webnovel

0192 เจ็ดดารามังกรแหวกธารา

ตอนที่ 192 เจ็ดดารามังกรแหวกธารา

แต่อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงบนหน้าต่างระบบเทพสงครามยังไม่จบลงเพียงเท่านี้

หลังจากที่ตัวแจ้งเตือนของ ‘พลังศักดิ์สิทธิ์เทพสงคราม’ ได้หายไป เส้นแสงหิ่งห้อยบรรทัดใหม่ก็ปรากฏขึ้น

“ผู้เล่นประสบความสำเร็จในการก้าวขึ้นสู่ขอบเขตก่อตั้งขั้นสูงสุด ขีดจำกัดพลังวิญญาณขยายขึ้นเป็นสี่สิบแต้ม”

“ตามความทรงจำของผู้เล่น เทคนิคดาบที่สามารถถูกปลุกขึ้นได้โดยไม่ก่อให้เกิดการพังทลายลงของร่างกายและจิตเทวะ จะถูกแสดงรายชื่อดังต่อไปนี้”

“เทคนิคลับแห่งดาบ เจ็ดดารา”

“ในมุมมองที่ว่าผู้เล่นมีความเข้าใจและประสบการณ์เกี่ยวกับเทคนิคดาบทั้งหมดอย่างลึกซึ้ง ค่าใช้จ่ายของแต้มพลังวิญญาณจึงลดลง”

“ปลุกเทคนิคลับแห่งดาบ เจ็ดดารา ต้องทำการจ่ายแต้มพลังวิญญาณตามรายละเอียดดังต่อไปนี้”

กระบวนท่าที่หนึ่ง สุญญากาศ

กระบวนท่าที่สอง หนามชีวิต

กระบวนท่าที่สาม ลมวน

กระบวนท่าที่สี่ สะบั้นต่อเนื่อง

“ทำการเรียนรู้สามวิชาแรก แต่ละวิชาต้องการพลังวิญญาณสามสิบแต้ม ทำการเรียนรู้วิชาที่สี่ ต้องการพลังวิญญาณห้าสิบแต้ม”

‘เจ็ดดารา’ สามกระบวนท่าแรก จะปลดปล่อยออกไปเพียงแค่วิชาละหนึ่งดาบ ขณะที่กระบวนท่าที่สี่ สะบั้นต่อเนื่อง จะเป็นการสับสะบั้นติดต่อกันถึงสี่ดาบ

ชุดวิชาลับทั้งสี่นี้ รวมๆ กันแล้วจะมีกระบวนท่าดาบทั้งหมดเจ็ดเพลงดาบ ดังนั้นชื่อของมันจึงเป็น ‘เจ็ดดารา’

เจ็ดดารามังกรแหวกธารา!

กลับกลายเป็นว่าเขาได้รับเทคนิคลับกระบวนท่านี้!

บรรยากาศรอบตัวของกู่ฉิงซานรายล้อมไปด้วยความสุข ระคนประหลาดใจ หลงลืมไปแม้กระทั่งเงื่อนไขภารกิจไปชั่วขณะหนึ่ง รวมไปถึง ‘ทัณฑ์ปีศาจ’ ที่ถูกโยนทิ้งไว้เบื้องหลัง

เขายืนนิ่งอยู่ในจุดเดิมมาพักหนึ่ง แต่ก็ยังไม่เห็นการตอบสนองจากระบบเทพสงคราม…เทคนิคดาบต่อไปยังไม่ปรากฏขึ้น

กู่ฉิงซานเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “ทำไมถึงมีแค่ชื่อเทคนิคเจ็ดดารา ฉันยังไม่เห็นมังกรแหวกธาราเลย”

ติ๊ง!

ระบบตอบกลับมาว่า “เนื่องจากขอบเขตพื้นฐานวรยุทธของผู้เล่นในปัจจุบันยังคงสามารถใช้ได้แค่เพียงเจ็ดดาราเท่านั้น หากระบบปล่อยให้เรียนรู้มังกรแหวกธาราด้วย มันจะก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อร่างกายของตัวผู้เล่น”

กู่ฉิงซานตกตะลึง

‘เจ็ดดารามังกรแหวกธารา’ นั้นเป็นเทคนิคลับแห่งดาบที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน มันเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหนึ่งในชุดเทคนิคลับแห่งดาบที่ยากต่อการเรียนรู้มากที่สุดของ นักดาบนิรันดร์!

‘เจ็ดดารามังกรแหวกธารา’ จะถูกแบ่งออกเป็น ‘เจ็ดดารา’ ตามกระบวนท่าเจ็ดดาบ และกระบวนท่าสุดท้าย ‘มังกรแหวกธารา’

มันจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้กระบวนท่าที่แปด เทคนิคลับแห่งดาบนี้จึงจะสมบูรณ์ หากขาดหายไปแม้เพียงหนึ่ง มันจะไม่สามารถปลดปล่อยพลังที่แท้จริงออกมาได้อย่างไร

ทว่าการที่จะต้องเรียนรู้ทั้งแปดกระบวนท่า นับว่าเป็นระดับความยากที่มากพอทำให้ผู้ฝึกดาบจำต้องถอดใจ

ทั่วทั้งโลกแห่งผู้ฝึกยุทธ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถเรียนรู้กระบวนท่าดาบทั้งแปดนี้ได้อย่างสมบูรณ์

อย่างไรก็ตาม หากมิได้เรียนรู้กระบวนท่าที่แปด เทคนิคลับนี้ก็ไม่นับว่าเป็นประโยชน์ใดๆ

เพราะชุดเทคนิคดาบเจ็ดกระบวนท่าแรก มันมิได้ครอบครองพลานุภาพดั่งเช่นเดียวกันกับเทคนิคลับแห่งดาบอื่นๆ อานุภาพของมันรุนแรงกว่ากระบวนท่าดาบทั่วๆ ไปเพียงไม่กี่ส่วนเท่านั้น

พลังอำนาจในการทำลายล้างทั้งหมดของ ‘เจ็ดดารามังกรแหวกธารา’ จะไปกองรวมกันอยู่ในเพลงดาบสุดท้าย ‘มังกรแหวกธารา’

อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการที่จะใช้ ‘มังกรแหวกธารา’ คุณจะต้องโจมตีด้วยกระบวนท่า ‘เจ็ดดารา’ ทั้งหมดให้โดนเสียก่อน

เนื่องเพราะกระบวนท่าทั้งแปดของเทคนิคดาบนี้เชื่อมโยงกัน หากขาดจุดใดจุดหนึ่งไป เทคนิคลับแห่งดาบนี้ก็จะนับว่าไม่สมบูรณ์ทันที

ทว่าการใช้ออกอย่างต่อเนื่องทั้งเจ็ดกระบวนท่ามันก็มีความยากที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน

ในการต่อสู้อันดุเดือด เพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ มันอาจทำให้ศัตรูฉวยโอกาสหยุดเพลงดาบต่อเนื่องที่ว่านั่นได้

ศัตรูย่อมมิใช่ตัวโง่งม ที่จะยืนรอให้คุณโจมตีจนครบทั้งเจ็ดกระบวนท่า

ยิ่งไปกว่านั้น หากคุณเปลี่ยนไปใช้เทคนิคดาบที่สามารถโจมตีอย่างรุนแรงได้เพียงครั้งเดียว บางทีคุณอาจจะสามารถเก็บเกี่ยวชีวิตของอีกฝ่ายได้เลยก็เป็นได้

ดังนั้น ในโลกแห่งผู้ฝึกยุทธ ผู้ฝึกดาบเกือบทั้งหมดจึงไม่มีใครคิดจะฝึกฝนเทคนิคลับแห่งดาบเทคนิคนี้

แม้ว่าจะมีผู้ที่เคยได้ทดลองฝึกฝนมันอยู่บ้าง แต่ก็ทำไปเพื่อที่จะได้เรียนรู้และตระหนักถึงความยากลำบากในการฝึกฝน เพื่อใช้ต่อยอดในการเพิ่มพูนความรู้ ความเข้าใจในวิถีดาบแห่งตนก็เท่านั้นเอง

ผู้ฝึกดาบทั่วไป บ่อยครั้งที่ฝึกฝนไปได้เพียงกระบวนท่าที่สองและสาม ทั้งหมดก็ล้มเลิก และไม่คิดที่จะฝึกฝนมันอีก

ส่วนพวกผู้ฝึกดาบที่มีพรสวรรค์โดยธรรมชาติ ก็อาจจะฝึกฝนไปได้ถึงซักกระบวนท่าที่ห้าหรือหก

จำต้องเป็นผู้ที่ครอบครองพรสวรรค์แห่งวิถีดาบที่แท้จริง และมุมานะอย่างหนักเท่านั้น ถึงจะเรียนรู้เทคนิคนี้ได้จนครบ และสามารถควบคุมมันได้โดยสมบูรณ์

หากคุณอยากที่จะเชี่ยวชาญมัน คุณก็จะต้องมีพรสวรรค์ที่โดดเด่นมากพอที่จะสามารถนำมันมาใช้ในการต่อสู้ได้

ในโลกแห่งผู้ฝึกยุทธ เรื่องเกี่ยวกับ ‘เจ็ดดารามังกรแหวกธารา’ นั้นเป็นที่รับรู้โดยทั่วกันว่า มันคือชุดเทคนิคลับที่จะมีเพียงคนสองประเภทเท่านั้นที่ฝึกฝน

หนึ่งคือคนที่โง่เง่า จองหอง และอวดดี อีกหนึ่งคือต้นกล้าผู้ครอบครองวิถีแห่งดาบที่แท้จริง

สำหรับคนธรรมดา มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเรียนรู้เทคนิคดาบผสมชุดนี้ หากคุณเรียนรู้มัน แล้วไม่สามารถใช้มันโจมตีได้แม้กระทั่งหนึ่งหรือสองกระบวนท่าดาบ คุณก็ไม่นับว่ามีพลังใดๆ ยิ่งต้องโจมตีถึงเจ็ดดาบเพื่อต่อยอดไปยังกระบวนท่าสุดท้ายมังกรแหวกธารา คงไม่ต้องกล่าวถึง

ดังนั้นในความเป็นจริงมันจึงยากเย็นเกินไป

นอกจากนี้ชื่อเสียงที่โด่งดังที่สุดของ ‘เจ็ดดารามังกรแหวกธารา’ ก็ยังอยู่ในกระบวนท่าสุดท้าย

พลานุภาพของ ‘มังกรแหวกธารา’ นั้นทรงพลังชนิดที่เรียกได้ว่าน่าตื่นตะลึงใจ มันสามารถกระตุ้นศักยภาพของผู้ฝึกดาบได้ถึงขีดสุด และปลดปล่อยรังสีดาบที่ท่วมท้นไปด้วยกลิ่นอายมังกรอย่างที่ไม่มีใครเทียบเทียม

ชุดเทคนิคลับแห่งดาบนี้ หากคุณสามารถใช้มันออกไปจนถึงเพลงดาบสุดท้ายได้แล้วล่ะก็ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการต่อสู้ในครานั้นจะจบลงเช่นไร

ดังนั้น ‘มังกรแหวกธารา’ จึงถูกเรียกว่าเป็นหนึ่งในสี่เทคนิคลับประจำตัวของนักดาบนิรันดร์ และไม่ว่าเมื่อใดก็ตามที่เทคนิคลับนี้ถูกใช้ออก นั่นย่อมหมายถึงการได้รับมาซึ่งชัยชนะ

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเทคนิคลับ มังกรแหวกธาราที่แท้จริง คู่ต่อสู้ก็จะได้รับรู้ว่า เจ็ดดารามังกรแหวกธารานั้นน่าขนพองสยองเกล้าเช่นไร

เทคนิคลับแห่งดาบชุดนี้ เป็นเพลงดาบที่แม้กระทั่งผู้ที่อยู่ในขอบเขตนักดาบนิรันดร์ก็ยังเลือกใช้ คิดดูสิว่ามันทรงพลังเพียงไหน!

กู่ฉิงซานรีบเอ่ยถาม “ถ้าอย่างนั้นช่วยให้ฉันทำการเรียนรู้เทคนิคลับแห่งดาบมังกรแหวกธาราล่วงหน้าจะได้ไหม?”

ติ๊ง!

ระบบตอบกลับมาว่า “เทคนิคลับแห่งดาบที่ว่านี้ จำเป็นต้องอยู่ในขั้นแก่นทองคำขั้นต้นเสียก่อน มันจึงจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ ต่อตัวผู้เล่น”

“การปล่อยให้ผู้เล่นเรียนรู้มังกรแหวกธาราโดยที่ยังไม่หลุดจากขอบเขตนี้ แม้จะเป็นไปได้แต่ หากใช้มันก็จะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อตัวผู้เล่น”

ยังพอเป็นไปได้!

กู่ฉิงซานกล่าว “แล้วถ้าฉันยังคงยืนยันที่จะเรียนรู้เทคนิคดาบมังกรแหวกธาราล่ะ? เพราะหากมีชุดเทคนิคดาบแบบสมบูรณ์อยู่ในมือ บางทีมันอาจจะช่วยให้ฉันรอดชีวิตจากสถานการณ์เป็นตายก็เป็นได้”

ระบบนิ่งงันไปเป็นเวลานาน จนกู่ฉิงซานเกือบที่จะยอมแพ้ไปแล้ว

“ด้วยขอบเขตพื้นฐานวรยุทธของผู้เล่นในปัจจุบัน จำเป็นที่จะต้องจ่ายแต้มพลังวิญญาณทั้งหมดเท่านั้น จึงจะสามารถทำการเรียนรู้ เทคนิคลับแห่งดาบ ‘เจ็ดดารามังกรแหวกธารา’ ได้”

“โปรดทราบว่า หากผู้เล่นใช้เจ็ดดารามังกรแหวกธาราในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม อาจมีความเสี่ยงถึงขั้นต้องตกตายลง”

“ถึงกระนั้น ผู้เล่นก็ยังต้องการที่จะเรียนรู้เจ็ดดารามังกรแหวกธาราหรือไม่?”

“ใช่ ไม่ว่าอย่างไรฉันก็ยังต้องการที่จะเรียนรู้” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างไร้ซึ่งความลังเล

“ผู้เล่นจำเป็นต้องจ่ายสองร้อยยี่สิบแต้มพลังวิญญาณ เพื่อที่จะสามารถเรียนรู้มันได้โดยสมบูรณ์ แต้มพลังวิญญาณปัจจุบัน ศูนย์”

“ผู้เล่นได้ทำการเรียนรู้ เทคนิคลับแห่งดาบ เจ็ดดารามังกรแหวกธารา เรียบร้อยแล้ว”

กระแสอบอุ่นอันยิ่งใหญ่ห่อหุ้มรอบกายกู่ฉิงซานอย่างแน่นหนา

ความรู้สึกนี้เปรียบดั่งทั้งคนทั้งร่างกำลังแช่อยู่ในน้ำพุร้อน ช่างรู้สึกผ่อนคลายและสบายตัวเป็นอย่างยิ่ง

กู่ฉิงซานปิดตาลงเป็นเวลานาน จนกระทั่งการปลุกเทคนิคลับแห่งดาบนี้เสร็จสิ้นลงโดยสมบูรณ์ สองตาของเขาจึงค่อยๆ เปิดขึ้นอย่างช้าๆ

“ถึงจะกดดันเล็กน้อย แต่สุดท้ายฉันก็สามารถได้เทคนิคนี้มาครอบครอง”

เขาเอ่ยพึมพำเบาๆ

ในหน้าต่างระบบเทพสงคราม บรรทัดตัวอักษรที่ได้แจ้งเตือนเกี่ยวกับสกิลดาบค่อยๆ จางหายไปอย่างช้าๆ

ขั้นตอนการสกัด พลังศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงและพลังศักดิ์สิทธิ์ สองวงแหวนหนึ่งเล็กหนึ่งใหญ่ยังคงลอยล่องอยู่ในใจกลางหน้าต่างสถานะ

มองไปยังวงแหวนทั้งสอง กู่ฉิงซานที่พึ่งตื่นเต้นไปกับการปลุกเทคนิคลับขึ้นมา ก็ค่อยๆ กลับคืนสู่ความสงบอย่างช้าๆ

เหตุผลที่เขาดูจะไม่ค่อยมีชีวิตชีวานั่นเป็นเพราะ ภารกิจพลังศักดิ์สิทธิ์นี้มันยากเกินไป

ต้องการยาผสานยีนทั้งสามชนิดที่มีความบริสุทธิ์ถึงเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ ของพวกนี้ เรียกได้เลยว่าเป็นสมบัติแห่งชาติของรัฐบาลกลาง สาธารณรัฐฟูซี และจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์

หากเอ่ยแบบทั่วๆ ไปแล้ว ยาผสานยีนที่ซื้อขายกันในตลาด มีความบริสุทธิ์อยู่ที่ประมาณห้าสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น

ก่อนวันสิ้นโลก ไม่ว่าใครๆ ก็สามารถหาซื้อยาผสานยีนพวกนี้ได้ทั้งนั้น อุปสรรคของมันก็มีเพียงแค่ราคาที่มากถึงสิบล้านแต้มเครดิตรัฐบาลกลางก็เท่านั้นเอง

ขณะที่ครอบครัวชนชั้นกลางของรัฐบาลกลาง มีรายได้เฉลี่ยเพียงครัวเรือนละประมาณหนึ่งแสนแต้มเครดิตต่อปี

นั่นหมายความว่าครอบครัวชนชั้นกลางจะต้องใช้เวลากว่าสิบปีเต็มโดยที่พวกเขาห้ามดื่มห้ามกิน

จึงจะสามารถซื้อยาผสานยีนได้

ไม่ต้องกล่าวถึงคนส่วนใหญ่ ที่ไม่สามารถจ่ายค่ายาได้อย่างแน่นอน

ทั้งๆ ที่ยาผสานยีนพวกนี้มีค่าใช้จ่ายในการสร้างแค่ประมาณเจ็ดหมื่นแต้มเครดิตเท่านั้น

ฟันกำไรจนเละอย่างมโหฬาร

และแหล่งผลิตของพวกมันก็อยู่ในมือของเก้าตระกูลใหญ่

ยาผสานยีนดังกล่าว หลังจากที่ฉีดเข้าไป จะเพิ่มโอกาสให้ผู้ที่ถูกฉีดเสริมศักยภาพร่างกายขึ้นมาเป็นนักสู้หวูเต๋าได้

ดังนั้น เมื่อวันสิ้นโลกมาถึง ประธานาธิบดีจึงต้องการที่จะแจกจ่ายยาผสานยีนไปยังทุกผู้คน เพื่อพัฒนาการศักยภาพของมนุษย์ เพิ่มโอกาสในการอยู่รอดของพวกเขา

“แต่ต้องบริสุทธิ์เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์…”

กู่ฉิงซานส่ายหน้า สมองเขาเริ่มรู้สึกปวดๆ เต้นตุบๆ

ไอ้เจ้ายาผสานยีนนี่ แค่ความบริสุทธิ์ของมันเพิ่มขึ้นจากปกติเพียงสิบเปอร์เซ็นต์ ราคาก็พุ่งสูงขึ้นจนประเมินค่าไม่ได้แล้ว

นับประสาอะไรกับยาผสานยีนที่มีความบริสุทธิ์เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ มันไม่สามารถตีค่าเป็นราคาได้อีกต่อไป เนื่องจากผลลัพธ์ที่แสนวิเศษของมัน

เพราะนั่นหมายความว่า หากฉีดมันลงไป พลังที่จะถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา จะต้องโดดเด่นจนน่าตกตะลึงอย่างแน่นอน

............................................................