webnovel

ตอนที่ 25 เผชิญหน้าฝูงหมาป่า

ตอนที่ 25 เผชิญหน้าฝูงหมาป่า!

ตรงนั้นมีชายคนหนึ่งนอนอยู่

พูดตามจริง ก็ไม่รู้ว่าแค่หมดสติหรือหมดลมหายใจ ร่างของเขานอนแผ่อยู่กลางลำธาร เนื่องจากนอนคว่ำจึงมองเห็นหน้าได้ไม่ชัด แต่ดูจากเสื้อผ้าเนื้อดีสีน้ำตาลอ่อนบนร่างเขา ชาติตระกูลน่าจะไม่เลวเลย

เสื้อตรงหน้าท้องมีสีแดงเข้ม ที่ศีรษะเองก็มีเลือดไหล ถึงแม้จะนอนอยู่ในลำธาร แต่เขาช่างโชคดีนัก เพราะตรงที่นอนอยู่ครึ่งหนึ่งมีหินก้อนค่อนข้างใหญ่โผล่ขึ้นมาจากผิวลำธารเล็กน้อย ส่วนหน้าเขาจึงไม่ได้แช่อยู่ในน้ำ ไม่เช่นนั้นเดาว่าต่อให้ไม่มีเลือดออก เขาก็คงจมน้ำตายไปแล้ว

เพราะครึ่งร่างแช่อยู่ในลำธาร เลือดบนศีรษะและเลือดที่ซึมออกมาตรงช่วงท้องจึงไหลตามลำธารลงไปจากจุดต้นน้ำ

เฟิ่งจิ่วเดินเข้าไปพลิกตัวเขาขึ้นมา ก่อนจะยื่นมือไปตรวจลมหายใจที่ปลายจมูก พบว่ายังมีลมหายใจอยู่ เธอจึงลากเขาขึ้นมาบริเวณพื้นหญ้าข้างลำธาร

หลังจากตรวจดูบาดแผลของเขาแล้ว ก็หยิบขวดใบเล็กออกมาจากถุงฟ้าดิน นำยาห้ามเลือดมาโรยลงบนบาดแผลที่ศีรษะของเขา แล้วค่อยถอดเสื้อผ้าเพื่อโรยยาลงไปบนแผลที่ท้องอีกนิดหน่อย จากนั้นเธอหยิบเสื้อผ้าชิ้นหนึ่งจากด้านในถุงฟ้าดินมาฉีกเป็นเส้นๆ และพันแผลเขาไว้

‘นายนี่โชคดีจริงๆ ถึงได้มาพบฉัน’

เธอมองคนที่กำลังหมดสติ พลางหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจเล็กน้อย แล้วพูดกับตัวเองว่า “นี่ฉันใจดีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร?”

เพื่อไม่ให้กลิ่นคาวเลือดดึงดูดพวกสัตว์ร้ายมา เธอจึงถอดเสื้อผ้าบนร่างชายหนุ่มโยนทิ้งลงน้ำเสีย ให้เสื้อผ้าลอยหายไปตามลำธาร แล้วหยิบเสื้อผ้าอย่างง่ายๆ ชุดหนึ่งจากในถุงฟ้าดินมาสวมลงบนร่างเขา

เมื่อเห็นว่าท้องฟ้ายังไม่มืด ตรงนี้ก็มีแหล่งน้ำ เธอจึงเก็บกิ่งไม้รอบๆ มาก่อกองไฟ ตั้งใจว่าคืนนี้จะพักอยู่ที่นี่เสียเลย

เดิมทีอยากลองไปดูใกล้ๆ ลำธารว่ามีปลาหรือไม่ ทว่าเธอนั่งตรงริมลำธารอยู่นานโข ก็ไม่เห็นมีปลาว่ายผ่านมาสักตัวเดียว จึงอุทานเบาๆ อย่างอดไม่ได้ “น้ำใสแต่ไม่มีปลา เป็นจริงอย่างที่คิดไว้เลย!”

เธอทำได้เพียงนำเนื้อย่างมาอุ่นอีกรอบ ฉีกมากินชิ้นหนึ่ง หลังจากเติมท้องจนอิ่มค่อยนั่งขัดสมาธิฝึกฝน

ตอนนี้เธอเพียงแค่ดึงพลังเข้าร่าง ก่อนจะเข้าถึงระดับนักรบ ทุกอย่างล้วนเริ่มจากศูนย์ แต่เธอรู้สึกได้ว่าหลังจากฝึกฝนได้พลังเร้นลับมา ร่างกายก็มีการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ เธอรู้ถึงผลดีนั้น การฝึกฝนวิชาย่อมทำให้มีพลังอย่างไม่จำกัดเป็นธรรมดา

การฝึกครั้งนี้ใช้เวลาไม่กี่ชั่วยาม จนกระทั่งรู้สึกว่าพลังเร้นลับในร่างเข้าสู่ขั้นเริ่มต้นที่สองของระดับนักรบ เธอถึงจะถอนหายใจแล้วลืมตาขึ้นมา

ท้องฟ้ามืดลงแล้ว สายลมยามค่ำคืนในป่านี้เย็นอยู่บ้าง ยังดีที่ตรงหน้ามีกองไฟให้ความอบอุ่น และพลังเร้นลับบนร่างเองก็สามารถหมุนวนขับไล่ความหนาวเย็นออกไปได้

เฟิ่งจิ่วหันมองชายหนุ่มข้างกาย เห็นว่าเขาหดตัวน้อยๆ เหมือนจะกำลังสั่นเทา จึงยื่นมือไปตรวจดู ที่แท้ก็เป็นไข้จากอาการแผลอักเสบนี่เอง

เธอคิดๆ แล้ว ก็พลิกหาของจากในถุงฟ้าดินอีกครั้ง หยิบขวดใบเล็กออกมา เทยาเม็ดหนึ่งลงบนฝ่ามือแล้วลองดมดู หลังจากแน่ใจในสรรพคุณของยา จึงค่อยบีบคางและยัดยาเม็ดนั้นเข้าไปในปากเขา แล้วกรอกน้ำใส่ปากตามไปอีกเล็กน้อยเพื่อให้เขากลืนยาลงไป

เฟิ่งจิ่วเติมกิ่งไม้เข้ากองไฟ จนเปลวเพลิงนั้นโชติช่วงขึ้นมาอีกหน่อย ทว่าในเวลานี้เอง เสียงที่แว่วมาจากในป่าก็ทำให้ร่างเธอแข็งทื่อ ตึงเครียดและเคร่งขรึมขึ้นมาในทันใด

“บรู้ว!”

“บรู้ว!”

“บรู้ว...”

“หมาป่า?”

เธอลุกยืนขึ้นทันที ได้ยินเสียงเห่าหอนที่น่าสะพรึงกลัวยามค่ำคืนของหมาป่าใกล้เข้ามาทุกที เสียงพวกมันกำลังดังกึกก้องอยู่ในป่าแห่งนี้

หมาป่าเป็นสัตว์ที่เดินทางเป็นฝูง หากมันจะปรากฏตัว ก็ต้องมากันเป็นฝูง!

…………………………………………………….