"สุดช็อก พบศพชายหนุ่ม บนห้องหรูใจกลางเมือง สภาพศพนอนคว่ำ เลือดไหลอาบพื้น" สื่อโซเชียลมีเดียทุกสำนักโพสต์ภาพศพถูกฆาตกรรมที่สังคมกำลังให้ความสนใจ
เพจเฟซบุ๊กสำนักข่าวรัตนารายงานว่า "ช่วงเช้าวันศุกร์ เวลา 08.13 น. ตำรวจพบศพวัยรุ่นชายนอนคว่ำ แขนทั้งสองข้างปลายนิ้วมือชูขึ้นเหนือศีรษะแนบพื้นห้อง ลักษณะร่างกายพยายามตะเกียกตะกายให้คนช่วย รอยเลือดไหลเป็นทางยาวเกิดจากร่างกายลากถูไถตามพื้น บริเวณรอบร่างกายผู้ตายเลือดไหลนองพื้น หัวไหล่ด้านซ้ายเกิดรอยฟกช้ำมีบาดแผลเกิดจากการกระแทกกับของแข็ง"
ชาวเน็ตวิเคราะห์รูปภาพหลักฐาน 2 ภาพถูกปล่อยวอนเพจเฟซบุ๊กต่าง ๆ รูปภาพที่ 1 ศพวัยรุ่นชายนอนคว่ำอาบเลือด สภาพรอบ ๆ มีรอยขาและรอยแขนเกิดจากลากร่างกาย คาดว่าขณะผู้ตายยังมีลมหายใจ พยายามออกจากห้องขอความช่วยเหลือ
รูปภาพที่ 2 สภาพศพนอนหงายสวมใส่เสื้อยืดสีดำ กางเกงบ๊อกเซอร์สีขาวเปรอะเปื้อนด้วยเลือด ใบหน้าศพซีดเซียว ริมฝีปากม่วงคล้ำ ขอบตาดำ ร่างกายแข็งผิวขาวซีด พบบาดแผลบริเวณหน้าอกด้านซ้ายเกิดจากมีดปักแทงลงหัวใจ
ข้อความแสดงความคิดเห็นตามเพจเฟซบุ๊กต่างให้ความเห็นคนละทิศคนละทาง
A : ฆ่าตัวตายแน่ ๆ
B : ทะเลาะกับแฟน แฟนจริงบันดาลโทสะฆ่า
C : คู่ขาขอเงิน ผู้ตายไม่ให้ โกรธผู้ตายจึงฆ่า
D : เกิดจากความหึงหวง
E : น่าสงสารจัง ยังหนุ่มอนาคตยังไกล
F : ใครกันนะทำเรื่องเลวร้ายเหล่านี้ได้
G : ขอสาปคนทำให้มันไม่ตายดี
H : ทะเลาะ โกรธกัน ไม่น่าต้องทำร้ายขนาดนี้เลย
.
.
.
เสียงวิพากษ์วิจารณ์กลายเป็นวงกว้างตั้งคำถามกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผ่านโลกโซเชียลจนทำให้เกิดข้อมูลอันเป็นเท็จกระจายเป็นวงกว้าง จนตำรวจไม่สามารถควบคุมข้อมูลเท็จเหล่านั้นได้
หลายสำนักข่าวใช้ข้อมูลจากนักสืบโซเชียลเขียนข่าวสร้างความสนใจให้ประชาชนเข้ามาอ่านข่าว หวังเพียงความรวดเร็วของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยไม่ไตร่ตรองความถูกต้องของข้อมูล จนประชาชนอ่านข่าวต่างเชื่อถือในข้อมูลเหล่านั้นจนลืมพิจารณาข้อมูลจากตำรวจหรือผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว
นักสืบโซเชียลค้นหาเฟซบุ๊กส่วนตัวผู้ตาย ขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตของผู้ตาย รวบรวมหลักฐาน รูปภาพ ข้อความ เรื่องราวที่แชร์ผ่านเฟซบุ๊ก ไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ เพื่อหาต้นเหตุการตายครั้งนี้
ภาพหลายภาพ ข้อความหลายข้อความคัดลอกออกจากเฟซบุ๊กส่วนตัวผู้ตาย กระจายทั่วเพจเฟซบุ๊กให้ประชาชนอ่าน เรียกกระแสให้กับเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก ยิ่งเพจเฟซบุ๊กใดโพตส์ข้อมูลรูปภาพหรือข้อความใหม่ ๆ ทำให้ชาวเน็ตรุมล้อมแสดงความคิดเห็น เรียกยอดไลก์ ยอดผู้ติดตามถล่มทลาย
ผลสืบบค้นข้อมูลเบื้องต้นทำให้ชาวเน็ตทราบผู้ตายชื่อ "อันดก"
รูปภาพที่กำลังเป็นประเด็น สังคมให้ความสนใจขณะนี้ มีทั้งหมด 3 รูปภาพ รูปภาพที่ 1 โพสต์เมื่อ 2 วันก่อนตาย ผู้ตายรับประทาน ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ยื่นมือปลายนิ้วมือชนกับใครบางคน นิ้วนางข้างซ้ายทั้ง 2 คน สวมแหวนเงิน สลักคำว่า A & M
ชาวเน็ตให้ความเห็นภาพมือปริศนาสวมแหวนสลัก A & M ทำนองเดียวกันคือคนรักอันดก หัวข้อคำถามใหม่ถูกตั้งขึ้น ใครคือคนรักอันดก
รูปภาพที่ 2 คอมเม้นท์ปริศนาใต้รูปภาพใช้อิโมจิร้องไห้ กับอิโมจิหัวใจแตกสลายออก 2 ซีก
ชาวเน็ตหลายคนพยายามค้นหาบัญชีบุคคลดังกล่าว แต่ไม่มีรูปภาพแสดงตัวตน มีเพียงรูปภาพโปรไฟล์ตัวการ์ตูนถือดอกกุหลาบสีแดงซ่อนตัวอยู่หลังกำแพง แอบมองอะไรบ้างอย่าง
ชาวเน็ตสนใจและตีความคอมเม้นท์ดังกล่าวหลายความคิดเห็น
A : "กิ๊กอันดกหรือไม่"
B : "คนรักอีกคนของอันดกแน่ ๆ"
C : "คนที่แอบชอบอันดกหรือไม่"
D : "หรือเขาคือฆาตกร"
รูปภาพที่ 3 โพสต์ข้อความ 5 วันก่อนตายว่า "แม้โลกนี้ไม่มีใครรักผม แต่โลกหน้าคงไม่มีคนใจร้ายกับผม" พร้อมอิโมจิร้องไห้ ข้อความดังกล่าวถูกตีความในทำนอง ตัดพ้อคนรัก ทะเลาะกับคนรัก หรือนี้คือสาเหตุการตาย
นักสืบโชเซียลหลายคนมุ่งการตายครั้งนี้ คนรักของอันดกคือบุคลลอยู่เบื้องหลัง
ความคิดเห็นเหล่านี้เป็นเพียงสมมติฐานของนักสืบโซเชียล ไม่มีหลักฐานอะไรยืนยันความน่าจะเป็นเหล่านี้
โทรทัศน์ทุกช่องให้ข้อมูลทิศทางเดียวกันคือพบศพชายหนุ่มวัย 21 ปี แต่ยังไม่ทราบสาเหตุการตาย หรือแรงจูงใจฆ่า และไม่ปักใจเชื่อข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย เพราะเกรงว่าข้อมูลเหล่านั้นเป็นข้อมูลเท็จ จนทำให้ช่องได้รับความเสียหายจึงรายงานข่าวโดยใช้ข้อมูลตำรวจ
.
.
.
.
เวลา 17.00 น. ณ โรงพัก
ผลักดันตำรวจน้องใหม่อยู่ช่วงทดลองงานได้รับหน้าที่จากผู้กำกับให้ดูแลคดีนี้ร่วมกับรุ่นพี่คนสนิทผู้มากประสบการณ์สืบสวนสอบสวน
ผลักดันเป็นตำรวจน้องใหม่กำลังถูกจับตามองในวงการตำรวจ ผลักดันสามารถจับคุมผู้ต้องหาคดีลอบวางเพลิงสำเร็จ เนื่องจากผลักดันค้นหาหลักฐานจากรอยเท้าบริเวณรอบ ๆ โกดังเก็บสินค้าใกล้สถานที่เกิดเหตุ และพยายามจับสังเกตรองเท้าผู้ต้องหา ผลักดันให้ผู้ต้องหาทุกคนเหยียบดินน้ำมันที่วางไว้ จนสามารถหาตัวคนร้าย ซึ่งมีรอยเท้าแบบเดียวกับบริเวณรอบโกดังได้สำเร็จ
สอบสวนผู้ต้องหาคดีลอบวางเพลิงจนทราบว่าผู้ต้องหาไม่พอใจเจ้าของโรงงานปล่อยน้ำเสียลงพื้นที่สาธารณะ ทำให้ชาวบ้านละแวกนั้นไม่สามารถนำน้ำใช้เชิงเกษตรกรรมได้เป็นผลให้พืชที่ปลูกล้มตาย ชาวบ้านขาดทุนเป็นหนี้ ร้องเรียนหน่วยงานใดก็ไม่ช่วยเหลือจึงตัดสินใจแก้ปัญหานี้ด้วยตนเอง เพียงหวังว่าเมื่อไม่มีโรงงาน ชาวบ้านจะกลับมามีน้ำใช้รดพืชการเกษตรได้เช่นเดิม
เมื่อผลักดันทราบปัญหาแท้จริงลอบวางเพลิง ผลักดันสามารถพูดคุยทั้งฝ่ายโรงงานและชาวบ้าน โดยทำข้อตกลงร่วมกัน จนชาวบ้านพอใจ
จากผลงานนี้ทำให้ผู้กำกับสำนักงานตำรวจปราบปลื้มความสามารถ สติปัญญา และไหวพริบของผลักดัน จึงมอบหมายคดีสำคัญให้ทำ
.
.
.
.
ผลักดันนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ วางรูปภาพที่ตำรวจถ่ายจากเหตุการณ์ลงบนโต๊ะ ผลักดันใช้สมาธิและสายตาพินิจรูปภาพหลักฐานกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยไม่สนใจข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย ผลักดันตั้งคำถามในใจไขปริศนาการตายโดยไม่ปักใจเชื่อสมมติฐานใดทั้งสิ้น
"ฆาตกรรม" ผลักดันพูดพึมพำในลำคอกับตนเองถึงความคิดเห็นจากโลกโซเชียลผุดขึ้นในสมอง แต่ผลักดันไม่มีหลักฐานพิสูนจ์ได้คือฆาตกรรม
ผลักดันนำภาพหลักฐานติดบนกระดานไวท์บอร์ดสีขาว ค่อย ๆ เรียงภาพทีละภาพลงบนกระดานพร้อมเขียนคำถามไขปริศนาคดี
"ใครฆ่าผู้ตาย"
"ผู้ตายฆ่าตัวตายหรือไม่"
"แรงจูงใจฆ่าตัวตาย/ฆาตกรรมคืออะไร"
"ผู้ตายทะเลาะหรือมีปัญหากับใครบ้างก่อนหน้านี้"
"ผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้มีใครบ้าง"
"ผู้ตายพยายามขอความช่วยเหลือหรือไม่"
"ผู้ต้องหาต้องเป็นบุคคลได้รับความไว้วางใจเข้าห้องผู้ตาย"
"ร่างกายมีบาดแผลเกิดจากทะเลาะกันหรือไม่"
.
.
.
.
.
.
"มีดแทงหน้าอกผู้ตายหายไปไหน"