webnovel

0596 ในนามของกษัตริย์

ตอนที่ 596 ในนามของกษัตริย์

กู่ฉิงซานถือดาบไว้ในมือ นิ่งงันไม่คิดขยับกายเคลื่อนไหว

เมฆที่ฟุ้งไปด้วยโทษทัณฑ์ปกคลุมหนาแน่น นำพาท้องฟ้าจมลงสู่ความมืดมิด

แสงและเงาเริ่มที่จะกะพริบไหว

พวกมันลอยอยู่ในอากาศ และเริ่มแปรสภาพเป็นบอลแสงสีน้ำเงินขาว ร่วงหล่นลงมายังเบื้องล่างอย่างช้าๆ

อย่างไรก็ตาม ขณะเดียวกันสองดาบบินก็แปรเปลี่ยนเป็นกระแสแสง พุ่งทะยานขึ้นไปบนฟากฟ้า กวัดแกว่งทำลายมัน มิให้ร่วงลงมาถึงตัวเขาอย่างไม่หยุดยั้ง

กู่ฉิงซานใช้ออกด้วยพลังทั้งหมดที่เขามี  ดังนั้นรังสีดาบที่ปลดปล่อยจึงทั้งรุนแรง และรวดเร็วถึงขีดสุด!

หากมองจากระยะไกล จะเห็นแค่เพียงเส้นแสงคมกริบที่เกิดจากคมดาบ ตัดสะบั้นบอลสายฟ้าอย่างไม่รู้จบ

เสียงสายฟ้าระเบิดดังขึ้น ดังขึ้นเรื่อยๆ พวกมันเริ่มแตกตัวเป็นจุดดาวไสว กระจัดกระจายไปทั่วท้องฟ้า

เมื่อใดก็ตามที่สายฟ้าสัมผัสถูกกันและกัน พวกมันจะเริ่มเกาะกลุ่ม และเปลี่ยนร่างเป็นงูสายฟ้า แหวกว่ายผ่านอากาศ ตัดแบ่งผืนฟ้ายามค่ำคืนด้วยสีน้ำเงินขาว

ท้องฟ้าอันมืดมิดสาดไสวไปด้วยแสงและเงา

ส่งผลให้ฉากนี้ดูงดงามเป็นพิเศษ

ทว่าสีหน้าของกู่ฉิงซานกลับเริ่มดูหนักเคร่งขรึมมากขึ้น

เขาสูดหายใจลึก และปรับรูปแบบกระบวนของดาบ

จากสองดาบเน้นโจมตี เป็นหนึ่งโจมตีหนึ่งป้องกัน

เพราะหลังจากทั้งหมดนี้ ทัณฑ์สวรรค์น่ะยิ่งนาน สายฟ้าสวรรค์ก็จะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ดังนั้นสถานการณ์ที่เขากำลังจะต้องเผชิญคงจะหนักหนาไม่น้อย

หลังจากผ่านพ้นไปห้าลมหายใจ

บนท้องฟ้า ก็เริ่มพร่างพราวไปด้วยจุดแสงดาว

ทัณฑ์สายฟ้าปกคลุมหนาแน่น รังสีแสงอันไพศาลกวาดกระจายว่อนไปทั่ว

ทัณฑ์สายฟ้าได้ครอบคลุมตลอดทั้งผืนฟ้าแล้ว!

กู่ฉิงซานเฝ้ามองทัณฑ์สายฟ้า และพยักหน้าอย่างลับๆ

“เอาล่ะ ถึงเวลาแล้ว”

เขาคว้าจับดาบเช่าหยิน และเริ่มต้นกระตุ้นพลังเหนือธรรมชาติทันที เพื่อเตรียมลากทัณฑ์สวรรค์ข้ามผ่านผืนสมุทร มุ่งตรงไปยังชั้นน้ำแข็งเบื้องบน!

มุ่งไปยังสถานที่ซึ่งมีหนึ่งแสนกองทัพสัตว์ประหลาดผี และกว่าสองร้อยล้านผู้เข้าสู่วิถีมารอาศัยอยู่!

ในตอนที่กู่ฉิงซานเตรียมจะออกเดินทางไปนั้นเอง เสียงเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นทันใด

“กู่ฉิงซาน เจ้ารอก่อน!”

ร่างของกู่ฉิงซานชะงักไป เขาเหลียวมองย้อนกลับหลัง แล้วก็พบกับฉากที่ทำให้ตนต้องประหลาดใจ

ท่ามกลางความว่างเปล่าเบื้องหลังเขา ปรากฏถึงต้นไม้ยักษ์ต้นหนึ่งขึ้น ซึ่งนี่มิใช่ครั้งแรกที่เขาได้เห็นมัน

รุกขชาติศักดิ์สิทธิ์แห่งหนาม

ทว่าคราวนี้ นี่มิใช่ภาพฉายหรือร่างเงาของมัน แต่เป็นต้นไม้ยักษ์โบราณของจริง!

มันได้ข้ามผ่านมิติและเวลา มาปรากฏตัวขึ้นบนโลกนี้โดยตรง!

ลอร่ายืนอยู่ใต้ต้นไม้และโบกมือให้แก่เขา

“นั่นฝ่าบาทคิดจะทำอะไร?” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม

“เราขอโทษจริงๆ ที่มอบชุดเกราะที่ไม่สามารถใช้งานได้ให้แก่เจ้า โปรดรอสักครู่ เรากำลังจะไปทำให้มันใช้งานได้เดี๋ยวนี้แหละ” ลอร่าตะโกนออกมา

กู่ฉิงซานพอได้ฟังก็ชะงักไป

ชุดเกราะงั้นหรือ?

“ฝ่าบาทได้ตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำพิธีก้าวขึ้นสู่วัยผู้ใหญ่ ขอเจ้าจงโปรดรอสักครู่” อีเลียส่งความคิดไปหาเขา

“พิธีก้าวขึ้นสู่ผู้ใหญ่ มันจะเป็นอันตรายหรือไม่?” กู่ฉิงซานส่งความคิดถามกลับ

“มันไม่อันตรายหรอก แต่เธอแค่จะต้องทนทุกข์ทรมานเล็กน้อย แล้วก็ต้องหักห้ามใจในเรื่องที่ตนหวาดกลัวความสูงก็เท่านั้นเอง นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่เธอเอ่ยปากออกมาด้วยตัวเองว่าต้องการเข้าพิธีขึ้นสู่วัยผู้ใหญ่”

“เข้าใจแล้ว”

กู่ฉิงซานยิ้มให้กับลอร่าและกล่าว “เช่นนั้นท่านก็สู้เขาล่ะ เพราะ...”

ปัง!

ระหว่างกล่าว ทัณฑ์สายฟ้าจู่ๆ ก็ผ่าลงมา ฟาดเข้าใส่กู่ฉิงซานที่ไม่มีเวลาแม้จะยกดาบขึ้นมาปัดป้อง

เขาถูกฟาดกระแทกลงกับพื้น

ลอร่าที่เห็นถึงฉากนี้ ร่ำร้องด้วยความกระวนกระวาย “กู่ฉิงซาน อย่าตายนะ เราจะรีบทำให้มันจบๆ ไปเดี๋ยวนี้แหละ!”

ว่าแล้วเธอก็เริ่มปีนขึ้นไปบนรุกขชาติศักดิ์สิทธิ์ เอื้อมมือไปคว้าจับหนามบนลำต้นของมัน

ปรากฏเลือดไหลซึมออกมาจากฝ่ามือทันที

เจ็บจัง!

ลอร่าขมวดคิ้วมุ่น

นี่คือหนามแหลมที่ผุดออกมาจากรุกขชาติศักดิ์สิทธิ์

ตลอดทั้งลำต้นของรุกขชาติศักดิ์สิทธิ์ นอกเหนือไปจากสถานที่อื่นที่ปกคลุมไปด้วยใบไม้แล้ว ตำแหน่งอื่นๆ ล้วนเต็มไปด้วยหนามแหลมทั้งสิ้น

นี่คือหนึ่งในรุกขชาติศักดิ์สิทธิ์ที่ถือกำเนิดขึ้นในสมัยโบราณอันไกลโพ้น ผ่านพ้นวันเดือนปีแห่งการทดสอบมาอย่างโชกโชน ดังนั้นสิ่งมีชีวิตใดที่คิดเล่นตุกติกกับมัน จะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นขี้เถ้าทันที

ท่ามกลางโลกเก้าร้อยล้านชั้น รุกขชาติศักดิ์สิทธิ์จากโบราณกาลนี้แทบจะเรียกได้ว่าคงกระพัน มิอาจทำลายได้

แต่ก็นับว่าโชคยังดี ที่แม้มันจะมีอำนาจเหลืออนันต์ แต่แท้จริงแล้วมันก็รับรู้ได้ถึงกฎแห่งความจริงของชีวิตและความตาย ดังนั้นมันจึงมิเคยใช้ประโยชน์จากอำนาจของตนเองในการทำลายล้าง หรือใช้พลังมนตราที่ทรงพลานุภาพของตนเข้าไปปั่นป่วนวัฏจักรของโลกเลย

แต่หากจะกล่าวถามว่ารุกขชาติศักดิ์สิทธิ์ต้นนี้มันมีจุดอ่อนใด แน่นอนว่าคงย่อมเป็นไปตามกฎเกณฑ์แห่งธรรมชาติ หนอนแมลงนั่นเอง

หนอนแมลงเป็นศัตรูตามธรรมชาติของต้นไม้

ด้วยอำนาจของกฎเกณฑ์ ส่งผลให้รุกขชาติศักดิ์สิทธิ์มิอาจจัดการกับหนอนแมลงเหล่านั้นได้

อย่างไรก็ตาม กลับเป็นตัววิหคที่สามารถเกื้อกูลมัน ช่วยรับมือกับหนอนแมลงเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย

ดังนั้น ณ ขณะนี้ ยามเมื่อได้ยินถึงเสียงเรียกขานของลอร่า รุกขชาติศักดิ์สิทธิ์จึงตอบรับ และปรากฏตัวขึ้นโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย

อันที่จริงแล้วมันเองก็รู้สึกได้ถึงการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของราชวงศ์หนาม

ปัจจุบันนี้ สายเลือดแห่งราชวงศ์หนามหลงเหลือเพียงคนสุดท้ายแล้ว

ลอร่ากัดริมฝีปากของเธอ อดทนต่อความเจ็บปวด และยื่นอีกมือหนึ่งไปจับพวงหนามต่อไป

จากนั้นก็เริ่มใช้เท้าหยั่งบนมัน

เธอเริ่มที่จะคว้าจับหนาม และค่อยๆ ปีนขึ้นไปทีละขั้น ทีละขั้น

ตลอดทั้งตัวต้นไม้ สูงกว่าหนึ่งหมื่นเมตร ยอดสุดของมันแทงทะลุขึ้นไปถึงฟากฟ้า

ขณะที่ลอร่าต้องปีนขึ้นไปบนยอดต้นไม้ด้วยมือเปล่า พิธีก้าวขึ้นสู่วัยผู้ใหญ่จึงจะบรรลุโดยสมบูรณ์

เธอใช้มือและเท้าปีนขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

ในเวลาเดียวกัน หนามแหลมก็คอยแทงทั้งมือและเท้าของเธอ ทิ้งคราบเลือดเอาไว้บนรุกขชาติศักดิ์สิทธิ์

ไม่นาน เด็กสาวก็สามารถปีนขึ้นไปได้กว่าหลายร้อยเมตร

แน่นอน ว่าในครั้งที่เธอยังเด็กกว่านี้ ช่วงเวลานั้นเธอก็เคยได้รับการฝึกปีนมาก่อนเช่นกัน แต่สุดท้ายก็ล้มเลิกกลางคันเสมอมา

“ความเจ็บปวดนี้ สำหรับเราแล้วไม่นับว่าเป็นสิ่งใด”

เธอยังคงปีนป่ายต่อไป

“เราเสียครอบครัว สูญเสียมามากเกินไป แล้วตอนนี้กับอีแค่ความสูงเราจะเอาชนะมันไม่ได้เชียวหรือ?”

เธอก้มลงมองเบื้องล่าง

ทว่าพริบตาที่ก้มมอง จิตสำนึกของตนพลันกลายเป็นว่างเปล่าโดยไม่รู้ตัว ความหวาดกลัวเริ่มแทรกแซงเข้ามาในจิตใจอีกครั้ง

ในขณะนั้นเอง กู่ฉิงซานก็บินขึ้นมาและให้กำลังใจเธอด้วยรอยยิ้ม “สู้เขาสิ ยิ่งปีนช้ามันก็ยิ่งเจ็บนะ จะเป็นการดีกว่าหากท่านปีนขึ้นไปโดยเร็ว”

ว่าจบเขาก็พุ่งข้ามผ่านขึ้นไปยังเบื้องบน เผชิญหน้ากับทัณฑ์สายฟ้าอีกครา

วินาทีต่อมา

ก็ปรากฏถึงแสงจรัสจากสายฟ้าอีกครั้ง ฟาดเขาร่วงตกลงสู่พื้นดิน

โครม!

บังเกิดเสียงหนักทึบ

“กู่ฉิงซาน!” ลอร่ากรีดร้อง

เธอก้มลงมองลงไปในหลุมลึกที่เพิ่งปรากฏขึ้น ความวิตกกังวลพรวดเข้ามาในจิตใจของเธอ

“อย่าตายนะ เจ้าสามารถช่วยชีวิตเราได้ เราก็สามารถช่วยชีวิตเจ้าได้เช่นกัน รอเราไปถึงยอดต้นไม้ก่อนนะ” เธอตะโกนลงไป และเริ่มเอื้อมมือ คว้าจับหนามแหลมอันต่อไปอีกครั้ง

เหมือนกับว่าความวิตกที่แทรกแซงเข้ามา จะทำให้เธอลืมเลือนความหวาดกลัวไปแล้ว

ปีนขึ้น

ปีนขึ้นไป

ปีนขึ้นไปอย่างไม่ยอมแพ้!

ท่ามกลางลำต้นที่เต็มไปด้วยหนามแหลม เธอเริ่มปีนเร็วขึ้น เร็วขึ้นเรื่อยๆ!

ขณะเดียวกัน กู่ฉิงซานที่จมลงอยู่ในหลุมลึก ก็กำลังคอยปล่อยจิตสัมผัสเทวะ เฝ้ารอร่างน้อยๆ ที่กำลังพยายามของลอร่าอย่างเงียบๆ

โอ๊ย

เมื่อกี้นี้มันเจ็บจริงๆ นะ

เขาลูบไล้ลงบนไหล่ซ้ายที่ไหม้เกรียม ในหัวใจของตนเต็มไปด้วยห้วงอารมณ์

แท้จริงแล้วสายฟ้าเมื่อครู่นี้เขาสามารถหลบได้…

อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลานั้น การแสดงออกทางสีหน้าของลอร่าไม่สู้ดีนัก มันเหมือนกับในทุกๆ ครั้งที่เขาพาเธอลอยไปในอากาศ

ดังนั้น เขาจึงต้องใช้แผนแปลงตนเป็นน้ำมัน แล้วราดลงบนไฟสู้ของลอร่าให้กลับมาลุกโชนขึ้นอีกครั้ง

ถึงจะเจ็บปวด แต่มันก็ได้ผล เด็กสาวตัวน้อยถูกหลอกจริงๆ เธอลืมเลือนความหวาดกลัว และปีนป่ายขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

อืม...กลายเป็นเด็กที่กล้าหาญไปเสียแล้ว

กู่ฉิงซานคิดว่าหากเขามีลูกสาวที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ในอนาคตเขาคงจะมีความสุขมาก …

ทว่าเพียงคิดเกี่ยวกับมัน ทัณฑ์สายฟ้าก็ฟาดมาลงมาอีกแล้ว

ไอ้สายฟ้าบ้านี่...

กู่ฉิงซานสบถงึมงำ ปากอ้าถอนหายใจ และสูดมันเข้าลึกๆ จากนั้นทั้งร่างของเขาก็สั่นไหว และทะยานตัวขึ้นไปทานรับสายฟ้าสวรรค์อีกครั้ง

และคราวนี้ เขาระมัดระวังตัวอย่างแท้จริง มิคิดเล่นละครใดๆ อีกต่อไป

สามดาบบินออกมาพร้อมกัน สับสะบั้นสายฟ้าสวรรค์ใกล้ตัวเขา สับๆๆ มันจะกลายเป็นจุดละอองเล็กๆ

แสงสายฟ้าหยดย้อยลงจากก้อนเมฆอย่างไม่รู้จบ ไล่ตามติดร่างของเขา หวังที่จะระเบิดใส่ให้จงได้

ขณะที่กู่ฉิงซานก็ทุ่มออกทุกวิถีทาง ใช้ความพยายามทั้งหมดที่ตนมี ควบคุมสามดาบยาว ร่ายรำในอากาศตัดสะบั้นสายฟ้าสวรรค์อย่างต่อเนื่อง

แต่แล้วเมื่อมาถึงจุดหนึ่ง พายุทัณฑ์สายฟ้าก็หยุดลงในที่สุด

พร้อมกับร่างของกู่ฉิงซานที่ปรากฏขึ้น ปากอ้าหอบหายใจหนักหน่วงอยู่ครู่หนึ่ง

การต่อสู้ดุเดือดเช่นนี้ เกือบทุกวินาทีล้วนกัดกินพลังชีวิตเขา แต่เจ้าตัวก็ยังพยายามอย่างดีที่สุด

“เอาล่ะ แกเองก็เหนื่อยมากเหมือนกันใช่ไหม? ถ้าอย่างงั้นแล้วทำไมพวกเราไม่ค่อยมาสู้กันต่อทีหลังล่ะ?”

เขาเปล่งเสียงกระซิบไปยังก้อนเมฆ

ในมือตนตบเข้ากับเม็ดยาวิญญาณ โยนเข้าใส่ปาก เคี้ยวสองสามครั้งและกลืนลงไป

ทันใดนั้นกู่ฉิงซานเหมือนจะรู้สึกตัวถึงอะไรบางอย่าง

เขาเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ

เห็นแค่เพียงบนก้อนเมฆ

สีทะมึนของมันกำลังค่อยๆ สาดประกายแสงสีแดงเข้มออกมาอย่างช้าๆ

นี่คือสายฟ้าสวรรค์ที่มีขนาดอย่างน้อยก็เทียบเท่ากับหนึ่งสนามฟุตบอล

และเนื่องจากสีแดงเข้มที่สาดไสวของมัน ส่งผลให้เขาสามารถยืนยันถึงสถานะของมันได้อย่างชัดเจน

สายฟ้าดับสูญจิตเทวะ

ในบรรดาทัณฑ์สายฟ้าทั้งหมด สายฟ้าดับสูญนี้ นับว่าเป็นหนึ่งในสายฟ้าที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุด

ยามที่สิ่งมีชีวิตใดถูกโจมตีด้วยสายฟ้านี้ จิตเทวะในร่างของเขาจะดับสูญลงอย่างสิ้นเชิง ไม่มีแม้กระทั่งโอกาสได้กลับไปเกิดใหม่

สายฟ้าดับจิตเทวะกำลังร่วงตกลงมา

กู่ฉิงซานแหงนหน้ามองผืนฟ้าอันกว้างใหญ่ที่ปกคลุมอยู่เหนือศีรษะของเขา อดไม่ได้ที่จะเอ่ยพึมพำ “เร็วเข้าลอร่า ดูเหมือนฉันจะยื้อได้อีกไม่นานแล้วนะ…”

ลอร่ายังคงปีนป่ายขึ้นไป

อย่างรวดเร็ว อีกไม่นานเธอก็จะขึ้นไปจนถึงยอดของต้นไม้แล้ว!

ระยะทางหนึ่งหมื่นเมตร สำหรับมืออาชีพน่ะ มันไม่นับว่าเป็นสิ่งใดเลย!

สำหรับวิหคหนามแล้ว แค่นี้นับว่าเล็กน้อย!

เด็กสาวมองไปยังสายฟ้าสีแดงเข้ม

แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าสายฟ้านั่นคืออะไร แต่เธอสามารถสัมผัสได้ถึงอันตรายที่อยู่เบื้องหลังมันได้อย่างชัดเจน

ลอร่าเร่งความเร็วของเธอมากขึ้นอีกครั้ง

สายฟ้าสีแดงเข้มค่อยร่วงตกลงใส่กู่ฉิงซาน

และลอร่าจะไม่มีทางยอมให้มันเกิดขึ้น แม้จะเหลืออีกสามขั้นสุดท้าย แต่เธอก็เลือกที่จะกระโดดข้ามผ่านมันโดยตรง ขึ้นไปทิ้งตัวลงบนยอดต้นไม้

เธอเร่งผุดลุกขึ้น บนยอด ปากอ้าตะโกนเสียงดัง “พระแม่แห่งรุกขชาติศักดิ์สิทธิ์ เราปรารถนาที่จะได้รับการยอมรับจากท่าน!”

รุกขชาติศักดิ์สิทธิ์เปล่งรังสีแสงมรกตออกมา

รังสีแสงเหล่านี้ ผสานรวมกันบนยอดต้นไม้ โถมเข้าไปห่อหุ้มตลอดทั้งร่างกายของลอร่าโดยสมบูรณ์

คู่ปีกสีเขียวเข้มเล็กเบื้องหลังเธอผุดออกมา ก่อนจะค่อยๆ ยืดขยายออกจนมีความยาวเท่ากันกับความสูงของเด็กสาว

รังสีแสงมรกตค่อยๆ จางหายไป ขณะเดียวกันคู่ปีกก็เริ่มเปล่งประกายกระจ่างใสดั่งคริสทัล

พร้อมกันกับใบไม้เรืองแสงสามใบที่โผล่ออกมาจากปีกอย่างเงียบๆ

สามใบไม้เรืองแสงปรากฏขึ้น และผลุบหายเข้าไปอีกครั้งในปีกของเธอ

ลอร่าจ้องมองฉากที่เกิดขึ้นนี้ด้วยความประหลาดใจ

โดยไม่คาดคิด หลังจากที่ตนสามารถบรรลุพิธีก้าวขึ้นสู่วัยผู้ใหญ่ได้ รุกขชาติศักดิ์สิทธิ์กลับมอบของขวัญครั้งใหญ่ให้เธออย่างกะทันหัน!

โดยปกติแล้ว วิหคนามจะได้รับพรจากรุกขชาติศักดิ์สิทธิ์เพียงใบเดียวเมื่อพวกเขาสามารถปลุกตนให้ตื่นขึ้น

แม้กระทั่งสมาชิกของราชวงศ์ก็เช่นกัน

มีเพียงกษัตริย์แห่งหนามเท่านั้นจึงจะได้รับพรถึงสองใบ

อย่างไรก็ตาม เหนือยิ่งกว่ากษัตริย์แห่งหนามที่พระแม่ชมชอบ ท่ามกลางสายธารแห่งประวัติศาสตร์อันยาวนาน เธอกลับได้รับพรถึงสามใบ!

ทั้งสามใบที่อยู่กับลอร่านี้ เป็นตัวแทนของพรสามประการที่แตกต่างกันออกไป

เธอสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของที่ลี้ภัยแห่งหมื่นโลกา

เวลานี้ เธอสามารถใช้พรสวรรค์ของตนได้อย่างเต็มที่แล้ว!

ในขณะเดียวกัน มงกุฎหนามที่ถูกถักทอ ร้อยเรียงมาจากรุกขชาติศักดิ์สิทธิ์แห่งหนามก็ลอยออกมา และค่อยๆ ตกลงเหนือศีรษะของลอร่า

“องค์กษัตริย์ทรงพระเจริญ!”

“องค์กษัตริย์ทรงพระเจริญ!”

ทหารพิทักษ์ต่างเริ่มโห่ร้อง

“แท้จริงแล้วท่าน...เป็นอัจฉริยะสินะ...” อีเลียพอได้เห็นฉากนี้ ก็ไม่สามารถควบคุมตนเองได้อีกต่อไป เธอพึมพำด้วยความตื่นเต้น

แต่แล้วลอร่าก็ตระหนักได้ถึงสิ่งที่ตัวเธอเองต้องทำ

เธอก้มลงมองไปยังเบื้องล่าง

สายฟ้าข้ามผ่านระยะยอดต้นไม้หนึ่งหมื่นเมตรไปแล้ว และกำลังจะร่วงตกลงบนกู่ฉิงซานและดาบยาวของเขาบนพื้นดิน

ลอร่าเร่งร้องตะโกนออกไป “ในนามของกษัตริย์แห่งหนาม เราขอสั่งให้เจ้าจงตื่นขึ้น!”

....................................................