1 ผู้รอดชีวิต

เชียงใหม่, ค.ศ.2049

ชายหนุ่มประทับปืนไรเฟิลกับบ่า เขาเตรียมยิงนัดสุดท้ายออกไป ความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่หัวใจครั้งแล้วครั้งเล่า วันนี้เขายิงกระสุนออกจากรังเพลิงมาไม่ต่ำกว่าสิบนัด แต่ละนัดที่ยิงออกไปทำให้เขาเจ็บปวดจนน้ำตาไหลพราก กระสุนนัดแรกนั่นเหรอ ยิงอกแม่ตนเอง นัดที่สองระเบิดสมองพ่อที่กำลังปรี่เข้ามาอย่างดุร้าย นัดที่สามยิงน้องชายที่กำลังกระหายเลือด นัดที่สี่ ที่ห้า และอีกหลาย ๆ นัดเขาล้วนยิงคนที่รักทุกนัด

และนี่จะเป็นนัดสุดท้ายสำหรับคนที่เขารัก นับแต่นี้ไปโลกใบนี้จะเหลือเพียงเขาคนเดียวที่ยังเป็นมนุษย์ แล้วพวกที่เหลือล่ะ? ที่เดินอยู่ตามท้องถนนนับพันร่าง และคนที่กำลังเดินเข้ามาหาเขา เป็นสตรีที่ดวงตาแดงฉาน ฟันในปากของหล่อนกระทบกันตลอดเวลา เหมือนต้องการขบเคี้ยวเนื้อสด ๆ จากร่างที่ยังมีชีวิตเช่นเขา ท่าเดินโขยกเขยกคล้ายคนพิการแต่มันยังเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วและมั่นคง คนเหล่านี้ไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์ไปแล้ว พวกมันเป็นผู้ติดเชื้อ

"ปัง..."

เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ร่างหญิงสาวท่าทางประหลาดล้มลงกองกับพื้นทันที บริเวณอกซ้ายของมันเป็นรูแหลกเละจากแรงอัดของกระสุน

ชายหนุ่มปล่อยปืนลูกซองตกลงพื้นพร้อมกับใช้สองมือปิดหน้าร่ำไห้ออกมา เขาลงมือยิงคนที่รักคนสุดท้ายไปแล้ว นับแต่นี้ไปเขาจะเป็นผู้โดดเดี่ยวตลอดกาล เมื่อสายตาของเขาจ้องมองซากศพนั้นก็ส่งเสียงร้องไห้ออกมา

จากการระบาดของเชื้อโควิท-19 ที่ยืดเยื้อมาหลายสิบปี ได้คร่าชีวิตผู้คนไปหลายพันล้านชีวิต แม้มนุษย์จะผลิตวัดซีนออกมาไม่ขาดสาย แต่เชื้อโควิท-19 ก็มีวิวัฒนาการกลายพันธ์ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเมื่อเจ็ดเดือนก่อน มีการค้นพบเชื้อกลายพันธุ์ชนิดใหม่ มันสามารถเข้าควบคุมร่างกายและสมองของมนุษย์ได้ ทำให้ซากศพที่สิ้นลมหายใจไปแล้วเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่กระหายเลือด พร้อมจะกัดกินสิ่งมีชีวิตอื่นตลอดเวลา

เพียงเจ็ดเดือนเท่านั้นทุกประเทศบนโลกใบนี้ล่มสลาย เมื่อมนุษย์กัดกินมนุษย์ เหล่าผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวนมหาศาล ผู้คนปกติต้องหลบหนีซ่อนตัวอยู่ในหลุมหลบภัย ในป่า ในซากปรักหักพังของสิ่งก่อสร้างเก่า ๆ บางพวกก็สร้างอาณานิคมที่มีกำแพงล้อมรอบแน่นหนา แต่ด้วยจำนวนของผู้ติดเชื้อที่มีมหาศาล กำแพงก็แตกในที่สุด ผู้คนล้มตายและกลับกลายเป็นผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน

ครอบครัวของปุ๊หลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่มาหนึ่งเดือนแล้ว แต่โชคร้ายที่คนในครอบครัวคนหนึ่งติดเชื้อ จึงทำให้ที่เหลือติดเชื้อไปด้วย เป็นโชคดีของเขาที่ออกไปหาอาหารจึงไม่ได้ติดเชื้อเหมือนคนอื่น ดังนั้นสิ่งที่เขาทำได้อย่างเดียวคือ สังหารครอบครัวที่ติดเชื้อให้หมด แม้จะต้องเจ็บปวดเพียงไหนก็ตาม ก็ยังดีกว่าทนเห็นพวกเขากลายเป็นตัวกระหายเลือดไร้จิตวิญญาณเช่นนี้

ปุ๊ลงมือเก็บสิ่งของที่จำเป็นใส่เป้ อาหารกระป๋อง ยาในกล่องยาสามัญประจำบ้าน เสื้อผ้าสองสามชุด และที่ขาดไม่ได้คือลูกกระสุนกว่าสองร้อยนัดที่พ่อของเขากักตุนเอาไว้ วันนี้เขาไม่ต้องการอยู่ที่นี่อีกต่อไป เขาจะออกไปตามหาผู้รอดชีวิต จะออกไปตามหาหญิงสาวสักคนหนึ่งเพื่อสร้างครอบครัวและหนีไปจากเมืองปิศาจแห่งนี้ แม้ว่าจะเป็นความหวังอันเลื่อนลอยที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ หญิงสาวที่ไหนจะเอาตัวรอดจากผู้ติดเชื้อบ้าคลั่งเหล่านี้ได้

เขาสวมใส่ชุด รด. หรือที่เรียกกันว่าชุดรักษาดินแดนอีกครั้ง หลังจากทิ้งไว้ในตู้มาเกือบสองปี นับตั้งแต่จบวิชานักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ห้า เขาก็ไม่ได้ใส่ชุดที่เคยรู้สึกว่าเท่อย่างชุดนี้อีกเลย เขายังคงสวมใส่มันได้ ตัวเขาไม่ได้อ้วนขึ้นไม่ได้ผอมลง ยังคงหุ่นดีสมส่วนดังเดิม

สิ่งสุดท้ายที่เขาหยิบใส่กระเป๋าเป้คือกรอบรูปอันหนึ่ง รูปที่อยู่ในกรอบเป็นภาพครอบครัวอบอุ่น ตอนนั้นเขายังเรียนอยู่มัธยมศึกษาตอนปลาย มีพ่อ แม่ พี่สาว และน้องชายอยู่ในรูป น้ำตาหยดหนึ่งก็หล่นลงมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาส่ายหัวคราหนึ่ง ยัดกรอบรูปใส่กระเป๋า ปิดกระเป๋าแล้วออกจากห้องนอนที่คุ้นเคย

เขาลากซากของพ่อ แม่ น้อง หญิงคนรัก และญาติ ๆ รวมไปถึงเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ตัวมากองรวมกันหน้าบ้าน จากนั้นก็ราดน้ำมันใส่ซากเหล่านั้น เมื่อเขาจุดไฟใส่กองซากศพก็ล่วงเลยเที่ยงวันไปแล้ว

"ได้เวลาไปเสียที พ่อ แม่ ญาติ ๆ ทุกคน ปุ๊ไปแล้วนะครับ บาย"

บิ๊กไบค์สีดำคันงามพาร่างชายหนุ่มไปจากสถานที่ที่คุ้นเคย จุดมุ่งหมายของเขาคือตัวเมืองเชียงใหม่ ตัวเมืองที่คงจะเต็มไปด้วยเหล่าผู้ติดเชื้อนับล้าน

เพื่อหลีกหนีความจริงอันโหดร้าย

เพื่อตามหาผู้รอดชีวิต

เพื่อตามหาชีวิตที่เหลืออยู่

เพื่อตามหาคู่ชีวิต...เขาจึงออกเดินทาง

.

.

.

.

.

.

กรุงเทพมหานคร, ค.ศ.2049

บุรุษนับร้อยกำลังจ้องมองไปยังทิศทางเดียวกัน สายตาของพวกเขาเคลื่อนตามร่างอันแช่มช้อยที่เดินบนถนน ร่างอันเปล่าเปลือยท้าสายตาอย่างไม่เขินอาย หญิงสาวอายุสิบเก้าหรือยี่สิบปีคนหนึ่งกำลังเดินแอ่นอกสะบัดเอวที่มีส่วนโค้งเว้าสมบูรณ์แบบ หน้าอกที่เต่งตึงเด้งไปมาตามแรงเดิน แววตาที่เย้ายวนประสานกับลิ้นอันอ่อนช้อยที่เลียตามริมฝีปากอย่างยั่วยวน การกระทำเช่นนี้เป็นการกระทำของหญิงร่านสวาทผู้หนึ่ง หรือหล่อนกำลังเชิญชวนให้เหล่าบุรุษเกือบร้อยคนนี้มาร่วมรักกับหล่อน

หล่อนเดินผ่านหน้าชายเหล่านั้นคนแล้วคนเล่า จนกระทั่งผ่านหน้าชายร่างยักษ์คนสุดท้ายที่มีกล้ามใหญ่ดึงดูดหล่อน เมื่อสายตาของหล่อนสำรวจจากบนลงล่าง พอมาถึงกลางลำตัว เสียงถอนหายใจดังขึ้นคราหนึ่ง

"มันคงยังไม่โด่เหมือนเดิม แล้วจะมีใครมาทำลายพรหมจรรย์ให้ฉันเนี่ย"

หล่อนสบถพร้อมกับเดินเข้าห้องอย่างอารมณ์เสีย นี่เป็นรอบที่สิบในสัปดาห์นี้ที่หล่อนออกมายั่วยวนเหล่าบุรุษที่ยังไม่กลายเป็นผู้ติดเชื้อเหล่านี้ แต่เหมือนฟ้าจะกลั่นแกล้งหล่อนเพราะบุรุษเหล่านี้ไม่เหลือความเป็นชายอีกแล้ว เจ้าโลกของพวกเขาไม่แข็งตัวอีกต่อไป พวกเขาไร้อารมณ์ทางเพศไปแล้ว แผนเปิดซิงตนเองของหล่อนจึงเป็นหมัน

หลังจากสวมใส่เสื้อผ้าเสร็จ หล่อนก็ออกมาเผชิญหน้ากับบุรุษหนอนหดเหล่านั้น พวกมันจ้องมองดูหล่อนด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก ไม่พูดจาเหมือนเช่นเคย หนึ่งสัปดาห์ที่หลบภัยอยู่ในนี้ พวกมันไม่เคยคุยกับหล่อนแม้แต่คำเดียว บางครั้งหล่อนก็คิดไปว่าพวกมันอาจจะเป็นคนตายที่ยังหลงเหลือลมหายใจ เผลอๆ อาจจะเป็นผู้ติดเชื้อ เพียงแต่พวกมันไม่เคยกระหายเลือด ไม่เคยคิดจะกัด ไม่เคยคิดจะล่วงเกินหญิงสาวที่แสนสวยและน่ารักอย่างหล่อนเลย แรก ๆ อาจจะดีสำหรับหญิงสาวตัวคนเดียวอย่างหล่อน แต่พอนาน ๆ ไปมันกลับไม่เป็นเช่นนั้น หล่อนต้องการผู้ชายที่มีชีวิตไม่ใช่มนุษย์กึ่งซากศพเหล่านี้

หล่อนตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องอีกครั้ง หยิบสิ่งของที่จำเป็นใส่กระเป๋า ขนมปัง อาหารกระป๋อง เสื้อผ้า และที่ขาดไม่ได้เลยคือสุรายี่ห้อโปรดที่ราคาแพงระยับ เมื่อรูดซิปกระเป๋าเสร็จเรียบร้อย หล่อนสะพายเป้พร้อมกับหยิบดาบซามูไรขึ้นมาเล่มหนึ่ง มันยาวประมาณสองศอก โชคดีที่หล่อนเคยเรียนวิชาฟันดาบมาก่อน การใช้ดาบจึงไม่ยากเย็นสำหรับหล่อน

เมื่อเดินออกมานอกห้องก็พบเจอกับสายตาที่ไร้ซึ่งชีวิตชีวาเกือบร้อยคู่ดังเดิม หล่อนเดินไปข้างหน้าอย่างไม่ไยดี บางครั้งก็ใช้มือตบไปที่เป้ากางเกงของบุรุษเหล่านั้น แต่ดูเหมือนเจ้าโลกของพวกมันจะหลับลึกเกินกว่าจะถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาได้อีกครั้ง

"หากว่าโลกนี้ไม่มีผู้ชายที่ไอ่นั่นแข็งตัวได้อีก ฉันจะตัดไอ่นั่นของซอมบี้มาเสียบหอยตัวเองให้ดู โธ่ สวรรค์ ส่งผู้ชายแท้ ๆ ลงมาให้ลูกสักคนเถอะ ลูกอยากลองสักครั้ง"

ด้วยความเชื่อแปลก ๆ ของหล่อนที่ว่าการเก็บพรหมจรรย์ไว้ให้สามีในอนาคตจะทำให้รักยืนยาว ส่งผลให้หล่อนยังรักษาพรหมจรรย์มาได้จนถึงทุกวันนี้ พอเกิดเหตุการณ์ผู้ติดเชื้อครองโลกหล่อนก็ปรารถนาจะเสียตัวสักครั้งก่อนที่จะกลายเป็นผู้ติดเชื้อ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก บุรุษที่พอมีเหลืออยู่กลับไร้ซึ่งความเป็นชายไปเสียแล้ว การเดินทางจึงเริ่มต้นขึ้น การออกตามหาบุรุษที่แท้จริง ผู้ที่จะทลายกำแพงพรหมจรรย์ของหล่อนได้

ชีวิตในละครที่หล่อนเคยแสดงช่างแตกต่างจากโลกในปัจจุบัน ไม่มีพระเอกอีกแล้ว มีแต่นางเอกที่ไม่เหลือคราบของกุลสตรีอย่างหล่อนไว้เพียงคนเดียว โลกช่างไม่ยุติธรรมเสียจริง

"ไปเถอะ แพรวา ไปหาเจ้าโลกที่ยังคงความแข็งแกร่งกันเถอะ ผีตายซากตัวไหนมาขวางทาง ฉันจะฟันให้ขาดเป็นสองท่อน ไม่เชื่อก็ลองดู"

แพรวาปีนกำแพงแล้วขึ้นไปยืนบนกำแพง มองออกไปข้างนอกที่กว้างใหญ่ กรุงเทพมหานครที่เคยรุ่งเรือง บัดนี้เป็นเพียงซากปรักหักพังพร้อมกับฝูงผู้ติดเชื้อที่ครองเมืองแทนมนุษย์ หล่อนหันกลับมามองเหล่าบุรุษที่สิ้นพิษสงเหล่านั้น พร้อมกับชูนิ้วกลางให้กับพวกมัน เมื่อหล่อนกระโดดลงจากกำแพงก็เป็นเวลาเย็นแล้ว การเผชิญโลกใหม่เริ่มขึ้นแล้ว

แพรวากำดาบในมือแนบแน่น หล่อนก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างไม่หวั่นเกรง เมื่อเลือกทางนี้หล่อนก็คิดไว้แล้วว่าจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง บางครั้งการมีชีวิตอย่างปลอดภัยแต่ไร้ค่ามิสู้มีชีวิตที่เสี่ยงอันตรายแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง

avataravatar
Next chapter