webnovel

เงารักในรอยใจ

เรื่องเมื่อสี่ปีก่อนทั้งหมดเป็นเพียงความผิดพลาด จี้อี้ แอบชอบ 'เขา' มาโดยตลอด เธอหวังว่าเขาจะชอบเธอบ้าง แต่หลังจากงานเลี้ยงจบมัธยมปลาย ค่ำคืนที่เธอคิดว่าเป็นคืนสุดแสนโรแมนติกกลับกลายเป็นความเพ้อฝันอันว่างเปล่า ... “ถ้าคืนนั้นฉันไม่เมา เธอคิดหรือว่าฉันจะแตะต้องตัวเธอ” “เพราะงั้นเธอบอกราคามาดีกว่า สรุปแล้วคืนนั้นจะเอาเท่าไหร่ เธอถึงจะยอมแล้วกันไป ทำเหมือนเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น” ... ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ขณะที่เธอคิดว่าตัวเองสามารถลืมเขาได้แล้ว แต่ทุกครั้งกลับพบว่าในส่วนที่ลึกที่สุดในหัวใจกลับมีเงาของเขาอยู่ตรงนั้นเสมอ

เย่เฟยเย่ · Urban
Not enough ratings
1075 Chs

005

บทที่ 5

จี้อี้อยู่ใกล้ประตูมากที่สุด เธอที่กำลังคุยเรื่องตลกอยู่กับปั้วเฮ่อ ค่อยๆหันหน้าไปมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างหลังหลินหย่า

เพียงแค่แวบเดียว จี้อี้ก็ไม่อาจละสายตาจากชายหนุ่มที่เดินตามเข้ามาได้เลย ปลายนิ้วเผลอกำตะเกียบแน่นด้วยความลืมตัว รอยยิ้มที่มุมปากพลันแข็งค้าง

ผู้ชายคนนั้น เธอจำเขาได้ ถ้าจะให้พูดแบบไม่น่าฟังก็คือถึงแม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะกลายเป็นเถ้าถ่านเธอก็ยังจำได้

แม้ว่าจี้อี้จะถอนสายตากลับมาแล้ว เธอก็ยังคงรู้สึกได้ว่าผู้ชายคนนั้นที่หลินหย่าพามาค่อยๆเดินเข้ามาใกล้โต๊ะมากขึ้นทุกที เท้าที่อยู่ภายในรองเท้าส้นสูงขดแน่นอย่างเคร่งเครียด

เสียงรองเท้าส้นสูงของหลินหย่ากระทบพื้นดังกังวานพร้อมด้วยเสียงนุ่มนวลที่ดังขึ้น “ ฉันขอแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก เขาคือ..”

หลินหย่าชะงักไปครู่หนึ่ง เหมือนกับว่ากำลังลังเลอะไรบางอย่าง ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอจึงพูดต่อว่า “..เพื่อนของฉันเอง ชื่อเฮ่อจี้เฉิน”

เฮ่อจี้เฉิน..จี้อี้เองทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าคนที่มาคือใคร แต่ตอนที่ได้ยินคำสามคำนี้ ร่างกายของเธอก็ยังอดสั่นขึ้นมาเบาๆไม่ได้

ใช่แล้ว ไม่ผิดแน่ ชื่อที่ออกมาจากปากของหลินหย่าคือเฮ่อจี้เฉินจริงๆ เป็นเฮ่อจี้เฉินที่พรากความบริสุทธิ์ของเธอไปเมื่อสี่ปีก่อนคนนั้น เฮ่อจี้เฉินคนที่เธอรวบรวมความกล้าเพื่อไปสารภาพรักกับเขาแต่กลับถูกเขาฉีกทึ้งเสื้อผ้าจนไม่เหลือดี เป็นเฮ่อจี้เฉินคนที่พูดกับเธอว่า “ต่อให้เธอถอดเสื้อผ้าแล้วมายืนต่อหน้าฉัน ฉันก็ไม่สนใจเธอแม้แต่นิดเดียว” และเป็นเขาอีกที่ย้ำว่า “ ถ้าคืนนั้นฉันไม่เมา เธอคิดเหรอว่าฉันจะแตะต้องตัวเธอ” สุดท้ายเขายังบอกว่าไม่อยากจะเห็นหน้าเธออีก เขาก็คือเฮ่อจี้เฉินคนนั้นที่เธอไม่ต้องการที่จะพบหน้าอีกชั่วชีวิต

สี่ปีก่อน ตอนที่เฮ่อจี้เฉินเรียนมัธยมปลาย ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนบรรยากาศล้วนสว่างไสวและงดงาม ตอนนี้ผ่านไปสี่ปี กาลเวลาเปลี่ยนให้ตัวเขากลายเป็นคนลุ่มลึกน่าเกรงขาม กลิ่นอายของความแข็งแกร่งทำให้คนบนโต๊ะอดไม่ได้ที่จะหวาดหวั่น ดังนั้นหลังจากที่หลินหย่าแนะนำตัวเขาเสร็จ ภายในห้องก็เงียบเสียงลง ครู่หนึ่งจึงค่อยมีคนรบรวมความกล้าแล้วเอ่ยปากทักทายเข้าด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

เฮ่อจี้เฉินยังมีนิสัยเหมือนเดิม ไม่ชอบพูดจา เมื่อผู้คนที่อยู่ตรงข้ามทักทายเขา เขาก็แค่พยักหน้าตอบเล็กน้อยเท่านั้น ทุกการเคลื่อนไหวดูสง่างามมีเสน่ห์ แต่กลับแฝงด้วยความสุภาพและห่างเหิน

ถึงอย่างไรก็ตามจี้อี้ไม่ได้ทักทายเฮ่อจี้เฉิน แล้วก็ไม่เงยหน้ามองเขาด้วย

อาจเป็นเพราะเฮ่อจี้เฉินสมบูรณ์แบบเกินไป ผู้คนภายในห้องจึงถูกเขาดึงดูดไปจนหมด จนไม่มีใครสังเกตเห็นว่าเธอทำตัวเสียมารยาท

การมาถึงของเฮ่อจี้เฉิน ทำให้เสียงในห้องเงียบไปครู่หนึ่ง แต่ผ่านไปไม่นานบรรยากาศภายในห้องก็กลับมาครึกครื้นใหม่ ทุกคนเริ่มพูดคุยกันเสียงดังอีกครั้ง

การพบกันที่ไม่คาดคิดนี้ ทำให้จี้อี้ไม่สามารถกลับมาสนุกสนานได้เหมือนก่อนหน้าที่มาถึง เธอพยายามรักษาท่าทางให้ดูเป็นปกติ เธอกลัวว่าตนเองจะเสียการควบคุม จี้อี้พยายามไม่ให้ตนเองนึกถึงเรื่องเมื่อสี่ปีก่อน แต่เหตุการณ์ในอดีตเหล่านั้น ทำให้เธอไม่สามารถควบคุมความคิดของตนเองได้เลย ความทรงจำค่อยๆผุดขึ้นมาทีละนิดๆ

ร่างกายของจี้อี้เริ่มสั่นเล็กน้อย เธอกลัวว่าผู้คนรอบตัวจะสังเกตเห็นอาการผิดปกติของเธอ หญิงสาวกำมือแน่น จิกเล็บแหลมทิ่มลงไปบนฝ่ามือ ความเจ็บปวดพรั่งพรูออกมา

ในขณะที่จี้อี้กำลังคิด ว่าเล็บแหลมที่ทิ่มลงไปอย่างแรงจะทำให้ฝ่ามือเธอเป็นแผลรึเปล่านั้น เฮ่อจี้เฉินก็เปิดปากพูด แม้เขาจะไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่คนภายในห้องล้วนเข้าใจว่าเขากำลังพูดให้หลินหย่าฟัง “อยากเปลี่ยนที่มั้ย?”