webnovel

ตอนที่ 74 คำพูดที่น่าตกใจ

ตอนที่ 74 คำพูดที่น่าตกใจ!

คาดไม่ถึงเลย สุดท้ายวิชาแพทย์ของเธอก็มีประโยชน์ที่สุด แต่ว่าของพวกนี้เป็นเพียงยาที่ปรุงออกมา หากเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุของโลกนี้ล่ะก็...

พอนึกถึงตรงนี้ ในดวงตาที่หรี่ลงของเธอฉายประกายรางๆ ความคิดในหัวค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่าง

เธอช้อนตาขึ้นมองใบหน้าผู้ดูแลต่ง เอ่ยถามว่า “ข้าเห็นสาวชุดดำคุกเข่าอยู่ด้านนอก คล้ายว่าจะเป็นคนที่ดื่มยาไปเมื่อวันนั้นสินะ?”

“ใช่ขอรับ เป็นนาง นางคุกเข่าอยู่ตรงนั้นสองวันแล้ว ที่จริงก็เพื่อพบหน้าท่านขอรับ”

“พบข้า?” เธอเลิกคิ้ว แปลกใจเล็กน้อย

“ขอรับ นางเป็นนักรบของลานประลองตลาดมืดที่พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง กล่าวกันว่ายังมีน้องชายอีกคน แต่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง เงินที่นางชนะการประลองที่นี่ล้วนนำไปรักษาน้อง ทว่าหมอหลายท่านที่เคยไปตรวจดูต่างบอกว่าน้องชายนางมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน”

ขณะที่ผู้ดูแลต่งพูด เห็นเฟิ่งจิ่วค่อนข้างสนอกสนใจ จึงกล่าวอีกว่า “สองวันก่อนได้ยินว่าน้องชายนางหมดสติไม่รู้สึกตัว หมอในหมู่บ้านล้วนหมดหนทาง ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น นางถึงมาคุกเข่าที่นี่ บอกว่าขอพบท่าน พวกเรารับปากว่าจะไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ ของท่าน แน่นอนว่าย่อมไม่ตอบรับนาง นางจึงคุกเข่าอยู่เช่นนั้นมาตลอด ไล่ก็ไล่ไม่ไป”

เฟิ่งจิ่วพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรมากมาย ผ่านไปสักพัก หลังจากอธิบายเรื่องยาทิพย์จิตวิญญาณกับเขาอีกหน่อย เธอก็ลุกขึ้นจากไป

ขณะที่ก้าวเดินออกประตูตลาดมืด พอผ่านข้างกายสาวน้อยชุดดำ ก็สังเกตเห็นแววตานาง เฟิ่งจิ่วจึงชะงักเท้าลง เหลียวมองนางแวบหนึ่ง ก่อนจะสาวเท้าก้าวจากไป

สาวน้อยชุดดำหันตัวมองตามเงาร่างที่จากไป แววตาเป็นประกาย ก่อนจะลุกขึ้นตามไปทันที

หลังจากเฟิ่งจิ่วเดินอยู่สักพัก ฝีเท้าพลันหยุดลง น้ำเสียงหยอกล้อก็ดังตามมา

“ตามมานานขนาดนี้ หรือเจ้าคิดจะปล้นข้า?” ระหว่างที่พูด เธอก็หันกลับไป

ร่างสีดำเดินออกมาจากด้านหลัง เป็นสาวน้อยหน้าคล้ำผู้นั้นเอง นางมองร่างสีแดงเบื้องหน้า ริมฝีปากที่เคยเม้มอยู่ปริปากเอ่ยว่า “บนตัวท่านมีกลิ่นยา ท่านเป็นนักปรุงยาที่ทำยานั้น”

เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ สองมือกอดอกมองนาง มุมปากที่ยกขึ้นน้อยๆ มีความร้ายกาจอยู่บางส่วน “แล้วยังไงต่อ?”

สาวน้อยชุดดำมองเฟิ่งจิ่ว เงียบไปอยู่นาน ก่อนจะโน้มกายคุกเข่าลง แล้วก้มหัว “ขอท่านช่วยน้องชายข้าด้วย”

น้ำเสียงนางหนักแน่นและเย็นเยียบ ถึงแม้จะคุกเข่าลง แต่ช่วงเอวกลับตั้งตรง เห็นได้ชัดว่าเป็นคนที่อ้อนวอนใครไม่เป็น

รอยยิ้มบนริมฝีปากเฟิ่งจิ่วยิ่งลึกขึ้น แต่กลับส่ายหน้า “ข้าไม่ช่วย”

สิ้นน้ำเสียง เธอก็หันตัวก้าวเท้าเดินไปด้านหน้า

ทว่าครั้งนี้ ร่างที่เคยคุกเข่าอยู่กลับโผล่มาคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าเธอในระยะห่างสามก้าว

“ขอท่านช่วยน้องชายข้าด้วยเจ้าค่ะ”

ยังคงเป็นน้ำเสียงที่หนักแน่น ลำตัวที่เหยียดตรงเช่นเดิม

เฟิ่งจิ่วเห็นแล้วนึกถึงอีกฝ่ายตอนที่อยู่บนลานประลองในวันนั้น แววตาดั่งสัตว์ร้ายตัวน้อย ทั้งดื้อรั้นและแน่วแน่

“ไหนเจ้าลองบอกซิ เหตุใดข้าต้องช่วยน้องชายเจ้าด้วย?”

“ข้าช่วยท่านฆ่าคนได้เจ้าค่ะ”

เฟิ่งจิ่วส่ายหน้า “เรื่องฆ่าคนก็มีนักฆ่าตลาดมืดที่ทำงานนี้โดยเฉพาะแล้ว”

“ชีวิตข้าก็ให้ท่านได้”

เธอส่ายหน้าอีกครา “ได้ชีวิตเจ้าไปก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี”

ได้ยินเช่นนี้ นางจึงเงยหน้าขึ้นใช้สายตามองคนเบื้องหน้าตรงๆ “เช่นนั้นท่านต้องการอะไร?”

พอสายตาเฟิ่งจิ่วพินิจมองเรือนร่างนางจากบนลงล่าง ก็ส่ายหน้า ยิ้มอย่างชั่วร้าย ก่อนจะเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรอีก

เมื่อเห็นเงาร่างที่ค่อยๆ เดินห่างออกไป สาวน้อยชุดดำลุกยืนขึ้น ตะโกนบอกว่า “ข้าอุ่นเตียงให้ท่านได้!”

เฟิ่งจิ่วได้ยินคำพูดด้านหลัง ขาก็ซวนเซจนแทบจะล้มลงบนพื้น

…………………………………………………….