webnovel

0234 น้ำยายกระดับ

ตอนที่ 234 น้ำยายกระดับ

ภายในเกมแห่งชีวิตนิรันดร์

บนสังเวียน

การต่อสู้นองเลือดอันแสนจะบ้าคลั่ง ได้ดำเนินมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว

สองมืออาชีพโถมเข้าปะทะกันอย่างรวดเร็ว ก่อนทั้งสองจะแยกจากกัน

อาการบาดเจ็บของพวกเขาบอกได้เลยว่าสาหัสมาก แต่กลับไม่มีใครแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอออกมาเลยแม้เพียงน้อย

ในหัวใจของทั้งสองกระจ่างชัด ว่าหากเผยแม้ร่องรอยของความอ่อนแอขึ้นบนใบหน้ามันจะเป็นการเสริมกำลังใจให้แก่ฝ่ายตรงข้าม และนั่นหมายถึงตัวเขาจะเสียเปรียบยิ่งกว่าเดิมทันที

นอกจากนี้ การแข่งขันท้าทายจากผู้เล่นทั้งหมด จะสามารถรอดชีวิตได้แค่เพียงคนเดียวเท่านั้น มันไม่มีประโยชน์ที่จะเผยท่าทีอ่อนแอเพื่อวิงวอนร้องขอความเมตตา!

“เอาไปกินซะ!”

มืออาชีพคนหนึ่งที่เห็นช่องโหว่ของอีกฝ่าย ฉวยโอกาสใช้ขวานสองคมสับสะบั้นด้วยเจตนาร้าย แยกร่างของฝ่ายตรงข้ามออกเป็นสอง หนึ่งร่วงตุบลงบนพื้น อีกหนึ่งถูกแรงปะทะปลิวไกลออกไป

อีกฝ่ายไม่มีเวลาแม้กระทั่งกรีดร้องออกมา และตกตายลงในจุดนั้นทันที

เลือดสาดกระจายไปทั่วพื้น และเริ่มแผ่ขยาย ไหลไปรวมกับเลือดของศพอื่นๆ

โลหิตที่ไหลรินแทรกซึมลงไปยังใต้พื้นหินอย่างเงียบๆ

“ฟู่ว…ฟู่ว...”

ผู้ชนะทิ้งตัวแหมะลงบนพื้น ขว้างขวานสองคมในมือทิ้งไป หน้าอกของเขายุบๆ พองๆ แลคล้ายเครื่องสูบน้ำที่พึ่งผ่านการทำงานมาอย่างหนักหน่วง

“ฮ่าๆๆ ฉันคือแชมป์เปี้ยน! รีบเอารางวัลมาให้...”

เสียงหัวเราะของเขาที่พึ่งจะระเบิดขึ้น จู่ๆ ก็ขาดห้วงไปอย่างฉับพลัน

มีดหินอันคมกริบ จ้วงปลายแหลมของมันแทงเข้าจากหลังคอของเขา จนทะลุออกมายังเบื้องหน้า

“อ๊อก!”

มืออาชีพคว้ามีดหินด้วยสองมือ ทำท่าทีราวกับต้องการจะเอ่ยอะไรบางอย่างออกมา ทว่าเสียงของเขากลับถูกขวางกั้นโดยมีดหิน มิอาจเปล่งคำใดๆ ออกมาได้

มีดหินถูกกระชากลากเป็นเส้นยาว เฉือนคอของอีกฝ่ายแหว่งไปครึ่ง จนเห็นถึงเส้นเลือดใหญ่ที่ฉีกขาด

ดวงตาของมืออาชีพเบิกกว้าง และล้มลงกับพื้นในที่สุด

คราวนี้ในลำคอของเขาไม่มีอะไรขวางกั้น เจ้าตัวจึงพยายามอย่างสุดแรงชี้ไปยังร่างนั้น และเอ่ยด้วยความเหลือเชื่อ “นี่แก...แต่เมื่อกี้เห็นได้ชัดว่า...”

เขาต้องการจะพูดอีกไม่กี่คำ แต่เนื่องด้วยลำคอที่ถูกตัดเฉือน ทำให้เสียงที่เปล่งออกมา ไม่ว่าใครที่ได้ยินต่างก็ต้องรู้สึกสังเวช

เขากำลังจะตาย แต่ร่างกายที่แข็งแกร่งในฐานะมืออาชีพ ประจวบด้วยความไม่ยินยอมในหัวใจ ทำให้ตัวเขาไม่ตกตายลงง่ายๆ

เขาจำได้ว่าคนนี้...

คือเด็กสาวที่ตัวเขาเป็นคนทำลายหัวใจของเธอด้วยตัวเอง และเห็นเต็มสองตาว่าเธอได้ล้มลงเสียชีวิตไปตั้งนานแล้ว

ตัวเขาเองอยู่ในระดับบรรพชนนักสู้ขั้นสูงสุดมาหลายสิบปี ข้ามผ่านการต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วนในฐานะมืออาชีพ ฆ่าสังหารเหล่าผู้เชี่ยวชาญมามากมาย ดังนั้น ณ จุดนี้ จึงไม่สมควรที่จะตัดสินใจพลาดอย่างแน่นอน

แต่ทำไมกันล่ะ? ทำไมเด็กสาวคนนี้ถึงยังคงมีชีวิตอยู่?

ฟื้นคืนชีพจากความตายอย่างนั้นเหรอ?

ขณะที่เขาจ้องมอง อีกฝ่ายก็กำลังจ้องมองเขาเช่นกัน

ผู้หญิงที่เป็นมืออาชีพยกมือขึ้นมาป้องอกโดยไม่รู้ตัว

ใช่แล้วล่ะ มันเจ็บมากจริงๆ ในช่วงเวลาที่อีกฝ่ายกำลังจะปลิดชีวิตเธอ เขาบังเอิญถูกลอบโจมตีอย่างกะทันหัน ส่งผลให้ฝ่ามือที่จะใช้ปลิดชีพเธอเบนทิศทางไป แม้จะไม่ตายแต่เธอก็สิ้นสติลง และพึ่งฟื้นตื่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้เอง

โชคดีจริงๆ ที่หลังจากถูกการโจมตีอันแสนจะโหดร้ายเลือดเย็นนั่น เธอยังรอดชีวิตมาได้

มืออาชีพหญิงเอื้อมมือลงไปวางบนพื้นหิน และเรียกค้อนหินหนักขึ้นมาอย่างช้าๆ

เธอเป็นมืออาชีพผู้ใช้ธาตุทั้งห้า ที่สามารถปลดผนึกธาตุดินได้

“ตำแหน่งแชมป์เปี้ยนต้องตกเป็นของฉัน!”

เธอยกค้อนหนักขึ้นสุดแขน และเหวี่ยงมันทุบลงบนหน้าอกของอีกฝ่ายอย่างแรง

หน้าอกของมืออาชีพชายถูกทุบกระแทกอย่างฉับพลัน เนื้อหนัง และเลือดสดๆ สาดกระเซ็นเป็นสาย

มืออาชีพชายสิ้นชีพลงไปทั้งอย่างนั้นทันที

ทว่าแม้จะตกตายลงแล้ว แต่ดวงตาของเขาก็ยังคงเบิกกว้าง จ้องมองมืออาชีพหญิงชนิดหัวชนฝา

ไม่มีความโกรธขึ้งหรือไม่ยินยอมในแววตาของเขา แต่ลึกเข้าไปกลับสัมผัสได้ถึงความสับสนและหวาดกลัวอันยากจะพรรณนาเผยออกมา

เสียงชราภาพดังขึ้น

“การแข่งขันท้าทายในวันนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว”

“ข้าต้องบอกว่ามันช่างยอดเยี่ยมมากจริงๆ ช่างเป็นการลอบสังหารที่ไม่มีใครคาดคิด”

เสียงชราเอ่ยยกย่อง “แชมป์เปี้ยนของพวกเราถือกำเนิดขึ้นแล้ว เพื่อเกียรติยศศักดิ์ศรีของแชมป์ พวกเราจะทำการรักษาอาการบาดเจ็บทั้งหมดในร่างกายของเธอ”

โลงศพสีดำผุดขึ้นมาจากพื้นของสังเวียน

“จงเข้าไปในโลงศพ แล้วอาการบาดเจ็บของเจ้าจะได้รับการฟื้นฟูในไม่ช้า” เสียงชราเอ่ย

มืออาชีพหญิงเดินเข้าไปในโลงศพ

บาดแผลตามร่างกายของเธอช่างสาหัสจนน่าตกใจ

หากมีคนเอ่ยปากบอกว่า เธอกำลังจะตกตายในไม่กี่วินาทีถัดไป ผู้สังเกตการณ์จำนวนมากย่อมต้องเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริงอย่างไม่ต้องสงสัย

ฝาโลงศพปิดลง และตัวโลงก็ค่อยๆ เริ่มหมุนวนอย่างช้าๆ

“ท่ามกลางชีวิตและความตาย มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นจึงจะได้รับเกียรติยศแห่งชีวิตได้” เสียงชราภาพเอ่ยเป็นท่วงทำนอง

โลงศพหมุนวนเป็นวงกลม และฝาโลงก็ถูกเปิดออกมาอีกครั้ง

มืออาชีพหญิงผุดลุกออกมา พร้อมด้วยอาการบาดเจ็บทั้งหมดตามร่างกายได้รับการรักษาจนหายเป็นปลิดทิ้ง

“ราชันหลิวชีหมาน เจ้าเป็นมืออาชีพผู้ใช้ธาตุทั้งห้า เป็นผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายของการแข่งขันท้าทายในครั้งนี้ เจ้าสามารถฆ่าสังหารฝ่ายตรงข้ามที่แข็งแกร่งที่สุดลงได้…จงน้อมรับรางวัลของเกมแห่งชีวิตนิรันดร์!”

หีบสมบัติค่อยๆ ร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้า

ท่ามกลางห้วงจักรวาล

ภายในเฉินเตี้ยนเฮ่า

กู่ฉิงซานที่กำลังหลับตา จู่ๆ ก็เอ่ยออกมาว่า “เทพธิดากงเจิ้ง ทำการตรวจสอบผู้หญิงที่เรียกว่าหลิวชีหมาน อายุน่าจะเกินยี่สิบปี ผมยาวสีดำ มีไฝตรงระหว่างคิ้ว ส่วนสูงประมาณหนึ่งร้อยหกสิบเจ็ดเซนติเมตร ผิวขาว เป็นผู้ใช้ธาตุทั้งห้าธาตุดิน”

เหลียวฮังร่างภาพเสมือนของหญิงสาว ก่อนจะวางลงหน้าสมองควอนตัมและเอ่ยเสริม “หน้าตาประมาณนี้ ส่วนสัดส่วนก็น่าจะสักแปดสิบแปด...หกสิบสาม...เก้าสิบ”

“แล้วคุณไปรู้สัดส่วนของเธอได้ยังไงกัน?” เย่เฟย์หยูเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ

เหลียวฮังมองไปยังเย่เฟย์หยูด้วยความดูถูก เปิดปากอ้าเตรียมจะสาธยาย แต่ทันใดนั้นเขาก็พบว่า แอนนากำลังยืนกอดอก และจ้องมองมาที่เขาด้วยสายตาเย็นชา

เขาจึงหุบปากลง รูดซิปปากจนปิดสนิท

“ได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องแล้ว เริ่มทำการค้นหา” เทพธิดากงเจิ้งกล่าว

ในสังเวียน เสียงชราภาพกล่าวว่า “จงแตะลงบนหีบสมบัติ เพื่อรับรางวัลของเจ้า หลิวชีหมาน”

มืออาชีพที่ชื่อหลิวชีหมานยื่นมือออกไป และสัมผัสลงบนหีบสมบัติ

บังเกิดประกายแสงสดใสระยิบระยับอันน่าตื่นตาตื่นใจขึ้นจากภายในหีบสมบัติ

ประกายแสงค่อยๆ จางลง และขวดโปร่งใสขนาดเล็กก็ปรากฏสู่สายตาของทุกคน

ภายในขวดเล็กๆ ขวดนั้น มันบรรจุไปด้วยของเหลวสีเขียวที่วาววับราวกับคริสตัล

เสียงชราดังขึ้นในเวลาเดียวกัน “ขอแสดงความยินดีกับหลิวชีหมาน เจ้าได้รับน้ำยายกระดับ”

“กระทั่งในภพภูมิอื่นๆ น้ำยาตัวนี้ยังถูกนับว่าเป็นสิ่งล้ำค่ายิ่ง มันจะช่วยให้เจ้าสามารถตัดผ่านไปยังธาตุทั้งห้าในขั้นถัดไปได้เลยโดยตรง”

สีหน้าของหลิวชีหมานเผยถึงอาการตกใจ เธอกล่าวอย่างลังเลว่า “จริงๆ หรือ? นี่ไม่ใช่การหลอกลวงใช่ไหม?”

เสียงชรา “มิใช่เรื่องหลอกลวงอย่างแน่นอน เจ้าสามารถทดสอบมันได้ด้วยตัวเจ้าเอง!”

ขวดแก้วลอยขึ้น และตกลงในมือของหลิวชีหมาน

ณ ขณะนี้ มืออาชีพผู้ใช้ธาตุทั้งห้าจำนวนนับไม่ถ้วนจากทั่วทั้งโลก อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายอึกใหญ่

การปลดผนึกขั้นของธาตุทั้งห้านั้นมันยากเย็นเกินไป กระบวนการของมันยาวนานมาก ยาวนานจนทำให้ผู้คนตกอยู่ในความสิ้นหวัง และบังเกิดความสงสัยลึกๆ ในตัวเองว่า คงจะไม่สามารถตัดผ่านไปยังขั้นต่อไปได้อีกแล้วในตลอดช่วงชีวิตนี้

หากน้ำยายกระดับที่ว่าเป็นของจริง แล้วมืออาชีพผู้ใช้ธาตุทั้งห้า ที่สามารถปลดผนึกถึงขั้นสี่ได้ดื่มมัน จากนั้นก็ตัดผ่านไปยังขั้นห้าได้เลยโดยตรงแล้วล่ะก็…

ด้วยพลังของธาตุทั้งห้าในขั้นห้าที่เขาได้ครอบครอง ตัวตนของเขาจะถูกยกย่องว่าไร้เทียมทาน!

หลิวชีหมานไม่ลังเลเลยที่จะเปิดขวดโปร่งใส และยกน้ำยาสีเขียวในขวดจนหมดในลมหายใจเดียว

ช่วงเวลานี้ ในทั่วทุกมุมโลก มืออาชีพผู้ใช้ธาตุทั้งห้านับไม่ถ้วนต่างพากันถอนหายใจด้วยความเสียดายออกมา

จากเกมการแข่งขันที่พึ่งจบลงเมื่อครู่นี้ เห็นได้ชัดว่าหลิวชีหมานเป็นเพียงผู้ใช้ธาตุทั้งห้าที่สามารถปลดผนึกได้เพียงแค่ขั้นสามเท่านั้น

การที่เธอได้ดื่มมันลงไป นับว่าเป็นการเสียของโดยแท้

แต่ก็ไม่มีใครสามารถตำหนิเธอได้ เพราะนี่คือสมบัติที่เธอแลกเปลี่ยนมันมาด้วยชีวิตของเธอเอง

ความคิดแง่ลบปรากฏขึ้นมาในจิตใจของผู้สังเกตการณ์นับไม่ถ้วน

ให้ตายสิ!

ทำไมถึงต้องเป็นเธอ!

ไม่มีใครเลยแม้แต่คนเดียวในการแข่งขันท้าทายนี้จะแกร่งไปกว่าฉัน แต่ทำไมถึงต้องเป็นเธอที่ได้รับสมบัติชิ้นนี้ไป!

มืออาชีพจำนวนมากเฝ้ามองดูฉากนี้อย่างเงียบๆ ทว่าในหัวใจของพวกเขาบังเกิดความคิดมากมาย

เห็นแค่เพียงทั้งคนทั้งร่างของหลิวชีหมานสั่นสะท้าน สองขาอ่อนเปลี้ยจนต้องคุกเข่าลง ครวญครางบนพื้นด้วยความเจ็บปวด

ทว่าผ่านไปไม่นาน เธอก็ค่อยๆ ลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ

“ความรู้สึกของขั้นที่สี่นี่มัน…ไม่เลวเลยจริงๆ” หลิวชีหมานกางสองมือออก ปากเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกระซิบ

เธอโบกมือออกไปแบบสุ่ม

และพริบตาเดียว ในสังเวียนก็บังเกิดรอยแตกลึกขึ้นเจ็ดถึงแปดจุด

คราวนี้เธอยกสองมือขึ้นไปยังเบื้องบน

พื้นหินและดินที่แตกร้าวอยู่เบื้องล่าง ก็พลันยกสูงขึ้นราวกับธารน้ำตกที่ทวนกระแส ลอยขึ้นไปในอากาศ

ดินที่อ่อนนุ่ม ลอยว่อนอยู่เต็มฟ้าราวตามสายธารที่ปรากฏขึ้นในกลางอากาศ ก่อนที่ทั้งหมดจะม้วนเข้าหากัน และถูกบีบอัดเป็นบอลหินก้อนกลมๆ ขนาดเท่ากำปั้นราวๆ สามถึงห้าก้อน

และสองมือที่ชูขึ้นของหลิวชีหมานก็ผละลง

ทันใดนั้น บอลหินที่ลอยล่องก็ตกจากกลางอากาศทันที มันร่วงกระแทกลงบนพื้นสังเวียน ส่งเสียงอึกทึกดังกึกก้อง

พื้นสังเวียนถูกทุบทำลายแลคล้ายหลุมลึกที่เกิดจากอุกกาบาตร่วงตกใส่

หลิวชีหมานดีดนิ้วดังเป๊าะ จากนั้นบอลหินที่อัดแน่นจนเหลือขนาดเพียงเท่ากำปั้น สามก้อนก็ลอยขึ้นมาจากในหลุม

บอลหินลอยล่องจนมาหยุดอยู่เบื้องหน้าหลิวชีหมาน ก่อนจะลอยนิ่งอยู่บนฝ่ามือของเธออย่างเงียบๆ

บอลหินลูกแรกหยุดนิ่งอยู่กับที่ ขณะที่อีกสองลูกกำลังโคจรไปรอบๆ มัน

ช่วงเวลานี้ จากทั่วทั้งโลก มืออาชีพที่กำลังเฝ้าดูฉากนี้ ต่างรู้สึกราวกับตนเองกำลังบังเกิดอาการพิการทางสมอง!

ความสามารถที่หลิวชีหมานพึ่งแสดงให้ทุกคนได้เห็นนั้น มันเป็นความสามารถอันทรงพลังของผู้ใช้ธาตุดินในขั้นที่สี่ ‘เพรียกดารา!’

บอลหินเหล่านี้ แม้รูปทรงของมันจะแลดูเหมือนมิได้เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์ ทว่าเมื่อใดก็ตามที่พวกมันถูกใช้ในการโจมตี อำนาจปะทะของพวกมันจะรุนแรงราวกับอุกกาบาตที่พุ่งตกลงมาจากฟากฟ้า!

ไม่น่าเชื่อ! ตอนนี้เธอได้กลายมาเป็นมืออาชีพในขั้นที่สี่แล้วจริงๆ!

ผู้คนจำนวนมากตกตะลึง ขณะเดียวกันก็เริ่มตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ

ขณะนั้นเอง เสียงชราภาพก็ดังขึ้นอย่างฉับพลัน

“ยังไม่หมดเพียงเท่านี้หรอกนะ! วีรบุรุษของพวกเรายังมีหีบสมบัติอันที่สองรออยู่!”

และหีบอีกใบก็ร่วงตกลงมา

หลิวชีหมานยื่นมือออกไปวางลงบนกล่อง และเม็ดยาสีดำก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอ

ยาแห่งชีวิตนิรันดร์!

มันคือยาแห่งชีวิตนิรันดร์ที่เธอเฝ้าคิดถึงตลอดทั้งวันคืน!

โดยไม่คิดเสียเวลาลังเลใจใดๆ หลิวชีหมานคว้าเม็ดยาสีดำ และกลืนมันลงไปทันที

ในวินาทีต่อมา ผิวของเธอก็ค่อยๆ ขาวขึ้น มีน้ำมีนวลมากขึ้น รูปร่างผอมเพรียวลง

เวลานี้เธอดูเหมือนกับเด็กสาวอายุสิบแปด ในรั้วโรงเรียนอย่างไรอย่างนั้น

“ฮ่าๆ ในที่สุด ในที่สุดฉันก็จะได้มีชีวิตนิรันดร์!”

หลิวชีหมานตื่นเต้นจนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เธอร่ำไห้ทั้งน้ำตา ก่อนจะเอื้อมไปคว้ากระบี่ยาวที่ตกอยู่ และวิ่งออกไปสับสับสับสับสับ ศพที่กองอยู่บนพื้นเพื่อระบายอารมณ์ที่ค้างอยู่ในจิตใจ

เป็นเวลานานกว่าเธอจะสงบลง

และเสียงชราก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“ยังไม่หมดเพียงเท่านี้! วีรบุรุษของพวกเรายังมีหีบสมบัติใบที่สามรออยู่!”

แล้วหีบสมบัติที่สามก็ร่วงตกลงมา

......................................................