webnovel

1005 เทพผู้ชอบธรรมแห่งสี่เสาหลัก

ตอนที่ 1005 เทพผู้ชอบธรรมแห่งสี่เสาหลัก

“เหล่าต้า เจ้าเคยเห็นสี่เทพผู้ชอบธรรมมาก่อนหรือเปล่า”

“ไม่ ข้าไม่ชอบรับมือกับเทพเท่าไหร่”

ราวกับรู้สึกถึงความไม่สบายใจบนใบหน้าของอีกฝ่าย เหล่าต้าจึงกล่าวต่อว่า “หนึ่งหมื่นปีก่อน ตอนข้าทราบว่าสี่เทพผู้ชอบธรรมมาเมืองเรเควี่ยม ข้าก็ไม่สนใจที่นี่อีกต่อไปแล้ว”

“ยังไงเสียมีหลายที่ที่ข้าต้องปกป้อง อย่างเช่นก้นหุบเหว จักรวรรดิดารา เกาะแห่งท้องนภาและอื่น ๆ อีก ข้ายุ่งเกินกว่าจะมาสนใจได้”

กู่ฉิงซานพยักหน้าอย่างเข้าใจ แต่ไม่ได้ถามว่าตัวตนของเหล่าต้าคืออะไร

ยานอวกาศเคลื่อนลงมาที่หน้าตำหนักสูงตระหง่านในหมู่เมฆอย่างช้า ๆ

นี่คือพื้นที่หลักของเมืองเรเควี่ยมและเป็นใจกลางของทั้งเมือง

ยานอวกาศถูกลอร่าเก็บไป

ทั้งสี่คนยืนอยู่หน้าตำหนัก

อารักขาจำนวนมากกำลังรออยู่ที่นั่น

ผู้หญิงสองคนในชุดคลุมงดงามทักทายพวกเขาก่อนพยักหน้าให้เหล่าต้า

“จ้าวแห่งกำเนิดพลังอันไร้ที่สิ้นสุดผู้ทรงเกียรติ โปรดพาคนของท่านมาเข้าร่วมกับพวกข้าเพื่อไปพบกับเทพวารีแห่งสี่เสาหลัก”

เทพวารี!

หัวใจของกู่ฉิงซานแทบจะกระโจนออกมา แต่เขารู้สึกว่าบางสิ่งมันไม่ถูกต้อง

หากเป็นเทพวารีจริง นางไม่มีทางที่จะไม่รู้จักตัวเองแน่

เกรงว่าทันทีที่ยานอวกาศปรากฏขึ้น นางคงออกมาตามหาด้วยตัวเองแล้ว

แสดงว่านี่คือเทพวารีแห่งสี่เสาหลักตัวจริงหรือ

เหล่าต้าตกตะลึงก่อนถามว่า “ทำไมกัน เทพอยากพบพวกข้าด้วยตัวเองงั้นหรือ”

“ใช่” ผู้หญิงตอบด้วยรอยยิ้ม “ยังไงเสีย ตั้งแต่ยุคโบราณ ไม่มีคนนอกเข้าสู่โลกของพวกข้า วันนี้ถถือเป็นครั้งแรก เพราะงั้นจึงดึงดูดความสนใจของเทพ”

เหล่าต้าพยักหน้าเล็กน้อย

นี่นับว่ามีเหตุผลเช่นกัน

เขากำลังจะขยับ แต่จิตเทพของกู่ฉิงซานทำให้ได้ยินบางอย่าง

เหล่าต้าหยุดก่อนถามด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าสงสัยจริงว่าเทพผู้ชอบธรรมอีกสามองค์จะมาหรือเปล่า”

สองสาวก้มศีรษะอีกครั้งก่อนกล่าวว่า “นอกเหนือจากเทพวารี เทพอีกสามองค์ไม่ได้ประกาศการตัดสินใจให้ทราบ พวกข้าไม่กล้าคาดเดาเกี่ยวกับเทพ”

ดูจากสีหน้าจริงใจและหวาดกลัว พวกนางคงไม่แม้แต่จะกล้าพูดอีก

เหล่าต้าไม่สะดวกที่จะถามต่อ เขาจึงกล่าวว่า “ช่วยนำทางที”

“ได้”

สองสาวนำกลุ่มคนเข้าสู่ตำหนัก

พวกเขาข้ามทางเดินก่อนขึ้นบันไดสู่โถงหลักของตำหนัก

ตัวตนแตกต่างกันเกือบเก้าร้อยคนรวมตัวอยู่ที่นั่นแล้ว

จิตเทพของกู่ฉิงซานถูกปล่อยออกไปเพื่อตรวจสอบทีละคน

คนที่นั่งอยู่ฝั่งซ้ายไกลออกไปคือมกุฎราชกุมารที่ดูอ่อนโยนและเหมือนจะเป็นเจ้าของตำหนักหลังนี้

แต่ไม่มีใครอยู่รอบข้าง มีเพียงเขาที่อยู่ฝั่งซ้ายตามลำพัง

ทางฝั่งขวาคือบุคคลทรงพลัง คนเหล่านี้แข็งแกร่งมาก กู่ฉิงซานถึงขั้นเห็นแม่ทัพที่เคยสู้กันก่อนหน้านี้รวมอยู่ด้วย

เมื่อเข้าใกล้ตรงกลางมาอีกหน่อย มีชายชราผมสีเทาสิบสองคนอยู่ตรงนั้น

นี่อาจจะเป็นกลุ่มผู้อาวุโส

เทียบกับแม่ทัพเหล่านั้น ความผันผวนพลังวิญญาณบนร่างดูตกต่ำและคลุมเครือมากกว่า

แต่ไม่ว่าพละกำลัง อำนาจหรือสถานะในเมืองเรเควี่ยมจะเป็นของจริงหรือไม่ แม่ทัพก็ไม่อาจเทียบกับพวกเขาได้

ใจกลางของคนเหล่านี้ มีบัลลังก์ลอยอยู่ในอากาศธาตุ

บนบัลลังก์ ผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่โดยมีผ้าคลุมหน้าเอาไว้ ในมือถือหนังสือสีดำ

เพราะความผันผวนแปลกประหลาดของผ้าคลุมหน้านั่น ทำให้กู่ฉิงซานมองไม่เห็นหน้าตาของนาง

แต่ต่อให้ถูกผ้าคลุมหน้าปิดบังเอาไว้ก็ยังมีจุดเด่นที่ทุกคนสามารถมองเห็นได้อยู่

มีเปลวเพลิงสีน้ำเงินลุกโชนอยู่ใจกลางคิ้วของนาง

ไม่เหมือนกับเผ่าพันธุ์เทพเหล่านั้นที่แสร้งทำตัวเป็นเทพ กู่ฉิงซานสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงความกว้างใหญ่สุดประมาณของพลังวิญญาณที่นางมี

ตอนนี้ กู่ฉิงซานรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

นางไม่ใช่เทพวารีจากระบบสงครามขนาดใหญ่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่กู่ฉิงซานเคยเห็นในยุคโบราณอีกแล้ว

ถึงแม้จะมองไม่เห็นหน้าตาชัดเจน แต่ดูจากสถานการณ์ที่ถูกห้อมล้อมและคุ้มกันโดยกลุ่มคนมากมายแล้ว นางคือเทพวารีแห่งสี่เสาหลักจริง

หนังสือสีดำในมือของนางคือ “หนังสือแห่งท้องทะเล” อันเลื่องชื่อ ตามตำนานโบราณและบันทึกประวัติศาสตร์ หนังสือเล่มนี้สามารถบันทึกความรู้ทั้งหมดของโลกทุกใบเอาไว้ได้

พวกกู่ฉิงซานยืนนิ่งอยู่ในโถง

เทพวารีแห่งสี่เสาหลักสะบัดมือก่อนปล่อยแสงสีน้ำเงินเข้มออกไป

แสงสาดส่องลงมา ปกคลุมพวกกู่ฉิงซานเอาไว้

เสียงอันแผ่วเบาของเทพวารีดังขึ้น

“อัครสาวกจากแดนไกลและแขกที่เจ้าพามา ตลอดทางที่มานี้ เจ้าคงลำบากไม่น้อย”

เหล่าต้าโน้มตัวเล็กน้อยก่อนกล่าวว่า “ข้าทำตามคำสาบานโบราณเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”

เทพวารียิ้ม ดวงตาจับจ้องเย่เฟยหลีและจางหยิงห่าว ท้ายสุดมาจดจ้องอยู่ที่กู่ฉิงซานและลอร่าที่อยู่ด้านหน้า

“มนุษย์เพศชายเอ๋ย บอกข้าได้หรือไม่ว่าตัวตนใดที่ปกป้องตัวตนของเจ้าเอาไว้”

กู่ฉิงซานโน้มตัวเล็กน้อยเหมือนกับเหล่าต้า “ขอโทษด้วย ข้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย”

เทพวารีมองไปทางผู้อาวุโส

ในบรรดาผู้อาวุโส มีผู้อาวุโสคนหนึ่งกล่าวด้วยความเคารพว่า “ท่านเทพที่เคารพ ข้าสามารถสัมผัสได้ว่าเขามีตัวตนยิ่งใหญ่บางอย่างคอยคุ้มกันอยู่ แต่ข้าไม่รู้ว่าเป็นใคร”

“ดูท่านี่จะยังเป็นความลับอยู่สินะ”

เทพวารีกล่าวแต่ไม่สืบสาวเรื่องนี้ต่อ ดวงตาของนางกลับมาจับจ้องลอร่าอีกครั้ง

“มนุษย์เพศชายเอ๋ย เด็กผู้หญิงที่อยู่ข้างเจ้าคือน้องสาวอย่างนั้นหรือ” เทพวารีถามอีกครั้ง

“ใช่ นางคือน้องสาวของข้า” กู่ฉิงซานตอบ

“แต่ทำไมข้าถึงเห็นว่าพวกเจ้าไม่ได้มาจากเผ่าพันธุ์เดียวกันล่ะ” เทพวารีถามอีก

กู่ฉิงซานนิ่ง

ใช่แล้ว เขาคือเผ่าพันธุ์มนุษย์เพศชาย แต่เผ่าพันธุ์ของลอร่าคือวิหคหนาม

ต่อหน้าสิ่งมีชีวิตทรงพลังเหล่านั้น ประเภทของเผ่าพันธุ์สามารถแยกแยะได้เพียงแค่ปรายตามอง

เทพวารีถามตรงประเด็นขนาดนี้ ไม่เท่ากับว่าก่อนหน้านี้กู่ฉิงซานโกหกหรอกหรือ

โกหกต่อหน้าเทพเช่นนี้ จุดจบจะเป็นเช่นไร…

ทั้งโถงเงียบสนิท

บรรยากาศคล้ายกับกำลังเปลี่ยนไป

ลอร่าวิตกจนอดที่จะชำเลืองมองกู่ฉิงซานไม่ได้

นางไม่เห็นสีหน้าของกู่ฉิงซานเลย

ผ่านไปหนึ่งอึดใจ

กู่ฉิงซานจึงตอบ

เขาก้มศีรษะแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเขินอายว่า “คาดไม่ถึง ท่านจะพบเรื่องนี้เข้า ความจริง นี่เป็นความลับเหนือความลับ แต่เพราะท่านถาม ข้าจึงต้องบอกความลับนี้ด้วยความจริงใจให้มากที่สุด”

ทุกคนมองเขาขณะกลั้นหายใจ

กู่ฉิงซานกระแอมลำคอแล้วกล่าวว่า “น้องสาวกับข้าเป็นพี่น้องที่แยกจากกันมาหลายปี”

รอยยิ้มบนใบหน้าของเทพวารีแข็งทื่อ

พวกผู้อาวุโสประหลาดใจเล็กน้อย

เย่เฟยหลีอดที่จะมองตามไม่ได้

เอาจริงหรือ

เขาครุ่นคิดเงียบๆ

สีหน้าของจางหยิงห่าวยังคงไม่เปลี่ยน

ตั้งแต่เข้ามาที่นี่ เขาก็หยิบแว่นกันแดดออกมาสวม ตอนนี้กำลังลอบมองทุกคนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

สิ่งที่กู่ฉิงซานพูดไม่มีผลกับเขาแม้แต่นิดเดียว

แต่ลอร่าต่างออกไป

หลังจากได้ยินคำพูดของกู่ฉิงซาน ดวงตานางเบิกกว้าง ปากขนาดเล็กอ้าออกเล็กน้อย

แบบนี้ก็ได้หรือ

หมอนี่โกหกได้หน้าไม่อายจริงๆ

ทว่า ในฐานะราชินีหนาม ลอร่าสามารถคิดได้อย่างถี่ถ้วนจนรู้ว่ากู่ฉิงซานไม่มีทางทำอย่างไร้เป้าหมายแน่นอน

เขาระแวงอะไรอยู่

หัวใจของลอร่าค่อยๆ ลอยขึ้น

เทพวารีหยุดมองคนเหล่านั้น หันไปถามผู้อาวุโสว่า “นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เมืองเรเควี่ยมมีเลือดบริสุทธิ์มาเข้าร่วม โปรดหารือแล้วดูว่าจะเตรียมการกันยังไง”

“ขอรับ”

ผู้อาวุโสตอบรับก่อนเริ่มสนทนาเกี่ยวกับตำแหน่งของคนกลุ่มนั้น

ตรงข้ามพวกเขา พวกกู่ฉิงซานรอผลลัพธ์เงียบๆ

เหล่าต้าอาศัยจังหวะนี้ปล่อยพลังจิตเพื่อสื่อสารกับกู่ฉิงซานเงียบๆ

“เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่”

กู่ฉิงซานตอบว่า “มีบางอย่างผิดปกติ เจ้ากับข้าต้องระวังตัวไว้”

“เกิดอะไรขึ้น” เหล่าต้าอดที่จะถามไม่ได้

“เทพวารีองค์นี้มาถึงก็สอบถามข้าละเอียดยิบ แถมยังทำตัวเป็นปรปักษ์อีก”

“…เพราะนางถามแบบนั้น เจ้าก็เลยคิดว่านางคิดไม่ดีงั้นหรือ”

“นั่นเป็นเรื่องรอง สิ่งสำคัญที่สุดคือตอนที่ข้าขอให้เจ้าถามพนักงานหญิงต้อนรับทั้งสองเมื่อครู่นี้ต่างหาก ผลที่ได้ คำพูดของพวกนางดูตื่นกลัวชอบกล”

เหล่าต้าคิดอยู่สักพักจนอดที่จะกล่าวออกมาไม่ได้ว่า “พวกนางพูดมาว่า นอกเหนือจากเทพวารี เทพอีกสามองค์ไม่ได้ประกาศการตัดสินใจให้ทราบ พวกข้าไม่กล้าคาดเดาเกี่ยวกับเทพ”

“ถูกต้อง”

“เรื่องนี้มีปัญหาตรงไหนหรือ”

“มีสิ สิ่งที่พวกนางพูดแสดงให้เห็นว่าเทพผู้ชอบธรรมอีกสามองค์ล้วนอยู่ที่นี่ แต่ข้ารู้ว่าความจริงมันไม่ใช่แบบนั้น”

กู่ฉิงซานกล่าวต่อว่า “และเจ้าไม่คิดว่าเทพวารีให้ความสนใจลอร่ามากเกินไปหน่อยหรือ”

“…เจ้าอาจจะแค่เป็นห่วงลอร่ามากเกินไปหรือเปล่า”

“ไม่ อาจจะเพราะเจ้าไม่เคยเห็นเทพผู้ชอบธรรมแห่งสี่เสาหลัก แต่ข้ารู้เลยว่าเทพผู้ชอบธรรมแห่งสี่เสาหลักทรงพลังมากแค่ไหน ในฐานะเทพผู้ชอบธรรมแห่งสี่เสาหลัก วิธีตรวจจับของนางดูด้อยค่าเกินไป”

“เจ้ากำลังจะบอกว่านาง”

“ใช่ นางไม่ใช่เทพผู้ชอบธรรมแห่งสี่เสาหลัก”

กู่ฉิงซานตอบ

จิตเทพของเขากวาดผ่านเทพหรือแม้กระทั่งเทพวารีที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

จี้น้ำเต้าหยกเหวยจุนลอยอยู่ในอากาศอย่างเงียบงัน

………………………………….