webnovel

ตอนที่ 31 เก็บกวาด

วานิว นักผจญภัย [แรงค์ D]

การแทงคอของโรจารุนแรงมากจนฉันตายในทันที

แต่หลังจากเพื่อนดึงมีดออกจากคอให้ ฉันก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง

แลกกับสร้อยคอแทนตัวที่เป็นมรดกตกทอดจากย่าของฉันพังไปแทน

ฉันรีบลุกขึ้นแล้วใช้เวทฮีลใส่คนที่โดนเล่นงานแต่ยังไม่ตาย

สถานการณ์โดยรวมคือวิกฤตมาก นี่มันถนัดสู้กับคนขนาดนี้เลยเหรอ

ถ้าหายตัวได้ก็ไม่ใช่ประเภทนักสู้แล้ว นี่มันสายนักฆ่าชัดๆ

"รวมตัวแล้วปกป้องเด็กคนนี้ออกไป! ขอแค่สักคนไปรายงานท่านไจเกียได้! โรจามันจบเห่แน่!"

เท่าที่ดูโรจามันฆ่าพวกที่สามารถค้นหาตัวมันได้ก่อนใคร จากนั้นก็เล่นสายซัพกับฮีลเลอร์อย่างฉันต่อ

นอกห้องตรงทางเดินเริ่มมีเสียงโหวกเหวกกับเสียงกรีดร้องดังขึ้นไม่หยุด

"กวาดอาวุธรอบตัวไปเลย! ยังไงก็ไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน!"

ฉันอุ้มเอลด้าขึ้นมา โดยมีเพื่อนล้อมรอบคุ้มครองอยู่ตรงกลาง

แต่ตอนที่พวกเราออกไป อีกสองกิลด์กลับเริ่มโจมตีใส่เรา

เพื่อนในทีมพยายามจะอธิบายแต่กลับถูกฆ่าทิ้งต่อหน้าต่อตา

แล้วรายต่อไปก็เป็นฉัน แต่เพราะทุกคนเข้ามารุมกอดฉันไว้ ฉันจึงรอดมาได้อย่างหวุดหวิด

คนที่รับเคราะห์แทนฉัน ตายแทบจะในทันที จึงใช้ฮีลรักษาไม่ได้

สถานการณ์วุ่นวายไปหมด จนเดินหน้าต่อไม่ได้

ฉันจึงยื่นมือออกไปฮีลคนของสองกิลด์ที่บาดเจ็บแล้วให้อีกคนตะโกนอธิบาย

กว่าจะเชื่อใจและกว่าจะรู้ตัว คนที่ยังรอดเมื่อสักครู่ก็ตายกันไปเกือบครึ่ง

"มันอยู่ไหนวะ!"

"ออกมาสิวะไอ้ขี้ขลาด!"

"อ้ากกกกกกกก!"

"ท่านเอโตสจะมาจัดการแกแน่!"

"รักษาที! รักษาข้าที!"

"แกไม่ได้ตายดีแน่!"

"รีบออกไปกัน คลื่นมอนสเตอร์จะมาแล้วนะ!"

"ไม่มีใครมีสกิลตรวจจับมันเลยเหรอวะ!"

"ท่านอิสทัฟไม่ปล่อยแกแน่!"

"มันคิดจะฆ่าพวกเราทั้งหมด!"

"โจมตีซะ! อย่าหยุดมือ! มันจะได้เข้าใกล้ไม่ได้!"

"สำนักงานจะส่งคนมาจับแก!"

"ไม่นะ! ใครก็ได้ช่วยฉันด้วยยยย!"

"แทงค์มันยังฆ่าได้! สกิลอะไรวะเนี่ย!"

"ทุกคนฟังก่อน! มารวมตัวกันแล้วฝ่าออกไป! มันฆ่าพวกเราพร้อมกันทีเดียวไม่ได้!"

ทุกคนที่เห็นด้วยกับฉันรีบวิ่งเข้ามาร่วมกลุ่มกันเพื่อเตรียมฝ่าออกไป

มีบางส่วนทีสติแตกวิ่งไปที่ทางออก แต่ก็ถูกสังหารทิ้งในพริบตา

เพราะมีคนยกโล่บังหัวฉันไว้ให้ ฉันจึงรอดจากอาวุธที่ปาใส่ตอนมันเล่นทีเผลอ

หลังจากรวมตัวแล้ววิ่งไปข้างหน้าพร้อมกัน โรจาก็เปลี่ยนไปโจมตีที่ขา

เล็งให้พวกเราสะดุดล้มและหยุดชะงัก แต่เพราะฉันยังไม่ตายจึงฮีลคนเจ็บได้เรื่อยๆ

แต่ปัญหาคือพลังเวทใกล้หมด

โรจามันก็เหมือนรู้ พอเข้ามาฆ่าไม่ได้ มันก็เล่นเกมตอดให้ฉันรักษาไม่หยุด

ถ้าหยุดรักษาแล้วทิ้งใครไว้กลุ่มเราอาจแตกได้ทันที

พอเริ่มปกป้องขา ส่วนบนก็เปิดโล่ง คนที่ไม่ทันระวังก็จะตายจากการโจมตีในทีเดียว

วนลูปซ้ำไปมา ในที่สุดพลังเวทของฉันก็หมด

แต่เราก็มาได้เกินครึ่งทาง ยังไงก็ต้องเสี่ยงแล้ว

"ไปเลย! วิ่งฝ่ากันไปเลย!"

ทุกคนกระจายตัวออก ยกเว้นคนในทีมที่ยังล้อมฉันไว้อยู่เพื่อปกป้องเด็กกับฮีลเลอร์คนสุดท้ายอย่างฉัน

แต่ตอนนั้นเอง

บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ!

บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ!

บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ! บล๊อบ!

ฝูงสไลม์จำนวนนับไม่ถ้วนทะลักออกมาขวางทางเราไว้

สีดำแบบนี้แสดงว่าวิวัฒนาการไปแล้ว

นี่มัน สไลม์เชื้อโรค

"ใครกระโดดข้ามไหว! กระโดดเดี๋ยวนี้เลย! ก่อนมันจะคลานไปทั่ว!"

แทงค์บางคนยอมถอดเกราะ บางคนก็ทิ้งอาวุธเพื่อจะได้ตัวเบาขึ้น

"ใครสามารถอุ้มเธอแล้วกระโดดข้ามไหว! พาเธอไปด้วยที!"

"ส่งมาให้ผม!"

ฉันรีบส่งเด็กให้คนนึงในทีมรับไป

พวกที่กระโดดไหวก็กระโดดข้ามฝูงสไลม์เชื้อโรคไปทันที

ส่วนคนที่ข้ามไม่ไหวได้แต่ใช้อาวุธกวัดแกว่งไล่ให้มันไปข้างหน้าไม่ก็ต้อนเข้าห้อง

"อ้ากกกกก!"

"อ่อก!"

"สารเล…!"

"ยะ อย่านะ!"

แต่คนที่กระโดดข้ามไหวกับถูกโรจาดักรอฆ่าทิ้งกลางอากาศ

บางคนกระโดดได้แค่ครึ่งทาง ดาบก็ปักเข้าที่ท้อง

ส่วนคนที่อุ้มเด็ก เท้าแตะพื้นแล้ว แต่ก็โดนปาดคอในทันที

โรจายกเลิกหายตัวแล้วคว้าเด็กสาวมาอุ้มไว้ข้างตัว

"ไอ้โรจา! ไอ้สารเลว!"

"ขอบใจที่เอามาส่งให้!"

แล้วมันก็จากไปพร้อมกับเด็กสาว

"แกจะต้องถูกท่านไจเกียฆ่าแน่! เทพธิดาจะสาปส่งชีวิตแกไม่ให้ตายดี!"

"วานิว! ทำไงดี!"

"ฉะ ฉัน... ฉันไม่รู้แล้ว..."

ถ้ามีนักเวทไฟสักคนก็ยังมีหวัง เวทชำระล้างฉันก็ใช้ไม่เป็น

มีหลายคนสติแตกวิ่งฝ่าออกไป แต่ก็ถูกฝูงสไลม์รุมกินอย่างรวดเร็ว

สิ่งที่น่ากลัวของสไลม์พันธุ์นี้ คือ หากมันรวมตัวกันเพื่อวิวัฒนาการอีกครั้ง มันจะกลายเป็นสไลม์พาหะ

สไลม์พาหะจะปล่อยละอองเชื้อโรคกระจายไปในอากาศ

ไม่ว่าจะสัมผัสหรือหายใจเข้าไป ไม่ถึงชั่วโมงอาการป่วยสารพัดจะเล่นงานจนคนป่วยล้มทั้งยืน

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาแล้วแต่สุขภาพร่างกาย คนป่วยก็จะตายแล้วกลายเป็นรังเพาะตัวอ่อนของพวกมัน

ตัวจะพองขยายถึงขีดสุด หลังร่างระเบิดออกสไลม์เชื้อโรคเกิดใหม่จำนวนมากก็จะกระจายความฉิบหายไปทั่ว

"ระ รีบถอย! ไปที่ห้องด้านในสุด! เราจะยันมันไว้จนกว่าความช่วยเหลือจะมาถึง!"

*****

โรจา หัวหน้าทีมนักชำแหละ สังกัดทีมรอง หน่วย 5 กิลด์ [เขี้ยวประกายแสง]

เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครรอด ผมจึงยังอยู่ดูให้เห็นกับตาจนถึงที่สุด

สไลม์เริ่มแพร่กระจายไปทั่ว ทั้งผมและฝั่งนั้นต่างถอยหลังกันไปเรื่อยๆ

แทงค์บางคนที่คิดว่าตัวเองไหววิ่งฝ่าเข้ามา แต่ส่วนใหญ่ไปได้ไม่เกินครึ่งทางก็โดนรุมกินจนตาย

สไลม์มันคลานเข้าช่องว่างเล็กๆ ของชุดเกราะได้ พวกนักผจญภัยแรงค์ต่ำมันก็โง่กันแบบนี้แหละ

ส่วนพวกที่ฝืนไหวใกล้จะหลุดรอดแล้ว ก็เจอผมถีบยันมันหงายหลังล้มไป

เสียงกรีดร้องโหยหวนจากการถูกย่อยสลายทั้งเป็นดังก้องไปทั้งชั้นใต้ดิน

ผมถอยหลังจนเกือบจะถึงทางขึ้น เพราะมีมุมบังจึงมองไม่เห็นพวกมันอีก

เลยเดินขึ้นไปดึงอาวุธที่ขัดประตูไว้ออก แล้วเดินขึ้นไปวางเด็กไว้บนพื้น

เพื่อความชัวร์ ผมจับมือมันวางแบกับพื้นแล้วปักมีดลงไปจนสุดด้าม

แล้วใช้สกิลลอบเร้นกลับลงไปอีกครั้ง

ผมหยิบมีดส่วนตัวที่สั่งทำเฉพาะสองเล่มขึ้นมาแล้วกระโดดวิ่งไปตามกำแพง

พอความเร็วตกและจะหล่นลงไป ผมก็ปักมีดทั้งสองเล่มที่ผนังแล้วขึ้นไปนั่งเหยียบบนมีด

ทางเดินไม่มีใครอยู่ ทุกคนต่างหนีเข้าห้อง ปิดประตูและยันพวกสไลม์กันสุดชีวิต

ต้องขอบใจความโง่ของพวก [แมวราตรี] ที่ไม่กำจัดสไลม์พวกนั้นทิ้งไป

ที่เขาออกกฎไม่ให้ประชาชนใช้งาน ก็เพราะอาจมีพวกสะเพร่าหรือไม่มีความรู้เลี้ยงจนมันเป็นแบบนี้นี่แหละ

พวกสลัมนี่มันแหกกฎจนฉิบหายกันดีจริงๆ ฮ่าๆๆๆ

ผมลงจากมีด กระชากมันออกจากผนังแล้ววิ่งต่อไปจนสุดทาง พวกห้องตามรายทางยื้อไว้ได้ไม่นานก็พัง

แต่ห้องด้านในสุดเนี่ยสิ พวกสัมภาระน่าจะเยอะ พวกนั้นเอาทั้งชั้นวางของ สมบัติ รวมถึงชุดเกราะของตัวเองมากองขวางทางเอาไว้

ถ้าเป็นแบบนี้สไลม์ก็จะตื๊ออยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ พวกมอนสเตอร์จากดันเจี้ยนแตกถึงจะลงมาที่นี่ก็คงถอยหนี

เพราะสไลม์เชื้อโรค เป็นมอนสเตอร์ไม่กี่ประเภทที่มอนสเตอร์หรืออสูรไม่ค่อยอยากยุ่งด้วย

ถ้ามันยันไว้อยู่จนความช่วยเหลือมาถึง

งั้นพวกมันก็มีสิทธิรอด

ผมเรียกใช้สกิลพิเศษ แล้วพุ่งตัวออกไปตวัดมีดใส่ประตูและสิ่งของที่ขวางกั้นไว้แล้วกระโดดกลับมานั่งเหยียบบนมีด

ของที่ขวางมันเยอะเลยฟันพังไม่หมดในทีเดียว

ผมทำซ้ำอีกสี่ห้ารอบ ของที่ขวางไว้จึงพังหมด

"มันเข้ามาแล้วววว!"

"อย่าเข้ามานะ!"

"อ้ากกกกกก! ช่วยด้วยยยยย!"

"มันจะกินฉันแล้วววว!"

"ใครก็ได้ช่วยฉันด้วยยย!"

"ท่านเทพธิดา! ได้โปรดคุ้มครองลูกด้วย!"

และคนสุดท้าย ใบหน้าที่แสนสิ้นหวังของวานิว

"ฉันยัง... ไม่อยากตาย..."

วานิวร้องไห้คร่ำครวญปานจะขาดใจตาย

จากนั้นทุกคนในห้องก็ถูกสไลม์เชื้อโรคที่หิวโหยเข้ากลืนกิน

วานิวดูจะโชคร้ายสุดเพราะได้รับเลือกจากพวกมัน

พวกมันจับวานิวกดไว้ หลังแดกทุกคนในห้องจนหมดมันก็มารวมตัวกันที่วานิว

สไลม์ทุกตัวผสานร่างเข้าด้วยกันเป็นก้อนของเหลวสีดำข้นคลั่กขนาดใหญ่ ส่งกลิ่นชวนอาเจียน

แล้วค่อยๆ แทรกซีมเข้าไปในตัววานิวจากทุกรูทวาร

ลูกตาของเธอถูกดันกลับไปในกะโหลก รูจมูกกับหูฉีกขาดจากการฝืนแทรกตัวเข้าไป

ร่างของวานิวเริ่มพองขยายใหญ่

ผมรีบออกจากห้องแล้วตรงไปที่ทางออกทันที

ก่อนจะปิดประตูผมก็ได้ยินเสียงดัง

โพละ!

เสียงซึ่งแสดงว่าสไลม์เชื้อโรควิวัฒนาการเป็น สไลม์พาหะ ไปแล้ว

เก็บกวาดหลักฐานเรียบร้อย

งั้นก็เหลืองานสุดท้าย

ผมมองไปที่พื้น ตรงที่นังเด็กนั่นเคยนอนสลบอยู่

แต่ตอนนี้มันเหลือแค่กองเลือดของมัน ชักจะเบื่อเกมไล่จับหนูแล้วสิ

"เดี๋ยวก็ฆ่าทิ้ง แล้วเอาแต่หัวไปถามพี่แกซะเลย"