webnovel

ONMYOJI องเมียวจิ

แนะนำตัวละคร อวี้ อันฉี (อัลฟ่า) (184 ซม. / 74 กก.) นักเรียนแลกเปลี่ยนจากจีนที่ต้องมาอาศัยอยู่กับตระกูลอาคาวะ ถูกคุณปู่ (อาคาวะคนปู่บังคับให้เรียกเพื่อความสนิทสนม) ฝากฝังให้ต้องไปอยู่ภายใต้การดูแลของ ชิโนบุ และ แบล็ก อาคาวะ ชิโนบุ (182 ซม. / 67 กก.) ทายาทตระกูลอาคาวะที่มีชื่อเสียงเป็นตระกูลใหญ่อันดับต้น ๆ ในเกียวโต เพราะชีวิตผูกพันอยู่กับเรื่องภูตผีมาตั้งแต่เด็ก เลยไม่ค่อยจะกลัวอะไรเหมือนคนอื่นเขาสักเท่าไร อาคาวะ แบล็ก (179 ซม. / 72 กก.) เด็กหนุ่มขี้เล่นอารมณ์ดีที่ตัวติดกับชิโนบุตลอดเวลา เป็นคนที่ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ยังยิ้มได้ ยกเว้นเวลาที่โกรธมากจริง ๆ เจ้าตัวมักจะคอยอธิบายเรื่องต่าง ๆ ให้อัลฟ่าฟังอยู่เสมอ

LyLyAiAi · LGBT+
Not enough ratings
34 Chs

11 - เนโกะมาตะ

- เนโกะมาตะ -

"มิยานะไม่เป็นอะไรแล้วล่ะจ้ะ พวกเธอก็ไปพักกันได้แล้วนะ"

ประโยคที่ถูกพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มใจดีของอาจารย์สาวทำให้ทุกคนที่กำลังยืนรอฟังด้วยความกังวลพากันถอนหายใจอย่างโล่งอก ดวงตาสี่คู่มองเลยเข้าไปภายในห้องพักแยกที่ตอนนี้มีร่างของเพื่อนร่วมชั้นกำลังนอนพักอยู่ พอได้รู้ว่าเจ้าตัวไม่เป็นอะไรแล้วความเครียดเพราะเป็นห่วงที่สะสมมาก็ค่อย ๆ คลายลง

ทั้งสี่คนกล่าวคำขอบคุณกับอาจารย์ที่ดูแลอีกครั้ง ก่อนที่จะพากันเดินออกมาเงียบ ๆ

"โชคดีนะที่นายไปเจอหมอนั่นเป็นลมอยู่เลยพากลับมาทัน"

หลังจากเดินพ้นที่พักสำหรับอาจารย์มาแล้ว ฮารุอิก็หันไปพูดกับแบล็กที่ทำเพียงยิ้มรับให้กับประโยคนั้น

ทั้งสี่คนเดินคุยอะไรกันไปเรื่อยเปื่อย ก่อนที่จู่ ๆ แบล็กจะขมวดคิ้วด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ดวงตาตวัดมองไปยังทิศทางที่สัมผัสได้ถึงความผิดปกติ ฝีเท้าหยุดชะงักลงจนอีกสามคนพากันหันมามองด้วยความแปลกใจ

"แบล็ก?"

"ฉันนึกได้ว่ามีธุระน่ะ เดี๋ยวขอตัวก่อนนะ"

แบล็กไม่ได้อยู่รอฟังคำตอบจากทั้งสามเลยด้วยซ้ำ สองเท้ารีบพาตัวเองมุ่งหน้าไปยังที่พักของชิโนบุและอัลฟ่า ดวงตาเรียวคมกวาดมองไปทั่ว จนกระทั่งเห็นใครบางคนที่คุ้น ๆ ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมห้องของอัลฟ่าจึงรีบเดินเข้าไปหา

"จิมมี่"

"หือ?"

เจ้าของชื่อหันมามองคนเรียกอย่างแปลกใจ ดวงตากลม ๆ กระพริบปริบ ก่อนจะหยุดเท้าอยู่กับที่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังเดินเข้ามาหาตัวเอง

"โนบุจังกับอัลฟ่ากลับมาหรือยัง"

"ยังนะ ฉันไม่เห็นสองคนนั้นมาสักพักแล้ว"

ถ้าอย่างนั้นก็คงจะล่วงหน้ากันไปก่อน

คิดได้แบบนั้นแบล็กก็หันไปส่งยิ้มให้จิมมี่ก่อนจะรีบปลีกตัวออกมา ดวงตากวาดมองไปโดยรอบเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครเห็น

ไอพลังสีดำจาง ๆ เริ่มแผ่กระจายครอบคลุมไปทั่วทั้งร่าง ก่อนที่ไม่กี่อึดใจต่อมา เงาร่างเลือนรางจะพุ่งตัวออกไปยังทิศทางที่สัมผัสได้ถึงความผิดปกติทันที

๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐

"อีกไกลไหม"

"ไม่ไกล รู้สึกว่าจะอยู่ใกล้ ๆ นี่แหละ"

คำตอบจากคนที่วิ่งนำอยู่ด้านหน้าทำให้ชิโนบุพยักหน้ารับเบา ๆ ก่อนจะยิ่งเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะเลี้ยวไปอีกทาง ดวงตาคู่สวยกวาดมองสภาพโดยรอบตลอดทางที่วิ่งผ่านมา หัวคิ้วทั้งสองข้างมุ่นเข้าอย่างไม่ค่อยชอบใจในบรรยากาศตอนนี้สักเท่าไร

"รู้สึกแย่ชะมัด"

เหมือนยิ่งวิ่งก็จะยิ่งสัมผัสได้ถึงความรู้สึกน่าขนลุกที่ไม่ควรเข้าใกล้ ชิโนบุยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้น ก่อนที่เจ้าตัวจะชะลอฝีเท้าลงเมื่อเหลือบเห็นเปลวไฟดวงหนึ่งตวัดผ่านหางตาไป

"อัลฟ่า"

"หืม?"

เสียงเรียกที่ดังขึ้นทำให้เจ้าของชื่อหยุดวิ่งทันที ก่อนจะเดินกลับมาหาชิโนบุที่ชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง ดวงตาคู่คมหรี่ลงเล็กน้อยก่อนที่ความทรงจำบางอย่างจะผุดวาบขึ้นมาในหัว

"ถ้าฉันจำไม่ผิด จากแผนที่ที่อาจารย์ให้พวกเรามา เหมือนตรงนั้นจะเป็นวัดร้างนะ"

"ตอนนี้ฉันไม่สนวัดร้างแล้ว ขอแค่อย่าให้มันเป็นอย่างที่ฉันคิดก็พอ"

"แล้วนายกำลังคิดถึงอะไร"

"น้องแมวน้อย น่ารัก น่าเอ็นดู"

"คิดเหมือนฉันเลย"

"ใช่ไหมล่ะ"

เพราะกลิ่นอายที่สัมผัสได้ในระยะที่ใกล้พอรวมกับเปลวไฟที่กำลังโบกสะบัดไปมา ก็ยิ่งทำให้ทั้งคู่มั่นใจว่าต้องเป็นภูตตัวเดียวกันกับที่ต่างฝ่ายต่างกำลังคิด ดวงตาสองคู่หันมาสบกันโดยไม่ได้นัดหมาย ก่อนที่ทั้งคู่จะรีบวิ่งไปยังวัดร้างที่ในตอนนี้มีตัวปัญหาบางตัวหลุดออกมาจากผนึก...

ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่เลยด้วย

ทันทีที่วิ่งมาถึงและได้เห็นภาพตรงหน้าชิโนบุก็ยิ่งขมวดคิ้วแน่นจนแทบเป็นปม ริมฝีปากล่างถูกฟันขบจนแทบห้อเลือด บนใบหน้าฉายชัดถึงความเคร่งเครียดเมื่อได้ยินถ้อยคำที่ดังย้ำมาจากคนข้าง ๆ

"เนโกะมาตะจริง ๆ ด้วย"

"ฮอกไกโด!"

เสียงคำรามในลำคอเบา ๆ ดังมาจากชิโนบุที่ดูเหมือนตอนนี้จะกำลังพาลไปถึงสถานที่ที่ทำให้ตัวเองต้องมาจัดการกับภูตระดับสูงสองตนในวันเดียว

"ความจริงแทนที่จะโกรธ นายควรขอบคุณฮอกไกโดที่หิมะเพิ่งตกไป เจ้าแมวนั่นเลยใช้ปลายหางจุดไฟไม่ติด"

"มันใช่เวลามาพูดเล่นไหม"

"ก่อนหน้านี้ใครพูดถึงเนโกะมาตะว่าเป็นแมวน้อยน่ารักน่าเอ็นดูนะ"

"นี่--"

ยังเถียงกันได้ไม่ทันไรทั้งคู่ก็ต้องรีบกลิ้งตัวหลบไปคนละทางเมื่อเจ้าแมวปีศาจกระโจนเข้ามา

โชคดีที่ดูเหมือนว่ามันจะยังเคลื่อนไหวได้ไม่ค่อยดีนักหลังจากถูกผนึกไว้เป็นเวลานาน การโจมตีเมื่อครู่จึงยังไม่แม่นยำพอจะทำอะไรพวกเขาได้ แต่ถ้าปล่อยให้เวลาผ่านไปนานกว่านี้จนมันฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์ก็คงจะกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่ ๆ

"ชิ!"

แค่แอบคิดอะไรนิดหน่อยชิโนบุก็ต้องรีบกลิ้งหลบไปอีกทาง เมื่อเนโกะมาตะเลือกตามมาจัดการทางนี้ เสียงสบถดังขึ้นเบา ๆ ก่อนเจ้าตัวจะรีบใช้ยันต์ป้องกันตัวเองเมื่อเจ้าแมวปีศาจยังโจมตีเข้ามาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

ชิโนบุรีบวิ่งไปหลบตรงที่พอจะใช้เป็นที่กำบังได้ ก่อนจะใช้ชิคิงามิในรูปลักษณ์สุนัขสองตัวเพื่อถ่วงเวลาในการคิดว่าควรจะจัดการเรื่องนี้ยังไงดี

เนโกะมาตะฆ่าไม่ตาย หรือต่อให้ตายมันก็ยังจะฟื้นขึ้นมาได้อีก

เพราะฉะนั้น ถึงจะลงมือจัดการไปยังไงก็ไร้ประโยชน์...

"อะไรนักหนาเนี่ย!"

ชิโนบุยังคิดหาวิธีไม่ทันเสร็จร่างของแมวปีศาจก็กระโจนเข้ามาอยู่ตรงหน้าซะแล้ว อุ้งเท้าที่กางเล็บแหลมคมกำลังจะตะปบลงมา หัวคิ้วของชิโนบุขมวดแน่นเมื่อรู้ดีว่ายังไงก็หลบไม่ทัน จึงหยิบชิคิงามิออกมาเตรียมป้องกัน แม้จะรู้ว่าคงกันได้ไม่หมดแต่ก็ยังดีกว่าไม่ลงมือทำอะไร

ไวเท่าความคิดที่เบื้องหน้าปรากฏเป็นเหยี่ยวกระดาษขนาดใหญ่จากชิคิงามิที่ถูกใช้ออกไป ขณะที่ชิโนบุเองก็หลับตาลงเตรียมรอรับแรงสะท้อนจากการโจมตี

หากแต่ในชั่วอึดใจนั้น เหตุการณ์ทุกอย่างกลับพลิกผัน ดวงตาคู่สวยรีบเปิดขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เตรียมใจรับไว้เลยแม้แต่น้อย

"อัลฟ่า?"

แค่ชิโนบุเรียกชื่อคนที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลอย่างแปลกใจ เจ้าแมวปีศาจก็ร้องคำรามออกมาดังลั่นเพราะโดนขัดขวางการโจมตี มันรีบสะบัดหน้ากลับไปเมื่อรู้สึกถึงโคนหางที่ถูกดึงไว้จนไม่สามารถขยับตัวได้

เนโกะมาตะแยกเขี้ยวขู่อย่างดุร้าย ก่อนมันจะใช้กรงเล็บเกาะพื้นไว้ เมื่อรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองกำลังโดนลากถอยหลังออกไปเรื่อย ๆ

ทางด้านชิโนบุที่แม้จะตกใจที่เห็นว่าอัลฟ่าทำได้ถึงขนาดนี้ แต่เจ้าตัวก็รีบตั้งสติแล้วถอยห่างออกมาจากตรงนั้นทันที ความคิดที่กระจัดกระจายอยู่ในหัวถูกปัดทิ้งไปทั้งหมดแล้วกลับมาตั้งสมาธิอยู่กับการหาทางออกจากสถานการณ์ตรงหน้า

ถ้าเนโกะมาตะฆ่าไม่ตาย งั้นก็คงต้องใช้วิธี...

"ไม่จริงน่า..."

ห้วงความคิดของชิโนบุถูกหยุดลงอีกครั้งเมื่อเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า สองขาที่ทำท่าจะวิ่งเข้าไปหากลับหยุดชะงักอยู่กับที่ ขณะที่สองมือก็เริ่มสั่นขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุม ภายในดวงตาคู่สวยคล้ายจะเลื่อนลอยจนไร้แววไปชั่วขณะ ก่อนที่เจ้าตัวจะเผลอสะดุดลมหายใจของตัวเองเมื่อได้สบเข้าตรง ๆ กับดวงตาคู่นั้นที่จ้องมองมา

"อัลฟ่า"

คราบเลือดที่กระเด็นเปรอะเปื้อนใบหน้าจากการที่เจ้าตัวฉีกกระชากหางของเนโกะมาตะขาดไปหนึ่งหาง ไม่อาจกลบริ้วสีแดงที่ปรากฏขึ้นมาอย่างเด่นชัดใต้ดวงตาทั้งสองข้าง ดวงตาวาวโรจน์คู่นั้นดูราวกับจะเรืองแสงได้ ทั่วทั้งร่างของเจ้าตัวมีไอพลังสีแดงจาง ๆ แผ่กระจายออกมาจนทำให้บรรยากาศรอบตัวยิ่งดูกดดันชวนให้ขนลุก

อัลฟ่ากำลังจะหลุดควบคุม

คิดได้แค่นั้นชิโนบุก็รีบวิ่งเข้าไปโดยไม่สนว่ามันจะอันตรายหรือไม่ เจ้าตัวไม่ได้หันไปสนใจด้วยซ้ำว่าตอนนี้เนโกะมาตะกำลังตะเกียกตะกายลุกขึ้นจากพื้นด้วยสภาพที่บ้าคลั่งขึ้นกว่าเดิม

"อัลฟ่าได้ยินฉันไหม"

ทันทีที่วิ่งมาถึงสองมือก็จับไหล่อีกฝ่ายเขย่าเบา ๆ ก่อนจะถามออกไปด้วยน้ำเสียงติดจะร้อนรน ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะได้ผลอยู่บ้างเมื่อแววตาคู่นั้นไหวระริกไปเล็กน้อย

แต่ถึงอย่างนั้น...ก็ยังไม่มากพอที่จะเรียกสติเจ้าตัวกลับมา

ชิโนบุขมวดคิ้วแน่นตั้งท่าจะพูดอะไรอีกสักอย่าง หากแต่เงาของหางที่กำลังจะฟาดลงมาก็ทำให้เขาต้องรีบดึงอัลฟ่าหลบออกมาจากตรงนั้นก่อน

"โอ้ย!!"

เสียงร้องดังขึ้นเบา ๆ หลังจากกลิ้งกันมา 2-3 ตลบ โดยที่ตอนนี้มีชิโนบุกำลังนอนเจ็บอยู่ที่พื้นและอัลฟ่าที่ทับอยู่ด้านบนอีกที

ชิโนบุเหลือบมองไปทางเนโกะมาตะที่ตอนนี้กำลังกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งเพราะการโจมตีของมันพลาดเป้า ก่อนจะหันกลับมามองอัลฟ่าอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าดวงตาคู่นั้นมีประกายมากขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ก็เอื้อมมือไปบีบแขนเจ้าตัวเบา ๆ

"อัลฟ่า ถ้าได้ยินเสียงฉันก็รีบกลับมา"

สิ้นคำนั้นชิโนบุรู้สึกได้ถึงแรงกระตุกเบา ๆ จากตัวอีกฝ่าย ก่อนที่ดวงตาวาวโรจน์คู่นั้นจะกลับมามีประกายเหมือนเดิม พร้อมกับริ้วแดงที่ใต้ดวงตาทั้งสองข้างก็ค่อย ๆ จางหายไป

"ชิโนบุ?"

"หลบกันก่อน"

แม้จะยังงง ๆ และจับต้นชนปลายไม่ถูกเพราะรู้สึกเหมือนสติจะหลุดหายไปชั่วขณะ แต่พอได้ยินชิโนบุพูดแบบนั้นอัลฟ่าก็รีบคว้าเอวของเจ้าตัวไว้แล้วพากระโดดหลบไปอีกทาง ซึ่งทันฉิวเฉียดก่อนที่กรงเล็บนั้นจะตะปบลงมาพอดี

"เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น"

"นายเกือบจะหลุด"

"หมายความว่ายังไง"

ชิโนบุไม่ตอบแต่พยักเพยิดไปทางกองเลือดและเศษซากของหางที่อัลฟ่าเป็นคนฉีกออกมา ก่อนจะมองเลยไปยังเนโกะมาตะแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด

"เหลือหางเดียวเพราะฝีมือนายเลย"

"ฉันทำเหรอ"

"ฉันทำมั้ง"

คำประชดที่ได้รับกลับมายิ่งทำให้หัวคิ้วของอัลฟ่าขมวดแน่นขึ้น ก่อนจะเผลอกัดฟันแน่นจนเห็นสันกรามขึ้นมาอย่างชัดเจนเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของชิโนบุ

"อย่าทำแบบนั้นอีก นายแค่ถ่วงเวลารอจนกว่าแบล็กจะมาก็พอ"

"ฉัน--"

อัลฟ่ายังพูดไม่ทันจบก็ต้องพาชิโนบุหลบการโจมตีของเนโกะมาตะอีกครั้ง ในขณะที่ชิโนบุเองก็ส่งชิคิงามิออกไปสามตัวในคราวเดียวเพื่อถ่วงเวลา

"สัญญากับฉันว่านายจะไม่ทำแบบนั้นอีก อะไรที่นายคิดและรู้สึกอยู่เมื่อกี้ นายต้องห้ามคิดถึงมัน ไม่อย่างนั้นมันอาจจะทำให้นายหลุด"

"....."

"...และฉันไม่มั่นใจเลยสักนิดว่าจะเรียกนายกลับมาได้อีก"

อัลฟ่าพยายามนึกย้อนไปในช่วงก่อนที่สติของเขาจะขาดหายไป จำได้ว่าตอนนั้นเนโกะมาตะกำลังจะโจมตีชิโนบุ เขาเห็นว่าเจ้าตัวกำลังตกอยู่ในอันตราย ความรู้สึกในตอนนั้นตีปนกันมั่วไปหมด ทั้งตกใจ ทั้งเป็นห่วง ทั้ง...

โกรธ

"สัญญากับฉัน"

ถ้อยคำที่ย้ำขึ้นมาอีกครั้งทำให้อัลฟ่าหลุดออกจากห้วงความคิดของตัวเอง ดวงตาสบมองกับคนตรงหน้า ก่อนจะเผลอเม้มปาก ขมวดคิ้วแน่นยิ่งกว่าเดิม

"ไม่สัญญา"

"นี่--"

"สัญญาไม่ได้หรอก"

จะให้สัญญาได้ยังไง ในเมื่ออัลฟ่ารู้ตัวดีว่าไม่มีทางเลิกเป็นห่วงได้

และก็เพราะเป็นห่วงนี่แหละ เขาถึงได้โกรธมากตอนที่เห็นว่าไอ้แมวนั่นคิดจะทำร้ายชิโนบุ จนเกิดสติหลุดไปชั่วขณะ

แต่ทางด้านชิโนบุที่ไม่ได้เข้าใจในความคิดนั้น ความโกรธกำลังพุ่งขึ้นริ้ว ๆ เมื่อคนตรงหน้าพูดไม่รู้เรื่องสักที องเมียวน้อยที่อารมณ์เดือดได้ที่เอื้อมมือไปขย้ำเสื้อตรงไหล่ของอีกฝ่าย ก่อนจะออกแรงกระชากให้ขยับเข้ามาใกล้แล้วตวาดขึ้นเสียงดังอย่างลืมตัว

"ตอนนี้เราอยู่กันแค่สองคนนะ ถ้าแบล็กอยู่ฉันจะไม่ว่าเลยเพราะหมอนั่นเอานายลงได้อยู่แล้ว แต่กับฉันมันไม่ใช่ ฉันสู้นายไม่ได้ ถ้าเกิดนายหลุดขึ้นมา..."

"....."

"นายฆ่าฉันตายแน่ ๆ"

ถ้อยคำที่ได้ยินทำให้อัลฟ่าชะงักไปในทันที หัวคิ้วขมวดแน่นมองหน้าชิโนบุที่มองกลับมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดไม่ต่างกัน ความเงียบเกิดขึ้นชั่วอึดใจระหว่างทั้งสองคน ก่อนที่อัลฟ่าจะดึงชิโนบุให้ลุกขึ้นยืนแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"รีบไป"

"หา?"

เพราะจู่ ๆ ก็โดนไล่แบบไม่ทันตั้งตัว อารมณ์โกรธ ๆ ของชิโนบุจึงลดฮวบลงจนแทบไม่เหลือ ดวงตากลมโตกระพริบปริบมองสบกลับไปอย่างตามเรื่องตามราวอะไรไม่ทัน

"รีบไปให้พ้นจากตรงนี้ ถ้าฉันไม่เห็นนายฉันจะได้ไม่ต้องคิด"

"คิดอะไร เกี่ยวยังไงกับฉัน"

"ฉันเป็นห่วง"

เพียงประโยคสั้น ๆ ที่สวนกลับมาก็ทำให้คนฟังชะงักไป แต่ยังไม่ทันได้คุยอะไรกันต่อก็ต้องรีบหลบไปอีกทาง เมื่อเนโกะมาตะที่จัดการกับชิคิงามิหมดทั้งสามตัวแล้วกลับมาไล่โจมตีพวกเขาอีกครั้ง

ชิโนบุรีบปัดเรื่องอื่นออกจากหัวทั้งหมด แล้วกลับมาตั้งใจแก้ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้าอย่างเร่งด่วน ระหว่างที่โดนอัลฟ่าพากระโดดหลบไปตรงนู้นที ตรงนี้ทีอยู่ 2-3 ครั้ง ความคิดที่จะจัดการกับเนโกะมาตะก็ผุดวาบขึ้นมาในหัว

หลังจากขบคิดอยู่ครู่สั้น ๆ ว่าวิธีนี้น่าจะได้ผล เจ้าตัวก็รีบตบมืออัลผ่าที่โอบเอวตัวเองไว้เบา ๆ เป็นเชิงให้ปล่อยก่อน

"ในเมื่อฆ่าไปก็ไม่มีประโยชน์งั้นเรามาผนึกมันกัน เดี๋ยวฉันจะไปเตรียมทำพิธีอยู่ที่ด้านหลังวัดนะ"

"อืม"

อัลฟ่าพยักหน้าให้กับความคิดนั้นโดยที่ดวงตายังคงจดจ้องอยู่ที่เนโกะมาตะ เห็นแบบนั้นชิโนบุจึงเตรียมวิ่งไปทางด้านหลังของวัด แต่ไปได้เพียงสองก้าวเจ้าตัวก็หยุดฝีเท้าไว้ก่อนจะหันมาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง

อย่างที่นาน ๆ ครั้งจะได้ยินสักที

"ฉันไม่รู้ว่าแบล็กจะมาถึงก่อน หรือฉันเตรียมพิธีเสร็จก่อน..."

"....."

"ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะ"

ประโยคที่ได้ยินทำให้อัลฟ่าเลิกคิ้วขึ้นนิด ๆ ก่อนที่มุมปากจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้มบาง ๆ ส่งกลับไป ร่างสูงใหญ่ขยับมายืนขวางหน้าพร้อมกับแผ่จิตสังหารใส่เนโกะมาตะเมื่อเห็นว่ามันทำท่าจะเข้าไปเล่นงานชิโนบุอีกครั้ง

"ฉันจะระวังตัว"

"คราวนี้สัญญาไหม"

"สัญญา แต่ตอนนี้ยื่นนิ้วก้อยไปหาไม่ได้ คงต้องรอให้จบเรื่องก่อนแล้วค่อยมาเกี่ยวก้อยกันนะ"

"ใครเขาจะไปเกี่ยวก้อยกับนายกัน"

แม้จะฟังดูเหมือนกำลังบ่นแต่ชิโนบุก็หลุดยิ้มออกมากับคำพูดนั้น ในขณะที่อัลฟ่าทำเพียงขำออกมาเบา ๆ ก่อนเจ้าตัวจะพุ่งเข้าใส่เนโกะมาตะอย่างไม่มีความเกรงกลัว

ทางด้านชิโนบุที่วิ่งมาถึงหลังวัดก็รีบมองหากิ่งไม้ที่พอจะใช้งานได้ ก่อนจะเริ่มลงมือวาดวงแหวนเวทย์สำหรับทำพิธีผนึกทันที

เสียงการต่อสู้ที่ยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ชิโนบุเผลอขมวดคิ้วแน่นด้วยความเป็นห่วง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่หยุดมือในการเตรียมพิธี แผ่นยันต์ที่พกติดตัวไว้ตลอดเวลาถูกหยิบออกมาเตรียมพร้อมสำหรับใช้งาน

ทางฝั่งของอัลฟ่าที่กำลังรับมืออยู่กับเนโกะมาตะ รีบกลิ้งตัวหลบเมื่อถูกปลายหางที่ติดไฟของมันตวัดเข้าใส่ ดวงตาหรี่ลงอย่างใช้ความคิดว่าควรจะทำยังไงกับแมวปีศาจตัวนี้ดีเพื่อถ่วงเวลารอแบล็กมา หรือจนกว่าชิโนบุจะเตรียมพิธีเสร็จ

ร่างสูงใหญ่กระโดดหลบกรงเล็บที่ตะปบลงมาอีกครั้ง ก่อนที่หัวคิ้วจะขมวดมุ่น รีบวิ่งกลับไปใช้เท้ากระทืบสะเก็ดไฟจากปลายหางของมันที่ทำให้พื้นไม้หน้าวัดเกือบติดไฟ

"ห้ามเผาอะไรสิ"

พูดจบอัลฟ่าก็วิ่งกลับไปที่กลางลานหิมะหน้าวัดเพื่อให้เนโกะมาตะวิ่งตามมา แม้จะหาที่หลบลำบากหน่อยแต่ก็ยังดีกว่าให้เจ้าแมวนี่ไปทำอะไรไหม้เพราะไฟที่ปลายหางนั่น

อัลฟ่าขยับหลบกรงเล็บที่ตวัดใส่ครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะหันไปมองทางด้านหลังวัดเมื่อได้ยินเสียงตะโกนดังขึ้นมา

"อัลฟ่า ฉันเสร็จแล้ว"

เพียงแค่ละสายตาจากเนโกะมาตะไปเล็กน้อยเพราะเสียงเรียก เจ้าแมวปีศาจก็พุ่งตัวไปยังด้านหลังวัดในทันที

ดวงตาคู่คมเบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจ ก่อนจะรีบพุ่งตัวตามไปจนทันเห็นว่ามันกำลังจะตวัดกรงเล็บเข้าใส่ชิโนบุ ความโกรธทำให้ดวงตาทั้งสองข้างเรืองแสงสีแดงขึ้นมาอย่างดุร้าย พร้อมกับริ้วสีแดงที่ปรากฎขึ้นมาจากใต้ดวงตาทั้งสองข้าง

ชั่วขณะหนึ่งที่ไอพลังสีแดงกำลังหมุนวนอยู่รอบตัวอัลฟ่า เนโกะมาตะที่กำลังจะตวัดเล็บเข้าใส่ชิโนบุก็กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

อัลฟ่าที่กำลังจะตามไปถึงตัวของเจ้าแมวปีศาจรีบหยุดตัวเองไว้ เมื่อมองเห็นเงาดำขนาดใหญ่ทาบทับอยู่บนตัวของมัน

เจ้าของเงาดำก้มลงฝังคมเขี้ยวลงบนลำคอของเนโกะมาตะจนเลือดสีสดสาดกระเซ็นไปทั่ว ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสะบัดหน้าไปมาให้เขี้ยวฝังลึกยิ่งขึ้น จนเจ้าแมวปีศาจดิ้นพล่านกลางอากาศด้วยความเจ็บปวด

ภาพที่เห็นทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นกับร่างกายของอัลฟ่าหยุดชะงักไป ไอพลังสีแดงค่อย ๆ เลือนหาย พร้อมกับริ้วสีแดงที่ใต้ดวงตาก็ค่อย ๆ จางลง

เสียงของหนักตกกระทบพื้นดังสนั่น เมื่อร่างของเนโกะมาตะถูกเหวี่ยงลงกับพื้น ในขณะที่ผู้กระทำเองก็เดินตามไปหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ

อัลฟ่าได้เห็นร่างตรงหน้าชัด ๆ เมื่อกลุ่มเมฆที่บดบังแสงจันทร์ค่อย ๆ เคลื่อนตัวหลบ ปรากฎเป็นร่างของสุนัขขนาดใหญ่ที่ถูกปกคลุมไปด้วยขนสีดำสนิททั่วทั้งตัว ดวงตาคู่นั้นเรืองแสงสีแดงดูอันตราย หากแต่...

ให้ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด

อัลฟ่าเห็นว่าภูตสีดำตนนั้นมองมาทางเขา ก่อนจะหันไปมองทางชิโนบุแล้วกลับมายกเท้าขึ้นเหยียบหัวเจ้าแมวปีศาจไว้เมื่อมันทำท่าจะดิ้นหนี

"เอามาทางนี้เลย ฉันจะทำพิธีผนึก"

สิ้นเสียงของชิโนบุภูตสีดำก็คาบร่างของเนโกะมาตะที่หายใจรวยรินไปวางลงบนวงเวทย์ แล้วถอยออกมาอยู่ข้างอัลฟ่าอย่างรู้งาน

ดวงตาสองคู่สบกันเงียบ ๆ ท่ามกลางเสียงท่องอาคมที่ดังขึ้น แม้อีกฝ่ายจะไม่ได้พูดอะไร แต่อัลฟ่าคิดว่าเขารู้แล้วว่าภูตตนนี้เป็นใคร ยิ่งตอนนี้ดวงตาคู่นั้นกลับมามีสีดำสนิทไม่ได้เต็มไปด้วยจิตสังหารจนเรืองแสงสีแดงเหมือนเมื่อครู่เขาก็ยิ่งมั่นใจ ไหนจะที่อีกฝ่ายยอมทำตามที่ชิโนบุบอก บวกกับกลิ่นอายที่คุ้นเคยนี่อีก...

ยังไงก็ต้องใช่

"...ผนึก!"

ใช้เวลาเพียงชั่วครู่ชิโนบุก็ท่องคาถาจนจบ อักขระมากมายที่ถูกเขียนไว้ค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้าพันธนาการร่างของเนโกะมาตะไว้ มันกรีดร้องออกมาอีกครั้งด้วยความคับแค้น ก่อนที่วงเวทย์จะส่องสว่างขึ้นมาจนทุกคนต้องยกมือขึ้นปิดตา ไม่เว้นแม้แต่ภูตในร่างสุนัขสีดำขนาดใหญ่ที่ก็ยังต้องหันหน้าหลบไปอีกทาง

เวลาผ่านไปครู่หนึ่งก่อนที่แสงสว่างจะค่อย ๆ จางลง ที่พื้นเบื้องหน้าของชิโนบุในตอนนี้กลับมาว่างเปล่าไม่หลงเหลืออะไรอยู่อีกเมื่อพิธีผนึกเสร็จสมบูรณ์

หากแต่...

ในตอนนี้องเมียวน้อยผู้ทำพิธีระดับสูงสองครั้งในวันเดียวทั้งยังเป็นในช่วงเวลาใกล้เคียงกันกำลังหอบหายใจอย่างหนัก หยาดเหงื่อไหลซึมออกมาตามไรผมแม้ว่าอากาศรอบกายจะหนาวเย็น ใบหน้าที่ขาวอยู่แล้วในตอนนี้ยิ่งซีดลงจนแทบไร้สีเลือด

เจ้าตัวหันมามองทางอัลฟ่าและภูตสีดำที่อยู่ห่างออกไป และโดยที่ยังไม่ทันได้พูดอะไร ร่างทั้งร่างก็ทรุดฮวบลงเมื่อสติการรับรู้ทั้งหมดถูกพรากไปอย่างกะทันหัน

"ชิโนบุ!"

อัลฟ่ารีบวิ่งเข้าไปหาอย่างตกใจแต่ก็ยังช้าไปกว่าร่างใหญ่โตของสุนัขสีดำที่กระโจนครั้งเดียวก็เข้าไปรับร่างของชิโนบุได้ทันก่อนที่เจ้าตัวจะล้มกระแทกพื้น

'คงจะเหนื่อยจนหมดแรงน่ะ'

น้ำเสียงที่แม้จะแปลกไปเล็กน้อยแต่ยังคงให้ความรู้สึกคุ้นเคยจากภูตสีดำ ทำให้อัลฟ่าที่กำลังตรวจดูอาการของชิโนบุเงยหน้าขึ้นมอง หัวคิ้วขมวดเข้าเล็กน้อยด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นว่าเจ้าตัวอยู่ในรูปลักษณ์นี้

"นาย..."

'ช่างเรื่องฉันก่อน ตอนนี้รีบพาโนบุจังกลับไปพักกันเถอะ'

เพราะความเป็นห่วงที่มีต่อคนในอ้อมแขนทำให้อัลฟ่าพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย ก่อนจะใช้สองแขนช้อนร่างของคนที่หมดสติไปขึ้นมาอุ้มไว้แนบอก ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แต่พอทำท่าจะเดินจากไปกลับโดนงับเสื้อดึงกลับหลังไปซะอย่างนั้น

"เดี๋ยวชิโนบุก็ล้มหรอก"

'ถ้าล้มฉันก็รับทัน ไม่ปล่อยให้โนบุจังเจ็บตัวหรอก นายน่ะรีบขึ้นหลังฉันมา มันเร็วกว่าเดินไป'

ได้ยินแบบนั้นอัลฟ่าจึงเดินย้อนกลับไปขึ้นหลังเจ้าหมายักษ์สีดำที่หมอบตัวรออยู่แล้ว จนกระทั่งเจ้าตัวจัดการท่านั่งได้อย่างมั่นคง สุนัขสีดำขนาดใหญ่เจ้าของฉายา 'ท่านสีดำ' ก็กระโจนตัวออกไปในทันที

tbc...