ทันใดนั้น ร่างของเขาขยายขึ้นจนกลายเป็นร่างวิญญาณขนาดใหญ่
ใบหน้านับร้อยปรากฏขึ้นบนร่างกายที่ขยายใหญ่
ใบหน้าเหล่านี้คือราชายุคอดีตทุกคน
ราชาคนหนึ่งกล่าวว่า “ข้างนอกเงียบเกินไป”
ราชาอีกคนกล่าวว่า “เหลวไหล เพราะมีวิชาปิดกั้นอยู่ที่กำแพงต่างหาก อีกอย่าง พิธีบรมราชาภิเษกจัดขึ้นด้านนอก มันก็ต้องเงียบเป็นธรรมดาสิ”
ราชาคนที่สามตะโกนเสียงดังว่า “ทุกคน นี่คือช่วงเวลาที่จะฟื้นคืนความรุ่งโรจน์ของพวกเรา ทุกคนต้องหยุดซ่อนตัว ทำตามแผนเดิมแล้วใช้แผนสำรองที่มีทั้งหมดเสริมด้วย”
เห็นได้ชัดว่าราชาองค์นี้มีศักดิ์สูงกว่าราชาองค์อื่น
ทันทีที่เขาพูด ทุกคนปิดปาก
ราชาเริ่มแจกจ่ายหน้าที่อย่างละเอียด
“รุ่นที่ห้า เอากับดักของเจ้าออกมา”
“รุ่นที่ยี่สิบเจ็ด เจ้าต้องออกไปคนแรก จำได้หรือเปล่า”
“รุ่นที่หกสิบเก้า เจ้ารับหน้าที่วางกับดักกับเทพแห่งชีวิต”
“รุ่นที่เก้า หน้าที่ของเจ้าสำคัญยิ่งกว่า เจ้าต้องจับตาดูคนนอกเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาทำเรื่องไม่ดี”
“รุ่นที่สิบ เจ้าฆ่าเมล็ดพันธุ์ชั่วร้ายอายุสามขวบนั่น”
…
เขาจัดสรรหลายร้อยหน้าที่อย่างรวดเร็ว จากนั้นให้กำลังใจกับราชาทุกองค์
“ฟังนะ นี่คือช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์และน่ายกย่องที่สุดที่พวกเราเคยมีมา!”
“เวลามาถึงแล้ว ร่วมแรงกันฆ่าเทพแห่งชีวิตและกลุ่มคนนอกกันเถอะ!”
“ร่วมแรงกัน! ฆ่าพวกมัน!”
ราชาทุกองค์คำราม
ร่างวิญญาณขนาดใหญ่กระแทกกับหอคอยก่อนพุ่งออกไป
จากนั้นราชาก็ได้เห็นความมืดมิดไร้ที่สิ้นสุด
ด้านนอกคือกระแสวังวนความว่างเปล่า ซากปรักหักพังของเมืองเรเควี่ยมค่อยๆ สลายไป
เหล่าราชาตกตะลึง ความหยิ่งทะนงของพวกเขาหายไปจนลืมที่จะเคลื่อนไหว
ร่างวิญญาณขนาดใหญ่ลอยอย่างเงียบงันท่ามกลางสายลมแห่งความว่างเปล่า
ทันใดนั้น เสียงอันสั่นเครือดังขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น!”
……………………….