webnovel

0228 เทคนิคเทียนซวนของเย่เฟย์หยู

ตอนที่ 228 เทคนิคเทียนซวนของเย่เฟย์หยู

ผีดิบนักฆ่าร่างเทาหวีดร้องด้วยความโกรธ ขณะเดียวกันก็ถูกตบจนกระเด็นม้วนกลับไป

มันกลิ้งหลุนๆ บนพื้นดินกว่าสองตลบ ก่อนจะพบว่าตนเองมิอาจดับเปลวเพลิงสีดำนี้ลงได้

ผีดิบนักฆ่าร่างเทาไม่รอช้า มันใช้สองมือแปรสภาพเป็นใบมีดยาว ตัดเฉือนชิ้นเนื้อบนร่างกายในส่วนที่กำลังถูกเผาไหม้ออกอย่างรวดเร็ว

ชิ้นเนื้อที่ลุกไหม้ถูกเฉือนออกจากร่างกายโดยสมบูรณ์

ไม่นานนัก บริเวณส่วนที่ถูกเฉือนออกไปของมัน ก็ได้รับการฟื้นฟู งอกกลับใหม่มาดังเดิม

ตามมาด้วยเสียงของหญิงสาวที่ดังขึ้น

“ว้าว นี่มันน่าสนใจจริงๆ ไม่เคยนึกเลยว่าเปลวเพลิงของฉันจะถูกแก้ทางโดยวิธีแบบนี้”

แอนนามองไปยังอีกฝ่ายด้วยสีหน้าประหลาดใจ

“แล้วจะเอายังไงกับเจ้าซอมบี้ตัวนี้ดีล่ะ? ให้ฉันฆ่ามันเลยไหม?” เธอหันไปถามกู่ฉิงซาน

“อย่าเพิ่งนะ เดี๋ยวฉันบอกอีกที” กู่ฉิงซานกล่าว

เขาเดินลงไปในหลุมขนาดใหญ่ พยุงตัวเย่เฟย์หยูเอาไว้ เปิดจุกขวดออก และเทน้ำยาทั้งหมดที่อยู่ภายในเข้าไปในปากของอีกฝ่าย

“เจ้าสิ่งนี้มันคืออะ...” เย่เฟย์หยูอ้าปากพูดทั้งๆ ที่กำลังถูกเทตัวยาลงไปจนน้ำเสียงขาดห้วง

แต่แล้วจู่ๆ เขาก็เงียบไป

“อ๊าก!” จากนั้นก็เปล่งเสียงหวีดร้องออกมาอีกครั้ง ทั้งคนทั้งร่างขดตัวเป็นลูกบอล แม้กระทั่งปีกกระดูกก็ยังหุบเข้ามาปกคลุมตัวเขา

หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีต่อมา

ปีกก็สยายออกทันใด เย่เฟย์หยูเหินขึ้นไปในอากาศ ปากอ้าเปล่งเสียงโห่ร้องอึกทึก

“ในที่สุดผมก็ได้ยินเสียงคุณ!”

“ผมฟังที่คุณพูดรู้เรื่องแล้ว!”

เขาหันไปมองดูรอบๆ ราวกับต้องการจะทำความคุ้นเคยกับโลกใบนี้อีกครั้ง

“แต่…คุณเป็นใครกัน?”

เขาเอ่ยประโยคนี้ออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

คิ้วของกู่ฉิงซานขมวดเข้าหากัน ปากเอ่ยถาม “นายได้ยินอะไร?”

บนใบหน้าของเย่เฟย์หยูเต็มไปด้วยความสับสนโดยสมบูรณ์ เขาตอบกลับมาว่า “ฉันได้ยินเสียงน่ะสิ...เสียงของโลกใบนี้ที่กำลังกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด”

เขาเอ่ยพึมพำ “ฉันเป็นผีดิบนักฆ่าที่ทรงพลังที่สุดในโลก ดังนั้นโลกจึงมอบเทียนซวนที่สามารถทำให้ฉันได้ยินเสียงของมันมาให้”

ในหัวใจของกู่ฉิงซานเต้นครึกโครมถี่ระรัว

นี่ดูเหมือนว่าจะเป็นสภาวะของการปลุกเทคนิคเทียนซวนประเภทลึกลับ

เย่เฟย์หยูบังเอิญได้รับมันมาอย่างไม่ตั้งใจอย่างนั้นนหรือ?

หลังจากที่เย่เฟย์หยูดื่มน้ำยาปลุกเทียนซวน ตัวเขาก็นับได้ว่า สามารถบรรลุการวิวัฒนาการในขั้นหกได้อย่างสมบูรณ์แล้ว แถมเทคนิคเทียนซวนที่ได้รับ ยังเป็นประเภทลึกลับซะด้วย

แล้วพลังแบบใดกันนะ ที่ผีดิบนักฆ่าที่แข็งแกร่งที่สุดพึ่งได้รับมา แล้วอำนาจของมันล่ะ? จะมหาศาลสักแค่ไหนกัน?

โดยปกติแล้วเทคนิคเทียนซวนนั้นไม่อาจใช้หลักการเหตุผลใดๆ มาอ้างอิง อาจกล่าวได้ว่าเทียนซวนประเภทลึกลับที่เขาพึ่งได้รับมานี้ ไม่สามารถใช้มาตรฐานใดๆ มาวัดคำนวณได้

กู่ฉิงซานเอ่ยถามเสียงหม่นทะมึน “จริงๆ แล้วนายได้ยินอะไรกันแน่? บอกฉันมา!”

คู่ดวงตาสีเลือดของเย่เฟย์หยูเบนลงมาภายในหลุม ปากเอ่ยกล่าว “มันเป็นเสียงของใครบางคนที่เอ่ยออกมาว่า ‘จำนวนของผู้เข้าแข่งขันท้าทายในสังเวียนมีน้อยเกินไป จำต้องทุ่มจ่ายออกไปให้มากกว่านี้ เพื่อที่จะเร่งการพังทลายของโลกใบนี้ให้เร็วขึ้น’”

แอนนาที่ยืนอยู่ข้างๆ พอได้รับฟัง เธอก็ถึงขั้นกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว

กู่ฉิงซานจมลงสู่ห้วงความคิด

เสียงที่เย่เฟย์หยูได้ยินนี้ เป็นไปได้ไหมว่ามันจะเชื่อมโยงกับเกมแห่งชีวิตนิรันดร์

หากเทคนิคเทียนซวนของเย่เฟย์หยูที่ตื่นขึ้นมาเป็นประเภทลึกลับจริงๆ และสามารถได้ยินเสียงจากภายนอกโลกได้ นั่นหมายความว่านี่จะเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก!

และอาจจะหมายความว่า พวกเขาสามารถที่จะล่วงรู้ทุกกลยุทธ์ของเกมแห่งชีวิตนิรันดร์ได้!

แม้กระทั่งในชีวิตก่อนหน้า ก็ยังไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้มาก่อนเลย

เย่เฟย์หยูเหวี่ยงศีรษะตนออกไปอย่างดุดัน จ้องเขม็งไปยังผีดิบนักฆ่าร่างเทาที่เห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี เลยเตรียมรับมืออยู่ในท่วงท่าป้องกัน

“ฉันได้ยินนะ เสียงหัวใจที่กำลังเต้นอยู่ของแกน่ะ”

เขามองไปยังอีกฝ่าย และเผลอแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว

ร่างเงาเลือดกะพริบไหวตามด้วยเย่เฟย์หยูที่หายไปจากตำแหน่งเดิม

วินาทีต่อมา เขาก็ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าผีดิบร่างเทา หนึ่งมือที่แปรสภาพเป็นใบมีด จ้วงแทงลงไปยังเข่าซ้ายของอีกฝ่าย!

เนื้อหนังที่ถูกจ้วงแทงปริแตก และฉีกออก

จากนั้นก็มีเสียงของอะไรบางอย่างที่กำลังเต้นตุบๆ ดังลอดออกมาจากภายใน และถูกมือใบมีดกระชากออกมา!

“ที่แท้หัวใจของแกก็ซ่อนอยู่ตรงนี้นี่เอง! ไม่น่าแปลกใจเลยที่ว่าทำไมฆ่าไปเท่าไหร่ ก็ไม่ตายซะที ฮ่าๆๆ” เย่เฟย์หยูหัวเราะอย่างคลุ้มคลั่ง

เขาขยับนิ้วมือ พริบตาเดียวหัวใจก็ถูกตัดแบ่งออกเป็นชิ้นๆ

ผีดิบร่างเทาครวญด้วยความเจ็บปวดมหาศาล จนบริเวณโดยรอบเกิดการสั่นสะเทือน สองเข่าของมันร่วงกระแทกลงกับพื้น ก่อนที่ทั้งร่างจะล้มกลิ้งแน่นิ่งไป

แม้มันพยายามอย่างเต็มกำลังที่จะลุกขึ้นมายืนหยัดอีกครั้ง ทว่าร่างกายของมันกลับไม่ฟังคำสั่ง ทุกส่วนไม่ยอมขยับไหวใดๆ เลย

และในที่สุด มันก็มิได้เปล่งเสียงใดๆ ออกมาได้อีกเลย

หมอกโลหิตผุดออกมาจากร่างของมัน กระพือว่อนอยู่ในอากาศ ก่อนจะค่อยๆ ไหลเข้าไปในร่างของเย่เฟย์หยูอย่างช้าๆ

“อ่า มีความสุขจริงๆ” เย่เฟย์หยูส่งเสียงครางเบาๆ

เลือดสังหารค่อยๆ รวมตัวกันเบื้องหน้าเขา ก่อตัวเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมสีเลือดที่บางเบาราวกับปีกจักจั่น

กู่ฉิงซานรู้สึกตกใจจริงๆ แล้วในเวลานี้

“นี่มันคืออะไรกัน ดูคล้ายกับหนังสือคัมภีร์? หรือว่าจะเป็นกองไพ่? ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย…ปรากฏการณ์แบบนี้มันพบเจอได้ยากมากจริงๆ” เขางึมงำ

เพียงแค่มองดูก็พอจะบอกได้แล้วว่าต้องเป็นพลังอำนาจบางอย่าง พลังอำนาจอันเหนือชั้นอย่างหาใครมาเทียบเปรียบได้

ไม่นานนัก เลือดสังหารทรงสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ก็ไม่สามารถคงรูปไว้ได้อีกต่อไป มันค่อยๆ สลายไปในอากาศที่ว่างเปล่าอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้นเอง เย่เฟย์หยูก็ลืมตาขึ้นและเอ่ยปากกล่าวอย่างแผ่วเบา “ดูเหมือนว่าฉันจะได้ยินเสียงของพวกเขาที่กำลังโต้เถียงกันอย่างดุเดือด แถมยังได้ยินชัดมากๆ เลยอีกด้วย”

เย่เฟย์หยูพูด ขณะเดียวกันก็ทำท่าทีราวกับกำลังตั้งใจฟังคนอื่นพูด แล้วเอ่ยทวนสิ่งที่ได้ยินมาอย่างช้าๆ ว่า “ส่งมารดามารกระดูกโลหิตไป ให้มันทำการรวบรวมเม็ดยาแห่งชีวิตนิรันดร์ให้ได้ตรงตามเงื่อนไขมากที่สุด จากนั้นก็จะได้ทำการแทรกแซงเข้าสู่โลกซะที”

“แต่ถ้าจะให้ข้ามผ่านอุปสรรคขวางกั้นของโลก ราคาที่ต้องจ่ายออกมันจะหนักเกินไป…”

“…ขอเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าเราทำได้สำเร็จแล้วล่ะก็ ราคาที่ต้องจ่ายไปน่ะมัน…”

หลังจากที่เอ่ยคำเหล่านี้ออกมา ร่างของเย่เฟย์หยูก็สั่นอย่างรุนแรง

“เอ๋? ทำไมฉันไม่ได้ยินอะไรแล้วล่ะ” เขาเอ่ยด้วยความสับสนและไม่อาจอธิบายได้

“‘มารดามารกระดูกโลหิต’ อย่างนั้นสินะ” กู่ฉิงซานจดจำคำนี้ได้เป็นอย่างดี

มารดามารกระดูกโลหิต คือตัวตนที่ชั่วร้ายและก่อความวุ่นวายมากที่สุด มันสามารถกลืนกินสิ่งมีชีวิตทุกชนิด และเปลี่ยนให้สิ่งที่กินให้กลายเป็นเผ่ามาร จากนั้นก็ให้กำเนิดมัน

มารตนนี้ทรงพลังนัก แต่ที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือมันเก่งกาจในด้านการใช้ปรสิต และสืบพันธุ์

หากมิได้รับรู้ถึงการดำรงอยู่ของมันมาก่อน ก็จะเป็นการยากมากที่จะค้นพบถึงตัวตนของมันได้

นับว่าโชคยังดี เพราะเนื่องจากปรสิตจำเป็นต้องอยู่ในสถานะดั้งเดิมให้ได้มากที่สุด ดังนั้นความแข็งแกร่งของมันจึงถูกจำกัดลง

กู่ฉิงซานมองไปยังร่างของผีดิบนักฆ่าร่างเทาบนพื้นดิน ก่อนจะสลับมามองเย่เฟย์หยูและกล่าวว่า “นายรู้สึกยังไงบ้าง?”

“ฉันอาจจะได้รับเทคนิคเทียนซวนชนิดหนึ่ง ที่มีชื่อเรียกว่า ‘สดับฟังด้วยความเคารพ’ ” เย่เฟย์หยูกล่าวอย่างลึกซึ้ง

“มันสามารถรับฟังเสียงจากนอกโลกได้โดยเฉพาะเลยรึเปล่า?”

“ไม่หรอก ดูเหมือนว่าช่วงเวลาที่ได้ยินเสียงจะแตกต่างกันออกไป น่าจะเป็นเหมือนในช่วงที่ฉันเกิดอาการเจ็บปวดเป็นพักๆ นั่นแหละ ตอนนี้ฉันไม่ได้ยินอะไรแล้ว” เย่เฟย์หยูกล่าว ดูเหมือนว่าเขายังมีอาการปวดหัวตกค้างอยู่เล็กน้อย

กู่ฉิงซานไม่คิดจะถามอะไรเพิ่มเติมอีก เพียงแค่กล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้น ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของนายก็สมควรที่จะเพิ่มขึ้นแล้วสินะ”

“ใช่แล้วล่ะ ถึงแม้ว่ามันจะยังไม่ถึงขั้นยกระดับไปในขั้นถัดไปหรอก แต่ก็แข็งแกร่งขึ้นมากกว่าก่อนหน้านี้แล้วจริงๆ” เย่เฟย์หยูพยักหน้า เขายื่นเลือดที่กำลังลุกไหม้อยู่ในมือไปให้กู่ฉิงซานดู

เลือดเพลิงที่ลุกไหม้ ดูจะหนาแน่นขึ้นกว่าในครั้งก่อนๆ อย่างเห็นได้ชัด เพียงแค่มอง กู่ฉิงซานกลับสามารถสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจอันไร้ที่สิ้นสุดของมัน

จากนั้นเย่เฟย์หยูก็โบกมือ และเหวี่ยงเลือดเพลิงออกไป

ปัง!

บังเกิดเสียงอู้อี้หนักทึบ เลือดเพลิงเป่าร่างของผีดิบนักฆ่าสีเทา แปรสภาพมันเป็นฝนเลือดในพริบตา เลือดทุกหยดของมันส่งกลิ่นเน่าเหม็นแพร่กระจายไปทั่ว

เลือดสีดำลอยว่อนอยู่ทั่วทุกพื้นที่ ส่งกลิ่นเหม็นฉุนไปตามอากาศ

แอนนาจำต้องห่อหุ้มร่างของตัวเธอเองในเปลวเพลิง หนึ่งมือยกขึ้นปิดจมูกและพูดด้วยความโกรธว่า “ฉันรู้แล้วล่ะ ว่านายน่ะแข็งแกร่งขึ้น แต่ไม่ต้องทำเรื่องน่าสะอิดสะเอียนแบบนี้ก็ได้ไม่ใช่เหรอ?”

ส่วนกู่ฉิงซานที่น่าสงสาร สภาพร่างกายของเขายังไม่หายดี และยังไม่อาจฟื้นฟูพลังวิญญาณกลับคืนมาได้มากมายนัก เลยต้องเผชิญเข้ากับฝนเลือดเน่าเหม็นไปเต็มๆ

เขาคว้าปีกของเย่เฟย์หยู ลากมันยกขึ้นมาบังหัวตัวเอง เพื่อป้องกันไม่ให้ฝนเลือดสีดำตกลงมากระทบกับร่างกายของตนเอง

พอแอนนาเห็นแบบนั้น เธอก็รีบใช้เปลวเพลิงเผาผลาญฝนเลือด และกลิ่นเน่าเหม็นอย่างเร่งรีบ จนพวกมันสลายหายไปโดยสมบูรณ์

“คราวหน้าฉันจะไม่มาช่วยนายแล้ว” กู่ฉิงซานผละมือจากปีกของอีกฝ่าย กล่าวอย่างเฉียบขาด

เย่เฟย์หยูยกมือขึ้นเกาหัว ปากเอ่ยกล่าวด้วยความอับอาย “โทษที ฉันไม่ทันคิด”

“แล้วพวกเราจะเอายังไงต่อไป?” เขาถาม

“รอก่อน” กู่ฉิงซานกล่าว

“รออย่างนั้นเหรอ?” แอนนาเอ่ยด้วยความสงสัย

“ใช่ รอให้การแข่งขันท้าทายของเกมแห่งชีวิตนิรันดร์ในครั้งนี้ใกล้จบลง” สีหน้าของกู่ฉิงซานสะท้อนไปด้วยอารมณ์ “แล้วในที่สุด เวลาที่พวกเราเฝ้ารอก็จะมาถึง”

“ฉันไม่เข้าใจ” แอนนาเริ่มสับสน

“ในการแข่งขัน ผู้เล่นที่กระตือรือร้นหมายจะคว้าชัยชนะ จะเปิดเผยจุดอ่อนออกมาเป็นอันดับแรก”

“นายกำลังจะหมายความว่า พวกเราจะต้องรอให้พวกคนเก่งๆ เผยไต๋ออกมาก่อนใช่ไหม?”

“ถูกต้อง แล้วจากนั้น พวกเราก็จะคัดผู้ที่น่าจะชนะ ออกมาจากพวกที่น่าจะแพ้”

“ถ้าอย่างนั้นพวกเรากลับไปยังเฉินเตี้ยนเฮ่ากันเลยไหม?” แอนนาถาม

“อืม พวกเราควรที่จะรีบกลับไปในทันที” กู่ฉิงซานกล่าว

แอนนาพยักหน้าและเดินไปที่รถสะเก็ดไฟ เพื่อทำการเตรียมพร้อมที่จะเดินเครื่อง

ในเวลานั้นเอง สมองควอนตัมของกู่ฉิงซานก็ส่องสว่างขึ้น

เขาก้มลงมองหน้าจอ และกดรับการเชื่อมต่อด้วยรอยยิ้ม

“ว่าไง เซี่ยเอ๋อร์”

พอได้ฟังเสียงที่ตึงเครียดของปลายสายเอ่ยออกมารัวๆ อย่างรวดเร็ว กู่ฉิงซานก็ตกใจเล็กน้อย และกล่าว “เอ่อ…เข้าใจแล้ว…แต่เธอมั่นใจได้เลยว่าฉันจะไม่เข้าร่วมเล่นเกมแห่งชีวิตนิรันดร์”

“ตกลง ฉันสัญญาว่าตอนนี้และนับจากนี้ไปในอนาคต ฉันจะไม่มีวันเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเกมนี้เด็ดขาด”

.......................................................