webnovel

0481 โปรดเลือกด้วย

ตอนที่ 481 โปรดเลือกด้วย

ดวงตาของชายชรากลายเป็นแหลมคมขึ้นทันใด นิ้วทั้งสิบถูกยกพนมราวกับว่าเขากำลังเตรียมพร้อม ที่จะทำบางสิ่งบางอย่าง

แต่หลังจากที่เขาได้เห็นตราประทับโลหะอย่างชัดเจน ชายชราก็ชะงักไป

สิบนิ้วที่วูบไหวของเขาก็นิ่งไปเช่นกัน

“แปลกนัก เจ้ามีสิ่งที่แสดงตนถึงผู้พิทักษ์หอสูงของเราได้อย่างไรกัน”

ชายชราเอ่ยพึมพำ

เขามองไปยังกู่ฉิงซานด้วยความสับสน

ขณะที่สายตาของกู่ฉิงซานจับจ้องอยู่แต่กับตราประทับ และค่อยๆ ย้อนนึกไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในระหว่างทางไปยังปรภพ

เขาอธิบาย “พอดีว่าข้าได้ช่วยชีวิตคนผู้หนึ่งเอาไว้ ไม่สิ หากจะเรียกว่าช่วยชีวิตก็คงจะไม่ถูกนัก และชายคนนั้นก็ได้มอบตราประทับนี่มาให้เป็นการตอบแทน”

จะเรียกว่าช่วยชีวิตก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะภายในถ้ำมืด สุดท้ายแล้วชายคนนั้นก็ตายอยู่ดี

แต่มองจากลักษณะท่าทีที่เขาแสดงออกมาหลังตาย มันกลับดูมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง

ดูเหมือนว่าเขาจะมีร่างกายสำรองเตรียมไว้อยู่แล้วในอีกโลกหนึ่ง

ชายชราพอได้ฟังคำกล่าวของกู่ฉิงซาน เขาก็สับสนกว่าเดิม

ชายชราหยิบตราประทับของตนออกมา และยื่นมันไปทางกู่ฉิงซาน

“จงดูนี่ นี่คือตราประทับของข้า มันเหมือนกับตราของเจ้าทุกประการเลย ดังนั้นหากข้าอยากจะขอตรวจสอบ ตราประทับของเจ้าได้หรือไม่?”

กู่ฉิงซานมองดูตราของอีกฝ่าย และพบว่ามันเหมือนกันกับของเขาทุกประการ

ตามตรรกะนี้คงจะกล่าวได้ว่าในเวลานั้น ผู้ชายที่เขาได้พบเจอสมควรจะเป็นคนของผู้พิทักษ์หอสูง

กู่ฉิงซานกล่าว “เชิญทำตามที่ท่านต้องการ”

“ขอบคุณ”

ชายชราจึงหยิบตราประทับของกู่ฉิงซานมา และวางไว้ภายใต้แสงไฟเพื่อทำการตรวจสอบมันอย่างจริงจัง

“ล้างมลทินเผยความจริง” ปากเปล่งเสียงกระซิบ

ว่าจบสะเก็ดเปลวไฟก็สาดลงมา และห่อหุ้มตรานั้นเอาไว้

หลังจากการระเบิดของเปลวไฟ มันก็ลุกท่วมอย่างรุนแรงก่อนจะกระจัดกระจายหายไป

แต่ตราประทับกลับตรงกันข้าม มันยังคงถูกปกคลุมไปด้วยแสงสว่างสว่างไสวท่ามกลางความมืดมิด และไร้ซึ่งรอยขีดข่วนใดๆ

“นี่เป็นของแท้อย่างแน่นอน”

ขณะกล่าวน้ำเสียงของชายชราก็กลายเป็นจริงจังมากขึ้น

อีกฝ่ายสามารถได้รับตรานี้มา นั่นหมายความว่าเขาคือผู้มีพระคุณของสมาคมจริงๆ และตนเองก็ดันกระทำ การไม่สุภาพอย่างการขอตรวจสอบอีกฝ่ายไปซะได้

เมื่อคิดถึงจุดนี้ ชายชราก็โน้มกายลง กล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ข้าใคร่ขอเรียนถามจะได้หรือไม่ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น? หากเจ้าเต็มใจที่จะบอกถึงที่มาของตราประทับนี้ ข้าก็ยินดีที่จะตอบแทน”

แต่ในเวลานั้นเอง ชายหนุ่มคนหนึ่งก็ได้วิ่งลงมาจากบันไดของหอคอยสูง

“ท่านอาจารย์แขกทุกคนได้มาถึงแล้ว และก็ถึงเวลาเดินเรือก็เช่นกัน” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างเร่งรีบ

“เจ้าขึ้นไปก่อน แล้วจงบอกให้พวกเขารอต่อไป” ชายชราเอ่ยรวบรัด

เด็กหนุ่มมองไปยังชายชรา ก่อนจะสลับไปมองกู่ฉิงซาน ในเมื่อไม่รู้ว่าตนสมควรจะทำอย่างไรดี เขาจึงหันหัวเดินจากไป

ขณะเดียวกัน กู่ฉิงซานก็อาศัยช่วงเวลานี้นึกย้อนความสักเล็กน้อย

ในช่วงเวลานั้นเขาได้ช่วยคนผู้หนึ่งเอาไว้ และมองจากทัศนคติที่ชายชราผู้นี้แสดงออกมา ดูเหมือนว่าการบอกเล่าถึงช่วงเวลาดังกล่าวมันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

กู่ฉิงซานเรียบเรียงคำพูดและเริ่มเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

ชายชรารับฟัง และมองไปที่ตราประทับโลหะอีกครั้ง

“เท่านี้ก็ยืนยันเรียบร้อย” เขากล่าว

สิ้นเสียง ตราประทับโลหะก็สาดแสงจางๆ ออกมา และเข้าปกคลุมกู่ฉิงซานทันที

ชายชรายิ้มและพยักหน้าเล็กน้อย

เขาส่งตราประทับคืนให้แก่กู่ฉิงซาน

“กลับกลายเป็นว่าเจ้าคือผู้มีพระคุณของสมาคมเรา”

ขณะกล่าว ชายชราก็เอื้อมมือไปในอากาศที่ว่างเปล่า

พร้อมกับชั้นวางหนังสือเล็กๆ ที่ผุดออกมาจากอากาศอันบางเบา

เห็นแค่เพียงหนังสือสามเล่มบนชั้นวางนี้

ปกของหนังสือทั้งสาม มีสีแดง เหลือง และน้ำเงินตามลำดับ

“โลกหกวิถีนั้นมีความพิเศษเป็นอย่างยิ่งและภายในถ้ำมืดนั้น ก็เป็นสถานที่ที่ควรค่าแก่การสำรวจเป็นอย่างมาก มันได้แสดงให้พวกเราเห็นถึงความลึกลับของโลกหกวิถีที่มีโครงสร้างวงจรอันน่าทึ่ง” ชายชรากล่าวด้วยความสุข

“เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอสุรกายประเภทอาวุธ นักวิชาการของสมาคมเรา แม้ว่าจะฉลาดและมีปัญญาเกินกว่า คนธรรมดาทั่วไป แต่เขาก็ยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่เปราะบางดังนั้นพวกเราจึงหวาดกลัวอยู่เสมอว่าจิตวิญญาณของพวกเขา จะถูกลักพาตัวไป”

“อย่างไรก็ตาม เจ้าได้ช่วยเหลือจิตวิญญาณของนักวิชาการเอาไว้ นี่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่น่ายินดียิ่ง”

ขณะกล่าว ชายชราก็ผลักชั้นวางหนังสือขนาดเล็กให้ลอยมาหยุดอยู่ด้านหน้าของกู่ฉิงซาน

“จงเลือกหนังสือจากหนึ่งในสามบนชั้นวางนี้ นี่คือรางวัลจากข้า สำหรับการกระทำอันกล้าหาญของเจ้า”

กู่ฉิงซานจ้องมองดูหนังสือทั้งสาม

และพบว่าหนังสือทั้งสามมันไม่มีอะไรเป็นพิเศษเลย ทั้งหมดดูหนาเหมือนๆ กัน มีเพียงตรงปกที่แตกต่าง

“รางวัลนี่คงจะมากเกินไป ข้าแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย” เขาจึงกล่าวปฏิเสธ

“มันไม่สำคัญหรอก โปรดเลือกหนึ่งในนั้นเถอะ เจ้าเป็นสหายของผู้พิทักษ์หอคอยสูงของเรา ดังนั้นหากเจ้าเกรงใจมากเกินไป มันจะกลายเป็นทางเราที่รู้สึกอึดอัดนะ” ชายชราหัวเราะออกมา

กู่ฉิงซานจึงไม่เอ่ยปฏิเสธอีกต่อไป เขาถามว่า “แต่ข้าไม่ทราบเลยว่าหนังสือทั้งสามเล่มนี้มีไว้เพื่ออะไร”

“ขออนุญาตเอ่ยถาม ข้าสังเกตเห็นว่ากลิ่นอายสังหารของเจ้าไม่ธรรมดา เจ้าสมควรที่จะสังหารวิญญาณ ของสิ่งมีชีวิตไปมากกว่าพันล้านตนใช่หรือไม่” ชายชราเอ่ยอย่างระมัดระวัง

“ใช่” กู่ฉิงซานพยักหน้าตอบ

ในนรกพวกคนตายมันไม่เชื่อฟัง เขาจึงลงมือเชือดไก่ให้ลิงดูโดยการล้างบางคนชั่วทั้งหมดในนรกเกือบทั้งชั้นนั้น

เมื่อชายชราเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงสงบ น้ำเสียงของเขาจึงผ่อนคลายลง “หนังสือปกแดงได้บันทึกสกิลเทวะบางส่วน ที่มีชื่อเสียงสั่นสะท้านจากตลอดทั้งสามร้อยล้านโลกเอาไว้ หากเจ้าต้องการ ก็สามารถเลือกหยิบหนังสือเล่มนี้ไปได้เลย”

กู่ฉิงซานมองดูหนังสือที่มีปกแดง

เขาขบคิดเกี่ยวกับมัน ก่อนจะเบนสายตาไปมองหนังสืออีกสองเล่ม

หากหนังสือทั้งสามนี้วางอยู่เคียงข้างกัน ดังนั้นอีกสองเล่มก็ไม่สมควรที่จะเลวร้ายเกินไป

เมื่อชายชราสังเกตเห็นสายตาของอีกฝ่าย เขาก็เข้าใจทันที

เขาชี้ไปยังหนังสือปกเหลืองและกล่าวแนะนำว่า “นี่คือหนังสือสำหรับท่องเที่ยวไปทั่วหมื่นโลกา ข้าสังเกตเห็นว่าเจ้าเดินทางมาคนเดียว ไม่ทราบว่าเจ้ามีแฟนหรือไม่? หากไม่มีหรือเธอยังไม่ได้มาเที่ยวด้วยกันกับเจ้า หนังสือปกเหลืองเล่มนี้นับว่าเหมาะสมยิ่งนัก”

“เพราะเหตุใด มันเป็นหนังสืออัญเชิญอย่างนั้นหรือ?” กู่ฉิงซานเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ก็ไม่เชิงซะทีเดียว หนังสือเล่มนี้จะบันทึกข้อมูลติดต่อกับเหล่าสาวงาม เจ้าสามารถเรียกพวกเธอมาเป็นพันธมิตร ได้ในช่วงเวลาหนึ่ง เรียกให้มาสนทนาท่องเที่ยวและต่อสู้ไปด้วยกันหรือทำเรื่องอื่นๆ ที่มันน่าสนใจ แน่นอนว่าเรื่องพวกนี้ มันต้องจ่ายเงินล่วงหน้าแล้ว เพื่อที่จะได้ไม่มีข้อพิพาททางการเงินในภายหลัง”

“หญิงสาวที่งดงามโดดเด่นกว่าเก้าสิบเจ็ดคน พวกเธอมักจะเดินทางไปมาระหว่างโลกทั้งหกร้อยล้านชั้น ขณะที่ในแต่ละชั้นก็มีฐานแฟนคลับนับไม่ถ้วน และทุกคนต่างก็กระหายที่จะได้พบเห็นถึงใบหน้าอันงดงามของพวกเธอ”

“หญิงสาวทั้งหมดนี้ ได้ลงนามในสัญญากับหอสูงของพวกเราแล้ว และพวกเธอก็ยินดีที่จะ ร่วมก้าวไปกับแขกของเรา ท่ามกลางการเดินทางอันแสนวิเศษ” ชายชรากล่าวอย่างภาคภูมิ

กู่ฉิงซานฟังชายชราสาธยายเพียงช่วงต้นๆ แล้วสายตาของเขาก็เบนไปมองหนังสือเล่มสุดท้าย

มันคือหนังสือปกน้ำเงิน

เมื่อชายชราเห็นดังนั้น เขาจึงแนะนำออกมา “ในส่วนของหนังสือปกน้ำเงิน มันเหมาะสำหรับใช้ในการสื่อสาร”

“การสื่อสารอย่างนั้นหรือ?”

“ใช่ ข้าคิดว่าเจ้าคงจะรู้แค่เพียงภาษามนุษย์ภาษาเดียวล่ะสิใช่ไหม? ดังนั้นทางเราจึงได้เขียน คู่มือฉบับสากลนี้ขึ้น”

“ตราบใดที่เจ้าถือมันไว้ มันจะทำการแปลทุกภาษาที่พวกเรารู้จัก ในปัจจุบันมีภาษามากมายในโลกทั้งเก้าร้อยล้านชั้น แต่เจ้าจะใช้เวลาเพียงหนึ่งร้อยลมหายใจเท่านั้นในการเรียนรู้ทุกๆ ภาษานับพันล้านที่มี”

“ข้าก็ได้แนะนำถึงประโยชน์ของทั้งสามแล้ว ฉะนั้นกรุณาเลือกพวกมันจากหนึ่งในสามด้วย” ชายชรากล่าว ในท้ายที่สุด

กู่ฉิงซานจ้องมองหนังสือทั้งสามเล่ม

และทันใดนั้นเองเขาก็นึกย้อนไปถึงตนเองขณะอยู่ด้านหน้าประภาคาร และได้ยินถึงหลากหลายภาษาจากฝูงชน ที่คอยเฝ้ามองอยู่ด้านนอก

ไม่มีประโยคใดเลยที่เขาสามารถเข้าใจมันได้

เมื่อคิดถึงจุดนี้ กู่ฉิงซานก็ไม่ลังเลเลยที่จะดึงหนังสือปกสีน้ำเงินออกมา

“ขอบคุณสำหรับความเมตตา ข้าขอรับหนังสือเล่มนี้เอาไว้ก็แล้วกัน” กู่ฉิงซานกล่าวขอบคุณอย่างสุภาพ

ทันทีที่คว้าจับหนังสือเล่มนี้ กู่ฉิงซานก็ได้ยินเสียงกระซิบออกมาจากหนังสือทันที

หลังจากที่กู่ฉิงซานตั้งใจฟังสักครู่ เขาก็สามารถเข้าใจถึงภาษาใหม่นับสิบได้เองโดยธรรมชาติ

“นี่มันช่างน่าทึ่งยิ่งนัก” กู่ฉิงซานบ่นงึมงำ

ชายชราที่กำลังเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลง ในวิสัยทัศน์ของเขาได้เผยให้เห็นถึงความชื่นชมออกมา

“เหตุใดเจ้าจึงไม่เลือกอีกสองเล่มที่เหลือล่ะ?” เขาเอ่ยถาม

“เพราะการสื่อสารเรื่องที่ยากเย็นที่สุดสำหรับมนุษย์หลายครั้ง ตราบใดที่เราสามารถเข้าใจกันและกันได้ เรื่องยากมันอาจจะกลายเป็นเพียงเรื่องง่ายๆ ไปเลยก็ได้” กู่ฉิงซานกล่าว

ชายชราพยักหน้าและกล่าวว่า “อันที่จริงแล้ว หนังสือปกน้ำเงินเล่มนี้เป็นสิ่งประดิษฐ์อันยิ่งใหญ่ ที่เหล่าบรรดานักวิชาการหอสูงของพวกเราเฝ้าพยายามเรียบเรียงมันขึ้นมาจนสุดท้ายก็เสร็จสมบูรณ์”

“หนังสือคู่มือนี้ ภายนอกมันเป็นสิ่งล้ำค่ายิ่ง มันสามารถช่วยให้เข้าใจภาษาของตลอดทั้งหมื่นโลกาได้ สามารถซื้อหนึ่งชั้นโลกได้อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน หนังสือเล่มนี้จะจำกัดคนใช้เพียงหนึ่งเท่านั้น”

กู่ฉิงซานสะดุ้งโหยง เขาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกมา “มันแพงถึงเพียงนั้นเชียว?”

มีค่าเทียบเท่ากับหนึ่งชั้นโลก...

ต้องไม่ลืมนะว่า ในหนึ่งชั้นโลกน่ะมีโลกนับล้านล้านอยู่ภายใน...

ชายชรากล่าวอย่างภาคภูมิใจ “เป็นตามที่เจ้ากล่าวมา หลังจากที่ตัวตนทรงอำนาจได้ออกจากโลกของตนเองแล้ว พวกเขาก็จะค้นพบว่าภาษานั้นมีความสำคัญยิ่ง”

“การที่พวกเขาและคนอื่นๆ ไม่สามารถพูดคุยกันได้ มันเป็นอะไรที่เจ็บปวดที่สุด”

“ในแต่ละชั้นโลก หรือแม้กระทั่งในโลกมิติอนันต์ มีชั้นหนังสือภาษาขายอยู่ก็จริง แต่ข้าอยากจะบอกว่ามันก็เป็น หนังสือปกน้ำเงินของทางผู้พิทักษ์หอสูงของพวกเรานี่แหละที่ที่ดีที่สุด!”

กู่ฉิงซานกล่าว “แถมยังมีราคาแพงที่สุดอีกด้วยสินะ”

ชายชราหัวเราะ “สินค้ายิ่งล้ำค่ามันก็ยิ่งแพง นี่มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว”

กู่ฉิงซานยิ้ม

ขณะที่ในความเป็นจริงแล้ว เขากำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องอื่นอยู่

สมาคมผู้พิทักษ์หอสูง สามารถรวบรวมภาษาต่างๆ ของทั้งโลกนับล้านได้ นี่พอจะบ่งบอกว่า พวกเขาทรงประสิทธิภาพเพียงใด

หากเทียบเปรียบกันในเรื่องนี้ นี่มิกล่าวได้ว่าพวกเขานั้นไร้เทียมทานหรอกหรือ?

เมื่อเห็นว่ากู่ฉิงซานได้ทำการเลือกที่จะเข้าใจถึงภาษาของทั้งหมื่นโลกาแล้ว ชายชราก็เก็บหนังสือ อีกสองเล่มกลับคืน

เขาเดินนำกู่ฉิงซานขึ้นบันไดของหอสูง จนกระทั่งมาถึงยอดสุดของหอคอย

สถานที่แห่งนี้กว้างขวาง คุณสามารถเห็นได้ตลอดทั้งท้องทะเลและท้องฟ้า

ขณะที่ผู้โดยสารสามคนกำลังรออยู่ที่นี่อยู่แล้ว

ในขณะนั้นเอง เมื่อเห็นว่ามีผู้โดยสารใหม่ปรากฏตัวขึ้นมา สามผู้โดยสารที่เหลือก็อดไม่ได้ที่จะหันมามองดู

“ท่านอาจารย์ เวลาได้ล่วงเลยกว่ากำหนดไปแล้ว” ชายหนุ่มที่เดินออกมาจากอีกด้านหนึ่งเปล่งเสียงออกมา

“มันไม่สำคัญหรอก จงทำลายโลกใบนี้ซะ”

“ขอรับ”

แล้วชายหนุ่มก็คว้าระเบิดออกมาทันใด

เขาชักสลักระเบิดออกและโยนมันลงไปในทะเลอันกว้างใหญ่

ชายหนุ่มก้มลงมองดูนาฬิกาพกของเขา

“โลกกำลังจะถูกทำลายในอีกหนึ่งร้อยลมหายใจต่อจากนี้”

เขารายงาน

“เอาล่ะ เช่นนั้นพวกเราก็สมควรจะเริ่มออกเรือได้แล้ว เจ้าจงไปเตรียมตัวซะ”

“ขอรับ”

ชายหนุ่มขานรับและเดินจากไป

ชายชราหันไปโค้งกายให้กับกู่ฉิงซานและกล่าว “จากนี้ไปข้าคงจะยุ่งๆ แต่ทว่าเจ้ามีตราของเรา ในอนาคตเจ้าจะเป็นแขกผู้มีเกียรติของเรา ดังนั้นหลังจากที่ขึ้นเรือแล้วก็ขอให้เจ้าจงเพลิดเพลินไปกับสิทธิพิเศษต่างๆ บนเรืออย่างเต็มที่”

…………………………………..........