webnovel

บทที่ 12 ชายแปลกหน้า

"เชิญค่ะ ท่านอาแพทริเซีย"

ไวโอเล็ตยิ้มหวานต้อนรับ วันนี้อาสะใภ้แวะมาหาที่คฤหาสน์ เธอให้คนเตรียมโต๊ะขนมน้ำชามื้อบ่ายไว้พร้อม ซึ่งแพทริเซียก็ยิ้มตอบเดินตามหลานสาวไปยังสวนดอกไม้ นั่งเก้าอี้แล้วสาวใช้ก็หยิบการินชาลงถ้วยกระเบื้อง

ช่วงฤดูใบไม้ผลิของทุกปีจะมีงานเลี้ยงหลากหลาย ทั้งงานเต้นรำ งานน้ำชา รับประทานอาหารค่ำ เรียกว่าครึกครื้นไม่ต่างกับเมืองหลวงใหญ่ของจักรวรรดิ อาแพทริเซียจึงจะมาพักที่คฤหาสน์ในเมืองหลักของดัชชีเพื่อร่วมงานตามคำเชิญต่างๆ

"ท่านอาคะ ข้ามีเรื่องจะขอรบกวนค่ะ"

"อะไรเหรอจ๊ะ?"

"ข้าอยากเข้าร่วมพวกงานเลี้ยงของปีนี้ด้วยน่ะค่ะ" ไวโอเล็ตเอ่ยขอ "หากไม่รบกวนเกินไป งานไหนที่ท่านอาเห็นว่าข้าสามารถเข้าร่วมได้ข้าก็อยากจะไปค่ะ"

ตามปกติถ้ายังไม่บรรลุนิติภาวะหรือเปิดตัวสู่สังคมก็จะยังไม่มีการ์ดเชิญให้ร่วมงาน เหล่าเด็กหญิงจะทำได้แค่จัดเลี้ยงน้ำชาฝึกซ้อมกันเองเล็กๆ ส่วนพวกงานออกสังคมที่บรรดาเลดี้จัดขึ้น คนที่จะพาไปก็คือแม่หรือพี่สาวที่ผ่านงานเดบูตองต์มาแล้วซึ่งไวโอเล็ตไม่มี ญาติหญิงคนอื่นที่สนิทนอกจากอาสะใภ้ก็เป็นท่านย่า กระนั้นท่านก็ปลีกวิเวกไปพักผ่อนรักษาตัวต่างเมืองยากจะพบเจอ ซ้ำร้ายพอทุกคนได้ยินกิตติศัพท์ของดยุกเมอร์ริแกนก็ยิ่งไม่มีใครกล้าเชิญเลดี้น้อย

"ได้สิ อายินดีอย่างยิ่งที่จะพาหลานไปด้วยนะ"

"ขอบคุณนะคะ"

หญิงสาวอมยิ้มเอ็นดูต่อท่าทางดีใจของหลาน กระนั้นก็มีข้อแม้อยู่ เป็นเงื่อนไขที่ค่อนข้างยากลำบากทีเดียวในความคิดแพทริเซีย

"แต่เราสองคนต้องขอท่านดยุกให้อนุญาตก่อน ไม่อย่างนั้นอาก็พาหลานออกไปไม่ได้เหมือนกัน"

"ค่ะ ท่านพ่อต้องอนุญาตแน่นอนค่ะ"

จากความผิดครั้งก่อนที่โกหกแล้วหนีหลบออกไปทำให้บิดาของเธอเข้มงวดเรื่องนี้กว่าปกติ หากจะไปไหนต้องแจ้งล่วงหน้าพร้อมการ์ดเชิญเป็นหลักฐาน อีกทั้งคนของพ่อบ้านเบนก็จะนำส่งคำตอบรับไปทางเจ้าภาพเพื่อตรวจสอบว่ามีงานจัดจริงไหมทุกครั้ง นั่นทำให้คุณหนูน้อยหลายท่านแสดงท่าทีอึดอัดที่จะเชื้อเชิญเธอไปร่วมกันมากขึ้นเรื่อยๆ

ไวโอเล็ตอยากไปทำความรู้จักเหล่าเลดี้ของขุนนางในดัชชี ฝึกเข้าสังคม ฟังข่าวภายนอก เพราะนับตั้งแต่ท่านแม่เสียก็ไม่มีใครในบ้านไปร่วมงานพวกนี้ ท่านพ่อของเธอไม่ชอบ แดเนียลเต็มที่ก็ไปตามคำเชิญของคู่หมั้นนอกนั้นก็อ่านตำรา ซ้อมดาบ ขี่ม้า ล่าสัตว์

เรื่องคราวก่อนเด็กหญิงไม่รู้ว่าท่านพ่อของเธอจัดการอย่างไร หลักฐานหลายอย่างถูกทำลาย คนก่อเหตุเสียชีวิต เต็มที่อาจสืบจากการสั่งทำลูกธนู ประเภทพิษ สอบปากคำกองทหารทั้งหมด จากที่เธอพยายามขอให้แดเนียลเล่าดูเหมือนจะเกี่ยวโยงไปยังบุคคลที่ไม่ควรยุ่งด้วย ไวโอเล็ตมั่นใจว่าสเตฟานไม่เผยหางง่ายๆ เลยไม่แน่ใจว่าท่านพ่อของเธอสืบพบอะไร ช่วงนั้นท่านเคร่งเครียดกว่าเก่าแถมยังเดินทางไปที่ไหนสักที่เกือบเดือน

หนึ่งปีผ่านมาความฝันแปลกๆ ของเธอก็เริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้นจากที่เลือนรางเพราะผลกระทบของการเปลี่ยนแปลง ไวโอเล็ตเห็นภาพงานเต้นรำ งานเลี้ยงน้ำชา บรรดาเลดี้ท่านหญิง มีเคทอยู่ข้างๆ ยังไม่มีสิ่งใดพิเศษ ที่น่าขนลุกคือคู่เต้นรำ เขาทำตามสัญญาจริง นอกนั้นก็เป็นภาพชายปริศนาที่บังเอิญพบแถวป้ายสุสานของแม่ เขาโค้งแนะนำตัวว่าชื่อโทบีย์และเธอก็ตื่นนอน

"จะว่าไป ท่านอาพอจะรู้จักช่างทำหินเวทเก่งๆ ไหมคะ?"

"ทำไมเหรอจ๊ะ?"

"สร้อยข้อมือของข้าน่ะค่ะ" ไวโอเล็ตนำของที่พูดถึงออกมาวางที่โต๊ะ "ทุกทีข้าจะฝากให้ส่งซ่อมบำรุงกับช่างฝีมือประจำคฤหาสน์ แต่ล่าสุดช่างคนเดิมบอกว่าตัวอัญมณีเม็ดหนึ่งมันร้าวแล้ว ถ้าเติมกระแสเวทลงไปจะระเบิดได้"

เป็นของดูต่างหน้าจากมารดาเธอเลยใส่ติดตัวเสมอ พ่อเองก็บอกให้เธอหัดฝึกใช้เวทจากมันไว้ป้องกันตัว จริงว่าเธอใช้มันบ่อยๆ แต่ก็คอยเช็ดล้างทำความสะอาดด้วยตัวเอง ไม่คิดว่าจะร้าวแบบนี้

"ข้าลองถามว่าเปลี่ยนหินเวทแทนอันที่เสียได้ไหม ช่างก็บอกว่าเขาทำไม่ได้น่ะค่ะ"

"อานึกว่าเป็นเครื่องประดับธรรมดามาตลอดเลยนะ ไม่คิดว่าเป็นอุปกรณ์เวท" แพทริเซียขอหยิบมาดู "มันใช้ได้จริงเลยใช่ไหม?"

"ค่ะ ข้าใช้มันสร้างศรลมได้"

"อืม จะหาช่างที่ทำได้ขนาดนี้คงยากนะจ๊ะ"

เด็กหญิงเคยเห็นอุปกรณ์เวทอย่างอื่นในห้องคลังของเมอร์ริแกน ส่วนมากจะเป็นอัญมณีอันใหญ่เท่าฝ่ามือประดับลายทองหรือตกแต่งด้วยเงินฉลุ มีแค่เข็มกลัดของแดเนียลกับสร้อยข้อมือของเธอที่มีขนาดเล็ก ซึ่งตามหลักการที่ฟังจากช่างถ้าเป็นเศษหินเวทก็แทบใช้งานจริงไม่ได้ กระนั้นกระแสเวทของทั้งสองชิ้นกลับไม่น้อยและเทียบเท่าหินเวทใหญ่พวกนั้น บ่งบอกว่าคนที่สร้างมันขึ้นมาไม่ธรรมดา

"ท่านแม่เคยพูดถึงช่างฝีมือหรือช่างหินเวทให้ฟังบ้างไหมคะ?"

"ขออาคิดก่อนนะ" เธอพยายามนึก "ช่างหินเวท..."

หากท่านพ่อของเธอไม่รู้ก็มีอาแพทริเซียที่สนิทกับแม่ซึ่งอาจเคยได้ยิน ไม่อย่างนั้นก็ต้องเขียนจดหมายถามท่านตาแต่กว่าจะได้คำตอบต้องใช้เวลาพอควร ปรากฏว่าอาสะใภ้เหมือนคิดได้ทว่ากลับดูลำบากใจที่จะอ้างถึง

"ใครเหรอคะ?"

"อาไม่มั่นใจว่าควรพูดไหม" เธอยิ้มเฝื่อน "หากท่านพ่อหลานได้ยินอาจไม่พอใจมาก หลานอย่าไปถามท่านดยุกนะ"

"ได้ค่ะ"

"ปัญหาคืออาก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนแล้วตอนนี้ ลองถามพ่อบ้านเบนเรื่องคนเสียสติดู"

"คนเสียสติเหรอคะ?"

"จ้ะ เขาค่อนข้างแปลกและไม่ยอมทำงานให้ใคร แต่บางทีถ้าเป็นหลานอาจจะยอมซ่อมให้"

ไวโอเล็ตสงสัยเรื่องคนๆ นี้แต่ที่ชวนสับสนคือการที่ห้ามไปถามท่านพ่อ อย่างไรก็ตามเธออยากซ่อมให้มันสามารถใช้งานได้ปกติ แถมถ้ามีช่างฝีมือดีขนาดนี้ก็ควรสนับสนุนให้เป็นที่รู้จักดีกว่าปล่อยหายไปเงียบๆ ดังนั้นหลังจากอาสะใภ้กลับแล้วเธอก็อาศัยโอกาสตอนนี้ที่บิดาไม่อยู่เรียกหาพ่อบ้านเบนเพื่อสอบถาม

"เลดี้ไวโอเล็ตมีเรื่องอะไรหรือครับ?"

"เบนคะ คนเสียสตินี่คือใครเหรอคะ?"

เธอคิดภาพว่าพ่อบ้านเบนจะงุนงงทำนองว่าเธอเพี้ยนไปหรืออะไรแต่ปฏิกิริยาเขาดันชะงักพิกล แม้จะยิ้มกลบเกลื่อนก็พิรุธ

"เลดี้หมายถึงใครเหรอครับ?"

"ข้าต้องการซ่อมอุปกรณ์เวท" ไวโอเล็ตตัดสรุป "ช่างฝีมือของเราทำไม่ได้ ข้าคิดว่าคนเสียสติทำได้เลยอยากพบค่ะ พอจะช่วยได้ไหมคะ?"

เขาคิดดูว่ามีช่างที่ไหนอีกไหมสักครู่ก็ถอนหายใจ ช่างที่ฝีมือดีที่สุดในดัชชีคือช่างฝีมือประจำของตระกูลแบล็ค ถ้ารายนั้นทำไม่ได้ก็ไม่มีที่ไหนทำได้แล้ว ที่สุดพ่อบ้านเบนก็ยอมแพ้

"เลดี้รู้จักเขาได้อย่างไรครับ?"

"ไม่ต้องห่วงนะคะ ท่านพ่อไม่ทราบเรื่องนี้"

เห็นเลดี้น้อยไม่ยอมบอก พ่อบ้านเลยไม่ถามต่อมากกว่านี้

"ถ้าอย่างนั้นข้าขอจัดการเรื่องให้เลดี้เอง ถ้าอุปกรณ์เวทซ่อมเรียบร้อยจะนำมามอบให้ครับ"

"ข้าได้ยินมาว่าเขาค่อนข้างหัวแข็ง ถ้าข้าไม่ไปด้วยตัวเองเขาจะยอมซ่อมให้เหรอคะ?"

"ข้าเองก็ตอบไม่ได้ครับ แต่การให้เลดี้ไปพบเขาย่อมแย่กว่า"

ท่าทางพ่อบ้านไม่ยอมแน่ เด็กหญิงจึงตัดใจเรื่องไปพบด้วยตัวเองแล้วมอบสมบัติของเธอให้เขาไปช่วยจัดการ ไวโอเล็ตนำสร้อยข้อมือใส่กล่องกำมะหยี่ไว้เรียบร้อย

"เขาชื่อโทบีย์หรือเปล่าคะ?"

"ใช่ครับ"

เธอลองนำชื่อนี้จากฝันมาถามเพราะคิดว่าอาจเป็นเขา ชายแปลกหน้าที่เมาสุรานั่งหลับที่ป้ายหินสลักชื่อของมารดา

"เบนพอจะบอกข้าได้ไหมคะว่าเขาเป็นใคร?" เธอลองถาม "เรื่องนี้เกี่ยวกับท่านพ่อท่านแม่เหรอคะ?"

คำบอกใบ้ของอาแพทริเซียกับปฏิกิริยาของพ่อบ้านเบนแสดงออกถึงความเกี่ยวโยงบางอย่างระหว่างดัชเชสกับคนเสียสติคนนั้น หากมันเป็นเรื่องไม่ควรเธอก็จะยอมจบไม่ยุ่งด้วย

"ไม่มีเรื่องไม่เหมาะไม่ควรหรอกครับ เขาเป็นเพียงเด็กกำพร้านิสัยแปลกๆ ที่โบสถ์" เบนอธิบาย "ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครเห็นความสามารถของเขา กระทั่งดัชเชสพบเข้าจึงส่งให้ได้ฝึกกับช่างหินเวทที่มีฝีมือของเรา"

เธอก็เพิ่งรู้ว่าการสกัดหินเวทให้ได้ชิ้นเล็กโดยที่ยังมีปริมาณกระแสเวทมากพอนั้นทำได้ยากมาก

"ปัญหาคือเขาตกหลุมรักดัชเชสครับ พฤติกรรมไม่เคารพเชิงชู้สาว นั่นทำให้ท่านดยุกไม่พอใจแม้ดัชเชสไม่ได้ตอบรับแต่ก็เกิดการซุบซิบนินทา"

พ่อบ้านคนสนิทของบิดาเล่าวีรกรรมให้ฟังเรื่องที่คนเสียสติดังกล่าวนำช่อดอกไม้มอบให้ดัชเชสกลางวงน้ำชาชนิดไม่สนสายตาเหล่าเลดี้คนอื่น หาท่านหญิงเป็นเงาตามตัว ถือวิสาสะร่วมโต๊ะ ดัชเชสอาจไม่ตำหนิทว่าดยุกเมอร์ริแกนทราบเรื่องก็แทบระเบิดลง

"สุดท้ายเลยต้องใช้คนคุมตัวให้อยู่แต่ในกองช่างครับ"

"อย่างนั้นเอง" วัยเด็กเธอเลยไม่เคยเห็น "ข้าเข้าใจแล้วค่ะ"

"ถึงอย่างนั้นท่านดยุกก็ยอมรับว่าเขามีฝีมือครับ แต่เขาเชื่อฟังแค่ดัชเชส หลังท่านหญิงเสียไปเจ้าตัวก็นอน กิน ดื่มเหล้าอย่างเดียว พอไม่ทำงานทำการทางกองช่างก็ร้องขอให้ไล่เขาออก"

"แล้วแบบนี้พ่อบ้านเบนทราบเหรอคะว่าเขาอยู่ที่ไหน?"

"เพราะดัชเชสสั่งเสียไว้ ข้าเลยช่วยหาบ้านพักให้ครับ ถ้าเขายังอยู่ที่นั่น ข้าก็คงพบตัว"

"ค่ะ ฝากด้วย"

ที่จริงหลังฟังเธอก็เริ่มไม่ชอบคนๆ นี้เท่าไหร่ หากไม่ติดว่าเขาปรากฏตัวในความฝันให้สงสัยก็คงไม่คิดเกี่ยวข้องมากกว่านี้ ไม่รู้ทำไมท่านแม่ถึงปล่อยให้เขาป้วนเปี้ยนสร้างความไม่สบายใจให้ท่านพ่อ ไวโอเล็ตตั้งใจว่าซ่อมสร้อยข้อมือแล้วจะเลิกข้องแวะ

.

ราวสองสัปดาห์ พ่อบ้านเบนก็ส่งเครื่องประดับเวทฝากเคทนำกลับมาคืน เปิดกล่องดูก็ซ่อมได้จริงสมกับที่เป็นผู้สร้าง

"..กระดาษ?"

ดวงตาสีม่วงเหลือบเห็นบางอย่างสอดไว้ด้านล่างของผ้าบุกล่อง เธอดึงออกมาก็เห็นข้อความที่ทำให้คิ้วขมวดมุ่น

'เลดี้น้อยฝันเห็นอนาคตบ้างไหม'

มันคงไม่ใช่ข้อความเชิงหยอกล้อแต่เป็นคำถามขอข้อเท็จจริง ท่าทางเธออาจต้องหาทางไปพูดคุยดูสักครั้งแล้ว

"เคทตามพ่อบ้านเบนให้ข้าหน่อยค่ะ"

"ได้ค่ะ"

สาวใช้ตัวน้อยเร่งเดินไวๆ ออกจากห้องไปตามหาคน ใช้เวลาไม่นานก็พาพ่อบ้านประจำคฤหาสน์กลับมาสำเร็จ เคทดูภูมิใจซึ่งไวโอเล็ตก็ยิ้มให้แทนคำชม

"เลดี้มีอะไรให้ข้ารับใช้ครับ?"

"ข้าต้องการไปพบชายที่ชื่อโทบีย์ค่ะ ข้ามีเรื่องต้องถามจากเขาโดยตรง"

"..เรื่องนั้น"

"พ่อบ้านเบนช่วยข้าด้วยค่ะ เรื่องนี้สำคัญจริงๆ"

เบนถอนหายใจก่อนจะโค้งศีรษะลงอย่างสุภาพ เธอรู้ว่าเขาจะปฏิเสธจึงเตรียมคำโต้แย้งขอร้องซ้ำ แต่เขาบอกแจ้งด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแทรกมาก่อน

"ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ถึงข้าจะพาเลดี้ไปได้ ตอนนี้เขาก็ไม่อยู่ที่นั่นแล้วครับ"

"หมายความว่าอย่างไรคะ?"

"เช้านี้ที่เขานัดไว้ให้ไปรับเครื่องประดับ ข้าไปถึงก็พบว่าเขาเก็บของหนีหายไปแล้ว มีเพียงของที่ให้ซ่อมวางทิ้งเอาไว้เพียงอย่างเดียวครับ" เบนยืนกราน "ข้าขอยืนยันว่าแจ้งความจริงทั้งสิ้น ไม่มีคำโกหก"

"ตามจับเขากลับมาได้ไหมคะ?"

"จากบันทึกทหารยามด่านหน้า เขาน่าจะออกจากเมืองไปหลายวันแล้วครับ จะตามคงยาก"

ไวโอเล็ตกัดริมฝีปากตัวเองขบเบาๆ เจ้าตัวเห็นเครื่องประดับชิ้นนี้ก็น่าจะเดาได้ว่าเป็นของเธอ แม้ไม่ทราบสาเหตุที่หนีไปแต่เขาต้องรู้อะไรเกี่ยวกับความฝันบอกอนาคตของเธอแน่ ซึ่งเธอพลาดโอกาสจะถามไปแล้ว