webnovel

0093 อยากรู้จักเป็นการส่วนตัว

ตอนที่ 93 อยากรู้จักเป็นการส่วนตัว

 ในแววตาอันงดงามของดู่กู้ฉงพลันเปล่งประกายสีสันสดใสออกมา

 ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ ตัวหดลีบ และเลือกที่จะถอยฉากไปหลบอยู่เบื้องหลังเธอ

 ผู้คนโดยรอบบนแท่นสูงต่างพากันหันไปมองรอบๆ ก่อนจะสังเกตเห็นถึงธนูโค้งที่อยู่ในมือของกู่ฉิงซาน

 เมื่อต้องเผชิญกับลูกศรอันน่าสยองขวัญเมื่อครู่นี้ จากนั้นก็เห็นธนูอยู่ในมือของคนคนหนึ่ง เหล่าผู้คนที่ชาญฉลาดบนแท่นสูงก็ตอบคำถามที่ค้างคาใจของตนได้ในทันที แต่ก็มีส่วนหนึ่งที่เลือกจะหันไปถามสถานการณ์กับบริกรที่คอยดูแล

 ซางหยิงฮ่าวชูสองมือขึ้น และเอ่ยฉลองล่วงหน้า “รางวัลใหญ่ตกเป็นของพวกเรา!”

 เขาหันไปมองกู่ฉิงซาน ก่อนจะสลับไปมองศพของจระเข้ยุคก่อนประวัติศาสตร์และเอ่ยปาก “น่าเสียดายที่นายไม่ได้เขาร่วมกับกลุ่มของฉัน”

 “ไม่ต้องเสียใจไปหรอก อย่างไรพวกเราก็เป็นหุ้นส่วนกัน” กู่ฉิงซานกล่าว

 บริกรก้าวเข้ามาอย่างกระวนกระวาย ก่อนจะกล่าว “ท่านครับ การกระทำเช่นนี้ไม่รวมอยู่ในข้อกำหนดของเรา”

 “ก็คุณไม่ได้พูดเองหรือว่า ข้อกำหนดมีเพียงแค่ไม่ให้ฆ่าเขา?” กู่ฉิงซานกล่าว

 บริกรกลายเป็นบื้อใบ้ไปครู่หนึ่ง

 ใช่ ที่กล่าวมาล้วนถูกต้อง แต่นักพนันที่นี่มักจะคิดถึงแต่วิธีการดึงดูดความสนใจของมอนสเตอร์กลายพันธุ์ให้กินเหยื่อของมัน

 แต่ไม่เคยมีใครที่ฉีกกฎ เลือกที่จะหันไปโจมตีเจ้าสัตว์ยักษ์มาก่อนเลย

 สรุปแล้วสิ่งนี้มันผิดกฎหรือไม่ผิดกันแน่?

 “ผมคงต้องขอตัวสักครู่” บริกรกล่าวขณะเดียวกันก็หยิบอุปกรณ์สื่อสารออกมาอย่างรวดเร็ว

 ผ่านไปหลายนาที บริกรก็ปิดอุปกรณ์สื่อสารลง

 เขาหันมากล่าว “สุภาพบุรุษทั้งสองท่าน พวกท่านสามารถออกจากแท่นเวทีได้เลยในตอนนี้”

 “ส่วนเรื่องชิปทางเราจะคืนให้ แต่การพนันครั้งนี้ถือเป็นโมฆะ”

 กู่ฉิงซาน “แล้วถ้าเราไม่ยังไม่ออกไป แต่ยังต้องการจะเล่นพนันต่อล่ะ?”

 บริกรเผยให้เห็นถึงความกระอักกระอ่วน เขาหันไปมองซางหยิงฮ่าว ก่อนจะสลับไปมองกู่ฉิงซาน ก่อนที่จะทำการตัดสินในจิตใจอีกครั้ง

 ที่นี่มิใช่ว่าใครก็จะสามารถมาเป็นบริกรได้ ดวงตาของพวกเขาจะต้องเฉียบคม

 “ท่านต้องการที่จะเดิมพันต่อจริงๆ ใช่ไหม?”

 “จริงๆ”

 บริกรยกหูขึ้นพูดคุยผ่านอุปกรณ์สื่อสารอีกครั้ง

 หลังจากผ่านไปเพียงช่วงสั้นๆ เขาก็ให้คำตอบออกมาว่า “ท่านครับ ท่านสามารถเล่นได้อีกครั้ง แต่อีกครั้งที่ว่าคือตัวท่านเองจะต้องไปยืนอยู่บนแพ และต้องรอดชีวิตให้ได้จนครบสามนาที และหากท่านสามารถเอาชนะได้ ตามกฎแล้วทางเราจึงจะทำการจ่ายให้ชิปเดิมพันทั้งหมดกลับคืน”

 จริงๆ แล้วการที่แขกจะต้องออกไปเล่นด้วยตัวเองมันค่อนข้างจะโหดร้ายมากเกินไปหน่อย ทว่าดูเหมือนเจ้าของคาสิโนจะค่อนข้างไม่พอใจกับการกระทำของกู่ฉิงซานอย่างเห็นได้ชัด

 “นี่แกรู้รึเปล่า ว่ากำลังพูดอะไรออกมา?” ซางหยิงฮ่าวยืนขึ้น แสยะยิ้มเย็นชา

 ซางหยิงฮ่าวเป็นถึงลูกชายคนโต เป็นถึงนายน้อยของเก้าตระกูลใหญ่ และเขาจะไม่อนุญาตให้ใครมาทำให้เขาโกรธ!

 กู่ฉิงซานยกมือขึ้นห้ามเขาและกล่าว “ไม่เป็นไร ฉันจะจัดการกับมันเอง”

 “ฉันจะเล่น” กู่ฉิงซานกล่าวกับบริกร “แล้วก็ถ้าฉันชนะทางคาสิโนสามารถเอาชิปทั้งหมดของฉันไปได้เลย ฉันต้องการแค่เฉพาะรางวัลใหญ่เท่านั้น”

 “นี่ท่านจริงจัง?” บริกรรู้สึกตกตะลึง เขาจับจ้องไปยังกู่ฉิงซานไม่วางตา

 “แน่อยู่แล้ว ‘ความใจป้ำเป็นต้นเหตุของความร่ำรวย’ บังเอิญสิ่งที่ทั้งฝั่งคุณและฉันต้องการก็สอดคล้องกันพอดี” กู่ฉิงซานกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 สิ่งที่เขาต้องการยังอยู่ในมือของอีกฝ่าย ดังนั้นในเวลานี้กู่ฉิงซานจึงไม่สมควรจะสร้างปัญหาใดๆ มิฉะนั้นอีกฝ่ายอาจฉีกกฎ และภารกิจของเขาก็จะยากที่จะบรรลุได้โดยสมบูรณ์แบบ

 บริกรจ้องมองลึกเข้าไปในแววตาของเด็กหนุ่ม

 ต่อให้เด็กหนุ่มผู้นี้จะดูผิดแผกไปจากปกติ ทว่าอย่างไรเสียก็เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งบนโลก

 การเปิดคาสิโนนั้นแน่นอนว่าย่อมต้องการกำไร หากเด็กคนนี้ชนะจริงๆ และเลือกที่จะเอาเงินที่ได้จากการเดิมพันไปด้วย นั่นหมายถึงเขากำลังตัดแหล่งรายได้ของคาสิโน เจ้านายจะต้องไม่ยอมปล่อยเขาไปแน่

 แต่อีกฝ่ายกลับเผยให้เห็นถึงความต้องการออกมา ว่าเขาไม่ได้สนใจเรื่องเงินเดิมพันที่มากจนน่าอัศจรรย์ใจ ตราบใดที่มอบหนึ่งในสองรายการพิเศษให้เลือก

 ตัวตนที่ไม่สนใจเงินอันมหาศาลนี้ ไม่เพียงแต่หาได้ยากยิ่ง แต่ยังทำให้ไม่มีใครกล้าดูถูกเขาอีกด้วย

 นอกจากนี้ข้อเสนอที่เขากล่าวมา แน่นอนว่าทางคาสิโนย่อมสนใจ

 บริกรหยิบอุปกรณ์สื่อสารขึ้นมาอีกรอบและรายงานสถานการณ์ไป

 และเขาก็ได้รับคำตอบกลับมาจากปลายสาย ก่อนจะหันไปยังกู่ฉิงซานและพยักหน้าให้

 “เจ้านายชื่นชมถึงความเอื้อเฟื้อของท่านเป็นอย่างมาก และเขาก็เห็นด้วยกับท่าน”

 “ฉลาดเลือกนี่นา ตอนนี้ฉันสามารถเริ่มได้เลยไหม? พอดีว่ากำลังรีบอยู่ด้วยสิ” กู่ฉิงซานยืนขึ้น

 “ตกลง ผมจะรีบถามให้ทันที” บริกรรายงานสถานการณ์ให้ปลายสายฟังด้วยความตื่นเต้น

 ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็ปิดอุปกรณ์สื่อสาร และโค้งคำนับกู่ฉิงซานอย่างสุภาพ 

 “ท่านครับ ตอนนี้เรากำลังจัดเตรียมสถานที่ โปรดลงไปในทะเลสาบก่อนเป็นอันดับแรก”

 ในขณะเดียวกันระบบกระจายเสียงก็ดังกังวานขึ้นอีกครั้ง

 “ในวันนี้ มีนักรบผู้กล้าหาญได้ทำการสังหารสัตว์ยักษ์ลง การกระทำเช่นนี้ทำให้ทางเราสูญเสียชิปไปเป็นจำนวนมาก เอาล่ะ ถ้าเช่นนั้นมาดูกัน ว่าตัวเขาแท้จริงแล้วจะเป็นนักรบผู้กล้าหาญที่แท้จริง หรือจะเป็นเพียงแค่ตัวปลอมกันแน่!”

 เรือลำเล็กๆ แล่นออกมา และหยุดอยู่ใต้แท่นเวทีที่กู่ฉิงซานยืนอยู่

 “นี่นาย” ซางหยิงฮ่าวต้องการจะกล่าวอะไรบางอย่าง

 “ไม่เป็นไรหรอก เวลาที่เราต้องการอะไรบางสิ่งจากอีกฝ่าย เราต้องทำตัวอัธยาศัยดีเอาไว้ก่อน จะเล่นสกปรกไม่ได้” กู่ฉิงซานโบกมือ และกระโดดลงไปข้างล่าง

 เรือลำเล็กๆ แล่นออกไปยังใจกลางทะเลสาบ

 ฝูงชนโดยรอบต่างพากันผิวปากและปรบมือ

 “ไอ้โง่”

 “เมื่อกี้ทำไว้แสบนักนะ ทีนี้ล่ะคอยดูเถอะ”

 “การเดิมพันในครั้งนี้มันน่าตื่นเต้นกว่าครั้งก่อนๆ จริงๆ นี่มันยอดมาก”

 “เขาจะตายหรือเปล่า?”

 ซางหยิงฮ่าวมองไปยังกู่ฉิงซานที่ค่อยๆ ไกลออกไปอย่างงุนงง เขาเอ่ยพึมพำ “ซากชิ้นส่วนมอนสเตอร์เอกภพ…ถึงฉันจะไม่เคยศึกษาเกี่ยวกับมันมาก่อนก็เถอะ แต่ก็ไม่รู้เลยจริงๆ ว่าเขาจะต้องการมันไปทำไม?”

 ในระบบออกอากาศ เสียงพลันดังกังวาน

 “ใต้เท้าทุกท่าน โปรดวางเดิมพัน!”

 “ทว่าจำเป็นต้องทราบถึงสิ่งสำคัญในคราวนี้ด้วย เพราะทางเราได้เตรียมสัตว์ยักษ์ไว้เผชิญหน้ากับเขาถึงสามตัว!”

 อีกด้านหนึ่ง ทันใดนั้นดู่กู้ฉงก็นั่งเหยียดหลังตรง เธอลุกขึ้นและเดินไปยังระเบียงแท่นเวทีแล้วมองลงไปยังใจกลางทะเลสาบ 

เห็นแค่เพียงเรือลำน้อยๆ ที่แกว่งไกวไปตามแรงคลื่น พร้อมกับเด็กหนุ่มที่ยืนหยัดอย่างมั่นคงและธนูในมือของเขา สีหน้าเต็มไปด้วยความสงบ

 บนแท่นเวทีอื่นๆ ฝูงชนต่างระเบิดเสียงเชียร์

 “ต้องแบบนี้สิถึงจะน่าสนุก”

 “ฉันเดิมพันสามแสนชิป ว่าเขาจะอยู่ได้ไม่ถึงยี่สิบวินาที!”

 “ยี่สิบวินาที? ฮ่าฮ่า ฉันว่าไม่น่าจะถึง ขอเดิมพันสิบห้าวินาที!”

 ใกล้ๆ กับใจกลางทะเลสาบ กู่ฉิงซานกระโจนออก และตกลงบนแพขนาดเล็ก

 ทันทีที่เท้าของเขาเหยียบลง ระบบกระจายเสียงก็ดังขึ้น

 คราวนี้เป็นเสียงที่ดูทรงพลังแต่ก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นมาก 

 “การแสดงที่แสนจะโหดร้ายกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว โปรดวางเดิมพันของคุณซะ!…ว่าแต่คิดว่าเขาจะสามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้สักกี่วินาทีกัน?”

 เสียงที่ดูทรงพลังดังกังวานขึ้น “สหายที่รัก เริ่มทำการเดิมพันได้!”

 ทุกคนบนแท่นเวทีได้ถูกจุดประกายไฟแห่งห้วงอารมณ์ขึ้นอย่างสมบูรณ์ พวกเขาแทบจะกระโจนเข้าหาบริกรและทำการเดิมพันของตัวเองอย่างคลุ้มคลั่ง

 ซางหยิงฮ่าวนั่งอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนจะกวักมือเรียกบริกร

 “ครับท่าน?”

 “ฉันต้องการแลกเปลี่ยนชิป”

 เขาหยิบสมองควอนตัมส่วนบุคคลขึ้นมาและทำการถ่ายโอนแต้มบุญล็อตใหญ่

 บริกรทำการยืนยัน และแลกเปลี่ยนมันเป็นชิปให้ในทันที

 ในตอนนั้นเอง เบื้องหลังของซางหยิงฮ่าวก็ปรากฏเสียงของหญิงสาวขึ้น

 “คุณคะ”

 ซางหยิงฮ่าวยืนขึ้น เอี้ยวตัวกลับและกล่าว “สวัสดีสาวสวย คุณมีอะไรให้ผมรับใช้หรือเปล่า?”

 “เพื่อนของคุณน่ะ” ดู่กู้ฉงชี้ไปยังใจกลางทะเลสาบ “คุณจะไม่กังวลสักหน่อยหรอ?”

 ซางหยิงฮ่าวมองสำรวจอีกฝ่ายเล็กน้อย

 ผู้หญิงคนนี้ตัวค่อนข้างสูง มีคู่ดวงตาที่อันอ่อนโยนที่แลดูคล้ายเม็ดอัลมอนด์ ด้วยส่วนสูงของเธอทำให้หน้าอกนูนเว้าเข้ารูป ยิ่งหนุนเสริมให้ทุกๆ กิริยาของเธอดูสง่าและงดงาม

 และผู้หญิงที่มีสามคุณสมบัติดังที่กล่าวมาเมื่อครู่นี้ก็นับว่าเป็นไปตามมาตรฐานของซางหยิงฮ่าว และยังถูกนับว่าหญิงระดับสูงในหมู่มวลหญิงสาวด้วยกัน

 แต่นับว่าน่าเสียดายที่ผู้หญิงคนนี้ดูมีแนวโน้มว่าจะเป็นพวกซาดิสม์ที่ชื่นชอบการถูกข่มเหง ทั้งๆ ที่ถูกอีกฝ่ายปล่อยจิตสังหารเข้าใส่ แต่ดันกลับกลายเป็นสนใจเจ้าสัตว์ประหลาดในร่างมนุษย์เจ้าของจิตสังหารนั่นเองเสียนี่

 ซางหยิงฮ่าวลอบถอนหายใจอย่างเงียบๆ ก่อนจะกล่าว “ผมไม่กังวลเกี่ยวกับเขาหรอก เขาเป็นนักล่าที่ดี และที่สำคัญคุณก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรู้สึกตื่นตระหนกหรือวิตกกังวลอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้”

 ดู่กู้ฉงขบคิดก่อนเอ่ยปาก “ถ้าคุณไม่รังเกียจ ฉันขอนั่งดูด้วยกันกับคุณจะได้ไหม”

 ซางหยิงฮ่าวหันมองไปยังแท่นเวทีด้านข้าง

 ดู่กู้ฉงหันไปมองตามและกล่าว “ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องใส่ใจเกี่ยวกับเขา เขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของฉันเอง”

 ขณะนั้น ชายวัยกลางคนดูเหมือนจะรู้ตัวว่าเธอหันหน้ามา จึงรีบเผยรอยยิ้มออกมาอย่างฉับพลัน แต่ด้วยรอยยิ้มที่โคตรฝืนทำให้มันออกมาดูน่าเกลียดไม่น้อย

 ซางหยิงฮ่าวกล่าว “เชิญนั่ง”

 ในเวลานั้นเอง บริกรก็ยกกล่องที่อัดแน่นไปด้วยชิปกลับมา

 “ท่านครับ นี่ชิปของท่าน” บริกรกล่าว

 “ช่วยใช้ชิปของฉัน เดิมพันว่าเขาจะมีชีวิตรอด” ซางหยิงฮ่าวเพียงสั้นๆ

 “ท่านต้องการจะเดิมพันเท่าไหร่?”

 “ทั้งหมด”

 “เอ่อ…รับทราบแล้ว” บริกรกล่าวและเริ่มทำการบันทึก

 ดู่กู้ฉงโฉบสายตาไปยังชิปเหล่านี้ ในหัวใจของเธอตีค่ามันออกมาเป็นตัวเงินในทันที

 ชิปในกล่องนี้ หากแปลงค่าเป็นเครดิตของรัฐบาลกลาง มันจะมีมูลค่าถึงสองร้อยล้าน

 ซางหยิงฮ่าวสังเกตได้ถึงสายตาของเธอ เลยกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “ผมคงต้องขอกล่าวอย่างซื่อตรงว่าโชคลาภของคุณกำลังอยู่ใกล้แค่เอื้อม คุณสามารถเดิมพันเพิ่มในชื่อผมก็ได้ หากชนะมันก็เป็นของคุณไป แต่ถ้าไม่ ก็หักจากชิปของผม ถือว่าคุณไม่เสียอะไร”

 ดู่กู้ฉง “ไม่จำเป็น”

 ซางหยิงฮ่าวดูจะล้มเหลวในการหว่านเสน่ห์ใส่เธอ เขาจึงเอ่ยถามอย่างสงสัย “ทำไมล่ะ?”

 ดู่กู้ฉงกล่าวด้วยรอยยิ้มอันงดงาม “เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา แต่วันนี้ฉันมาที่นี่เพราะเพื่อหาความบันเทิงก็เท่านั้น”

 ซางหยิงฮ่าวเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยถาม “ผมขออนุญาตเอ่ยถามได้ไหมว่าคุณชื่ออะไร?”

 “ฉันชื่อ ดู่กู้ฉง”

 ดู่กู้ฉง

 ซางหยิงสูดหายใจลึก และแอบรู้สึกเสียใจอย่างลับๆ

 ว่าทำไมเมื่อครู่คนที่ปลดปล่อยจิตสังหารออกมาจึงเป็นกู่ฉิงซานไม่ใช่เขา ไม่อย่างงั้นหญิงสาวคนนี้คงเลือกที่จะหลงเขาแทนไปแล้ว!

 ก็ใครมันจะไม่รู้เล่าว่าหญิงสาวที่ครอบครองสถานะอันไม่ธรรมดาคนนี้จะเป็นพวกซาดิสม์!

........................................