webnovel

0042 ขยับแข้งขยับขา

ตอนที่ 42 ขยับแข้งขยับขา

“ของขวัญวันเกิดของเธอพร้อมแล้วนะ” กู่ฉิงซานชิงเปลี่ยนเรื่อง

“อ๊า! ฉันต้องการของขวัญ! นายจะเอามาให้ฉันเมื่อไหร่? ฉันอดใจไม่ไหวที่จะได้เห็นมันแล้ว!” ซูเซี่ยเอ๋อที่กำลังเสียใจเรื่องพลั้งปากไป พอได้ยินคำกล่าวของอีกฝ่ายก็กลับมาสดใสอีกครั้ง

“พอจะมีเวลาช่วงเย็นไหม”

“มีสิ ถึงจะบอกว่านักศึกษาที่ถูกส่งตัวมาล่วงหน้าจะต้องทำความคุ้นเคยกับมหาวิทยาลัยและอาจารย์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทุกๆ วันฉันว่าง!”

“โอเค ฉันจะไปหาเธอในช่วงเย็น”

“อยากให้ถึงเวลาเร็วๆ จัง ถ้าอย่างนั้นฉันจะรอนายนะ”

กล่าวจบ ซูเซี่ยเอ๋อก็รู้สึกว่าประโยคเมื่อครู่มันดูจะไม่ค่อยสงวนตัวสักเท่าไหร่ หน้าของเธอเริ่มแดงด้วยความเขินอาย ก่อนที่อุปกรณ์สื่อสารจะถูกปิดลงอย่างรวดเร็ว

กู่ฉิงซานยิ้มอย่างเงียบๆ แต่เขายังคงไม่ปิดอุปกรณ์สื่อสาร เนื่องจากสังเกตเห็นถึงอะไรบางอย่าง

“เทพธิดากงเจิ้ง?”

“เป็นฉันเอง ฉันได้สังเกตเห็นการสนทนาของคุณ เลยมาบอกว่าการทดสอบโมเดลเพลิงนางฟ้าได้เสร็จสมบูรณ์แล้วส่วนการทดสอบรอบสองกำลังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ”

“ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น แต่คุณไม่สมควรจะได้ยินเรื่องส่วนตัวของฉันหรือเปล่า?”

“โปรดวางใจ เทพธิดากงเจิ้งจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิทธิใดๆ ของมนุษย์ เรื่องการตกหลุมรักใครบางคนก็เช่นกัน”

“เฮ้ย ฉันไม่ได้หมายถึงแบบนั้น ที่ฉันต้องการจะบอกก็คืออย่ามาแอบฟัง!”

“ตามความประสงค์ส่วนบุคคลของพลเมืองกู่ฉิงซาน เรื่องการติดต่อกับซูเซี่ยเอ๋อจะถูกเก็บเป็นความลับ และการตรวจสอบความปลอดภัยจะถูกลบออก”

“…ฉันว่าตอนนี้เรากลับเข้าประเด็นกันดีกว่า จริงสิ ฉันต้องการเพลิงนางฟ้า”

“การทดสอบรอบสองยังคงไม่เสร็จสิ้น คุณต้องการมอบเพลิงนางฟ้าเป็นของขวัญแก่ซูเซี่ยเอ๋อเลยหรือไม่”

“อ่า คุณวางใจได้ ฉันได้ลองทดสอบมันในหลายรูปแบบแล้ว ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”

ในชีวิตก่อนหน้า ฉันทดสอบมันมาแล้วตลอดทั้งชีวิต...กู่ฉิงซานคิดในใจ

“เพลิงนางฟ้ากำลังถูกจัดเตรียม”

“ซูเซี่ยเอ๋อเข้าสู่รายชื่อสำคัญที่ต้องได้รับการปกป้องจากรัฐบาลกลาง”

“อีกสามชั่วโมงหลังจากนี้ เพลิงนางฟ้าจะจัดเตรียมเสร็จสิ้น”

“เยี่ยมไปเลย ขอบคุณมาก”

กู่ฉิงซานไม่ได้ตัดการเชื่อมต่อ

ไม่รู้ว่าทำไมเมื่อเร็วๆ นี้ กู่ฉิงซานถึงไม่จำเป็นต้องยื่นเรื่องร้องขอใดๆ เลย แต่เขากลับสามารถเชื่อมต่อกับเทพธิดากงเจิ้งได้ตลอดเวลา

มันเป็นไปไหมว่าเพราะฉันกลายมาเป็นคนของประธานาธิบดี ดังนั้นเทพธิดาจึงให้ความสนใจเป็นพิเศษ กู่ฉิงซานครุ่นคิดอย่างเงียบๆ

ในชีวิตก่อนหน้า เขาออกจากรัฐบาลกลางไปตั้งแต่ช่วงแรกๆ มุ่งหน้าไปยังจักรวรรดิฟูซี และไม่เคยติดต่อใดๆ กับเทพธิดากงเจิ้ง ดังนั้นเขาจึงไม่คุ้นเคยกับกลไกการทำงานของเธอ

กู่ฉิงซานเข้าไปอาบน้ำ ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกจากห้องไป

ช่วงเช้าเป็นเวลาอิสระ เขาสามารถใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ฝึกฝนเทคนิคได้

กู่ฉิงซานสอบถามแผนกต้อนรับของโรงแรม และได้รับข้อมูลอย่างรวดเร็วว่า แถวๆ นี้มีสปอร์ตคลับที่มีหอยิงธนูอยู่

การยิงธนูเป็นกีฬาอันทรงเกียรติ ในยุคสงครามเย็น อาวุธเกือบทั้งหมดได้กลายมาเป็นกีฬาอันสง่างามแล้วในตอนนี้

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ค่าใช้จ่ายย่อมไม่ถูกอย่างแน่นอน

กู่ฉิงซานพลันนึกขึ้นได้ว่า เขาควรจะดูว่ามีคะแนนเครดิตเท่าไหร่

ท่านประธานาธิบดีได้ให้การทุนสนับสนุนเขาในการศึกษา แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่ไม่รู้จักพอ ถึงต้องไปยื่นมือขอความช่วยเหลือจากใคร

กู่ฉิงซานหยิบสมองควอนตัมส่วนตัวขึ้นมา และเปิดหน้าต่างสถานะส่วนบุคคลของเขา

“หืม มีอยู่ตั้งหนึ่งหมื่นเก้าพันสองร้อยแต้มเครดิต ดีจริงๆ ที่ฉันรู้จักประหยัด หวังว่ามันคงจะเพียงพอที่จะจ่ายค่าใช้บริการนะ”

ทั้งหมดนี้เป็นเงินของเขาที่ได้มาจากการทำงาน และตั้งใจที่จะเก็บมันเอาไว้สำหรับจ่ายค่าเทอมในปีแรกของมหาวิทยาลัย

ตอนนี้ค่าเทอมของเขาได้รับการสนับสนุนแล้ว ดังนั้นสถานภาพการเงินของกู่ฉิงซานจึงดีขึ้นเล็กน้อย

สายตาของกู่ฉิงซานกวาดผ่านหน้าจอสมองควอนตัม ทันใดนั้นมันก็พลันหยุดกึกลง

“แต้มบุญส่วนบุคคล 799873957281439 แต้ม”

กู่ฉิงซานงง จิตใต้สำนึกของเขาสั่งให้กดรีเฟรชไปโดยไม่รู้ตัว

ทว่าเส้นแสงบนสมองควอนตัมกลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

“สมองควอนตัมอันนี้ก็ใช้งานมาตั้งเจ็ดถึงแปดปีแล้วล่ะนะ สุดท้ายมันก็เกิดปัญหาขึ้นจนได้”

เขาถอนหายใจอย่างเงียบๆ

ในตอนที่เขาสร้างเกราะรบให้แก่ซูเซี่ยเอ๋อ เขามีแต้มบุญอยู่แค่เพียงสองพันแต้มเท่านั้น และหลังจากทำการร้องขอการสนับสนุนจากเทพธิดากงเจิ้ง มันก็แทบจะไม่หลงเหลืออยู่อีกเลย

ดังนั้นตัวเลขที่ดูมั่วซั่วนี้ อาจเกิดขึ้นได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือเกิดปัญหาบางอย่างขึ้นกับสมองควอนตัม

ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนสมองควอนตัมส่วนบุคคลจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายแต้มเครดิตที่สูงมาก นี่จะทำให้เขากระเป๋าแห้งอย่างรวดเร็ว

แบบนี้ไม่ดีแน่ คนเราต้องกินต้องใช้ ฉันคงต้องรีบหางานทำโดยเร็วที่สุด เพื่อให้สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

กู่ฉิงซานเดินออกจากโรงแรมและขึ้นรถขนส่งไป

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

กู่ฉิงซานลงจากรถขนส่งที่เบียดเสียดไปด้วยผู้โดยสาร และหยุดยืนอยู่บนถนน

“เมืองหลวงนี่มันต่างออกไปจริงๆ ผู้คนก็มากมาย”

กู่ฉิงซานปาดเหงื่อบนหน้าผากของเขา และหันไปมองรอบๆ ก่อนจะเห็นป้ายโฆษณาของสปอร์ตคลับ

สปอร์ตคลับ ‘นักษัตร’

กู่ฉิงซานก้าวเข้าไป ทันใดนั้นพนักงานหญิงหลายคนก็ออกมาต้อนรับ

“สวัสดียามเช้าค่ะคุณสุภาพบุรุษ ไม่ทราบว่ามีบัตรสมาชิกไหมคะ?” อีกฝ่ายทักทายอย่างสุภาพ

“ไม่มีหรอก ฉันพึ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก” กู่ฉิงซานบอกไปตามความจริง

พนักงานต้อนรับหญิงถอยฉากออกไป พร้อมกับผู้หญิงที่ดูจะเป็นผู้จัดการเดินสวนเข้ามา

สายตาของเธอกวาดมองเขาอย่างสงบ และทัศนคติของเธอก็เผยถึงความเย็นชา

กู่ฉิงซานสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้น กางเกงสีดำทรงหลวม ดูเรียบง่ายสะอาดตา แต่ตามมุมและชายผ้าดูจะเก่าและธรรมดามาก แถมยังหิ้วกระเป๋าแปลกๆ มาอีก

เพื่อที่จะปกปิดเรื่องธนูเย่หยูและถุงสัมภาระ ดังนั้นกู่ฉิงซานจึงหิ้วกระเป๋าใส่ธนูยาวมาด้วย

ผู้จัดการหญิงออกมาต้อนรับคนอยู่ทุกวี่วัน เพียงสาดสายตาดูก็รู้ว่าคนตรงหน้าเธอเป็นเพียงนักเรียนที่ยากจน

“พื้นที่ใช้งานฟรีจะอยู่ทางด้านขวา และในชั้นใต้ดินสอง”

ผู้จัดการหญิงเบนสายตาออกไป เหลียวหลังกลับ และเอ่ยน้ำเสียงห้วน

“แล้วหอยิงธนูล่ะครับ อยู่ตรงไหน?” กู่ฉิงซานถาม

“หอยิงธนู?”

ผู้จัดการหญิงฉีกยิ้มอย่างฉับพลัน ที่แท้กลับกลายเป็นว่าเจ้าหนุ่มนี่พยายามปีนป่ายขึ้นไปอยู่กับพวกชนชั้นสูง โดยการเลียนแบบการกระทำของพวกเขา

ยิงธนู เป็นกีฬาที่ได้ได้รับความนิยมของชนชั้นสูง

ชุดคันธนูดีสภาพดูดีหน่อยก็ต้องจ่ายออกนับหมื่นเครดิต และหากคุณต้องการที่จะใช้คันธนูอย่างดีที่มีไว้ใช้ส่วนตัว อย่างน้อยก็ต้องจ่ายออกถึงห้าแสนแต้มเครดิต

มันเป็นจำนวนเงินที่คนทั่วไปไม่อาจจะซื้อธนูอย่างดีได้

แม้ว่าคุณเลือกที่จะเช่าธนูจากหอธนูก็ตาม แต่ขั้นต่ำคือต้องเช่าสามเดือน และมันมีค่าใช้จ่ายตามมาอีกมากมาย

หอธนูเป็นสถานที่สำหรับชนชั้นสูงและผู้มีฐานะร่ำรวย มีไว้ใช้เวลาว่างของพวกเขา

“ขออภัยนะคะคุณสุภาพบุรุษ ไม่ทราบว่าคุณมีธนูเป็นของตัวเองหรือยัง ถ้ายังไม่มี ทางเรามีขายนะคะ” ผู้จัดการหญิงกล่าวเสียงเบาราวกระซิบ

เธอเชื่อว่าประโยคนี้จะสามารถขจัดความหลงผิดของอีกฝ่าย

“เอ่อ ฉันมีธนูอยู่แล้ว แค่ต้องการหาสถานที่ฝึกฝนมันเท่านั้น” กู่ฉิงซานพยักหน้า

ผู้จัดการหญิงหรี่ตาลง

เธอกวาดตามองชายหนุ่มหัวจรดเท้าอีกครั้ง

ใช่แล้ว เสื้อผ้าราคาถูก รองเท้าผ้าใบที่ดูจะใช้งานมาหลายปี แถมยังเป็นแบรนด์ที่ไม่เคยได้เห็นได้ยินมาก่อนอีกด้วย

ของเก่าที่ใช้มาเป็นเวลานานจนเห็นได้สะดุดตา แถมยังหน้าด้านโกหกไร้ยางอาย และหมายจะพยายามจะเอื้อมสัมผัสกับหอธนูอีก

ก็แค่พวกที่อยากปีนป่ายขึ้นมาเป็นชนชั้นสูงสินะ?

ผู้จัดการหญิงแอบเย้ยหยันอย่างลับๆ และชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง “หอธนูอยู่ในพื้นที่ส่วนหลังของคลับ และต้องผ่านไปอีกสองห้อง ให้ฉันนำทางคุณไปที่นั่นจะดีกว่าไหม?”

“กรุณาด้วย”

ผู้จัดการหญิงเดินนำกู่ฉิงซานไปยังพื้นที่ส่วนหลัง แต่ก็ยังเหลียวกลับมาส่งสายตา

พนักงานต้อนรับหญิงหลายคนที่เห็นสายตานั้นต่างหัวเราะด้วยความขบขันบนใบหน้า

เมื่อทั้งสองออกจากห้องพวกเธอก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยออกมา

“อีกคนแล้วสิ”

“ฉันคิดว่าเดี๋ยวเขาคงจะถูกไล่ออกในไม่ช้า”

“แน่นอนอยู่แล้ว เด็กน้อยยากจนที่น่าสงสาร คงจะไม่รู้หรอกว่าการจะเข้าสู่หอธนูจำเป็นต้องมีสถานะบางอย่าง มิฉะนั้นประตูจะไม่มีทางเปิดออก”

“ฉันล่ะอยากเห็นท่าทีอับอายของเขาที่ติดแหง่กอยู่หน้าประตู และไม่สามารถเข้าไปได้เลยจริงๆ”

“คอยดูเถอะ สักพักเขาก็จะถูกยามรักษาความปลอดภัยลากตัวออกมาในไม่ช้า”

“หรือว่าพอเขาออกมาแล้วพวกเราจะพูดออกไปว่าคราวหน้าเชิญมาใหม่ดีไหม?”

“คิๆ เป็นความคิดที่ดี”

...

ผู้จัดการหญิงพากู่ฉิงซานผ่านบริเวณพื้นที่จัดวางเครื่องมือว่ายน้ำ และในที่สุดก็มาหยุดอยู่เบื้องหน้าประตูอัตโนมัติ

เธอก้าวถอยหลังไปสองก้าวอย่างเงียบๆ และเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “มาถึงแล้ว เชิญคุณเข้าไปได้เลย”

“ตกลง” กู่ฉิงซานเดินไปที่ประตู

ทว่ามันยังคงปิดอยู่

กู่ฉิงซานพยายามผลักประตู แต่ก็พบว่ามันถูกล็อค

เขาหันไปมองผู้จัดการเป็นเชิงคำถาม

ผู้จัดการหญิงเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่แยแส “หากคุณต้องการเข้าสู่หอธนู จำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลจากสมองควอนตัมในการยืนยัน หากคุณมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดประตูก็จะเปิดออก”

กู่ฉิงซานกล่าวด้วยความกังวล “แต่สมองควอนตัมของฉันดูมันจะมีปัญหาเล็กน้อย ถ้าอย่างนั้นเอาไว้วันหลังแล้วกัน ลืมมันไปเถอะ”

ผู้จัดการหญิงยิ้มอย่างเงียบๆและเอ่ย “มันจะเป็นการดีกว่าถ้าได้ทดลองดูนะคะ บางทีคุณอาจจะผ่านการตรวจสอบก็ได้?”

เธอยกมือขึ้น และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองสามคนก็เดินตรงเข้ามา

กู่ฉิงซานเห็นดังนั้น ก็ตระหนักได้ว่าแท้จริงแล้วเขากำลังถูกเข้าใจผิด

ภายใต้สถานการณ์ปกติ จะไม่มีการยืนยันข้อมูลส่วนบุคคล หากไม่ใช่ผู้ลี้ภัย นักโทษหลบหนี หรือผู้ที่มีบางอย่างในร่างกายผิดปกติ

เขาส่ายหัวและจำใจยกสมองควอนตัมส่วนบุคคลขึ้นมาแล้วเปิดการเชื่อมต่อแบบไร้สายเพื่อทำการตรวจสอบ

‘ติ๊ง!’

“ยืนยัน ผ่านการตรวจสอบ”

“ยินดีต้อนรับ ‘ใต้เท้าผู้ทรงเกียรติ’ การมาถึงของท่านนับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับคลับนักษัตร”

เสียงสังเคราะห์อิเล็กทรอนิกส์ดังขึ้น ทว่าน้ำเสียงของมันกลับฟังดูนอบน้อมถ่อมตน และเต็มไปด้วยความเคารพ

นี่คือเสียงที่ได้รับการตั้งค่าไว้ล่วงหน้า หากผู้คนที่มีฐานะแตกต่างกันเดินทางมาที่นี่ ระบบตอบรับจะตอบโต้แตกต่างกันออกไป

ประตูหอธนูเปิดออก

“ใต้เท้าผู้ทรงเกียรติ?”

ผู้จัดการหญิงตกตะลึง และทั้งร่างสั่นสะท้านราวกับกลายเป็นตัวโง่งม

คนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่ตัวเธอย่อมรู้ดีว่าคำนี้มันหมายถึงอะไร

มีแค่เพียงตัวตนระดับผู้นำ หรือจ้าวมณฑลทั้งเก้าเท่านั้นที่จะถูกเรียกว่า ‘ใต้เท้าผู้ทรงเกียรติ’

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนดูจะหลักแหลมไม่เบา เพียงแค่เห็นท่าทีของผู้จัดการหญิง ทั้งหมดก็ถอยฉากกลับไปอย่างเงียบๆ

ในหอธนู มีพนักงานสองคนวิ่งโร่เข้ามาทักทายกู่ฉิงซาน ทั้งสองโค้งคำนับชนิดหัวทำมุมเก้าสิบองศาและกล่าว “ยินดีต้อนรับการมาถึงของท่าน เชิญตามพวกเรามา”

กู่ฉิงซานกล่าว “ตกลง”

ไม่คิดเลยว่าจริงๆ แล้วสปอร์ตคลับในเมืองหลวงจะมีบริการดีแบบนี้ น่าประทับใจจริงๆ

เขาถอนหายใจอย่างลับๆ

กู่ฉิงซานเดินเข้าไปในหอธนู ก่อนจะเหลียวหลังกลับไปทางนอกประตูและกล่าวอย่างสุภาพ “ขอบคุณที่นำทางนะ”

“ย่ะ...ยินดีเป็นอย่างยิ่ง” ผู้จัดการหญิงที่อยู่อยู่นอกประตูกล่าวแบบติดอ่าง

กู่ฉิงซานยิ้มและเดินตามพนักงานที่ดูขยันขันแข็งสองคนไป

ประตูอัตโนมัติค่อยๆ ปิดลงอย่างช้าๆ

ผู้จัดการหญิงยังคงยืนนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น จ้องมองฉากเบื้องหน้าด้วยสายตาเลื่อนลอย

………………..………………..