webnovel

กฎห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ 51% Rule

"เห็นได้ชัดว่าชาวจีนปลูกฝังกันมาว่า วิทยาศาสตร์นั้นน่าตื่นเต้นและมีความสำคัญ และนั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมโดยรวมแล้วพวกเขาจึงจบการศึกษาด้านวิศวกรรมมากกว่าเราถึงสี่เท่า และนั้นเพิ่งเกิดขึ้นแค่ในช่วงวลา 20 ปีที่ผ่านมาเท่านั้นเอง"

ทีมงานถามคำถามบางอย่าง

"ผมไม่คิดว่าผมจะเห็นได้ในช่วงชีวิตผม ทุกวันนี้ไม่มีโค้ดบรรทัดเดียวมีค่ายาวนานสักสี่หรือห้าปี เพราะระบบปฏิบัติการทุกวันนี้ตกรุ่นภายในห้าปี พวกเขาต้องขยายความเป็นไปได้ให้ลูกค้า ถึงจะทำให้ธุรกิจใหญ่ขึ้นได้" บิล เกตส์ตอบ

สารคดีก้าวกระโดดของเด็กเนิร์ด ซีเอ็นบีซี มิถุนายน 2019

บริษัทไบโอคิปป์ ของพัฒน์ได้ลงนิตยสารฟอร์บ เขาเป็นหนึ่งในบริษัทหลักล้านเหรียญสาขาเทคโนโลยีชีวภาพที่น่าจับตามองในหกเดือนถัดมา พัฒน์อยู่ในคอลัม '30 under 30' นักชีวภาพผู้ก่อตั้งองค์กรที่น่าจับตามอง ตอนนี้กลับมาที่วาเลนเซียแคลิฟอร์เนีย เป็นที่ที่ซอฟต์แวร์ทั้งหมดของบริษัทอยู่ที่นี่ มีโชเป็นคนดูแลฮาร์ดดิสก์ การ์ดจอ ระบบการกระจายไฟและ ระบายความร้อนทั้งหมด ก่อนหน้าเหตุการณ์ทั้งหมดสำหรับพัฒน์เป็นแค่ทหาร เป็นคนทำตามคำสั่ง คำสั่งของคนอื่นคำสั่งจากคนที่รักและผูกเงื่อนทางความคิดของคนอื่นต่อตัวเอง พื้นที่เล็ก ๆ ตรงหน้าในทุก ๆ วันจะเป็นตัวที่ทำให้เขาได้ควบคุมได้ทั้งเรือที่ภูเก็ต คอนเทนเนอร์ บาดแผลที่ใบหูข้างซ้าย แผลเป็นที่ผิวหนังศีรษะทั้งหน้าจอโค้ด เครื่องพิมพ์สามมิติ เหมือนเขาเที่ยวรอบโลกแล้วทุกอย่างเปลี่ยนไป ทุกอย่างรอบตัวเปลี่ยนไปเร็วขึ้น ชั้นหนาของความหมายซ้อนทับกันทำให้ความคิดของพัฒน์ซับซ้อนขึ้นไปอีก ในโลกหนึ่งที่มีแต่การขยายความหมาย หินบนโต๊ะคือวัฒนธรรมของที่นี่การคิดคือวัฒนธรรม พัฒน์เอื้อมมือหยิบตัวหมากสีขาวทางด้านขวาของกระดานไม้ และวางตัวหมากทรงรีเม็ดข้าวจับเม็ดหมากนั้นและพะวงต่อการวางครั้งถัดไป เบนชื่นชมคำแถลงการณ์ของพัฒน์

"นายมัวกังวลอะไรอยู่ มองกระดานจนประกันสังคมจะหมดอายุล่ะ" เบนถาม

"ฉันกำลังคิดอยู่" พัฒน์ตอบ

"คิดให้เร็ว ๆ หน่อย"

พัฒน์หยิบตัวหมากสีขาววางไว้ข้างหน้า เบนครุ่นคิดกับการวางหมากของพัฒน์และหยิบหมากสีดำด้าน

ข้างมาวางบนกระดาน พัฒน์มองบนกระดานคำนวณความเป็นไปได้ของทิศทางการเล่นบนกระดานอยู่

"ทำไมเราถึงเล่นหมากล้อมทั้ง ๆ ที่รู้ว่าปัญญาประดิษฐ์ชนะได้อยู่ดี" พัฒน์ก้มหน้าพูด สายตาจดจ่อบนกระดานเพื่อคำนวณการเดินถัดไป

"เพราะมันเป็นวัฒนธรรม มนุษย์สร้างวัฒนธรรม ทำไมนายไม่เดิน ยังไงพวกเราก็ทำลายวัฒนธรรมอยู่ดี" เบนพูดถึงการโปรเจคที่พัฒน์กับโชทำอัลกอริทึมที่สามารถเขียนโปรแกรมให้ตัวเองออกแบบอวัยวะกับข้อมูลร่างกาย พฤติกรรมและจากข้อมูลสาธารณสุข ซอฟต์แวร์ที่นี่รันระบบอัลกอริทึมอวัยวะ และพัฒนาดีพเลิร์นนิ่งกับโครงข่ายปัญญาประดิษฐ์ไปด้วย

พัฒน์ยิ้มและหยิบหมากสีขาวที่ตัวเองเลือกแล้ววางเพื่อให้เกมดำเนินต่อ "แต่คอมพิวเตอร์ชนะวัฒนธรรม"

เบนวางหมากล้อมสีขาวของตัวเอง พร้อมกับมองหน้าพัฒน์ที่กำลังครุ่นคิด "ใช่เราไม่ได้เล่นเพื่อที่จะชนะ" เบนพูดขัด "พัฒน์ นายควรฟังที่ฉันพูดบ้าง"

"ดูเหมือนมีคนไม่อยากชนะ"

"ถ้าจะให้ฉันพูดเรื่องการแพ้ชนะ มันเริ่มมาจากทฤษฎีของเกม" เบนพยายามจะตั้งใจพูด

"ขอร้องเบน อย่าฝืนฝอย" พัฒน์จ้องหน้าครู่เดียวก่อนกลับมามองเกมบนกระดาน

"ฉันแค่จะบอกว่าสามปีแล้ว นายยังคงปาร์ตี้แล้วกลับไปอยู่กับที่ทำงานและสี่หน้าจอแอลอีดีแสดงผล"

"สามหน้าจอ" พัฒน์เงยหน้าพร้อมชูสามนิ้วจ้องหน้าเบนครู่เดียวก่อนกลับไปมองกระดานและเดินหมากอีกครั้ง

เบนถอนหายใจพร้อมกับถือแก้วกาแฟขึ้นมาดื่มจ้องมองหน้าพัฒน์ "สามหรือสี่หน้าจอนี่แหละ พี่ควรนอนให้ถึงสี่ชั่วโมงบ้างนั้นเสียสุขภาพ"

"ไม่เกี่ยวกันเลย กินกาแฟต่างหากเสียสุขภาพ" พัฒน์วางตัวหมากตัวสุดท้ายของเกมโกะไม่ได้แพ้ชนะที่ตอนกินหมากฝ่ายตรงข้ามอย่างเดียวแต่แพ้ชนะอยู่ที่พื้นที่และการนับคะแนนขั้นตอนสุดท้าย ที่จะวัดผลแพ้ชนะคือการเริ่มนับคะแนน เบนชนะคะแนนตัวหมากแต่พื้นที่บนกระดานกับคะแนนตัวหมากรวมทำให้พัฒน์ชนะ พัฒน์ตอบรับสายตาตรงหน้า เบนพร้อมกับพูดหลังคำนวณคะแนนบนกระดานไม้ "ชนะ" พัฒน์ตอบพร้อมเริ่มเก็บตัวหมากบนกระดาน

"เธอชื่อลิซ่าลูกของสตีฟ" เบนเอ่ยถึงชื่อที่โชเป็นคนตั้ง

"ผมรู้ว่าลิซ่านั้นหมายถึงอะไร ช่วงนี้ธาตุไฟแตกหน่ะ ขอโทษที่ไม่ค่อยได้บอกใคร"

"ฉันดูไม่ออกเลยล่ะ" เบนประชด

"เคยเจออะไรมั้ย ที่จบไปแล้ว ผมมันกบในกะลาชัด ๆ เหตุผลเดียวที่ยังไม่บ้า คงเพราะพี่มาอยู่แถวนี้ มันช่วยได้เยอะ พี่กลับผมก็ลงมาทำนู่นนี่นั่นมนุษย์ตายได้ตลอดแหละ ผมปกป้องสิ่งสำคัญในชีวิตผมไม่ได้ ผมต้องปกป้องสิ่งเดียวที่ชีวิตนี้ขาดไม่ได้ คือเครื่องจักรเหล่านี้ และการเขียนเรื่องพวกนี้มันเป็นเครื่องจักรและเป็นส่วนหนึ่งของผม"

"ทางหนีปัญหา?" เบนพยายามให้พัฒน์รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง

"อาจจะ"