webnovel

0947 เริ่มต้น

ตอนที่ 947 เริ่มต้น

โลกใบนี้อุดมสมบูรณ์และเต็มไปด้วยชีวิตชีวา แหล่งกำเนิดทรงพลังก่อตัวเป็นกฎเกณฑ์เหนือธรรมชาติจากอากาศบาง ตอบรับคำเรียกขานของสิ่งมีชีวิตเสมอมา

ใช่แล้ว นี่คือโลกเวทมนตร์

ด้านหนึ่ง สิ่งมีชีวิตช่ำชองพลังเวทมนตร์ทรงพลัง อีกด้าน ความก้าวหน้าของอารยธรรมยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ความขัดแย้งและสงครามมากมายยังคงเกิดขึ้น

กู่ฉิงซานระแวดระวังยิ่ง

เขาพยายามยืนขึ้นเองตอนอายุหนึ่งขวบ

เดินเองได้ตอนอายุสองขวบ

เช็ดก้นได้ตอนอายุสามขวบ

เพียงไม่กี่ปีเขาก็สามารถปกป้องตัวเองได้ ทำการควบคุมพละกำลังอย่างระมัดระวังและเฝ้าสังเกตการณ์โลกอย่างอดทน

จนกระทั่งอายุย่างเข้าสี่ขวบเขาจึงผ่อนคลายเล็กน้อยเพราะเข้าใจกรอบพื้นฐานและองค์ประกอบของสังคมมนุษย์อย่างคร่าวๆ แล้ว

ปีนี้เขาถูกส่งตัวไปโรงเรียนเอกชนชั้นสูงในยอร์กเชียร์

สำหรับสี่ปีที่ผ่านมา เขาฝึกฝนมาอย่างต่อเนื่อง

ต้องขอบคุณกลิ่นอายอันสมบูรณ์ของโลกนี้กับการดูแลที่ได้รับจากจุดกำเนิดโลก ตอนนี้เขาไปถึงระดับก่อตั้งแล้ว

การป้องกันตัวเองที่พื้นฐานที่สุดไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

คืนวันไหลผ่านไปอย่างเงียบงัน

กู่ฉิงซานทุ่มเทกับการฝึกฝน ยังไม่สามารถสร้างท่วงท่าอันยอดเยี่ยมได้

ในสายตาของคนนอก เขาคือลูกชายชนชั้นสูงที่ไม่ธรรมดา

จนกระทั่งวันหนึ่ง

เหมือนทุกครั้ง เขากลับบ้านจากโรงเรียน

ทันใดนั้น เขาได้ยินว่าแม่ไปซ่อนอยู่ในห้องแล้วร้องไห้ คนรับใช้ซ่อนตัวอยู่ห่างๆ ไม่กล้าเข้าใกล้

กู่ฉิงซานปล่อยจิตเทพก่อนเข้าใจทุกเรื่องราวโดยใช้เวลาไม่มากนัก

กลายเป็นว่าพ่อของเขาตายในการต่อสู้ที่แนวหน้า

ตายในการจู่โจมของพวกออร์ค

ถึงแม้กู่ฉิงซานจะเคยเห็นใบหน้าของผู้เป็นพ่อในช่วงไม่กี่ปีมานี้น้อยมาก แต่ในใจของเขาก็รู้สึกมีอารมณ์ขึ้นมาเล็กน้อยเช่นกัน

บ้านของเขาเป็นเพียงบ้านชนชั้นสูงเล็กๆ เมื่อพ่อตายเขาก็อยู่ในสภาพที่ไม่ปลอดภัย

กู่ฉิงซานเดินอยู่ในห้องก่อนหยุดอยู่หน้าแม่

ถึงแม้นี่จะเป็นภาพมายา แต่ทุกสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้ทำก็เหมือนกับคนเป็นแม่จริงๆ

นางเป็นเพียงลูกสาวของพ่อค้า สถานะไม่ได้สูงส่ง หลังจากสามีตาย ด้วยแขนอันอ่อนแรงของนาง ทำให้ไม่สามารถประคองครอบครัวเอาไว้ได้

โดยเฉพาะในยุคสงคราม

กู่ฉิงซานไม่เคยปฏิเสธนางและยินดีกับความรักเช่นนี้

“ท่านแม่เป็นอะไรหรือ” กู่ฉิงซานถาม

เขายื่นมือไปกุมมือของอีกฝ่ายเอาไว้

“เอลเลน แม่ไม่เป็นไร” ผู้เป็นแม่เช็ดน้ำตาก่อนฝืนยิ้มออกมา

“ไม่ บอกข้ามาเถอะ ท่านแม่”

“ได้ พ่อของลูกอาจจะไม่ได้กลับมาสักพักน่ะ”

ผู้เป็นแม่อดที่จะกอดเขาเอาไว้แน่นไม่ได้

กู่ฉิงซานถอนหายใจอย่างเงียบงัน

ในโลกฝึกฝน มีช่วงเวลาพิเศษยิ่งที่ผู้คนจะต้องถือกำเนิดและเข้าสู่โลก เชื่อกันว่าผู้ฝึกยุทธจะต้องตัดขาดอารมณ์ในโลกทั้งหมดก่อนจึงจะสามารถบรรลุความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในการฝึกฝนได้

แต่ยุคนั้นได้ผ่านไปแล้ว

นักพรตในตอนนี้เชื่อว่าทุกสิ่งคือส่วนหนึ่งของการฝึกฝน

เช่นเดียวกับอารมณ์

กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพัก

เขาเข้าใจกฎและเงื่อนไขพื้นฐานของโลกใบนี้นานแล้ว

ถ้าอยากกลายเป็นคน “น่าสะพรึง” ที่ไม่ธรรมดา เช่นนั้นตอนนี้ก็เป็นโอกาสแล้ว

นี่ถือได้ว่าเป็นการตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาทำเพื่อครอบครัวนี้ เพื่อผู้เป็นแม่และเพื่อสาวใช้ที่ดูแลเขาเป็นอย่างดีได้

ถึงแม้นี่จะเป็นภาพมายา แต่ภาพมายาก็มาจากแหล่งกำเนิดพลังโลกเช่นกัน มันจึงเหมือนจริงในระดับหนึ่ง

ดีล่ะ

มาเริ่มกันเถอะ

กู่ฉิงซานตัดสินใจอย่างเงียบงัน

วันต่อมา เมื่อกู่ฉิงซานอยู่ที่โรงเรียน เขาไปข่วนคอของลูกชนชั้นสูงอีกคนเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ

เมื่อเด็กคนนั้นร้องไห้โหยหวนออกมา กู่ฉิงซานจึงกดมือลงบนคอของอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน

บาดแผลบนคอของอีกฝ่ายได้รับการรักษาทันที

เหตุการณ์นี้มีผลที่สะเทือนใจมาก

คริสตจักรในประเทศส่งนักบวชสองคนมาตรวจสอบสถานการณ์ด้วยตัวเองก่อนขอให้กู่ฉิงซานลองทำอีกครั้ง

กู่ฉิงซานรู้สึกหงุดหงิด ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จในครั้งแรก

แต่เขาทำสำเร็จได้ในครั้งที่สอง

“สี่ขวบ เขาอายุเพียงสี่ขวบเท่านั้น” นักบวชคนหนึ่งกล่าวด้วยความไม่อยากเชื่อ

“ข้าอยากรู้รายละเอียดของเขา สิ่งสำคัญที่สุดคือจุดกำเนิด” นักบวชอีกคนกล่าว

ผู้ดูแลที่ติดตามพวกเขาไปสอบถามตามเรื่องที่ได้รับมาทันที

ทุกสิ่งมันชัดเจน

เด็กจากชนชั้นสูงคนนี้ปลุกพลังศักดิ์สิทธิ์ได้ตอนอายุสี่ขวบ

หากมีภูมิหลังอันสูงส่งล่ะก็

แบบนั้นแย่แน่

ผ่านไปสักพัก ผู้ดูแลโบสถ์กลับมาหานักบวชทั้งสอง

นักบวชสองคนทราบในไม่ช้าว่าพ่อของเด็กคนนั้นคือขุนนางเล็กจ้อยที่เพิ่งตายในแนวหน้า

พวกเขามองหน้ากัน

เพราะพ่อเสียสละตัวเองเพื่อปกป้องเผ่าพันธุ์มนุษย์ ทวยเทพจึงเมตตาด้วยการปลุกพละกำลังของเด็กตัวน้อยขึ้นมา

นี่พิสูจน์ให้เห็นว่าทวยเทพรักโลก!

กู่ฉิงซานถูกส่งตัวไปอารามยอร์กเชียร์ในวันเดียวกัน

เทียบกับสมาคมจอมเวท กลุ่มอัศวินและสมาคมนักล่าแล้ว อารามคือห้องสมุดและเป็นมรดกที่เก่าแก่ที่สุดอีกด้วย

ดังนั้นกู่ฉิงซานจึงต้องเตรียมตัวเข้าร่วมกับกลุ่มนี้เป็นเวลานาน

บิชอปของอารามมาพบเขาด้วยตัวเองและเรียกผู้เป็นแม่กับบุคคลสำคัญเข้ามาที่โบสถ์

กู่ฉิงซานมองผู้เป็นแม่ที่กังวลด้วยสีหน้าเป็นนัยว่าอย่าได้กังวล

ตอนนี้นักบวชถือบอลแสงมาที่หน้าบิชอป

“ลูกแก้วแห่งความเท็จพร้อมแล้ว” นักรายงานด้วยเสียงกระซิบ

บิชอปพยักหน้าขณะรับลูกแก้วแห่งความเท็จมาไว้ในมือ

“เจ้าหนู เจ้าเชื่อในตัวตนของทวยเทพหรือไม่” เขาถาม

“แน่นอนว่าข้าเชื่อ ข้ารู้ว่าทวยเทพมีอยู่จริง” กู่ฉิงซานตอบอย่างหนักแน่น

ใช่แล้ว ไม่เพียงแค่เคยเห็นเท่านั้น แต่ยังเคยสร้างขึ้นมาด้วย

พูดตามตรง ดิน น้ำ ไฟและลมคือสี่เทพอันเที่ยงธรรมที่เป็นผู้สร้างโลกในตำนาน

กู่ฉิงซานคือผู้ปกครองเสาศักดิ์สิทธิ์ปฐพี

เมื่อเขากล่าวเช่นนี้ มันก็ไม่มีปัญหาอะไร

เกิดความเงียบสงัด

ไม่มีใครคิดว่าเด็กคนนี้จะมั่นใจเรื่องตัวตนของทวยเทพ

ท่าทีของเขาเพิ่มความโปรดปรานของบิชอปเป็นอย่างมาก

เพราะลูกแก้วแห่งความเท็จไม่ส่งสัญญาณเตือนแต่อย่างใด

พูดง่ายๆ ก็คือลูกแก้วแห่งความเท็จจะปล่อยแสงหมองหม่นเสมอ แต่ถ้ามีใครบางคนมาโกหกตรงหน้า ลูกแก้จะส่งเสียงร้องแหลมก่อนปล่อยแสงสีแดงเจิดจ้าออกมา

ตอนเด็กคนนี้พูด ลูกแก้วแห่งความเท็จไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

ดังนั้น

เขาพูดความจริง

“โห ทำไมเจ้าถึงคิดว่าทวยเทพมีอยู่จริงล่ะ” บิชอปถามเพิ่มเติม

“เพราะโลกถูกสร้างโดยทวยเทพ ข้าเชื่อเช่นนี้” กู่ฉิงซานตอบ

บิชอปมองเขาด้วยความประหลาดใจ

คนรอบข้างมองเด็กคนนี้เช่นกัน

การสรรค์สร้างของทวยเทพคือหนังสือเล่มที่ห้าในเจ็ดเล่มที่ถูกพูดถึงของคริสตจักร

พูดง่ายๆ ก็คือ เด็กคนนี้ไม่มีทางรู้เรื่องแบบนี้ตอนอายุสี่ขวบได้

เว้นแต่ครอบครัวของเขาเป็นผู้ศรัทธาแรงกล้าเท่านั้นถึงจะปลูกฝังความรู้และหลักคำสอนให้กับเขาแต่เนิ่นๆ

บิชอปก้มมองลูกแก้วแห่งความเท็จ

ไม่มีความผิดปกติ

“เจ้ามาจากครอบครัวที่เคร่งศาสนาและเปี่ยมด้วยเมตตา” บิชอปกล่าวอย่างพึงพอใจก่อนพยักหน้าให้กับแม่ของกู่ฉิงซาน

แม่ของกู่ฉิงซานถูกเยินยอจนต้องรีบคำนับ

บิชอปของคริสตจักรในประเทศคือชายร่างใหญ่ของจริงไม่มีทางชื่นชมใครอย่างตื้นเขินแน่นอน

คนที่เขาชมต้องเป็นคนที่คริสตจักรตั้งใจจะให้การช่วยเหลือเท่านั้น

เพราะอย่างนั้น ขอให้มั่นใจว่านางกับลูกจะไม่ถูกกลั่นแกล้งโดยกองกำลังฆราวาสในประเทศอีกต่อไป

บิชอปครุ่นคิดสักพักก่อนอธิบายอย่างอดทนว่า “เจ้าหนู การตื่นขึ้นของพลังศักดิ์สิทธิ์โดยทั่วไปนั้นต้องรอจนถึงอายุราวหกขวบ แต่เจ้ากลับปลุกได้ตั้งแต่สี่ขวบ ดูจากอดีตที่เคยผ่านมา นี่เป็นการพิสูจน์ว่าเจ้ามีพรสวรรค์เหนือกว่าคนธรรมดา”

“เจ้าเต็มใจมาเข้าร่วมกับคริสตจักรหรือเปล่า?”

กู่ฉิงซานตอบอย่างไม่ลังเลว่า “ข้าเต็มใจ”

บิชอปยิ้มแล้วถามว่า “ทำไมเจ้าอยากเข้าร่วมกับคริสตจักรล่ะ อย่ากลัวไปเลย พูดความคิดในใจที่แท้จริงของเจ้าออกมาได้เลย”

กู่ฉิงซานตอบว่า “เพราะคริสตจักรคือมรดกแห่งความรู้ที่ลึกล้ำที่สุด ข้าต้องการเติบโตที่นี่เพื่อที่สักวันจะได้สู้กับสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายและเพื่อปกป้องโลกใบนี้”

ผู้คนยิ้ม

ถึงแม้คำพูดของเด็กจะใสซื่อ แต่หัวใจของเขาน่ายกย่อง

แต่หลังจากนั้น บางสิ่งที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้นกับพวกเขา

กู่ฉิงซานกล่าวต่อว่า “ข้าเกิดมาเพราะเจตจำนงของโลก ข้ามาที่นี่จากความว่างเปล่าอันไกลโพ้น ในฐานะร่างจุติของทวยเทพในโลกใบนี้ ข้าจะยืนอยู่บนปฐพีเพื่อปกป้องโลก”

ถึงแม้เสียงของเขาจะยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่มันก็สง่าผ่าเผยอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ทั่วคริสตจักรเงียบ

เป็นความเงียบสงัด

ผู้คนมองดูลูกแก้วแห่งความเท็จพร้อมกัน

ลูกแก้วแห่งความเท็จส่องแสงหมองหม่นออกมา ไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ

เด็กคนนี้!

เด็กคนนี้พูดความจริง!

........................................