webnovel

0823 กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ตอนที่ 823 กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่ง

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสามราชามารที่ทรงพลังที่สุด เขาใช้เวลาอยู่ในทะเลมารโกลาหลมานับไม่ถ้วน

การค้นคว้าท้องทะเลกว้างใหญ่แห่งนี้ของเขานับว่ากว้างขวางกว่ามารทุกตน

ด้วยคำสั่งของเขา เล็บมังกรถูกแขวนสูงบนใบเรือ

ถึงแม้เล็บนี้จะเพียงมาจากมังกรมารวัยทารกเท่านั้น แต่มันก็มีพลังยับยั้งที่ทรงพลังเช่นกัน

ในทะเลมารโกลาหล สัตว์ประหลาดทะเลจะไม่เป็นฝ่ายยั่วยุสายเลือดมังกรก่อน

เพราะสัตว์ประหลาดทุกตัวที่มีสายเลือดมังกรมารจะต้องมีความสามารถทรงพลังสุดจินตนาการ

และยังมีเหตุผลสำคัญอีกข้อ

สัตว์ประหลาดทุกตัวกลัวว่าพวกมันจะถูกโจมตีโดยเลือดมังกรจนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนกับมังกร

ใช่แล้ว เลือดมังกรทั้งแปรปรวนและก้าวร้าว

ทันทีที่เลือดมังกรรุกล้ำเข้าสู่ร่างกาย ชีวิตจะเกิดการเปลี่ยนแปลงจนไปถึงแก่น

กลายเป็นมังกรมารวัยทารก ได้รับพลังลี้ลับทรงพลัง จากนั้นก็กลายเป็นจ้าวแห่งท้องทะเล

แต่นี่ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเลย

มังกรจะตื่นขึ้นทุกๆ หลายแสนปีเท่านั้น

เมื่อใดก็ตามที่มันตื่น ชีวิตที่ถูกกัดกร่อนด้วยเลือดมังกรจะถูกดึงโดยพลังลี้ลับก่อนรวมตัวเข้าด้วยกัน

จากนั้นมังกรจะกินตัวอ่อนทั้งหมดเพื่อดึงแก่นของพลังโตเต็มวัยออกมา

ถ้ามันกินมากพอแล้วก็จะทำการหลับใหลต่อ

แต่ถ้าไม่มากพอล่ะก็...

พวกมารจะพากันมาล่า

สำหรับสัตว์ประหลาดทะเล การกลายเป็นสายเลือดมังกรมารเท่ากับเป็นการยอมรับความตายของตัวเอง

เว้นแต่ว่ามันจะสามารถวิวัฒนาการด้วยเลือดมังกรได้อย่างรวดเร็วในช่วงเวลาจำกัดหลายแสนปีจนกลายเป็นตัวตนทรงพลังที่อยู่เหนือมังกรในบัดดลได้เท่านั้น

ถ้าเช่นนั้น ก็เป็นไปได้ที่มันจะจัดการมังกรที่ตื่นขึ้นก่อนดึงพลังของมังกรทั้งหมดออกมา

ผู้ชนะจะกลายเป็นมังกรตัวใหม่!

แต่เรื่องแบบนั้นแทบจะไม่เคยเกิดขึ้น

ดังนั้น สัตว์ประหลาดทะเลโบราณในทะเลมารโกลาหลจึงไม่เต็มใจที่จะสู้กับมังกรมารจนตัวตายเพื่อแลกกับพลังอันน้อยนิดเข้าไปใหญ่

พวกมันมีอายุขัยหลายสิบล้านปี

ตอนนี้ เมื่อเรือใบยักษ์ออกตัวอีกครั้ง ลมหายใจของมังกรมารปกคลุมทั่วทั้งใบเรือ

ในทะเลลึก สัตว์ประหลาดทะเลทรงพลังจำนวนมากถอยห่างจากเรือ

จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งส่งลูกน้องไปตายบางส่วนในตอนแรก แต่ก็เก็บเกี่ยวเล็บของมังกรมารมาได้ ทำให้การเดินทางราบรื่นจนผิดคาด

เขาพึงพอใจกับเรื่องนี้

สำหรับกู่ฉิงซาน นี่นับเป็นข่าวดีเช่นกัน

เมื่อไม่จำเป็นต้องทำสงคราม การเดินทางจึงยาวนานและราบรื่น ส่งผลต่อความสะดวกสบายกับเขาในหลายๆ ด้าน

ยกตัวอย่างเช่น การเข้าครัวที่เป็นทะเลสาบเพื่อฟันอาหารทะเล

ก่อนเขาจะรู้ตัว พลังวิญญาณสามหมื่นแต้มก็มาอยู่ในมือแล้ว

พลังวิญญาณสองแสนแต้มรวมเข้าด้วยกัน

ถ้าอย่างนั้น...

สองแสนหนึ่งหมื่น

สองแสนแปดหมื่น

สามแสนเจ็ดหมื่น...

สี่แสน!

ถึงแม้จี้น้ำเต้าหยกจะปรากฏขึ้นเพื่อขอพลังวิญญาณเป็นครั้งคราว แต่พลังวิญญาณที่กู่ฉิงซานได้รับการยังเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง

หกวันต่อมา

เรือยักษ์ยังล่องอยู่ในทะเลมารโกลาหล

นับจากนี้ไป ความเกียจคร้านที่กระจายไปทั่วเรือนั้นหายไปสิ้น

ขณะสวมเกราะศึก จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งปรากฏตัวขึ้นและเริ่มถ่ายทอดคำสั่งครั้งแล้วครั้งเล่า

ขณะเรือยักษ์แล่นต่อไป สีหน้าของเขายิ่งมายิ่งจริงจัง

พวกมารบางตนที่ปรับสภาพไม่ได้ชั่วคราวจะถูกส่งไปยังผนังโบสถ์

แม้กระทั่งมารยิ่งใหญ่ระดับลอร์ดก็ถูกสังหารต่อหน้าทุกตน

การแสดงออกของเขาจับใจมารทุกตน

ไม่มีใครรู้ว่าในใจของเขานั้นมีอะไรกังวลอยู่

แต่ในใจของพวกมันรู้แน่ๆ อย่างหนึ่ง

พายุที่แท้จริงกำลังจะมา

หลังจากกู่ฉิงซานผ่าสัตว์ประหลาดทะเลตัวสุดท้ายแล้ว เขาจึงยืนขึ้น

“ขอบคุณสำหรับความเหนื่อยยาก ราชาวิญญาณมาร” เชฟมารกล่าว

“อา ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย ข้าต้องทำแบบนี้เพื่อใช้ความสามารถ เจ้าไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก” กู่ฉิงซานยิ้ม

มารอีกตนเตือนด้วยความหวังดีว่า “หลังจากท่านออกจากที่นี่แล้ว จำไว้ว่าต้องสวมเกราะให้ดี ไม่อย่างนั้นคงไม่ดีนักถ้าท่านถูกพบตัวเข้า”

“อย่างนี้นี่เอง”

มีหัวข้อมากมายที่ได้คุยระหว่างทำอาหารและทำครัว หลายวันมานี้ทุกตนเข้าขากันได้ดี ความประทับใจของกู่ฉิงซานที่เป็นท่านลอร์ดทรงพลังผู้สามารถสังหารตัวอ่อนมังกรมารก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องคุยเรื่องกังวลแบบนี้บ้าง

กู่ฉิงซานกล่าวลากับสหายที่รักการทำอาหารเช่นนี้ก่อนออกจากครัวไป

เขาพลิกการ์ดมรกตของ “เกราะศึกหมอกดำ” จนมันสั่นไหวเล็กน้อย

เกราะศึกครบชุดที่มีหมอกสีดำเลือนรางปกคลุมตัวเขาขณะสวมตั้งแต่หัวจรดเท้า

เขาไม่รู้จริงๆ ว่าจ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งกังวลอะไรอยู่ พูดง่ายๆ คือระวังไว้จะดีกว่า

กู่ฉิงซานครุ่นคิดขณะเดินไปยังโถงจัดเลี้ยง

ใกล้ถึงเวลาสำหรับมื้อเย็นของพวกมารแล้ว

ทีมเชฟหลายสิบตนเสิร์ฟอาหารอย่างรวดเร็ว เขาเข้าไปที่นั่นขณะรอการมาถึงของจ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่ง

ผ่านไปสักพัก

ห้องจัดเลี้ยง

พวกมารจำนวนมากมาถึงก่อนแล้ว

พวกที่สามารถเข้าโถงจัดเลี้ยงได้คือมารแข็งแกร่งที่สุดบนเรือ

เมื่อเห็นกู่ฉิงซานเดินเข้ามาพร้อมเกราะศึกหมอกดำ พวกมารจำนวนมากต่างทักทายเขา

จ้าวแห่งความเงียบพยักหน้าเล็กน้อยเช่นกัน

พวกมารยังเข้าขากันได้ดี ขอเพียงแค่ลึกๆ ไม่คิดจะกินกันเองก็ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น

ผ่านไปสักพัก

จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งปรากฏตัวแล้ว

เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้น โต๊ะยาวเต็มไปด้วยอาหารที่มีไอกรุ่นทันที

วันนี้จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งไม่เริ่มกิน

“มีใครรู้บ้างว่าพวกเรากำลังจะมุ่งไปที่ใด”

เขาถามมารทุกตน

พวกมารเริ่มกระตือรือร้น

ดูท่าในที่สุดก็ถึงเวลาคลี่คลายความลี้ลับนี้แล้ว

เสมียนพูดขึ้นก่อนว่า

“นายท่าน ด้วยความเร็วปัจจุบัน พวกเราจะถึงเกาะมู่ซวีในอีกสามวัน”

เกาะมู่ซวี

นี่คือระยะทางไกลที่สุดที่เผ่าพันธุ์มารเคยล่องบนทะเลมารโกลาหลนับตั้งแต่บันทึกมาในหน้าประวัติศาสตร์

มีต้นไม้วิเศษยักษ์หยั่งรากลึกลงไปก้นทะเลถึงหนึ่งล้านเมตร มันเติบใหญ่ขึ้นมาจนท้ายที่สุดก่อเกิดเป็นเกาะใบไม้บนผิวทะเล

รากของมันทะลวงหุบเหวทะเลลึกลงไปในระดับน้ำทะเลอันไกลลิบ แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะไปถึงก้นของมันได้

ไม่มีมารตนไหนสามารถข้ามสถานที่นี้เพื่อทำการสำรวจต่อได้

น้ำทะเลลึกเช่นนี้เป็นพื้นที่อันตรายสำหรับพวกมาร

เพราะสัตว์ประหลาดทะเลมักชอบกินมารเสมอ พื้นที่ทะเลเหล่านั้นที่ไม่สามารถสำรวจได้จึงถูกเรียกว่าหุบเหวทะเลที่มีเพียงสัตว์ประหลาดทะเลโบราณระดับพันล้านปีเท่านั้นอาศัยอยู่ อีกทั้งยังเป็นสรวงสวรรค์ของพวกมัน

สำหรับสัตว์ประหลาดทะเลอายุหลายร้อยล้านปี พวกมันมีพละกำลังยิ่งใหญ่ รู้ความลับมากมาย มีปัญญาระดับสูงและรู้วิธีหลีกเลี่ยงการกัดกร่อนของเลือดมังกร

ในหุบเหวทะเลมารโกลาหลไร้พรมแดน ต่อให้เรือเต็มไปด้วยเล็บมังกรมารก็ใช้ไม่ได้ผล

เมื่อเผชิญหน้ากับตัวตนโบราณเช่นนี้ สิ่งเดียวที่พวกมารสามารถทำได้คือหลีกหนี

“ใช่แล้ว พวกเราจะถึงเกาะมู่ซวีในอีกสามวัน พวกเราจะพักที่นั่น”

“ดังนั้นนับจากวันนี้ไป พวกเราต้องค่อยๆ เข้าใกล้ทะเลที่แสนอันตราย”

“พวกเจ้าคือมารที่แข็งแกร่งที่สุดบนเรือลำนี้ ข้าขอสั่งให้พวกเจ้าทั้งหมดต้องตื่นตัวเข้าไว้ สร้างทีมตามรายชื่อที่กำหนด ออกเรือตรวจตราภายในรัศมีสามร้อยไมล์”

“ทันทีที่เผชิญกับสถานการณ์ใดๆ สิ่งแรกที่ต้องทำคือฆ่า!”

จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งกล่าว

พวกมารรู้สึกท้อใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนี้

พวกมารยังไม่รู้ว่าเขาจะให้ทำอะไร

เขาพูดเพียงแค่ว่าฆ่า

แต่ฆ่าอะไรล่ะ

สัตว์ประหลาดทะเลหรือ

ดูท่าเขาจะไม่ยอมบอกความจริงให้ทราบจนกระทั่งวินาทีสุดท้าย

รายชื่อถูกประกาศในไม่ช้า

จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งแบ่งพวกมารทรงพลังออกเป็นสิบกลุ่ม

มารทุกตนเคลื่อนไหว

กลุ่มแรกเริ่มตรวจตราทันที

กลุ่มอื่นกลับห้องรับรองของตัวเองเพื่อพักฟื้นและรอให้ถึงเวลาของตัวเอง

กู่ฉิงซานถูกจัดให้อยู่กลุ่มสุดท้าย

พรุ่งนี้เช้า กลุ่มสุดท้ายจะต้องตรวจตรา

เขากลับห้องและรออยู่เงียบๆ

เวลาผ่านไปอย่างสงบ

กู่ฉิงซานวางแผ่นหยกวิชาดาบในมือลงก่อนถอนหายใจ

ตอนนี้เขาสามารถควบคุมดาบบินเจ็ดร้อยเล่มได้ ในเวลาเดียวกันก็สามารถสร้างการโจมตีด้วยดาบลับได้

แต่เป็นเรื่องยากนักที่จะรวบรวมพลังทั้งหมดไว้ที่ดาบเดียว

ส่วนรากฐานการฝึกฝน

ดวงตาของเขาจับจ้องหน้าต่างต้นเพลิง

ช่องพลังวิญญาณมีพลังวิญญาณเพียงสองแสนแต้ม แต่มันกำลังเอ่อล้นขึ้นมาจนกระทั่งไปถึงห้าสิบล้านแต้ม

น่าเสียดายที่หากไม่ทำภารกิจพัฒนารากฐานการฝึกฝนตอนนี้ให้เสร็จ เขาก็จะไม่สามารถอัปเกรดบัญญัติราชามารโดยไม่ใช้พลังวิญญาณได้

ภัยพิบัติจากลมและไฟ

นี่คือครั้งแรกที่กู่ฉิงซานต้องเผชิญกับภัยพิบัติไฟในช่วงชีวิตอดีตและและปัจจุบัน

เขาระแวดระวังยิ่ง เตรียมการต่างๆ มากมายเพื่อเพิ่มสถานะตัวเองจนถึงจุดสูงสุด

แต่ตอนนี้มีบางสิ่งที่น่าละอายยิ่งกว่าอยู่

เขาไม่สามารถเริ่มการพัฒนาได้

เพราะนี่คือทะเลมารโกลาหล

ทันทีที่มีสายลมพัดโดนยอดหญ้า ย่อมต้องถูกพวกมารค้นพบในทันทีแน่นอน

นี่คือการพัฒนาของนักพรตมนุษย์เชียวนะ!

นักพรตมนุษย์กล้ามาโลกมารดึกดำบรรพ์เพื่อก้าวข้ามภัยพิบัติต่อหน้าราชามารทั้งที่อยู่ในพื้นที่ของราชามารตนนั้น ต้องเป็นวิญญาณแบบไหนกันถึงกล้าทำแบบนี้

นี่เท่ากับรนหาที่ตายชัดๆ

………………………………………………