webnovel

0175 ชีวิตนิรันดร์

ตอนที่ 175 ชีวิตนิรันดร์ 

ซางหยิงฮ่าวมองไปยังร่างของเย่เฟย์หยูที่ยังคงมีร่องรอยของเลือดสังหารจางๆ และกล่าว “ดูเหมือนว่าหุ้นส่วนคนใหม่ของพวกเราจะแข็งแกร่งขึ้นจริงๆ ด้วยแฮะ หวังว่านายคงไม่มีความคิดจะจากพวกเราไปหรอกนะใช่ไหม” 

“วางใจเถอะ ฉันรู้สึกพึงพอใจกับชีวิตในตอนนี้มาก” เย่เฟย์หยูตระหนักได้ถึงสายตาของอีกฝ่าย เขาเก็บเลือดสังหารกลับคืน และเดินหายเข้าไปในวิลล่าทันที 

ทั้งสามตรงไปยังโซฟา และทยอยกันนั่งลงตามลำดับ 

“สำหรับเย่เฟย์หยูเป็นหุ้นส่วนของพวกเราน่ะ ฉันยินดีต้อนรับอย่างแน่นอน แต่…” ซางหยิงฮ่าวชี้ไปยังเหลียวฮัง และกล่าว “แต่สำหรับ ‘เจ้าสิ่งนี้’ ฉันยังจำเป็นต้องให้ที่พักพิงแก่เขาอีกอย่างงั้นหรือ?” 

พอได้ฟัง เหลียวฮังมิได้มองดูละครอีกต่อไป เขาเบนสายตาไปยังซางหยิงฮ่าวและกล่าว “แกกำลังหมายถึงอะไร เจ้าสิ่งนี้ที่ว่านี่มันบ้าอะไร ท่านปู่ผู้นี้น่ะอยู่ในกระบวนการ...” 

“โปรดใส่ใจกับข้อตกลงในเรื่องการรักษาความลับด้วย” เสียงของเทพธิดากงเจิ้งดังขึ้น 

“เออๆ ไอ้ระเบิดนาโนบัดซบเอ๊ย” เหลียวฮังกล่าวอย่างฉุนเฉียว 

“ไม่เป็นไรหรอก ฉันขอแนะนำนะ ชายคนนี้ชื่อว่าเหลียวฮัง เป็นผู้ประดิษฐ์คิดค้นเทคโนโลยีจัมป์ระหว่างดวงดาวน่ะ” 

“ใต้เท้าผู้ทรงเกียรติ นี่คุณ...!” น้ำเสียงของเทพธิดาขาดห้วง 

“เอาเถอะ อย่างไรทั้งสองคนที่เหลือก็ไม่มีความตั้งใจที่จะทำให้ข้อมูลรั่วไหลออกไปอยู่แล้ว” กู่ฉิงซานกล่าว 

เย่เฟย์หยูยังไม่ตระหนักชัดถึงความหมายของชื่อนี้ ทว่าสำหรับซางหยิงฮ่าว ดวงตาของเขาแทบถลน มันจดจ้องไปยังเหลียวฮังอยู่เนิ่นนานมิอาจเอ่ยคำใดออกมาได้ 

“นี่คุณยังไม่ตาย…แต่ว่าสามสิบปีก่อน…เฮ้ๆ นี่มันเรื่องร้ายแรงระดับชาติเลยนะ…” เขาเอ่ยพึมพำ 

เหลียวฮังมองมายังกู่ฉิงซานและกล่าว “เจ้าหนู แกถึงขั้นลากตัวฉันกลับมา ในเมื่อได้เจอกันแล้ว ทีนี้ก็บอกมาได้แล้วมั้งว่าจะให้ฉันทำอะไร?” 

“รอสักครู่นะ” กู่ฉิงซานหยิบสมองควอนตัมส่วนบุคคลออกมา 

และเสียงของเทพธิดากงเจิ้งก็ดังลอดออกมาจากมัน “ใต้เท้าผู้ทรงเกียรติกู่ฉิงซาน ผลรายงานการวิเคราะห์น้ำฝนได้ออกมาแล้ว และพบว่ามันมิได้มีความผิดปกติใดๆ” 

‘ไม่พบความผิดปกติใดๆ? มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้นสิ’ 

เขาขบคิดด้วยความประหลาดใจ 

หลังจากที่ผีดิบนักฆ่าได้ปรากฏตัว และเผ่ามารก็ทำการแทรกซึมเข้าสู่โลกใบนี้ผ่านทางสายฝน 

น้ำฝนพวกนี้ แท้จริงแล้วแฝงไว้ซึ่งพลังงานจากโลกอื่น เมื่อตกลงไปบนผืนดิน ในที่สุดมันก็จะหลอมรวมตัวกันในส่วนลึกของโลกใบนี้ 

และโลกก็จะค่อยๆ ถูกเปลี่ยนแปลงโดยน้ำฝนอย่างเงียบๆ และมันจะไม่หยุดลงจนกว่าจะถึงจุดจุดหนึ่ง 

ทันทีที่ฝนหยุดตก จะบังเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้น! 

การเปลี่ยนแปลงที่เรียกได้ว่าเขย่าขวัญ สั่นประสาททุกผู้คน 

ในวันสิ้นโลก เมื่อบังเกิดฝนตกปริมาณมหาศาลในเขตที่อยู่อาศัยของมนุษย์ กลัวจากที่มันหยุดลง การก่อจลาจลครั้งใหญ่ก็จะเริ่มต้นขึ้นตามมาทันที 

กู่ฉิงซานย้อนระลึกไปในอดีตด้วยหัวใจอันหนักอึ้ง 

เนื่องจากน้ำฝนมิได้ตรวจพบถึงปัญหาอย่างชัดเจน ถ้าอย่างนั้นในสถานการณ์แบบนี้…  

ทันใดนั้นเอง จู่ๆ เทพธิดากงเจิ้งก็กล่าวออกมา “ใต้เท้าผู้ทรงเกียรติ มีอีกอย่างหนึ่งที่ฉันลืมบอกไป ในช่วงราวๆ หนึ่งถึงสองวันที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์แปลกๆ ขึ้น ฝนจากทั่วทุกมุมโลกได้หยุดตกลงพร้อมกัน” 

นั่นมันไม่นานมานี้นี่? นี่มันจะรวดเร็วเกินไปแล้ว! 

กู่ฉิงซานสะดุ้ง เขาตระหนักถึงทุกสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ในทันที 

นี่มันชักจะเลวร้ายเกินไปแล้ว ในช่วงเวลาสิบปีของวันสิ้นโลก เหตุการณ์ที่ส่งผลให้เกิดฝนหยุดตกพร้อมกันจากทั่วทั้งโลกนั่นมัน...

ที่แท้ก็เป็นเจ้าสิ่งนั้น! สิ่งที่แสนจะอำมหิตโหดเหี้ยมอย่างหาที่เปรียบมิได้! 

มันจบแล้ว ฉันไม่สามารถหยุดยั้งเหตุการณ์มันได้! 

ในตอนนั้นเอง พลันบังเกิดเสียงกังวานขึ้น 

“เพื่อนมนุษย์ที่เคารพรัก ‘เกมแห่งชีวิตนิรันดร์’ ได้เปิดตัวขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว” 

จู่ๆ เสียงนี้ก็ดังกังวานขึ้นมาอย่างไม่อาจหาต้นตอได้ และหากฟังดูดีๆ จะพบว่ามันเป็นเสียงของชราภาพคนหนึ่ง 

แต่มันน่าแปลกตรงที่เสียงนี้ ไม่เบาหรือดังจนเกินไป ราวกับมันกำลังกังวานอยู่ในหัวใจของแต่ละผู้คนโดยตรง 

“นี่มันบ้าอะไรกัน?” เหลียวฮังถามด้วยความตกใจระคนสงสัย 

“เสียงแปลกๆ นี่มันมีกลไกการทำงานอย่างไรกันแน่ ใครได้ใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีขั้นสูงอะไรหรือเปล่า ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามันจะดังขึ้นจากภายในจิตใจของฉันเองเลยโดยตรง” ซางหยิงฮ่าวหันไปมองรอบๆ อย่างหวาดระแวง 

สองตาของเย่เฟย์หยูหรี่แคบลง ดูเหมือนว่าเขากำลังสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง หลังจากเงียบอยู่นานจึงเอ่ยปาก “มันไม่ใช่เทคโนโลยี แต่มันเป็นสิ่งมีชีวิตบางอย่าง เสียงนี้ได้มุ่งเข้ามาในจิตใจของฉันเลยโดยตรง ช่างเป็นความสามารถที่ทรงพลังจริงๆ” 

กู่ฉิงซานถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาทิ้งตัวเอนหลังพิงเบาะโซฟาด้วยท่าทีหม่นหมอง 

“เจ้าสิ่งโสมมนี่ เป็นมันจริงๆ ด้วย” 

เขาเอ่ยกล่าวอย่างยากลำบากในจิตใจ 

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ ผู้คนทั้งหมดต่างชะงักงันไป ทว่ายังไม่ทันจะได้มีเวลามามัวคิดถึงมัน น้ำเสียงเมื่อครู่ก็ดังขึ้นอีกครั้ง 

“มนุษย์ในโลกเอ๊ย ขอออกตัวก่อนว่าข้าน่ะเป็นสหายของพวกเจ้า” 

“วันสิ้นโลกได้มาถึงแล้ว ภัยพิบัติอันไร้ที่สิ้นสุดจะบังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โชคชะตาของเจ้าจะเป็นดั่งมดที่ถูกน้ำท่วมรัง เป็นเพียงตัวตนเล็กจ้อย และมิอาจหลุดพ้นเป็นอิสระได้” 

“ทว่าหากสามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาได้เล่า พวกเจ้าจะทำมันหรือไม่?” 

“จงดิ้นรนต่อสู้! ฆ่าสังหารเพื่อก้าวเดินต่อไปข้างหน้า มีเพียงแค่ตัวตนที่แข็งแกร่งเท่านั้นจึงจะสามารถมีชีวิตรอดต่อไปได้!” 

กู่ฉิงซานทุบกำปั้นลงบนโต๊ะ จนมันปริร้าว แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ 

“บัดซบ!” เขาคำรามออกมา 

นี่มันเกมบัดซบ เกมบัดซบอันแสนฉาวโฉ่เกมนั้น! 

ในวันสิ้นโลก สังคมอารยธรรมของมนุษยชาติทั้งหมดได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง ทั้งหมดก็เป็นเพราะการปรากฏตัวขึ้นของเกมๆ นี้…ที่ได้ลดจำนวนประชากรของโลกลงไปกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์! 

และมันใช้เวลาเพียงแค่สิบวันเท่านั้น! สิบวันกลับสามารถทำให้โลกทั้งใบผิดเพี้ยนบ้าคลั่ง ตกลงสู่เงื้อมมือของมฤตยู 

“เกิดอะไรขึ้นอย่างงั้นเหรอ” ซางหยิงฮ่าวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจังมากเป็นพิเศษ 

กู่ฉิงซานมองไปยังทั้งสอง เอ่ยกล่าวด้วยท่าทีจริงจังที่สุดที่เคยแสดงออกมา “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม พวกนายห้ามตอบตกลงกับมัน ได้ยินไหม?” 

สิ้นเสียงของเขา เสียงกังวานดังกล่าวก็เปล่งออกมาอีกครั้ง 

“พวกเจ้าคือนักรบผู้กล้าหาญ นักรบผู้กล้าย่อมต้องเผชิญการแข่งขันท้าทาย และเมื่อเจ้าสามารถท้าทายสำเร็จได้หนึ่งครั้ง เจ้าก็จะสามารถได้รับพลังอันแข็งแกร่งมาไว้ในครอบครอง...จะได้รับแม้กระทั่งชีวิตอันเป็นนิรันดร์!” 

“เกมแห่งชีวิตนิรันดร์ ได้เปิดทำการแล้ว และพวกเจ้าจะต้องทำการลงทะเบียนเล่นมันในตอนนี้! เดี๋ยวนี้เลย!” 

หลังจากที่ประโยคดังกล่าวนี้จบลง เบื้องหน้าทั้งสี่ก็ปรากฏเส้นแสงตัวอักษรขนาดใหญ่ผุดขึ้นมาจากกลางอากาศที่ว่างเปล่า 

“ยอมรับ หรือ ปฏิเสธ” 

เส้นแสงตัวอักษรขนาดใหญ่นี้ยังคงล่องลอยอยู่กลางอากาศอย่างสงบ ราวกับว่ามันกำลังเฝ้ารอ แต่ขณะเดียวกันก็กำลังเชื้อเชิญ 

ฉากนี้ปรากฏขึ้นในทุกหนแห่งที่มีมนุษย์โลกอาศัยอยู่ 

กู่ฉิงซานถอนหายใจออกมา สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนเป็นเทาซีด บ่งบอกถึงความพ่ายแพ้ 

ถูกต้อง ไอ้เจ้าสิ่งที่เรียกว่าเกมแห่งชีวิตอันเป็นนิรันดร์นี่แหละ ที่สามารถทำให้มนุษย์ทุกคนละทิ้งทุกสิ่งอย่าง หมายไขว่คว้ารางวัลที่มันจะมอบให้อย่างบ้าคลั่ง 

กู่ฉิงซานเน้นเสียงสูงและกล่าว “ฟังฉันให้ดีนะ พวกนายต้องเลือก ‘ปฏิเสธ’ ตามฉัน ถ้าหากเลือก ‘ยอมรับ’ แล้วล่ะก็ ถ้าฉันเผลอยั้งหมัดตัวเองไม่ให้ซัดเข้าใส่หน้าพวกนายไม่อยู่ล่ะก็ อย่ามาตำหนิฉันก็แล้วกัน” 

ทั้งสามคนหันมามองเขา ก่อนจะสลับไปมองหน้ากันและกันอีกครั้ง 

ซางหยิงฮ่าวกับเย่เฟย์หยูได้เลือก ‘ปฏิเสธ’ พร้อมกันอย่างไม่เสียเวลาคิด 

เหลียวฮังจ้องมองไปยังตัวเลือกของเขา หลังจากลังเลอยู่นานเขาก็กดเลือก ปฏิเสธ 

“เอาล่ะ ทีนี้นายพอจะบอกได้หรือยังว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ซางหยิงฮ่าวเอ่ยถามออกมา

 “ฉันอารมณ์ไม่ดีอยู่ ถ้าอยากรู้ ก็รอดูด้วยตาตัวนายเองเถอะ ขอบอกเลยว่าลางสังหรณ์ของฉันน่ะไม่มีทางผิดพลาด” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างช้าๆ 

ซางหยิงฮ่าวพยักหน้า และไม่ได้เอ่ยถามอะไรอีก 

พวกเรื่องอะไรเกี่ยวกับลางสังหรณ์น่ะมันยากจะอธิบาย แม้ว่าลางสังหรณ์ของคนส่วนใหญ่น่ะมันจะเป็นเพียงเรื่องไร้สาระ ทว่าสำหรับมืออาชีพที่ทรงพลังแล้วนั้น มันจะต่างออกไป บ่อยครั้งที่พวกเขาสามารถแอบมองเห็นช่องว่างของโชคชะตา ตราบใดที่สัมผัสได้ถึงลางสังหรณ์บางอย่างขึ้น โดยทั่วไปแล้วมักจะถูกต้องเสมอ 

เสียงของชายชราดังขึ้นอีกครั้ง “ผู้เล่นกลุ่มแรกที่ต้องการจะเข้าสู่เกมแห่งชีวิตนิรันดร์ได้ทำการเลือกแล้ว” 

“เอาล่ะ รอบนี้เราจะทำการสุ่มเลือกจากผู้เล่นทั้งหมดที่มาเข้าร่วมการแข่งขัน จำนวนผู้เล่นทั้งหมดในครั้งนี้คือ หนึ่งหมื่นเจ็ดพันหกร้อยเก้าสิบเอ็ดคน” 

“หลังจากที่ผู้เล่นได้ทำการต่อสู้แข่งขันกันอย่างดุเดือดเข้มข้น พวกเราก็จะทำการคัดเลือกผู้ชนะคนสุดท้าย” 

“และผู้ชนะจะมีคุณสมบัติได้รับชีวิตอันเป็นนิรันดร์!” 

“ผู้ที่ยังไม่เข้าร่วมหรือยังคงลังเลอยู่เอ๊ย จงหลับตาลงเพื่อรับชมการแข่งขันท้าทายเพื่อความอยู่รอดนี้ด้วยตาของพวกเจ้าเองเถอะ” 

“และในตอนนี้ การแข่งขันท้าทายอันน่าตื่นเต้นกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า!” 

หลายคนอดไม่ได้ที่จะปิดตาลง 

และภาพก็ปรากฏขึ้นมาอย่างเงียบๆ ต่อหน้าทุกคน 

มันคือเวทีสังเวียนโบราณ 

ภายในสังเวียน พื้นของมันถูกก่อร่างสร้างขึ้นมาจากหิน บนลานสังเวียนที่แต่เดิมเงียบสงบ บัดนี้ปรากฏซึ่งร่างคนนับหมื่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน 

พวกเขายืนกระจุกตัวกันอย่างหนาแน่น เพียงแค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็กินพื้นที่ไปกว่าหนึ่งในสามส่วนของสังเวียนแล้ว 

เบื้องล่างพื้นที่การแข่งขัน เป็นเหวลึกอันไร้ที่สิ้นสุด ที่มิอาจมองเห็นก้นเหวได้ 

ที่นั่งโดยรอบบนสังเวียน ทั้งหมดว่างเปล่า ไม่มีผู้ใดนั่งอยู่เลย 

“เอ๋?” 

“นี่มันเรื่องจริงอย่างงั้นหรือนี่” 

“เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ มันทำให้ฉันสามารถเข้าสู่การแข่งขันท้าทายได้จริงๆ งั้นเหรอ” 

“ฉันเพียงแค่กดเลือกเล่นๆ เท่านั้นเอง…” 

“ว้าว! นี่มันเจ๋งไปเลย” 

“แปลกจัง ตอนมาก็มาได้ แต่ตอนนี้กลับไม่มีให้เลือกถอนตัว” 

“แล้วที่บอกว่าจะได้รับชีวิตนิรันดร์นี่มันเรื่องจริงอย่างงั้นเหรอ?” 

“ไม่นะ รู้สึกไม่ดีเลย ฉันอยากจะกลับไปแล้ว” 

“นี่มันชักจะเริ่มน่ากลัวซะแล้วสิ” 

“บ้าเอ๊ย” 

ขณะที่บางคนกำลังหวาดกลัว อีกหลายคนก็กำลังตื่นเต้น และประหลาดใจเกี่ยวกับประสบการณ์ใหม่ที่พวกเขากำลังได้รับ 

ที่ผู้คนจะมีความรู้สึกแตกต่างกันไปมันก็ไม่น่าแปลกใจหรอก เพราะหลังจากทั้งหมดนี้ วันสิ้นโลกน่ะได้มาถึงแล้ว มันแตกต่างออกไปจากในช่วงชีวิตในอดีตของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง พวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลอันน่าเหลือเชื่อได้อย่างต่อเนื่อง 

ทุกวันนี้รัฐบาลจากประเทศต่างๆ ได้แจ้งเตือนประชาชนเกี่ยวกับทิศทางของอสูรทะเลที่จะทำการขึ้นฝั่ง  และในข่าวมักจะปรากฏภาพของอสูรทะเลที่มีขนาดใหญ่กว่าตึกสิบชั้นให้ได้รับชมอยู่เสมอ 

นอกจากนี้ การดำรงอยู่ของผีดิบกินคนและผีดิบนักฆ่า ก็ยังเป็นข่าวปรากฏสู่สายตาของประชาชนทั่วๆ ไป บางครั้งก็ยังมีภาพของหุ่นรบขับเคลื่อนและเหล่ามืออาชีพกำลังต่อสู้เข่นฆ่ากับพวกมันฉายผ่านทางทีวีอีกด้วย 

ดังนั้น แม้ต้องพบเจอกับสิ่งที่แปลกประหลาดยิ่งกว่าทั้งสองเรื่องที่กล่าวมา ผู้คนส่วนใหญ่จึงสามารถยอมรับมันได้โดยสมบูรณ์ 

บนเวทีการแข่งขัน มีทั้งตำรวจ แพทย์ นักเลง นักเรียน แม่บ้าน เหล่ามืออาชีพ รวมๆ แล้วเกือบหนึ่งหมื่นแปดพันคน 

คนที่ยืนอยู่ที่นั่น บางคนก็รู้จักกัน บางคนก็กำลังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน และเฝ้ารอดูว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรต่อไป 

เสียงชราดังกังวานขึ้นอีกครั้ง 

“กฎของเกม จงมีชีวิตอยู่เป็นคนสุดท้าย และกลายเป็นราชาเพียงหนึ่งเดียว (ราชามีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น)” 

เมื่อประโยคนี้ถูกกล่าวออกมา หลายคนก็พลันฉุกคิดได้ สีหน้าท่าทีของพวกเขาแปรเปลี่ยนกลับกลาย 

“จงมีชีวิตรอดอยู่เป็นคนสุดท้าย’ นั่นมันกฎบ้าอะไรกัน นี่แกกำลังจะบอกว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถรอดชีวิตไปจากที่นี่ได้อย่างงั้นเหรอ?” บางคนตะโกนออกมา 

เสียงชรามิตอบกลับ แต่ยังคงอธิบายกฎอย่างต่อเนื่อง 

“ช่วงเวลาเล่นเกมคือ หนึ่ง ชั่วโมง” 

“ข้าขอให้พวกเจ้าทุกคนละเล่นกันอย่างสนุกสนาน” 

“เอาล่ะ การแข่งขันท้าย เริ่มต้น ณ บัดนี้!” 

และเสียงชราก็หายไป 

บางคนที่ฉลาดหน่อยก็รีบปลีกตัวออกจากฝูงชน วิ่งหนีไกลห่างออกไปทันที 

ส่วนเหล่าตัวโง่งมที่ยังยืนหลงเหลือ ก็ยังยืนนิ่ง และไม่รู้ว่าตนเองควรจะทำอย่างไรดี…

........................................