webnovel

กว่าจะเชื่อ

แสงอาทิตย์สาดส่องลอดผ่านผ้าม่านสีเทาหม่น สายลมอ่อน ๆ ไหลเข้ามาตามรอยแยกของผ้าม่านเข้ามากระทบกับร่าง ๆ หนึ่งที่นอนอยู่บนเตียงเล็กสีขาวสะอาด

ดวงตางามค่อย ๆ ปรือขึ้นอย่างงัวเงีย ก่อนจะยันกายขึ้นจากเตียงนอนแล้วยกแขนทั้งสองขึ้นสูงอ้าปากหาวเสียงดัง

"ฮ้าววววววววววว"

เฮ่อซินหมิงนั่งหลับตาสัปหงกอีกครู่หนึ่งจนเกือบหงายหลังตกเตียง เธอต้องรีบผวาตื่นทันที "เอ๊อะเอ๊ยยยย!"

เมื่อปรับสายตาให้ตื่นเต็มที่ก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นภาพตรงหน้าที่แปลกไป 'ฉันอยู่ที่ไหนอีกเนี่ย…หรือว่าจะไปโผล่ที่บ้านใครอีกรึเปล่า?'

ลองลูบคลำใบหน้าและดูเนื้อตัว 'ยังแฮะ ก็ยังอยู่ในร่างของคุณหนูฉีอันหนิงอะไรนั่นอยู่นี่นา แต่ที่ห้องของผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นแบบนี้นี่?'

เธอค่อย ๆ ลงจากเตียงช้า ๆ ไปที่ประตู ทว่ากลับมีเสียงก้าวเท้าเดินมาจากภายนอกดูเหมือนกำลังตรงมาที่ห้องของเธอ อาหมิงรีบกระโดดกลับขึ้นเตียงเหมือนเดิมพร้อมกับประตูที่เปิดออก

"คุณหนู!!"

เฮ่อซินหมิงถอนหายใจอย่างโล่งอกใจที่เต้นโครมครามเหมือนคนแอบซุ่มลับ ๆ ล่อ ๆ เมื่อครู่ค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติ ที่แท้ก็เป็นจินหมิงนี่เอง

"คุณหนู ท่านดีขึ้นหรือไม่ ทานอาหารเช้าก่อนเถิดเจ้าค่ะ"

หืม? อาหาร!..."ว้าว!กำลังหิวอยู่พอดี ทำไมรู้สึกเหมือนไม่ได้กินอะไรมาทั้งวันเลย หิวจะตายอยู่แล้ว"

เมื่อสำรับถูกวางลงบนโต๊ะ เฮ่อซินหมิงก็จัดการสวาปามทั้งหมดไปด้วยความเอร็ดอร่อยและหิวโซ แต่พอกินไปก็นึกขึ้นได้จึงถามจินหมิงทั้งที่ข้าวเต็มปาก

"อืม…อี้…อำไออั๋นอึ๋งอาอู่อี้อี้อ่ะ"

"หะ…ว่าอย่างไรนะเจ้าคะ?" เห็นคุณหนูของตนรีบเคี้ยวข้าวสองสามทีแล้วกลืนลงคอหมดทั้งคำพร้อมทั้งยังเอากำปั้นมาทุบอกสี่ห้าที นางกำลังจะทัดทานแต่ไม่ไวเท่าอีกฝ่าย

"ถามว่า…ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ"

จินหมิงขมวดคิ้วมุ่น ครั้งที่คุณหนูหมดสติไปตอนนั้นเมื่อตื่นมาก็ถามคล้ายกันว่าที่นี่ที่ใด หรือคุณหนูจะความจำเสื่อมอีกแล้ว?

"คุณหนูไม่รู้หรือเจ้าคะ?"

เฮ่อซินหมิงตักข้าวเข้าปากไปก็พูดไป "ก็น่าจะรู้อยู่นะ...แต่ลืมไปแล้ว...เอ๊ะเดี๋ยวนะ!?!"

ฝ่ามือเล็กบางรีบยกขึ้นห้ามคำพูดที่กำลังจะออกจากปากของจินหมิง นางสะดุดกึกแล้วเงียบลงเพื่อให้คุณหนูได้คิดทบทวน

ผ่านไปนานครู่ใหญ่ก็มีเสียงเรอดังสนั่น "เอร่อออออออออออออ! อุบ! เอร่ออออ!…เฮ้อ โอเค พูดต่อได้"

คุณหนูทำหน้าจริงจังยิ่งนักแต่นางนั้นกลับไม่รู้จะทำสีหน้าอย่างไรดีในตอนนี้ "ไหนลองเล่ามาซิ?"

"เมื่อวานนี้หลังแจกของเสร็จจู่ ๆ คุณหนูก็ล้มลงไปเลยเจ้าค่ะ ดีที่ได้คุณชายชุดดำผู้นั้นช่วยเหลือจึงได้พาคุณหนูไปที่ศาลาใกล้ ๆ ข้าจึงเช็ดตัวให้คุณหนูแล้วไม่รู้ว่าคุณชายทั้งสองท่านนั้นคุยสิ่งใดกัน คุณชายชุดดำก็ลองถ่ายพลังลมปราณเข้าช่วย แต่ว่า..."

ตอนที่จินหมิงพูดถึงเรื่องทอยเต๋าขึ้นมาในหัวของเธอก็เหมือนมีสายฟ้าฟาด ภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ไหลบ่ามาทั้งหมด แต่ความรู้สึกสุดท้ายคือหนาว ๆ ยังไงก็ไม่รู้ แล้วเธอก็สลบไปเลยหรอ? บ้าไปแล้ว…ใครบ้านไหนโดนลมแล้วสลบกัน!?! หรือเป็นลมพิษ?...ไม่น่า ตอนนั้นไม่ได้กลิ่นอะไรแปลก ๆ เลย

เห็นจินหมิงหยุดไปนานเธอจึงเอ่ยเร่งอีกฝ่าย "อะไรต่อล่ะ รีบเล่าเร็ว ๆ เข้าซิ"

"แต่พอคุณชายถ่ายพลังลมปราณเข้าร่างคุณหนู ก็มีน้ำแข็งผุดออกมาจากตัวคุณหนูเต็มไปหมด ทั้งยังลามแผ่กระจายเป็นวงกว้างที่พื้นศาลา แล้วในตอนนั้นคุณชายชุดดำก็ถูกพลังของตัวเองตีกลับเจ้าค่ะ"

"มีน้ำแข็ง?...ผุดออกมา...จากตัวฉัน??...อะฮ่า ๆ ๆ จะบ้ารึไง ตอนนั้นเธอสลบไปกับฉันด้วยหรือเปล่าเนี่ย"

เห็นคุณหนูของตนมองเหตุการณ์อันน่าหวาดหวั่นที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องตลก อาหมิงก็หน้าซีดเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ "คุณหนู!! ข้าพูดความจริง ข้าไม่เคยเห็นท่านเป็นเช่นนั้นมาก่อน มันน่ากลัวมากจนข้าคิดว่าคุณหนูจะถูกน้ำแข็งแช่แข็งตายไปแล้ว หากคุณชายไม่รีบผละมือออกจากท่านคงจะกลายเป็นก้อนน้ำแข็งไปแล้วเช่นกัน!!"

ดวงตาของนางเริ่มแดงก่ำ นางรู้ดีว่าคุณหนูไม่ได้ป่วยเป็นไข้หนาวสั่นธรรมดา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เกินความคาดหมายของนางยิ่งนัก

จินหมิงที่เล่าเรื่องราวโดยไม่มีทีท่าหยอกเล่นทำเอาเฮ่อซินหมิงขนลุกขนพองหน้าเจื่อนลงไปด้วย จินหมิงพูดจริงใช่ไหม? ทำไมมันดูน่ากลัวอย่างนี้ "แต่มันก็ดู...จะเกินไปสักหน่อยนะ"

สีหน้าก้ำกึ่งระหว่างเชื่อกับไม่เชื่อของคุณหนูทำเอาอกของอาหมิงจะระเบิด "เสื้อคลุมของคุณหนูอยู่ไหนเจ้าคะ"

เสียงที่เริ่มสงบความพลุ่งพล่านลงแต่แฝงความเย็นเยียบทำให้อาหมิงรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเป็นเด็กที่โดนสอบสวนเพราะทำของสำคัญหายไป

"ฉัน…เอาให้เด็กคนหนึ่งไปแล้ว" จินหมิงนิ่งงันก่อนจะลากผ้าห่มสีน้ำขาวบนเตียงมาคลุมรอบกายของนายตน แต่ควรจะเรียกว่ามัดผ้าห่มกับร่างของนายตนเสียมากกว่าเพราะขณะนี้คุณหนูฉีอันหนิงได้กลายเป็นก้อนซาลาเปาน้อยไปแล้ว

เฮ่อซินหมิงเอียงตัวไปมาและขยับได้แค่เข่าถึงเท้าเท่านั้น เธอขยับไปมาด้วยความอึดอัด "มันจะไม่เกินไปหน่อยหรอ อาหมิง" เสียงที่เริ่มอ่อนลงทำให้นางคิดอยากจะแก้มัดให้หลวมหน่อย

"ไปกันเถิดเจ้าค่ะ" เสียงที่เด็ดขาดนั้นแสดงให้เห็นว่าจินหมิงคงไม่ยอมใจอ่อนให้เธออีกแล้ว เฮ่อซินหมิงเบ้ปากแต่ก็เดินตามแต่โดยดี

เมื่อออกมาถึงนอกห้องก็เห็นห้องอีกหลายห้องทางฝั่งที่เธอเพิ่งออกมา "ที่นี่ที่ไหน?"

"โรงหมอของหมู่บ้านเหอหลิงเจ้าค่ะ" ดวงตากลมโตกวาดมองไปทั่วบริเวณด้วยความอยากรู้อยากเห็น จนออกมาจากโรงหมอ จินหมิงได้นำทางคุณหนูตนมายังศาลาที่เกิดเหตุ

"คุณหนูลองไปดูสิเจ้าคะ"

เฮ่อซินหมิงค่อย ๆ เดินขึ้นบันได สัมผัสแรกที่ปลายนิ้วเท้าแตะถูกพื้นศาลาคือความเย็นชื้น กลางศาลาขนาดไม่ใหญ่มากมีรอยสีที่เข้มกว่าพื้นที่อื่นอยู่ตรงกลาง เมื่อลองใช้เท้าเหยียบทั้งสองข้างก็รู้สึกถึงความชื้นแฉะเหมือนไม้บวมน้ำ

'สิ่งที่อาหมิงเล่ามาเกิดขึ้นจริง ๆ หรอ? แล้วทำไมโดนขนาดนั้นฉันถึงยังไม่ตายล่ะ?'

......