webnovel

0307 สำเร็จการศึกษา

ตอนที่ 307 สำเร็จการศึกษา 

เย่เฟย์หยูแปะเลนส์สีดำเงาลงบนดวงตา และเห็นแค่เพียงคนแปลกหน้าที่สะท้อนอยู่ในกระจกรถ 

แต่นั่นมันเป็นเพราะผลจากน้ำยาตัดแต่งพันธุกรรม และมันไม่ใช่ประเด็นสำคัญ 

ที่สำคัญก็คือ ม่านตาของเขาได้กลายเป็นสีดำแล้ว! 

เสียงของกู่ฉิงซานดังขึ้นข้างๆ “ถ้านายเบื่อสีดำ เราสามารถเปลี่ยนมันเป็นสีอื่น เช่นสีฟ้า หรืออะไรทำนองนั้นก็ได้นะ” 

เย่เฟย์หยูยิ้ม ยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวๆ 

หลังจากที่กลายมาเป็นผีดิบนักฆ่า เขาไม่คิดเลยว่าตัวเองจะสามารถยิ้มอย่างมีความสุขแบบนี้ได้อีกครั้ง 

… 

รถเหินเวหามาถึงปลายทางแล้ว 

ทั้งสองลงจากรถแล้วก็พบกับคนรู้จักที่คุ้นเคย 

ถงถง 

เด็กสาวผู้งดงามถงถง ที่ครั้งหนึ่งเคยได้ร่วมงานกับพวกเขา สังหารแชมป์เปียนส์แห่งชีวิตนิรันร์หลิวชีหมาน 

เธอคือนักฆ่าในสมาคมนักล่า จัดอันดับอยู่ที่ สิบเอ็ด 

“มิสเตอร์กู่ มิสเตอร์เย่ โปรดเชิญทางนี้” ถงถงกล่าวด้วยรอยยิ้ม 

“โอเค ขอบคุณนะสำหรับเรื่องในครั้งที่แล้วนะ” กู่ฉิงซานกล่าว 

“ตรงกันข้ามเลย ฉันกลับรู้สึกเป็นเกียรติด้วยซ้ำที่ได้ร่วมมือกับพวกคุณทั้งสอง” ถงถงหัวเราะ 

การแสดงออกของเธอ ราวกับว่าได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ครั้งสำคัญอันยิ่งใหญ่ 

หลังจากที่ทั้งสามทักทายกันเสร็จแล้ว ภายใต้คำแนะนำของถงถง ทั้งสามก็เดินมุ่งตรงไปยังข้างหน้า 

“แล้วพวกเราจะไปที่ไหนกันล่ะเนี่ย” เย่เฟย์หยูถามออกไปเสียงดัง 

“มิสเตอร์เย่ คุณจะต้องเข้าไปในตลาดมืดใต้ดิน แล้วทำการศึกษาเรียนรู้กฎขั้นพื้นฐาน และทักษะในการอยู่รอด” ถงถงกล่าว พลางหันไปทักทายชายผิวดำที่พึ่งมาถึง 

ทั้งสองสนทนากันหลายคำ ก่อนที่คนผิวดำจะโบกมือให้กับเย่เฟย์หยู 

“โอเค” เย่เฟย์หยูถอนหายใจอย่างหมดหนทาง และเดินตามชายผิวดำไป 

“แล้วฉันล่ะ? ฉันไม่ต้องไปด้วยเหรอ?” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม 

“คุณต้องมากับฉัน” ถงถงกล่าว 

พวกเขาเดินไปอีกสักพักก็มาถึงประตูบานหนึ่ง 

ถงถงหยุดและหันมายิ้ม “มิสเตอร์กู่พวกเราได้มาถึงแล้ว” 

“ที่นี่มันคือที่ไหนกัน?” กู่ฉิงซานเงยหน้ามองขึ้นไป 

บนหน้าประตู มีบรรทัดตัวอักษรถูกเขียนเอาไว้อยู่ว่า 

“สถาบันการแสดงประจำเมืองหลวง” 

กู่ฉิงซานบ่นงึมงำ “แต่เดิม เธอก็เป็นนักแสดงอยู่แล้วนี่เอง” 

“นี่คือทักษะพื้นฐานที่เป็นสิ่งสำคัญมาก” ถงถงกล่าวเฉียบขาด 

แล้วทั้งสองก็ก้าวเข้าสู่ประตูสถาบัน 

กู่ฉิงซานได้เข้าร่วมชั้นเรียนกับสถาบันการศิลปะการแสดงอันดับหนึ่งจากในบรรดาทั้งหมดในเมืองหลวง 

เขาใช้เวลาตลอดทั้งช่วงเช้า ถูกดุด่าอย่างกับสุนัข 

ตอนพักกินอาหารในยามเที่ยง ซางหยิงฮ่าวก็มาหาเขา 

“ไม่ต้องกังวลไป ศึกษาเรียนรู้มันไปอย่างช้าๆ นั่นแหละดี เพราะนายจะต้องเรียนรู้ที่จะเล่นเป็นคนอื่น นายจะต้องตระหนักว่าเขาคือนาย และนายคือเขา” ซางหยิงฮ่าวกล่าว 

กู่ฉิงซานนั่งฟัง ขณะที่มือยังคงตักข้าวกินอย่างเงียบๆ 

แต่แล้ว พอกินข้าวไปได้เพียงครึ่งจาน จู่เขาก็พลันนึกได้ถึงบางสิ่งและโพล่งถามออกมา “มีดาราหนังมากหรือเปล่า ที่จบจากที่นี่?” 

“ก็ตราบใดที่คนคนนั้นมีชื่อเสียงยิ่งใหญ่ในธุรกิจการแสดง พื้นเพล้วนจบการศึกษาจากที่นี่กันทั้งนั้น” ซางหยิงฮ่าวกล่าว

กู่ฉิงซานเค้นสมองคิดอย่างรอบคอบ แล้วก็พลันนึกได้ถึงเรื่องบางอย่างขึ้น 

พอกินอาหารอีกครึ่งจานจนหมด เขาก็เตรียมจะเดินจากไปในทันที 

“นั่นนายจะไปไหน?” ซางหยิงฮ่าวเอ่ยถาม 

“ว่าจะลองไปดูที่ห้องจัดแสดงเกียรติยศน่ะ” กู่ฉิงซานตอบ 

“อ๋อ ใช่ที่เก็บอุปกรณ์ที่ถูกใช้งานโดยเหล่าดารา นักแสดงที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์หลายๆ คนใช่ไหม มันคุ้มค่าที่จะไปดูนะ” ซางหยิงฮ่าวกล่าวอย่างฉับพลัน 

“ใช่…มันคุ้มค่าที่จะไปดูจริงๆ” กู่ฉิงซานกล่าว 

บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม ปรากฏบรรทัดตัวอักษรขึ้นมาเส้นหนึ่ง 

“จ่ายสามร้อยแต้มพลังวิญญาณ แต้มพลังวิญญาณคงเหลือ ห้าพันสามร้อยส่วนสามร้อย” 

ตลอดช่วงบ่าย กู่ฉิงซานสามารถผ่านการทดสอบการแสดงทั้งหมดได้อย่างยอดเยี่ยม มีประสิทธิภาพสุดๆ แตกต่างจากในช่วงเช้าราวกับเป็นคนละคน 

ในตอนเย็น เขาก็กลับไปยังวิลล่าบนภูเขา 

“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย!” ซางหยิงฮ่าวอุทานออกมา 

“นายไม่ได้โกงใช่ไหม?” เย่เฟย์หยูกล่าว 

“พรสวรรค์ต่างหาก” กู่ฉิงซานพูดอย่างหน้าไม่อาย 

“แต่ในเมื่อนายจบการศึกษาแล้ว นายจะไปเล่นสวมบทเป็นคนคนนั้นทันทีเลยรึเปล่า?” ซางหยิงฮ่าวถาม 

“ไม่ล่ะ ฉันตั้งใจที่จะอยู่ที่นี่อีกสักพักหนึ่ง” กู่ฉิงซานตอบ 

“ทำไมล่ะ?” 

“แค่รู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อยน่ะ” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างผิดธรรมชาติ 

รถเหินเวหาส่งของได้ร่อนลงมา 

จากนั้น แม้จะมืดแล้ว แต่ภายนอกวิลล่าก็ยังมีแสงไฟสลัวสาดเข้ามา 

เหลียวฮังคาบบุหรี่อยู่ในปาก เขากำลังนั่งยองๆ อยู่บนพื้น และเผากระดาษเงินที่พึ่งสั่งซื้อมา 

“ไว้ทุกข์ให้กับคนในครอบครัวอย่างงั้นเหรอ?” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม

“เปล่าหรอก เพื่อนเก่าที่ชื่อว่าถังจุนน่ะ” เหลียวฮังกล่าว 

“ชื่อนี้ฟังดูคุ้นหูมากจริงๆ น่าจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ใช่ไหม” เย่เฟย์หยูถาม 

“ใช่ เขาทำการวิจัยทางพันธุกรรม ส่วนฉันศึกษาฟิสิกส์เคมี ในทางวิชาการแล้วพวกเราไม่ได้แข่งขันกัน สุดท้ายเลยค่อยๆ กลายมาเป็นสหายกันในที่สุด” 

เหลียวฮัง โยนกระดาษลงเผา และลุกขึ้นตบๆ ขี้เถ้าตามเสื้อของตน “ในช่วงที่ฉันถูกไล่ล่าโดยเก้าตระกูลใหญ่ ก็โชคดีที่เขาได้ช่วยไว้ เลยสามารถเล่นละครแกล้งตายแล้วหนีรอดมาได้” 

หลายคนตบเบาๆ ลงบนไหล่ของเขา แสดงท่าทีว่าเสียใจด้วยนะ

ในคืนนั้น เหลียวฮังดื่มจนเมามาย 

หลังจากมื้ออาหารเย็น กู่ฉิงซานก็กลับมาที่ห้องของเขา 

แล้วก็พบกับกระเป๋าเดินทางสีดำ ที่กำลังวางอยู่บนโต๊ะอย่างเงียบๆ 

“ใต้เท้า น้ำยาตัดแต่งพันธุกรรมของคุณผลิตเสร็จสมบูรณ์แล้ว” เทพธิดากงเจิ้งรายงาน 

กู่ฉิงซานเปิดกระเป๋าเดินทางออกและดูมัน 

และพบว่าภายในมีน้ำยาตัดแต่งพันธุกรรมวางอยู่สองแถว 

แถวบนคือน้ำยาสีแดง ขณะที่แถวล่างเป็นน้ำยาสีฟ้า 

เสียงของเทพธิดากงเจิ้งดังขึ้น “เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะสามารถเปลี่ยนอัตลักษณ์ของคุณได้อย่างอิสระและง่ายดาย ฉันจึงได้เตรียมน้ำยาสำรองไว้เพิ่มเติมไว้ เพื่อช่วยให้คุณสามารถใช้งานมันได้ตลอดเวลา” 

“ขอบคุณมากนะ” กู่ฉิงซานปิดฝาและเก็บมัน 

เขามองไปยังหน้าต่างระบบเทพสงคราม ลังเลอยู่นานไม่เอ่ยออกมา 

ทั้งหมดถูกตระเตรียมการเอาไว้พร้อมแล้ว  ถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น เขาก็พร้อมที่จะกลับไปสู่กระแสมิติว่างเปล่าอันเชี่ยวกรากทันที 

โลกที่ทรงพลังจนน่าสะพรึงกำลังเฝ้ารอเขาอยู่อีกด้านหนึ่ง และเขาจะต้องระมัดระวังให้มากที่สุด ถึงจะสามารถรักษาชีวิตตัวเองเอาไว้ได้ 

อย่างไรก็ตาม เขายังไม่สามารถจากไปตอนนี้ 

ฝนเย็นฉ่ำ…ข้างนอกยังคงมีฝนตกอยู่ 

“เทพธิดากงเจิ้ง” 

“เชิญกล่าว ใต้เท้า” 

“ช่วยใช้ดาวเทียมแสดงภาพทะเลสาบไป่หยาง แม่น้ำฉางหลาน กับแม่น้ำฮุนหยุน ให้หน่อยสิ” 

ในชีวิตก่อนหน้า พวกนี้คือสถานที่แรกในรัฐบาลกลางที่เกิดการแช่แข็งขึ้น 

“รับทราบแล้ว” เทพธิดากล่าว 

จอม่านแสงสว่างขึ้น พร้อมด้วยภาพมุมสูงจากดาวเทียม ฉายแสดงให้เห็นถึงพื้นที่ในน่านน้ำทั้งสาม 

บนผิวน้ำยังไม่ถูกแช่แข็ง 

บนฝั่งของแม่น้ำฉางหลาน กองทัพกำลังเริ่มทำการถอนตัว 

“เกิดอะไรขึ้น?” กู่ฉิงซานสงสัย 

“เพื่อป้องกันไม่ให้อสูรแห่งท้องทะเลเข้าสู่ประเทศผ่านทางน่านน้ำ มาตรการตรวจสอบจึงได้รับการอนุมัติจากท่านประธานาธิบดี และตอนนี้ ภารกิจก็ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ทางกองทัพจึงทำการถอนกำลังกลับไป” 

“ทำการระดมหุ่นยนต์สำรวจขนาดเล็กลงไปในแม่น้ำฉางหลาน แล้วทำการตรวจสอบมันดู” กู่ฉิงซานกล่าว 

ในหัวใจของเขายังคงไม่มั่นใจ เลยขอให้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง 

ในชีวิตก่อนหน้า น่านน้ำทั้งสามแห่งนี้ เป็นจุดแรกที่มีสัญญาณปรากฏขึ้น 

บนท้องฟ้า ปรากฏเงาดำหลายร้อยปะทะเข้ากับผิวน้ำ ดิ่งลึกลงไป 

ท่ามกลางความมืดมิด มีแสงสว่างส่องขึ้น 

หุ่นยนต์สำรวจเปิดไฟฉาย และเริ่มเคลื่อนตัวว่ายน้ำอย่างช้าๆ 

การตรวจสอบได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว 

และเกือบจะในเวลาเดียวกัน 

ท่ามกลางน้ำลึกของทะเลสาบไป่หยาง และแม่น้ำฮุนหยุน มวลน้ำแข็งที่กำลังจะควบรวมกันราวกับสัมผัสได้ถึงการมาเยือนของหุ่นยนต์อย่างกะทันหัน พวกมันที่กำลังจะควบรวมตัวกันจึงเร่งสลายตัวไปในทันที 

พวกมันหลบลี้หนีการมาเยือนของเหล่าหุ่นยนต์ ราวกับว่ามีชีวิตจิตใจ 

เฉพาะในแม่น้ำฉางหลาน เท่านั้นที่ยังไม่มีมวลน้ำเริ่มควบแน่นขึ้น 

เทพธิดากงเจิ้ง “ใต้เท้า น่านน้ำทั้งสามกว้างใหญ่มาก การสำรวจจำต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง คุณไม่จำเป็นต้องรอก็ได้” 

“เข้าใจแล้ว”

กู่ฉิงซานตอบไปส่งๆ เพราะขณะนี้ ทั้งคนทั้งร่างของเขากำลังจมอยู่ในห้วงความคิด 

หากเป็นภัยพิบัตินั่นจริงๆ มนุษย์จะสามารถอยู่รอดต่อไปได้อีกนานแค่ไหนกันนะ? 

ด้วยตัวตนอันแข็งแกร่งของมนุษยชาติที่มีอยู่ในเวลานี้ ควบคู่ไปกับตัวเขาเองมันก็ยังไม่สามารถต่อสู้ได้อยู่ดี 

หากคุณพบเห็น หรือตระหนักได้ถึงภัยพิบัติล่วงหน้า คุณจะทำอย่างไร? 

ด้วยพลังอำนาจของมนุษย์ในตอนนี้ พวกเราไม่สามารถที่จะเอาชนะภัยพิบัติดังกล่าวได้เลย 

ไม่ต้องกล่าวถึงในโลกปัจจุบันนี้ กระทั่งในชีวิตก่อนหน้าของกู่ฉิงซาน แม้จะมีเหล่าผู้เล่นหลายร้อยล้านคนคอยช่วยเหลือ ก็ยังไม่อาจก้าวข้ามผ่านภัยพิบัตินี้ไปได้อยู่ดี 

ผู้เล่นในขอบเขตก้าวสู่เทพนับไม่ถ้วน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัตินี้ มีวิธีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น คือต่อสู้จนกระทั่งตัวตาย 

นี่คือวันสิ้นโลกของจริง 

ครานี้ กู่ฉิงซานอาจจะไม่โชคดีเหมือนครั้งก่อนๆ อีกแล้วก็เป็นได้ เพราะมันสิ้นหวัง กระทั่งตัวเขาก็ยังไม่เห็นหนทางจริงๆ…

........................................