webnovel

0831 วิชาอันน่าสะพรึง

ตอนที่ 831 วิชาอันน่าสะพรึง

การต่อสู้ดุเดือดตั้งแต่แรกเริ่ม

พื้นที่ทั่วทั้งทะเลถูกแช่แข็ง ตั้งแต่ผิวทะเลจนถึงก้นทะเลในระดับความลึกมากกว่าหนึ่งล้านเมตร น้ำทะเลทั้งหมดกลายเป็นน้ำแข็ง

หลังจากนั้นไม่นาน ทะเลแตกสลายทันทีราวกับแผ่นดินไหว

สัตว์ประหลาดทะเลอาศัยอยู่ในทะเลมาหลายร้อยล้านปี ไม่เคยเห็นทะเลกลายเป็นรูปลักษณ์ที่โหดร้ายแบบนี้มาก่อน

สัตว์ประหลาดทะเลที่อ่อนแอกว่าจำนวนมากถูกฉีกขาดโดยพลังอันแก่กล้าจากทะเลมารโกลาหลในทันทีจนถึงแก่ความตาย

สัตว์ประหลาดทะเลทรงพลังเหล่านั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน

มันเป็นเช่นนั้นแหละ

ใครจะไปคิดล่ะว่าจู่ๆ ผู้นำที่รับผิดชอบในการบัญชาเพื่อให้เก็บตัวอย่างของพวกมารจะถึงแก่ความตาย

แถมยังตายด้วยมือของเขา

เหตุการณ์นี้ถือว่านาน แต่ความจริงแล้วพวกมันเกิดขึ้นโดยไม่มีสัญญาณเตือน แถมยังจบลงก่อนที่จำได้ทำการฟื้นฟูใดๆ

สัตว์ประหลาดทะเลมีเวลาตอบสนองเพียงน้อยนิดเท่านั้น

พูดให้ถูกคือพวกมันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

นั่นไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดเพราะตอนแรกพวกมันเพิ่งเก็บเกี่ยวชีวิตของพวกมารทุกตนอย่างมีความสุข

ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะมีเทพซ่อนอยู่ในหมู่มาร!

กู่ฉิงซานไม่ได้ตั้งใจจะหยุด

เขาและสัตว์ประหลาดทะเลเคราเนื้อสลับตำแหน่งกัน กลายเป็นสัตว์ประหลาดทะเลนับไม่ถ้วนเล่นงานผิดเป้าหมาย

ร่างของเขาเล็กเท่าผงธุลี

ทว่า แม้จะเล็กเท่าผงธุลี แต่ก็ทำให้ถึงตายได้

พายุดาบทะยาน!

ด้วยวิญญาณเยือกแข็งที่ระดับสี่เสาศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุด ค่ายกลดาบวิญญาณอสนีบาตไท่อี่ที่ปล่อยออกมา ไม่มีทางรู้ได้ว่าพลังเพิ่มขึ้นเท่าไหร่

สัตว์ประหลาดทะเลเคราเนื้ออายุสองล้านปีมู่ฃยืนอยู่ตรงนั้นก่อนถูกพัดโดยพายุดาบจนกลายเป็นพายุฝนโลหิต

ในที่สุดสัตว์ประหลาดทะเลตัวอื่นก็ตอบสนอง

ถึงอย่างไร พวกมันคือสัตว์ประหลาดทะเลทรงพลังที่คงอยู่มาหลายร้อยล้านปี ถึงแม้จะไม่ทันระวัง แต่ในที่สุดพวกมันระเบิดพละกำลังอันน่าหวาดกลัวออกมาเมื่อเผชิญกับหายนะความเป็นความตาย

สัตว์ประหลาดทะเลห้าตัวปล่อยวิชาใส่กู่ฉิงซานพร้อมกัน

วิชาวิเศษของพวกมันไม่สูงส่งนักและไม่ยอดเยี่ยมอะไร แต่พลังทำลายล้างนั้นสุดที่จะเทียบเคียงได้!

กลุ่มน้ำทะเลรวมตัวเป็นลำแสงหลากสีสันก่อนพุ่งตรงเข้าหากู่ฉิงซาน

กู่ฉิงซานและสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งสลับตำแหน่งกัน

แต่สัตว์ประหลาดทะเลมีอยู่มากเกินไป

ถึงตัวตนโบราณเหล่านี้จะลงมือช้า แต่ก็รู้ถึงผลจากกลอุบายของกู่ฉิงซานในที่สุด

ทันทีที่กู่ฉิงซานปรากฏตัว สัตว์ประหลาดทะเลตัวอื่นก็เตรียมเปิดฉากโจมตีทันที

ตูม!

วิชาวิเศษอันยอดเยี่ยมระเบิดออกมาก่อนพุ่งเข้าหากู่ฉิงซาน

“อั่ก!”

กู่ฉิงซานกระอักฟองโลหิตออกมาก่อนพึมพำว่า “การตอบสนองไวจริงๆ ”

เกราะศึกบนร่างกายต้านทานการโจมตีส่วนใหญ่ได้ แต่มันยังแตกสลายเป็นชิ้นๆ

ในวินาทีต่อมา เกราะศึกหมอกดำทั้งชุดซ่อมแซมตัวเองจนกลับมาเจิดจ้าด้วยพลังที่มองไม่เห็น ท้ายที่สุดก็กลับมาเหมือนใหม่อีกครั้ง

นี่คือเกราะศึกจอมมาร ตราบที่ยอมจ่ายพลังวิญญาณจำนวนมาก ความสามารถการซ่อมแซมของมันก็จะทำงาน

กู่ฉิงซานไม่มีอะไรนอกจากพลังวิญญาณ!

สัตว์ประหลาดทะเลอยากชนะจึงไล่ล่า แต่โชคดีที่พายุดาบทั้งหมดในค่ายกลดาบรวมตัวกันจนปัดป้องการโจมตีระลอกแรกที่เข้ามาได้

กู่ฉิงซานมีเวลาเพียงแค่ทำให้ร่างกายมั่นคงเท่านั้น การโจมตีระลอกที่สองก็เข้ามา

กฎเกณฑ์เต๋าจำนวนมากระเบิดใส่เขา

มีสัตว์ประหลาดทะเลอยู่มากเกินไป พวกที่สามารถรอดจนถึงตอนนี้ได้มีพละกำลังอย่างต่ำอยู่ที่ระดับสามพันโลกขั้นสูงสุด บางตัวถึงขั้นไปถึงระดับสี่เสาศักดิ์สิทธิ์ขั้นต้น

ต่อให้กู่ฉิงซานกลายเป็นราชาเทพ เขาก็ไม่สามารถขัดขืนการโจมตีสุดกำลังของศัตรูหลายสิบตัวได้

ขณะหลบ เขาหาโอกาสโต้กลับ บางครั้งก็ฝืนสังหารศัตรูด้วยวิชา

เกราะศึกหมอกดำปกคลุมอย่างแน่นหนาขณะต้านทานการโจมตีจำนวนมากแทนเขา

เมื่อถึงเวลาหนึ่ง กู่ฉิงซานพลันสังเกตเห็นว่าบางสิ่งผิดปกติ

เทียบกับตอนแรก ความรุนแรงจากการโจมตีของสัตว์ประหลาดทะเลลดลง

กู่ฉิงซานผ่อนคลายลงมาก แต่ร่องรอยความสงสัยยังเกาะกุมในใจ

เดิมทีแล้วในการต่อสู้อันสิ้นหวังนี้ การโจมตีมีแต่จะรุนแรงขึ้น เว้นแต่ว่าอีกฝ่ายจะทำอย่างอื่น

สัตว์ประหลาดทะเลกำลังจะทำอะไร

กู่ฉิงซานชำเลืองมองรอบข้าง

มีสัตว์ประหลาดทะเลหลายสิบตัวกำลังไล่ตามเพื่อมาสู้กับเขา

แต่

พวกมันคล้ายกับกำลังขวางทางกู่ฉิงซาน

เมื่อกู่ฉิงซานขยับจิต เขาเห็นฉากที่อยู่ไกลลิบของทะเลทันที

สัตว์ประหลาดทะเลเจ็ดถึงแปดตัวรวมตัวขณะร่ายวิชาพร้อมกัน

ในมือพวกมัน อสนีหมองหม่นวูบไหวเป็นครั้งคราว

สัตว์ประหลาดทะเลที่ทรงพลังยิ่งสองตัวขัดขวางการกัดกร่อนของพายุดาบ

ยิ่งสัตว์ประหลาดทะเลร่ายวิชาเท่าไหร่ ความเร็วก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น!

ความรู้สึกถึงลางร้ายเอ่อล้นในใจของกู่ฉิงซาน

นั่นไง

สัตว์ประหลาดทะเลอายุแปดร้อยล้านปีรวมตัวกัน พวกมันรวมพลังกันมาพักใหญ่

นี่จะต้องเป็นการโจมตีประสานที่ทรงพลังถึงตายแน่!

ทว่า ถึงแม้กู่ฉิงซานจะพบสิ่งนี้ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว

สัตว์ประหลาดทะเลกลุ่มใหญ่พุ่งเข้ามาขวางทางเขาอย่างบ้าคลั่ง

อีกฝั่งของทะเล สัตว์ประหลาดทะเลจำนวนมากเริ่มคุ้มกันอย่างแน่นหนาเพื่อให้สหายแปดตัวทำการร่ายวิชา

พวกมันระแวดระวังวิชาเคลื่อนย้ายของกู่ฉิงซาน

ครั้งนี้สายเกินไปแล้ว!

“เหวยจุน!”

กู่ฉิงซานตะโกน

“ฟิ่วๆ !”

(เข้าใจแล้ว!)

จี้น้ำเต้าหยกปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าก่อนหันปากน้ำเต้าไปที่มือของสัตว์ประหลาดทะเลเหล่านั้น

“ฟิ่วๆ ฟิ่วๆ!”

(ท่านเก่งเรื่องการใช้กลอุบาย ถ้างั้นข้าจะใช้บ้าง)

เมื่อวิชาของอีกฝ่ายเสร็จสิ้น จี้น้ำเต้าหยกก็ส่งเสียงร้องออกมา

กู่ฉิงซานพลันรู้สึกถึงพลังวิเศษบางอย่างในร่างกาย

ดูท่าเขาจะสามารถปล่อยวิชานี้ได้ทุกเมื่อ

เขาไม่ลังเลที่จะปล่อยวิชานี้ใส่กลุ่มสัตว์ประหลาดทะเล

ในความว่างเปล่า เขาเห็นประกายของอสนีสีเทา

ไม่ว่าจะสัตว์ประหลาดทะเลหรือกู่ฉิงซาน เมื่อเผชิญหน้ากับความเร็วการโจมตีเช่นนี้ มันก็สายเกินกว่าจะขัดขืน

สัตว์ประหลาดทะเลเหล่านั้นถูกอสนีสีเทาโจมตีอย่างรุนแรง

ตาข่ายเรืองแสงขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นจากอากาศบางก่อนพันธนาการสัตว์ประหลาดทะเลเหล่านี้เอาไว้อย่างแน่นหนา

พวกมันถูกแช่แข็งไปชั่วขณะ

อะไรกัน

นี่มันวิชาอัญเชิญที่พวกเราอยากปล่อยออกไปไม่ใช่หรือ

ได้ยังไง

เมื่อคิดถึงผลที่ตามมาของวิชานี้ สัตว์ประหลาดทะเลก็ดิ้นรนด้วยความแตกตื่น

แต่มันไม่มีประโยชน์ ตาข่ายอสนีสีเทาขนาดยักษ์มัดแน่นอย่างรวดเร็ว

ดวงตาของกู่ฉิงซานขยับ

เขาเห็นหนามยาวคมกริบเจ็ดถึงแปดอันปรากฏขึ้นจากอากาศบางขณะแทงใส่ร่างของสัตว์ประหลาดทะเลเหล่านี้

แค่การแทงเบาๆ เท่านั้น

แต่สัตว์ประหลาดทะเลเหล่านี้ตัวอ่อนทันที

ถ้ำที่เกิดจากอสนีสีเทาปรากฏขึ้นในความว่างเปล่า

บรรยากาศน่าขนลุกมาจากถ้ำอสนี

พวกมาร สัตว์ประหลาดทะเลบนเรือยักษ์และแม้กระทั่งกู่ฉิงซานผู้กลายเป็นเทพแห่งความเย็นยะเยือกล้วนขยับไม่ได้เมื่ออยู่ต่อหน้าบรรยากาศน่าสะพรึงกลัวนี้

เทพแห่งความเย็นยะเยือกกัดปลายลิ้นอย่างแรง

ภายใต้การกระตุ้นจากความเจ็บปวด เขากลับมามีความสามารถเคลื่อนไหวช้าๆ

กู่ฉิงซานมองถ้ำที่เกิดจากอสนีสีเทา หัวใจเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ เขาเข้าสู่สภาพระแวดระวังอย่างขีดสุด

นี่คือการตอบสนองตามสัญชาตญาณของร่างกายและจิตใจของทุกชีวิตเมื่อเผชิญหน้ากับผู้ล่าระดับสูง ถึงจะสามารถหาทางขัดขืนได้ แต่ก็ไม่สามารถตัดขาดได้อย่างสมบูรณ์

เทพนิรันดร์ที่แท้จริง วิญญาณกรีดร้องหรือ

กู่ฉิงซานลอบครุ่นคิด

ไม่

ไม่ใช่หรอก

แต่ถ้ำที่เกิดจากอสนีสีเทาเต็มไปด้วยกลิ่นอายนั่นไม่ได้อ่อนแอไปกว่าวิญญาณกรีดร้องเลย

ภายใต้สายตาทุกคู่ สัตว์ประหลาดทะเลที่กำลังหมดสติถูกลากเข้าไปในหลุมใหญ่โดยตาข่ายอสนีสีเทาขนาดยักษ์

ร่างกายของพวกมันทั้งใหญ่และยาวเกินไป ดังนั้นจึงมีหนามสองอันและแขนขาหลากสีสันสดใสปรากฏขึ้นในหลุมใหญ่จากความว่างเปล่าขณะดึงตาข่ายยักษ์กลับเข้าไป

กู่ฉิงซานมองปากนั่น

นี่ไม่ใช่วิญญาณกรีดร้อง

ไม่ใช่มังกรหลับใหลในตำนาน

แต่พลังที่แผ่ออกมาจากสัตว์ประหลาดตัวนี้น่ากลัวเกินไป

มันไม่ได้ด้อยไปกว่าวิญญาณกรีดร้องแม้แต่นิดเดียว!

คาดไม่ถึง สัตว์ประหลาดทะเลจะสามารถอัญเชิญตัวตนที่ทรงพลังขนาดนี้ได้

แต่สัตว์ประหลาดตัวนี้จัดอยู่ในประเภทไหนกัน

แทบจะในทันที สัตว์ประหลาดทะเลเจ็ดถึงแปดตัวที่รอดมาหลายร้อยล้านปีถูกลากเข้าไปในหลุมสีเทาขนาดใหญ่

ทันใดนั้น มือสีดำขนาดยักษ์ยื่นออกมาจากถ้ำที่เกิดจากอสนีสีเทาก่อนคว้าตาข่ายยักษ์ไว้

มือนี้ขาดไปหนึ่งนิ้ว แต่มันไม่ได้ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวเลย

ดวงตาของกู่ฉิงซานเบิกกว้าง

มือนี้!

กู่ฉิงซานจำนิ้วที่เขาเคยเห็นใต้โบสถ์หลอมละลายได้ทันที

นิ้วถูกขังโดยโซ่เหล็กหลายร้อยเส้น ทำให้ขยับไม่ได้

นิ้วนั่นเหมือนกับนิ้วอื่นๆ ที่อยู่บนมือสีดำขนาดยักษ์

คาดไม่ถึงว่านิ้วที่ถูกพันธนาการไว้โดยโบสถ์จะมาจากสัตว์ประหลาดที่ไม่รู้จักตัวนี้!

ตาข่ายยักษ์ที่จับเหยื่อเอาไว้ถูกมือสีดำขนาดยักษ์ลากเข้าถ้ำสีเทาโดยตรง

ถ้ำที่เกิดจากอสนีสีเทาหายไปกลางอากาศ

อสนีค่อยๆ หมองหม่น หลังจากกระโจนอยู่ในความว่างเปล่าหลายครั้ง มันก็หายไปอย่างสมบูรณ์

บนทะเล มีเพียงความเงียบสนิท

ทันใดนั้น สัตว์ประหลาดทะเลกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวขณะหนีไปทุกทิศทาง

พวกมันไม่สู้อีกแล้ว!

ใช่แล้ว นี่คือสุดยอดวิชาอัญเชิญ อีกฝ่ายใช้มันเพื่อตอบโต้เขา ไม่มีทางที่จะอยู่รอดได้

กู่ฉิงซานไม่ไล่ตามเช่นกัน

ฉากเมื่อครู่มันน่าตกตะลึงเกินไป

ถ้าไม่ใช่เพราะสัมผัสได้ถึงลางร้ายบางอย่าง

ถ้าการเคลื่อนไหวของสัตว์ประหลาดทะเลไม่ถูกพบจนทันเวลา

ถ้าจี้น้ำเต้าหยกไม่ทรงพลัง

เขาก็ไม่รู้จริงๆ ว่าจะสามารถรอดจากการโจมตีของสัตว์ประหลาดนั่นได้อย่างไร

………………………………………………