webnovel

0981 นักปราชญ์แห่งความรัก เย่เฟยหลี

ตอนที่ 981 นักปราชญ์แห่งความรัก เย่เฟยหลี

ราชินีหนาม

ห้องพัก

“ออกมา”

“ไม่ออก!”

“ออกมา ข้าจะไม่พูดซ้ำแล้วนะ”

“หึ ข้าเห็นความคิดที่แท้จริงของเจ้าจนหมดเปลือกแล้ว เจ้าคงจะตีก้นข้าอีกล่ะสิ ข้าไม่โดนหลอกหรอกนะ”

“ลอร่า เจ้าทำแบบนี้เท่ากับลากทั้งอาณาจักรหนามเข้าสู่สงครามนะ ข้าจะรู้สึกไม่ดีกับเรื่องนี้”

“กู่ฉิงซาน ข้าคือราชินีหนาม สิ่งที่ข้าทำเป็นไปตามอิสรภาพของข้า เจ้าไม่สามารถก้าวก่ายอิสรภาพของข้าได้!”

“เจ้าเปิดประตูเถอะ มาคุยกันดีๆ”

“ไม่คุย! ข้าเป็นผู้ใหญ่แล้ว การตัดสินใจของข้าจะไม่เปลี่ยน!”

ประตูของห้องพักปิดอย่างแน่นหนา มันถูกปิดกั้นด้วยพลังของสมบัตินับสิบล้านชิ้น ทำให้ไม่สามารถเปิดได้

กู่ฉิงซานจึงบุ่มบ่ามเข้าไปไม่ได้เช่นกัน

เขายืนอยู่ที่ประตูก่อนส่ายหน้าอย่างจนใจ

เสียงของลอร่าอ่อนลงเล็กน้อย “กู่ฉิงซาน เชื่อในตัวข้า การเตรียมตัวเดินทางและแผนการต่อสู้ของข้าในครั้งนี้สมบูรณ์แบบ จะไม่เกิดอะไรกับทั้งอาณาจักรหนาม จะไม่มีผู้เสียชีวิต”

“จริงหรือ บอกแผนของเจ้ามาสิ” กู่ฉิงซานกล่าว

ลอร่าพูดช้าๆ

ผ่านไปสักพัก

กู่ฉิงซานพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “วิธีนี้นับว่าดี แต่ยังอันตรายอยู่ดี ข้าคิดว่าเจ้า”

ลอร่าขัดเขาได้ทันทีก่อนตะเบ็งเสียงแล้วกล่าวว่า “ชีวิตคือการอยู่รอด มีอะไรบ้างที่ทำแล้วไม่เกิดอันตราย เจ้าอาจจะสำลักจนตายหลังจากกินข้าวก็ได้! กู่ฉิงซาน เจ้าไม่ต้องมาสอนข้าหรอกนะ!”

กู่ฉิงซานอดที่จะกุมหน้าผากไม่ได้

ผ่านไปสักพัก เขากล่าวว่า “ช่างเถอะ เจ้าออกมาได้แล้ว”

“ไม่ ข้าต้องควบคุมยานอวกาศให้บินสักพัก เจ้าจัดการกับเรื่องตัวเองไปเถอะ ข้าจะไปหาเจ้าภายหลัง” ลอร่ากล่าว

ว่าไปนั่น นางเพิ่งบินออกจากโลกอาณาจักรหนาม แล้วจะมาไล่ให้กลับไปอย่างนั้นหรือ!

ลอร่ากำหมัดเล็กของตัวเอง

บนชั้นดาดฟ้า

จางหยิงห่าวนั่งบนพื้นโดยเอาหลังพิงกับกำแพง

เขาหยิบขวดสุราออกมา เปิดจุกออกแล้วดื่มช้า ๆ

ข้างเขา เย่เฟยหลีฉายภาพโฮโลแกรมขณะเล่นเกม

“จะว่าไปแล้ว ข้าเห็นใจกู่ฉิงซานนะ”

จางหยิงห่าวเม้มริมฝีปากก่อนออกความเห็น

เย่เฟยหลีไม่ออกห่างจากจอขณะกล่าวว่า “เลิกพูดถึงเขาได้แล้ว แล้วเจ้าล่ะ ข้าจำได้ว่าเจ้าคล้ายกับกำลังไล่ตามลูกสาวของประธานาธิบดีอยู่นี่”

“ข้าถูกหักอกน่ะ” จางหยิงห่าวพูดอย่างเศร้าสลด

“ไม่ข้าจำได้ว่าก่อนที่เจ้าจะไป เจ้าเหมือนจะกุมมืออีกฝ่ายไว้นี่” เย่เฟยหลีกล่าวด้วยความประหลาดใจ

“ไม่มีทาง สิ่งที่ผู้คนต้องการคือชีวิตที่มั่นคง ไม่ผิดหรอกที่จะไปอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน แต่งงานมีลูกและสร้างเกียรติให้แก่ตระกูล แต่ตอนนี้มันจบแล้ว ข้าต้องหาทางแข็งแกร่งขึ้นเพื่อไปโลกเก้าร้อยล้านชั้นแล้วตามหาความจริง หนทางการรอดชีวิตไม่ใช่การเป็นข้าราชการที่ถูกขังอยู่ในความมืดและพึงพอใจกับชีวิตอันเล็กจ้อยหรอกนะ” จางหยิงห่าวกล่าว

“ไม่มีพื้นที่ให้พักเลยหรือ” เย่เฟยหลีถาม

“ใช่ ข้าไม่คิดจะฆ่าคนตลอดชั่วชีวิตหรอกนะ ไม่มีใครสามารถทำแบบเดิมทั้งหมดได้ ถึงจะสามารถรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆ ได้ง่ายจนทำให้ผู้หญิงพึงพอใจก็เถอะ แต่ข้าก็ทำพลาดเสมอ” จางหยิงห่าวส่ายหน้า

เย่เฟยหลีครุ่นคิดสักพัก ปิดเครื่องเกม เดินมาหาจางหยิงห่าวก่อนนั่งลง

“ขอสักแก้วสิ”

จางหยิงห่าวรินให้หนึ่งแก้ว

เย่เฟยหลีชนแก้วกับเขา ทั้งสองดื่มเข้าไป

หลังจากวางแก้วลง เย่เฟยหลีกล่าวว่า

“มันมีเรื่องสิ้นหวังมากมายเสมอยามที่ผู้คนมีชีวิต แม้กระทั่งคนที่ทรงพลังที่สุดเช่นนี้ก็ด้วย เจ้าดูอย่างกู่ฉิงซานสิ เขาคือผู้ใช้วิชาดาบเก่งกาจ มีวิชามหาศาล จิตแข็งแกร่ง สิ่งที่เขาทำทรงพลังนัก หากเขาตั้งใจจะทำอะไร ข้าคิดว่าไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้หรอก แต่เขาไม่เคยอยู่กับผู้หญิงมาก่อน ดังนั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นในเรื่องพวกนี้ เขาจะแตกตื่นจนไม่รู้ว่าจะรับมือยังไง”

ตอนนี้ เสียงของกู่ฉิงซานดังมาจากด้านหลัง

“ถ้างั้นเจ้าคิดว่าข้าควรทำยังไงล่ะ”

ทั้งสองหันหลังไปเจอกู่ฉิงซานเดินออกมาจากห้องพัก

“โน้มน้าวให้นางออกมาไม่ได้หรือ” จางหยิงห่าวถาม

“เด็กผู้หญิงตัวน้อยวิตกนิดหน่อย กลัวว่าข้าจะให้นางกลับไป ดังนั้นก็เลยไม่เปิดประตูน่ะ” กู่ฉิงซานตอบอย่างจนใจ

เขานั่งลงข้างทั้งสอง ขอดื่มแก้วหนึ่งก่อนชนกับเย่เฟยหลี

“อย่าพูดเรื่องของพวกเราเลยดีกว่า แล้วภรรยาของเจ้าเป็นยังไงบ้าง” กู่ฉิงซานถาม

“ไปได้สวยเลยล่ะ นางกำลังฝึกวิชาภูตผีอยู่ ร่างกายค่อยๆ กลับคืนมา หากไม่นับตอนที่นางตัวเย็นนิดหน่อยช่วงนอนกอดตอนกลางคืน ทุกอย่างก็ถือว่าปกติ” เย่เฟยหลีตอบ

“น่าอิจฉาจัง” กู่ฉิงซานยกแก้วขึ้นอีกครั้ง

“แถมน่าปวดหัวด้วย” เย่เฟยหลีดื่มไปอึกใหญ่

“ทำไมล่ะ”

“นางอยากมีลูกน่ะ”

กู่ฉิงซานขมวดคิ้วพลางครุ่นคิดสักพัก

เรื่องนี้คือปัญหาจริงๆ

ภรรยาของเย่เฟยหลีตายแล้ว

ยังไงเสีย มันมีช่องว่างระหว่างหยินและหยางอยู่ ไม่ง่ายที่จะอยู่ในโลกหยางได้ เรื่องมีลูกยิ่งไม่ต้องพูดถึง

ในฐานะผู้ใช้วิชาภูตผี ร่างกายจึงมีการเปลี่ยนรูปลักษณ์ แต่ร่างกายภาพเดิมนั้นเน่าเปื่อยไปนานแล้ว

แม้จะใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์ ทันทีที่ “กระแสความโกลาหล” สำแดงเดช มันก็พูดยากว่าวิญญาณระหว่างสองร่างจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร

“เป็นปัญหาจริงๆ” กู่ฉิงซานถอนหายใจ

เย่เฟยหลียิ้มแล้วกล่าวว่า “ที่จริง ข้าพึงพอใจมากแล้ว แต่เรื่องของเจ้าเนี่ยเป็นปัญหาจริงๆ เจ้าอาจจะไม่เคยมีความสัมพันธ์มาก่อนจนไม่รู้ว่าต้องทำยังไงใช่ไหมล่ะ”

กู่ฉิงซานพยักหน้าเงียบ

“ฟังจากที่เจ้าพูดแล้ว ดูเหมือนเจ้าจะมีประสบการณ์เรื่องความรักเยอะเลยล่ะสิ” จางหยิงห่าวเหล่มอง

เย่เฟยหลียืดอกตรงแล้วกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “ก่อนที่ข้าจะได้พบกับภรรยา ข้าก็เป็นผู้เชี่ยวชาญความรักระดับนักปราชญ์เลยล่ะ ข้าคุยเรื่องความรักมามากมาย แต่อนิจจา ถึงกับมีผู้หญิงมากมายที่ชอบข้าในตอนนั้น แต่ข้าแค่อยากเล่นเกม ดังนั้นก็เลยแทบไม่ได้ให้สัญญากับพวกนางว่าจะคบกันดี ๆ”

จางหยิงห่าวและกู่ฉิงซานมองหน้ากัน พวกเขาล้วนรู้สึกถึงขุนเขาที่ตั้งตระหง่าน

เย่เฟยหลีกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญความรักระดับนักปราชญ์เลยหรือ

ไม่เห็นเคยรู้มาก่อนเลย

“เจ้าจะทำยังไงถ้าตกอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกับกู่ฉิงซาน”

“ไม่รู้สิ” เย่เฟยหลีตอบอย่างเรียบง่าย

เมื่อเห็นความไม่พอใจของทั้งสอง เย่เฟยหลีถามกู่ฉิงซานว่า “เจ้าช่วยบอกข้าทีสิใช้เวลาอยู่ด้วยกันกับพวกนางคนไหนนานทีสุด”

“ใช้เวลาอยู่ด้วยกันหรือ” กู่ฉิงซานขมวดคิ้วครุ่นคิดสักพักก่อนตอบว่า “นานมากแล้วที่ข้าไม่ได้ใช้เวลาอยู่กับพวกนาง ถ้าอย่างมากที่สุดคืออยู่กับซูเสวี่ยเอ้อร์ไม่ถึงหนึ่งวัน”

“ด้วยเวลาที่สั้นแค่นั้น เจ้าคิดว่าตัวเองตกหลุมรักพวกนางไหมล่ะ” เย่เฟยหลีถามอีกครั้ง

“ก็ไม่เชิง เพราะพวกเราไม่มีเวลาแม้แต่จะพูดคุยกันจนเข้ากันได้ การตกหลุมรักน่าจะเป็นความสัมพันธ์ที่ยาวนานกว่านั้น” กู่ฉิงซานกล่าวหลังจากครุ่นคิดอยู่นาน

“นี่แหละปัญหา” เย่เฟยหลีปรบมือขณะกล่าว

“ปัญหาอะไรหรือ” กู่ฉิงซานถามด้วยความสับสน

“ใช่” เย่เฟยหลีกล่าวอย่างเคร่งขรึม “เจ้าพูดเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับพวกนางก่อนจะรู้ว่าตัวเองอยากทำอะไร ตอนนี้สิ่งสำคัญคือเจ้าติดต่อกับพวกนางไม่มากนัก เจ้ารู้จักพวกนางไม่ดีพอ เจ้าไม่ได้เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าเลย แล้วพวกเราจะรับมือเรื่องนี้ได้ยังไง”

ดวงตาของกู่ฉิงซานพลันทอประกายเมื่อได้ยินแบบนี้

เขาพึมพำว่า “มีเหตุผล ถ้าไม่เข้าใจบางสิ่งก็ไม่มีทางรับมือได้”

เย่เฟยหลีสรุปว่า “ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเจ้าในตอนนี้คือการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับพวกนาง”

กู่ฉิงซานพยักหน้าซ้ำไปมา

จางหยิงห่าวที่อยู่อีกฝั่งลอบจดจำไว้ในใจเช่นกัน

เย่เฟยหลีพลันหยิบสมองจักรกลส่วนตัวออกมาก่อนเปิดออก

จอแสงฉายตรงหน้าทั้งสาม

“ข้ามีหนังรักอยู่กับตัวมากมาย เจ้าสามารถเอาไปดูเพื่อเรียนรู้ว่าการตกหลุมรักคืออะไรได้” เย่เฟยหลีกล่าว

กู่ฉิงซานอดที่จะถามไม่ได้ว่า “เรื่องนี้สำคัญหรือ ข้าจำได้ว่านี่เป็นวันสิ้นโลกนะ วิญญาณกรีดร้องยังไล่ตามพวกเราอยู่”

เย่เฟยหลีตอบอย่างหนักแน่นว่า “คนที่รู้จักผู้หญิงมากมายแต่ไม่สามารถตกหลุมรักได้เนี่ยส่วนใหญ่ก็ต้องพบกับวันสิ้นโลกทั้งนั้น”

จางหยิงห่าวตบบ่ากู่ฉิงซานแล้วกล่าวว่า “เย่เฟยหลีมีประสบการณ์มากและมีเหตุผล มาเรียนรู้ด้วยกันเถอะ ยังไงเสีย ข้าคือนักฆ่า ส่วนเจ้าคือผู้ใช้วิชาดาบ พวกเราไม่ได้เก่งเรื่องนี้”

“…อืม ใช่ ได้เวลาเรียนรู้แล้ว” กู่ฉิงซานลังเลสักพัก ในที่สุดก็พยักหน้า

บนจอแสง ภาพปรากฏขึ้น

ตัวอักษรขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาก่อน

“เรียนออนไลน์กับรักวุ่นวาย”

ทั้งสามมองอย่างจริงจัง

เย่เฟยหลีเอาจริงเอาจังเช่นกัน

กู่ฉิงซานดูอยู่สักพักจนอดที่จะพึมพำไม่ได้ว่า

“นี่ ประเด็นของเจ้า…”

เย่เฟยหลีกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ตั้งใจศึกษาให้ดี นี่คือสิ่งที่ข้าดาวน์โหลดมาด้วยความพยายามอย่างหนักนะ”

กู่ฉิงซานพยักหน้าขณะดูต่อไป

อีกด้าน

โลกดั้งเดิม

เด็กผู้หญิงกำลังทำความสะอาดห้อง

“ซือจุน ข้ามาหาเจ้าทีไรก็สร้างปัญหาให้ตลอดเลย ช่วยซักผ้าและทำอาหารทีสิ” แม่ของเย่เฟยหลีกล่าว

“ท่านพูดเรื่องอะไรน่ะ เย่เฟยหลีไม่อยู่ ข้าก็ต้องทำทั้งหมดนี่อยู่แล้ว” เด็กผู้หญิงกล่าว

แม่ของเย่เฟยหลียิ้มแล้วกล่าวว่า “โชคดีจริงๆ ที่เฟยหลีได้พบผู้หญิงเช่นเจ้า จะว่าไปแล้ว เจ้ารับนี่ไปสิ”

“นี่มัน”

“เย่เฟยหลีทิ้งอัลบั้มภาพสมัยเด็กเอาไว้”

“โห”

เด็กผู้หญิงรับอัลบั้มภาพมาดูด้วยความสนใจ

แม่ของเย่เฟยหลีกล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า “เฟยหลีขี้อายและเก็บตัวมาตั้งแต่เด็ก เขาไม่แม้แต่จะกล้ารับมือกับผู้หญิง ข้าล่ะเป็นห่วงนิสัยของเขาจริงๆ โชคยังดี ตอนเขาขึ้นมัธยมปลาย เขาก็ได้พบกับเจ้า”

พูดถึงตรงนี้ เด็กผู้หญิงอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

“ความจริง พวกเราอยู่โรงเรียนเดียวกันตั้งแต่ชั้นประถมและมัธยมต้น แค่ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันเท่านั้น”

“จริงหรือ”

“ใช่ เขาขี้อายเวลาอยู่ต่อหน้าผู้หญิง เขาไม่กล้าแม้แต่จะกล่าวทักทาย”

“ในตอนนั้น ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่กล้าพูดกับเขาก็คือเจ้าหรือ”

“ไม่ขนาดนั้น ที่จริงเป็นเพราะข้าคิดว่านิสัยขี้อายของเขานี่แหละที่น่าสนใจ ข้าจึงเป็นฝ่ายพูดกับเขาก่อน ภายหลัง… ข้าก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะได้มาอยู่ด้วยกัน”

“ดีจริงๆ ที่มีเจ้า จริงๆ ที่มีเจ้า”

แม่ของเย่เฟยหลีกล่าวซ้ำไปมา

……….……….……….……….