1 เด็กหนุ่มลูกครึ่ง ผมดำผิวเข้ม

โจนนี่มีความสุขที่สุด เธอได้เห็นทะเลสีครามเป็น ครั้งแรก ทั้งที่พระอาทิตย์กำลังจะตกลง ทอแสงระยับระยับที่ผิวน้ำ

สาวน้อยร่างสูงผมสีทองวิ่งวนหมุนตัวอยู่ริมหาอย่างมีความสุข แล้วก็มาลงนั่งข้างๆเด็กหนุ่มผมหยักศกสีดำผิวเข้มที่นั่งมองเธออยู่

"ห้าปีนี่ คงนานน่าดูเลยนะ ว่าไหม" โจนนี่ว่า

"ไม่หรอก ห้าปีน่ะมันไวจะตาย แป๊บเดีย วเอง" เจคอบแย้ง

"เวลาคนเรามีความสุข เวลาจะผ่านไปเร็ว ว่าไหม" โจนนี่เสริม

ทั้งคู่จูบกันเบาๆ

เด็กหนุ่มยกมือขึ้นลูบแก้มสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้า

"ห้าปี เธอรอฉันได้ไหม" เจคอบถาม

"รอสิ"โจนนี่พูด เขากุมมือของโจนนี่ไว้แน่น

หลังจากผ่านเรื่องราวต่างๆมามากมาย ไม่น่าเชื่อว่า เด็กทั้งสองจะต้องมาเจอเหตุการณ์เลวร้ายจนมาถึงวันนี้ได้

เจคอบเด็กหนุ่มผมดำหยิกผิวเข้มเขาไม่ได้หล่อเหลาอะไร เขาไม่เคยคิดว่า ชีวิตเขาจะเปลี่ยนแปลงไปมากมายถึงเพียงนี้ เดิมเขาเป็นเด็กธรรมดาๆ ที่ใช้ชีวิตไปวันๆ อยู่บนหอคอยโฮราเธีย หอคอยขนาดใหญ่ที่สร้างกลงป่าเขตอุทยานเก่า

1 ปีที่แล้วเป็นจุดเปลี่ยนของเจคอบเลยก็ว่าได้…

>>>>>

"ฉันฝันเห็นผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว" เจคอบว่า เท้าคางที่ระเบียงมองวิวป่าผืนดำเบื้องหน้าที่ไกลสุดลูกหูลูกตา

"ใครนะ"

"ใครก็ไม่รู้ เหมือนมาขอความช่วยเหลือ พอฉันยื่นมือจะไปหา เธอก็หายไปเลย"

เจคอบคุยกับลูกบอลไฟสีชมพูซึ่งเป็นเครื่องมือสื่อสารของชาวโซลัน

"ฝันเห็นเป็นเฮเรนิกส์ป่าว"ฮาล เพื่อนของเขาที่สื่อสารผ่านบอลแสงสีชมพูถามขึ้น เด็กหนุ่มร่างผอมนอนเอนที่โซฟายาว พลางเปิดดูรายการโทรทัศน์ไปเรื่อยๆ

"ไม่ใช่ สวยไหม ไม่รู้อะ เห็นหน้าไม่ชัด" เจคอบบอก

"เออ เจคอบ...นายอย่าลืมจองบัตรคอนเสิร์ทเฮเรนิกส์ให้ด้วยนะ จำได้ว่า นายมีบัตรลด ที่ได้จากตอนซื้อตั๋วคอนเสิร์ทรอบก่อนมานี่นา" ฮาลทวง พอเขาเห็นโฆษณาที่เฮเรนิกส์ ดาราไอดอลแสดง

"ฟังนี่ เฮเรนิกส์ขอเลือนคอนเสิร์ทไปหลังปีใหม่"

"ทำไมอะ"

"ในข่าวยอกว่า ได้รับเชิญให้ไปเล่นคอนเสิร์ทถวายเจ้าหญิงมาร์ส

เนื่องในวันคล้ายวันเกิดเจ้าหญิง"

"ฉันมาคิดดูอีกที ฉันคงไม่ได้ไปเมืองหลวงเพื่อดูคอนเสิร์ทกับนายหรอก"

"อ้าว ทำไมละ"

"เตรียมตัวนอนได้แล้วนะ" ฟาร่าตะโกนบอก เธอคือแม่ของเจคอบ ที่เดินผ่านระเบียงที่เจคอบยืนชมดาวคุยโทรศัพท์อยู่นั่น

"ครับแม่" เจคอบหันไปตอบ แล้วหันมากระซิบกับลูกบอลสีชมพูต่อ

"คือ ฉันต้องพาแม่ไป คอนเสิร์ทของนีลาด้า ซุปเปอร์โนว่า ก็ต้องเอาบัตรลดให้แม่ไปอะ เซ็งเลย"

"โอ้ เข้าใจแล้วละ" ลูกบอลกระซิบตอบ

"ใจจริงฉันอยากไปดูเฮเรนิกส์มากนะ แต่คงต้องรอเป็นรอบหน้าเลยอะ แบบว่าแม่เค้าก็ชอบตามสไตร์ป้าๆเจ๊ๆของเขา ที่สำคัญเขาอยากให้ฉันไปฟังเป็นเพื่อนแกน่ะ นี่ถ้าพ่ออยู่ พ่อคงไปแทนไม่ใช่ฉันหรอก ....แค่นี้ก่อนนะ ฮาล แล้วเจอกัน" เจคอบกระซิบต่อ

"โอเคๆ เจอกัน" ฮาลตอบ แล้วบอลแสงสีชมพูก็หายไป

พอเขาเดินเข้ามาในบ้าน ก็เห็นแม่ของเขายืนอยู่

"แม่ได้ยินนะ ที่แกพูดถึงแม่แบบนั้นน่ะ" ฟาร่าบอก

"ขอโทษครับ"เจคอบตกใจ

เจคอบ เด็กหนุ่มวัยรุ่นอายุ13 ผิวสีน้ำผึ้งใบหน้าเกลี้ยง จมูกกลม คิ้วดกหนา ตาโตเป็นประกายสีชมพู ตามแบบฉบับของลูกครึ่ง ผมสีดำฟูหนายาวประบ่าทรงหยิกฟูหนา เขาเป็นลูกครึ่งหลายเผ่ามาก เขามีแม่เป็นชาวดิซแท้ๆ แต่มีพ่อเป็นลูกครึ่งลูนกับมาร์ส ชาวลูนส่วนมากก็จะเป็นชาวผิวเหลืองกับผิวดำ ที่อาศัยอยู่บนดสงจันทร์ ส่วนมาร์สคือชาวผิวขาวที่อาศัยอยู่บนดาวอังคาร

ส่วนฟาร่า แม่ของเขา ที่บอกว่าเป็นสตรีชาวดิซ ก็คือเอเลี่ยนที่เข้ามาตั้งรกรากยังโลกดมื่อหลายพันปีก่อน เธอเป็นกลุ่มที่ผ่านการปรับยีนส์เป็นร่างแบบมนุษย์มาหลายรุ่นแล้ว แต่ยังคงเอกลักษณ์ของเผ่าพันธุ์อยู่ เพราะมีดวงตาสีม่วงแดง ส่วนผมที่เิมจะต้องเป็นสีชมพูหม่น เธอก็ย้อมผมเป็นสีน้ำตาลยาวเพื่อให้เหมือนกับลูกชาย เธอสวมเสื้อคลุมแบบทับซ้ายไปขวา เหมือนกิโมโนสีแดงเข้มเป็นชุดนอน

สองแม่ลูกอาศัยอยู่ในบ้านขนาดสามห้องนอน ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่อาศัยบนหอคอยขนาดใหญ่ที่เป็นเหมือนหมู่บ้าน มีสาธารณูปโภคครบครัน ร้านค้า ที่ทำงาน ในป่าย่านนี้มีหอคอยเช่นนี้ประมาณ 10 แห่ง แต่ละหอคอยจะมีชื่อต่างออกไป พวกเขาเรียกหอคอยที่พวกเขาอยู่นี้ว่า หอคอยโฮราเธีย

....

เจคอบนอนนิ่งในพื้นสีขาว เขารู้ทันทีว่า ตัวเองกำลังฝันอีกแล้ว

"มาแล้วเหรอ" เสียงผู้หญิงถามขึ้นจากหมอกขาวโพลนนั้น

"นั่นใคร" เจคอบถาม "ฉันขยับตัวไม่ได้เลย"

"ฉันเองไง"เด็กสาวผมทองปรากฏตัวขึ้น เธอเปลือยเปล่า เช่นเดียวกับเขา หล่อนคุดเช่าลงนั่งข้างๆ เจคอบ

"นายไม่เด็กแล้วนี่นา" เธอว่า พลางเอามือลูบหน้าท้องเลยลงไปยังอวัยวะเบื้องล่าง เจคอบสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ยังขยับตัวไม่ได้

"หยุดนะ..." เจคอบร้องเบาๆ แต่เหมือนผีอำขยับตัวไม่ได้เลย

"ท่อนล่างนาย ดูเหมือนจะ ไม่รับคำสั่งว่าหยุดเลยนะ"

"เรา...ยังไม่รู้จักกันเลย จะมาทำแบบนี้ไม่ได้" เจคอบพยายามหลบหน้า

เด็กสาวเปลี่ยนท่าจากนั่งคุกเข่าด้านข้างมาเป็นขึ้นคร่อมและ ก็ก้มลงจูบเขา

"ปล่อยฉัน…."

...

เจคอบลืมตาพรึบในความมืด สะดุ้งตื่นขึ้นมา เหงื่อแตกท่วมตัว

"ตื่นได้แล้วเจคอบ" เสียงแม่ของเขาเรียกแว่วมา

"ครับ ตื่นแล้ว" เขาตะโกนตอบ

"ให้ตาย เห็นยัยคนนั้นอีกแล้ว" เจคอบปาดเหงื่อและบ่นกับตัวเองเบาๆ

…..

วันที่355 ปี 5467

เจคอบมาล่านิมส์ เป็นกิจวัตรของงานที่ทำ อันที่จริงเขาไม่ได้เป็นคนล่าหรอก เขาเป็นพลขับ ขับยานสกูตเตอร์ลอยได้ ที่เป็นพาหนะสำหรับการล่านิมส์… นิมส์เป็นสัตว์ประหลาดที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ จนได้สัตว์ประหลาดขนาดตัวใหญ่โต แพร่พันธุ์เร็ว และเป็นแหล่งอาหารของชาวโซลัน

ที่ว่าขับยานนั้น เจคอบขับให้ลุงของเขา พี่ชายของแม่ที่ชื่อว่า บรีซ เป็นคนนั่งและเป็นนักล่า หน้าที่ของเจคอบจึงแค่พยุงยานให้ลอยไปตามคำสั่งของลุงบรีซเท่านั้น

หลังเสร็จการล่า เจคอบขับยานสกูตเตอร์ลอยเหนือยอดสนไปช้าๆ ด้านล่างมีสัตว์ตัวใหญ่สีดำที่ถูกตาข่ายเป็นถุงห่อไว้สองตัว ยึดโยงกับลวดสลิงที่ติดกับยาน ฮาลและเจคอบก็เลยได้คุยกันบ้างตามประสา ขณะที่ลุงบรีซนักล่า นั่งชมนกชมไม้อยู่ด้านหลัง

"คอนเสิร์ทเฮเรนิกส์ถูกยกเลิกทั้งหมดเพราะเฮเรนิกส์กลับมาจากมาร์สไม่ทัน" ฮาลบอก

"อ้าว แล้วเขาจะคืนค่าบัตรให้แกไหม" เจคอบถาม

"จำเมื่อสองวันก่อนที่เราคุยกันไหม โชคดีที่ฉันยังไม่ทันได้จองนะสิ"

"ไหนบอกว่าเฮเรนิกส์จะทันมาเล่นคอนเสริท"

"จริงๆ ทุกคนก็เข้าใจว่าเฮเรนิกส์จะเดินทางกลับมาเมื่อ50 วันก่อน แต่นี่ เพิ่งมาประกาศวันนี้ ว่าสำนักพระราชวังของมาร์สจองตัวไปจัดคอนเสิร์ทให้เจ้าหญิงชมเป็นการส่วนพระองค์วันนี้"

"วันนี้เหรอ!!!"

"เพราะงั้นเลยกลับมาเล่นคอนเสิร์ทที่จะมาถึงนี้ไม่ทันไง"

"เป็นเจ้าหญิงก็มีสิทธิพิเศษแบบนี้แหละ" เจคอบค่อนแคะ

"เปล่า เป็นเจ้าหญิง ก็รวยแบบนี้แหละ ค่าตัวเฮเรนิกส์ชั่วโมงละ ห้าหมื่นโซล นอกจากนั้นค่าตัวขณะไม่ได้แสดงคือวันละสามพันโซล แต่นี่ ซื้อตัวไปกลับมาร์ส 80 วัน ใช้เวลาแสดงสามชั่วโมง เป็นเงินเท่าไหร่" ฮาลเบะปากเล่า

"นั่นสิ"

เนื่องจากงานล่านิมส์เช้านี้จบลงแล้ว ฮาลในตำแหน่ง เนวิเกเตอร์ ก็สิ้นสุดหน้าที่สำหรับวันนั้น เขาจึงปิดจอนำทางการล่านิมส์ลง แล้วเปิดจอถ่ายทอดสดคอนเสิร์ทของเฮเรนิกส์จากมาร์ส

"ก็เพราะเป็นเจ้าหญิงไง เราเลยได้ดูแค่จากการถ่ายทอดสดแบบนี้"

เฮเรนิกส์ เป็นนักร้องสาวที่ดังที่สุดในโซลันขณะนี้ เธอคือหญิงสาวผมทองสลวย ดวงตาสีชมพูสดใส เธอมีเสียงไพเราะกังวาลมีเอกลักษณ์ คอนเสิร์ทครั้งนี้เธอสวมชุดกระโปรงพองยาว สีขาวงามสง่ามีประกายระยิบระยับเมื่อต้องกับสปอตไลท์ เธอยืนอยู่กลางเวทีท่ามกลางแสงไฟ เบื้องหน้าที่มืดสลัวคือกลุ่มผู้ชมที่เป็นวงศานุวงศ์ของมาร์ส สมาชิกสภาอัญมณี และเจ้าหญิงโจอันเบลล่า

พอแสดงจบ เฮเรนิกส์ทำความเคารพเจ้าหญิงโจอันเบลล่า พระองค์ทรงยืนปรบมือให้กับการแสดงที่ยอดเยี่ยม เฮเรนิกส์ เดินไปยังเจ้าหญิงเธอเงยอหน้ามองสตรีผู้สูงศักดิ์ที่สูงสง่ามีใบหน้างดงาม เจ้าหญิงโจอันเบลล่าสวมชุดแบบมาร์ส ผ้าปักสีฟ้าอ่อน ซึ่งเป็นสีประจำพระองค์ เฮเรนิกส์ที่ว่าสวยแล้ว ยังเทียบกับเจ้าหญิงมิได้

"เราชื่นชมท่านมาก เราประทับใจเสียงของท่านที่สุด ได้โปรด รับแหวนนี้แทนความชื่นชมจากเรา เป็นของที่ระลึกที่ลึกซึ้งยิ่งกว่า ของที่ระลึกที่ทางสำนักพระราชวังมอบให้แน่นอน และเป็นเครื่องย้ำเตือนถึงมิตรภาพของเราตลอดไป"

หลังจบการแสดง เจ้าหญิงมอบแหวนส่วนตัวให้เฮเรนิกส์นอกเหนือจากของที่ระลึกที่มอบให้อย่างเป็นทางการ

….

วันที่ 53 ปี 5468

ระหว่างมื้อเช้าขณะที่สองแม่ลูกจิบกาแฟ ก็เปิดทีวีดูข่าวไปพลางๆ จอสีเทาที่แสดงภาพเรืองแสงเป็นโทนสีฟ้านั้นถ่ายทอดข่าวประจำชั่วโมงอยู่

"รายงานสดจากมาร์ส ...ขณะนี้เกิดความรุนแรงขึ้นในเมืองเมืองหลวง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเขต 4 และ 8 รวมถึงตามหัวเมืองต่างๆ อันเป็นผลมาจากการรับสั่งของราชินีเรจิน่าที่จะขอเลื่อนเวลาการประกาศชื่อองค์รัชทายาทออกไป ทำให้มีกลุ่มสนับสนุนเจ้าชายฟรองซัวร์และกลุ่มอำนาจเก่าซึ่งสนับสนุนให้เจ้าหญิงโจอันเบลล่าเป็นรัชทายาทเกิดความขัดแย้งกันขึ้น รวมถึงการปิดข่าวเรื่องพระอาการประชวรของพระราชาเนเมอร์แห่งมาร์ส ซึ่งเป็นที่กังขาแก่ชาวมาร์สอย่างยิ่ง"

จอฉายภาพกลุ่มผู้ชุมนุม

"ในขณะที่ทางสภาอัญมณี โดย เลดี้เฮเลน ทัวมารีน กล่าวว่า ทางสภาจะหารือเพื่อแก้ไขและป้องกันเมืองหลวงจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด..."

จอฉายภาพสตรีชาวมาร์สผู้หนึ่งกำลังให้สัมภาษณ์ นางสาวมชุดสวมผ้าคลุมมิดชิดจนเหลือแค่ใบหน้ากับฝ่ามือ

"ทำไมผู้หญิงชาวมาร์สต้องใส่ผ้าคลุมหนาแบบนี้นะ" เจคอบตั้งข้อสังเกตุ

"ก็เพราะพวกนางหัวโล้นยังไงละ" ฟาร่าตอบ

"ทางสภาโซลมาสเตอร์ ได้ยื่นข้อเสนอและความช่วยเหลือต่อสภาอัญมณีแห่งมาร์สในเรื่องการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท" เสียงจากโทรทัศน์ดังต่อเนื่อง เป็นภาพชายกลางคนในชุดเสื้อคลุมปักตราโซลมาสเตอร์ ทำทีให้สัมภาษณ์กับกล้อง

"อาณาจักรมาร์สอยู่ห่างจากเราไป เก้าสิบล้านกิโล พวกโซลมาสเตอร์ก็ยังจะยุ่งไม่เข้าเรื่องเลยนะ" ฟาร่าบ่น

"ก็ที่นี่มันสงบสุขจนน่าเบื่อไงละ" เจคอบบอกพลางตักพายเห็ดเข้ากรอกตามองบนอย่างเบื่อหน่าย

"...แม้จะเกิดความไม่สงบขึ้นทางสำนักราชวังแห่งไดม่อนยังคงยืนยันที่จะจัดงานฉลองวันคล้ายวันประสูติของเจ้าหญิงโจอันเบลล่ามีการจัดคอนเสิร์ทเฮเรนิกส์แสดงต่อหน้าพระพักตร์ส่วนพระองค์ ซึ่งทางพระราชวังจัดถวาย ทั้งนี้ทำให้ผู้จัดต้องยกเลิกคอนเสิร์ททั้งหมดในช่วง 200 วันอย่างกระทันหัน สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนคลับที่จองบัตรเอาไว้แล้ว แต่ภายหลังได้มีการคืนเงินให้ทั้งหมด"

ภาพหญิงสาวในชุดแบบมาร์ส สวมผ้าคลุมผมหนาเหลือแต่กรอบหน้า และชุดเดรสยาว แขนเสื้อพองยาว แต่ภาพในจอเป็นการถ่ายอยู่ห่างๆ เห็นหน้าไม่ชัดแต่รู้ว่าสวมชุดสวยงาม เจคอบมองเจ้าหญิงในจอก็เกิดหน้าแดง

"คุ้นๆ" เจคอบอุทานเบาๆ

แม่ของเขามองจอที่ฉายภาพแล้วส่ายหัวไปมา

"ผู้หญิงชาวมาร์สนะ หัวโล้นทุกคน สวยแค่ไหนก็หัวโล้น" ฟาร่าตักพายเห็ดใส่จานแบ่ง แล้วใช้ส้อมตักพายเห็ดจากจานแบ่งเข้าปาก

"ต่อไปเป็นข่าวจากลูน..."

"ชาวมาร์สนะ โดนรังสีมาหลายรุ่น จนผู้หญิงไม่มีขนขึ้นเลย แต่ผู้ชายมีขนดกเกินไป บางคนก็มีพลังจิตด้วยนะ เห็นเขาเล่าว่าคนไหนมีพลังจิต จะถูกจับฉีดเซรุ่มให้หาย หรือไม่ก็นำไปประหาร" ฟาร่าพูดต่อแทรกเสียงทีวี

"โธ่แม่ ขอแค่คิดอะไรเพลินๆ บ้างไม่ได้หรือไง แม่ก็บอกเรื่องผู้หญิงหัวโล้น ทุกครั้งที่ผมชมผู้หญิงชาวมาร์สตลอดเลย" เจคอบโอดครวญ

"ก็มันจริงนี่" ฟาร่ายกกาแฟขึ้นจิบ "นี่ เดี๋ยวไปส่งแม่ที่สถานีด้วยนะ"

"ได้ครับ"

เจคอบอาสาขับสกูตเตอร์ไปส่งแม่ของเขาที่ท่าอากาศยานกลางประจำหอคอย

วันนี้เจคอบจะไปล่านิมส์ เขาสวมยูนิฟอร์มล่านิมส์ เสื้อคอเต่าสีเทา กางเกงสี่ส่วนสั้นครึ่งแข้งสีน้ำตาลเข้ม รองเท้าบูทหนังสีเดียวกับกางเกง สวมเสื้อคลุมทับให้ดูสุภาพอีกชั้น ส่วนแม่ของเขา ฟาร่า สวมชุดเดรสลายกราฟิกยาวเท่าเข่า ทับด้วยเสื้อคลุมสักกะหลาดสีแดงเข้มและรองเท้าบูทยาวใต้เข้าสีน้ำตาลแดง เจคอบลากกระเป๋าถือให้แม่ของเขา

"อย่าลืมจองบัตรคอนเสิร์ทของนีลาด้ารอบใหม่ให้แม่ด้วยนะ" แม่เตือน "ครับแม่" เจคอบรับคำ

"อย่าลืมปิดไฟ อย่าลืมเอาอาหารที่เหลือในตู้เย็นไปให้ลุงบรีสด้วยละ อย่าปล่อยให้มันบูดไปก่อนน่าเสียดาย"

เจคอบยื่นกระเป๋าเดินทางที่เขาช่วยถือมาให้แม่ของเขาไป

"อากาศยานไปยังเซนเตอร์ที่ 14 จะออกเดินทางที่เกท 6 ในอีก 15 นาที ประกาศ...อากาศยานไปยังเซนเตอร์ที่ 14 จะออกเดินทางที่เกท 6 ในอีก 15 นาที" เสียงประกาศดังขึ้น

"แม่ไปละ อีกห้าวันเจอกันนะ..." ฟาร่าโบกมือ ให้

"เดินทางปลอดภัยนะครับ" เจคอบโบกมือตอบ

พอเห็นแม่เดินหายไปกับผู้คนที่จะเดินทางไปเซนเตอร์ เขาก็เดินกลับไปที่จอดสกูตเตอร์ ขับออกไป

avataravatar
Next chapter