webnovel

0579 ทำความรู้จัก(ปลาย)

ตอนที่ 579 ทำความรู้จัก(ปลาย)

อีเลียกระเด็นกลับหลัง แต่สุดท้ายเธอก็พลิกตัวในอากาศ และร่อนลงบนพื้นได้อย่างปลอดภัย

“เป็นทักษะดาบที่ดี! บ่งบอกชัดเจนว่ากว่าจะได้ครอบครองมัน เจ้าคงผ่านการฝึกปรือมาไม่น้อยเลยทีเดียว” อีเลียกล่าว

สองกริชเริ่มร่ายระบำ พลิกผันไปตามแต่ละนิ้ว ฉากนี้แลคล้ายกับปรากฏผีเสื้อกำลังโบยบินอยู่บนฝ่ามือของเธอ

“คุณยกย่องผมเกินไปแล้ว” กู่ฉิงซานกล่าว

“เอาเถอะ จากนี้ไปข้าจะจริงจังมากขึ้นแล้วนะ บางทีข้าอาจจะยั้งมือไม่ทัน เจ้าจะต้องระมัดระวังตัวให้ดี”

ขณะกล่าว อีเลียก็ก้าวตรงมายังกู่ฉิงซานอย่างช้าๆ

กริชคู่ที่ว่ายวนไปตามนิ้วมือพลันดีดออก และถูกคว้ากุมโดยฝ่ามือของเธออย่างแผ่วเบา

ตามต่อด้วยภาพติดตานับสิบที่ปรากฏขึ้นในอากาศที่ว่างเปล่าใกล้กันกับกริช ลวงหลอกว่าอันไหนจริงอันไหนเท็จ ส่งผลให้มิอาจแยกแยะทิศทางการโจมตีได้

มองไปยังฉากนี้ ในหัวใจของกู่ฉิงซานรู้สึกคันยิบๆ

ตัวตนทรงอำนาจในด้านการใช้กริชคู่ลอบสังหาร ได้ระงับขอบเขตลงมาจนใกล้เคียงกับตนเอง เพื่อทำการแลกเปลี่ยนวรยุทธ นี่นับว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่ง

กู่ฉิงซานก้าวออกมาข้างหน้าและกล่าว

“โปรดชี้แนะด้วย”

อีเลียพอได้ฟัง ก็เผยสีหน้ายิ้มแย้ม

ร่างของเธอบิดผันดั่งสิ่งลวงตา วูบไหวไปข้างหน้าพร้อมกับแสงและเงาอันคมกริบของกริชคู่

กู่ฉิงซานสับดาบสวนออกไป

ฟุบ!

สองกริชโถมเข้าตรึงดาบยาว ระเบิดเสียงเสียดสีจากแรงเสียดทานชวนให้ฟันของผู้ฟังรู้สึกเสียวซ่าน

อีเลียใช้กริชคู่ของเธอตรึงดาบยาวในมือกู่ฉิงซาน ล็อกมันมิให้ขยับเอาไว้อย่างกะทันหัน!

ระหว่างช่วงเวลาเดือดพล่าน ปากของเธอก็อ้าออก และพ่นกริชเล็กๆ พุ่งตรงเข้าใส่ตำแหน่งคอหอยของกู่ฉิงซาน

ติ๊ง!

ดาบพิภพปรากฏออกมาจากในอากาศที่ว่างเปล่า และสับกริชเล็กกระเด็นออกไป

เมื่อเห็นว่าดาบยาวอีกเล่มหยุดกริชบินของตนเองได้ อีเลียก็กลับทันที

กู่ฉิงซานใช้นิ้วเกี่ยวดาบพิภพเอาไว้บนหลังมือของเขา

ดาบคู่ในหนึ่งมือ!

“เชิญชี้แนะอีกสักครั้งจะได้หรือไม่?” เขาเชื้อเชิญ

“ดาบคู่หรือ? มันไม่ง่ายหรอกนะที่จะใช้สองดาบในเวลาเดียวกันน่ะ”

อีเลียมองดาบพิภพและกล่าว

กู่ฉิงซาน “แม้ว่าการใช้สองดาบแบบนี้มันจะกินพลังงานมหาศาล แต่ด้วยจิตที่สื่อถึงกันระหว่างผมกับมัน ทำให้ในเรื่องการใช้งานย่อมไม่มีปัญหาใดๆ”

“ถ้าเช่นนั้นมาดูกัน”

อีเลียสะบัดศีรษะเรียกสมาธิ และเริ่มกระตุ้นความแข็งแกร่งของเธออีกครั้ง

ด้วยความแข็งแกร่งที่เพิ่มพูนขึ้น ส่งผลให้ทั้งความเร็ว และพลังโจมตีด้วยกริชของเธอพุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก

เธอโฉบกายไปเบื้องหน้าพร้อมกับกริชคู่ใจ ปากมิได้เปล่งคำใดอีกต่อไป

คราวนี้ ทั้งสองได้ฟาดฟันเข้าใส่กันและกัน จนเกิดประกายแสงเจิดจ้า แลกเปลี่ยนกระบวนท่าแก่กันและกันไปมากกว่าหนึ่งร้อยครั้ง

จนสุดท้าย เมื่อกู่ฉิงซานสบโอกาสเห็นช่องว่าง เขาก็จ้วงแทงดาบเข้าไปทันที

ดาบที่จ้วงออกมานี้อีเลียจำต้องปัดป้อง เธอจำเป็นที่จะต้องหยุดกระบวนท่าต่อเนื่องของตน เคลื่อนกริชลงไปป้องกันมัน

ตูม!

ดาบยาวสั่นสะเทือน ขณะที่อีเลียถูกส่งปลิวออกไป

“ไม่เลวเลยนี่”

อีเลียพยักหน้า

ด้วยทักษะดาบระดับนี้ คาดว่าสิ่งที่ลอร่ากล่าวว่าเขาปกป้องเธอมาตลอดเส้นทางคงจะเป็นเรื่องจริง

สิ่งสำคัญก็คือ สมควรจะต้องรู้ว่าฝีมือดาบระดับนี้ การจะฝึกจนสำเร็จได้ย่อมมิใช่เรื่องง่ายดาย

การจะสามารถใช้ทักษะดาบระดับสูงเช่นนี้ได้ แน่นอนว่าจะต้องมีสมองอันชาญฉลาด สามารถคิดอ่าน เรียนรู้ได้อย่างว่องไว

เพราะเดิมทีดาบก็เป็นอาวุธที่ทรงประสิทธิภาพอยู่แล้ว ดังนั้นหากสามารถระเบิดพลังที่มีอยู่ในตัวดาบออกมาได้ นั่นย่อมหมายความว่าเขามีพรสวรรค์

อย่างไรก็ตาม กลับเห็นแค่เพียงกู่ฉิงซานที่เก็บดาบของเขากลับคืนและกล่าวว่า “พวกเราควรจะหยุดกันเพียงเท่านี้”

“เจ้าจะไม่สู้ต่อแล้วหรือ?”

กู่ฉิงซานยิ้มอย่างขมขื่น “หากคุณเพิ่มระดับความแข็งแกร่งขึ้นไปอีกขอบเขตหนึ่ง เกรงว่าด้วยทักษะดาบเพียงอย่างเดียวของผมคงไม่อาจจะต่อกรได้ และถ้าการต่อสู้ของพวกเราส่งเสียงดังจนเกินไป เหล่าสัตว์ประหลาดผีจะต้องสังเกตถึงมันได้อย่างแน่นอน”

อีเลียพยักหน้า และเก็บกริชของเธอ

“ในอารยธรรมของโลกผู้ฝึกวรยุทธ ผู้ฝึกยุทธที่เชี่ยวชาญในการใช้ทักษะดาบ จะถูกเรียกกันว่าผู้ฝึกดาบ – เจ้าคือผู้ฝึกดาบใช่หรือไม่?” เธอถาม

กู่ฉิงซานพยักหน้าอย่างเงียบๆ

“ได้ยินมาจากลอร่าว่า เจ้ามาจากโลกกระจัดกระจาย แต่พอข้าได้เห็นทักษะดาบอันยอดเยี่ยมของเจ้า และได้เชยชมกระบวนท่าของมันอย่างลึกซึ้งแล้ว ข้าคิดว่าตัวเองไม่เคยพบเคยเห็นคนที่ใช้มันแบบเจ้ามาก่อนเลย”

เธอย้อนนึก ขณะเดียวกันก็แสดงความคิดเห็น

“ข้ารู้สึกได้ว่าทักษะดาบของเจ้า กำลังถูกกดดันด้วยขอบเขตที่มี มันจึงไม่สามารถสำแดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงออกมาได้อย่างเต็มที่”

“ดูจากสถานการณ์ที่เจ้าต่อสู้กับสัตว์ประหลาดผี เจ้าสามารถควบคุมดาบบินได้ ดังนั้นข้าจึงสันนิษฐานว่าเจ้าคงจะเป็นผู้ฝึกดาบที่สามารถก้าวมาถึงขอบเขตนักดาบนิรันดร์”

“เมื่อครู่ ข้าเพิ่มความแข็งแกร่งของตนเองจนเกือบจะแกร่งกว่าเจ้าถึงสองเท่า แต่เจ้าก็ยังสามารถโค่นข้าลงได้ แม้ว่าจะใช้เพียงทักษะดาบก็ตาม นี่นับว่าน่าอัศจรรย์ใจยิ่ง”

“ด้วยพรสวรรค์และสมองอันชาญฉลาดของเจ้า หากยังมิหยุดก้าวเดิน มุ่งไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ บางทีในอีกหลายร้อยปีต่อจากนี้ เจ้าอาจจะตัดผ่านขอบเขตนักดาบนิรันดร์ ก้าวสู่ขั้นต่อไปก็เป็นได้”

“ดังนั้นมันย่อมไม่ใช่เรื่องเลวร้าย หากลอร่าจะมีสัมพันธ์อันดีกับเจ้า”

ใบหน้าของเธอแสดงออกถึงการยอมรับ และในที่สุดก็กล่าวออกมา

แต่เดิม ปรากฏว่าที่เธอขอแลกเปลี่ยนวรยุทธ ก็เพราะเจ้าตัวมีความคิดที่จะทดสอบความแข็งแกร่งของกู่ฉิงซานนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม เธอไม่อาจทราบได้เลยว่า การที่ฝีมือดาบของกู่ฉิงซานยอดเยี่ยมได้ถึงขนาดนี้ มันเป็นเพราะเขากลับมาจุติใหม่ แถมยังได้รับการสอนสั่งทักษะดาบจากนางเซียนไป่ฮั่วอีกด้วย

ซึ่งในโลกแห่งผู้ฝึกยุทธ นางเซียนไป่ฮั่วน่ะคือหนึ่งในตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุด หากเธอไม่ถูกจำกัดด้วยกฎเกณฑ์ของโลกแห่งผู้ฝึกยุทธแล้วละก็ คงไม่อาจทราบได้เลยว่าเธอจะทะยานขึ้นไปถึงขอบเขตใด

ในอดีต ครั้งหนึ่งนางเซียนไป่ฮั่วได้พิจารณาด้วยเธอเองว่า กู่ฉิงซานจะต้องสามารถก้าวขึ้นสู่นักดาบนิรันดร์ได้

หลังจากที่ออกจากโลกแห่งผู้ฝึกยุทธ กู่ฉิงซานก็ได้เผชิญกับทุกประเภทของการต่อสู้ที่แสนสาหัส และในปรภพ เขาก็ถูกยอมรับจากกษัตริย์อาชูร่า จนได้รับเทคนิคต่อสู้ของอีกฝ่ายมาครอบครอง

ดังนั้น มุมมอง ทักษะ และประสบการณ์ของกู่ฉิงซานจึงเพิ่มพูนขึ้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

หากไม่ถูกจำกัดโดยกฎเกณฑ์ของโลกแห่งผู้ฝึกยุทธ เกรงว่าทักษะดาบของเขาคงจะเหนือล้ำยิ่งกว่านี้ไปมากโขแล้ว

กู่ฉิงซานพอได้ยินคำพิจารณาจากอีเลีย เจ้าตัวก็ตื่นเต้นจนไม่มีเวลาที่จะตอบกลับไปอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว

นั่นเพราะเขาสามารถจับใจความสำคัญบางอย่างได้จากคำพูดของอีกฝ่าย

สีหน้าของกู่ฉิงซานกลายเป็นเคร่งขรึม เขาประสานหนึ่งกำปั้นหนึ่งฝ่ามือแก่อีกฝ่าย ขอคำปรึกษาอย่างเป็นเรื่องเป็นราว “เมื่อครู่นี้ คุณบอกว่านอกเหนือไปจากนักดาบนิรันดร์แล้ว มันยังมีขอบเขตต่อไปอีกใช่หรือไม่?”

อีเลียพยักหน้า

“เช่นนั้นใคร่ขอรบกวนถาม ว่าขอบเขตที่อยู่เหนือยิ่งกว่านักดาบนิรันดร์คืออะไร?”

“มันยังเร็วเกินไปสำหรับเจ้า ที่จะเอ่ยถามถึงเรื่องนี้” อีเลียส่ายหัวและกล่าว

“แต่สิ่งที่ข้าสามารถบอกเจ้าได้ก็คือ ทักษะดาบของเจ้ากำลังถูกจำกัดด้วยขอบเขตของตนเอง ทำให้มิอาจสำแดงพลังของดาบบินออกมาโดยสมบูรณ์ได้”

“เฝ้ารอให้สักวันหนึ่ง เมื่อเจ้าสามารถสำแดงพลังของดาบบินได้ถึง2เท่าเมื่อไหร่ ตัวเจ้าก็จะปลดเปลื้องจากพันธะ เมื่อถึงเวลานั้นทักษะดาบของเจ้าก็จะก้าวไปอีกระดับหนึ่งเอง”

“ก้าวไปอีกระดับหนึ่ง…”

“ถูกต้อง ขอให้เข้าใจว่ามันเป็นการปลดเปลื้องพันธะไปก่อนก็แล้วกัน อ้ออีกอย่าง เพื่อที่เจ้าจะได้สามารถสำแดงพลังของดาบบินได้อย่างเต็มที่ เจ้าสมควรเริ่มคิดได้แล้วนะว่าจะบรรจบพลังของมันได้อย่างไร”

“บรรจบพลัง? ทำไมถึงต้องบรรจบด้วย?” กู่ฉิงซานถามด้วยความสงสัย

อีเลียกล่าวอย่างช้าๆ “เอาอย่างนี้ดีกว่า ข้าจะขอถามเจ้า และเจ้าก็คิดตามนะ ค่ายกลดาบที่เจ้าใช้สังหารกองทัพสัตว์ประหลาดผี มันแข็งแกร่งหรือไม่?”

“แน่นอน อันที่จริงแล้วค่ายกลดาบนั่นคือสกิลดาบที่แข็งแกร่งที่สุดของผม” กู่ฉิงซานสารภาพ

“ลองคิดเกี่ยวกับมันด้วยตัวเจ้าเองให้ดี ว่าถ้าหากเจ้าสามารถรวบรวมค่ายกลดาบที่กระจัดกระจาย นำอำนาจของมันมาบรรจบกัน แล้วระเบิดโจมตีออกไปในดาบเดียวมันจะส่งผลอย่างไร?”

กู่ฉิงซานตกตะลึง

เขาไม่เคยได้ยิน หรือไม่คิดถึงสิ่งที่ว่ามานี้มาก่อนเลย

หลังจากที่ตนประสบความสำเร็จในฐานะนักดาบนิรันดร์ ก็ไม่เคยมีใครสามารถสอนสั่งอะไรเข้าได้อีกเลย

ทั้งหมด เขาต้องเป็นคนคลำหาหนทางด้วยตนเอง

แต่ตอนนี้ ใครบางคนที่อยู่ข้างๆ กลับสามารถปูแนวคิดใหม่เกี่ยวกับทักษะดาบแก่เขาได้

หากค่ายกลดาบไท่หยีที่รุนแรงกว่าสามสิบหกเท่า กลายเป็นดาบเดียว…

หลังจากที่ได้ลองคิดตริตรอง สีหน้าของกู่ฉิงซานก็ค่อยๆเปลี่ยนไป

“ถ้าเป็นในกรณีที่ว่านั่น…ดาบของผมคงไร้ผู้ต้าน และไม่มีสิ่งใดที่มิอาจฟาดฟันได้ …”

กู่ฉิงซานบ่นงึมงำ

“ถูกต้อง แต่การจะบรรจบพลังน่ะเป็นเรื่องยากเย็นยิ่ง เอาไว้เจ้าสามารถปลดพันธะและใช้มันได้อย่างอิสระเมื่อไหร่ ทักษะดาบอันยอดเยี่ยมของเจ้าก็จะสมบูรณ์ และหลุดพ้นออกจากขอบเขตนักดาบนิรันดร์ได้เอง!” อีเลียกล่าว

กู่ฉิงซานพอได้ยินถ้อยคำดังกล่าว ทั้งคนทั้งร่างของเขาราวกับได้ตรัสรู้ถึงสิ่งใหม่

เขาประสานกำปั้นไปทางอีกฝ่าย กล่าวด้วยความจริงใจ “ขอบพระคุณสำหรับคำแนะนำ ผมจะจดจำความเมตตาของคุณในครั้งนี้เอาไว้”

“เจ้าไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก เพราะท้ายที่สุดนี้ เจ้าเป็นคนช่วยชีวิตลอร่าเอาไว้ นั่นเท่ากับเป็นการช่วยพวกเราอาณาจักรหนาม ข้าเพียงใช้คำพูดเป็นของขวัญตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ก็เท่านั้นเอง”

“อีกอย่าง ถ้อยคำเหล่านี้ก็มิได้มาจากตัวข้า หากแต่เป็นคำจากเมื่อหนึ่งพันปีก่อน ที่สหายผู้ใช้ดาบของข้าเคยกล่าวมันออกมา”

“ผมขอถามจะได้ไหมว่าสหายของคุณคือ...”

“เขาอยู่ในดินแดนชิงอำนาจ ที่นั่นคือเขตสงครามของเหล่าผู้แข็งแกร่งตลอดทั้งหมื่นโลกา ที่มุ่งหมายจะเป็นจ้าวโลก เป็นศูนย์รวมมืออาชีพอันหลากหลาย แวะเวียนเปลี่ยนผัน และในครั้งอดีต แบรี่กับเสี่ยวเหมียวก็จากมาจากดินแดนแห่งนั้นเช่นนั้น จนในที่สุดก็กลายเป็นตัวตนทรงอำนาจที่แสนโดดเด่นอย่างในปัจจุบันนี้”

“หลังจากนี้หากเจ้ามีเวลาว่างเว้น เจ้าสามารถไปต่อสู้และฝึกปรือที่นั่นได้ ขอรับประกันว่าความแข็งแกร่งของเจ้าจะเพิ่มพูนขึ้นอย่างแน่นอน”

อีเลียอธิบายจนจบ

ตอนนี้เธอได้ยอมรับอีกฝ่ายแล้ว และกำลังเฝ้ารอให้กู่ฉิงซานลองคิดทบทวน กลั่นกรองข้อมูลใหม่ให้มันชัดเจน

“ฟังดูมีเหตุผล...”

กู่ฉิงซานพยักหน้าเห็นด้วย

....................................................