webnovel

เกิดใหม่มาเป็นเหยื่อของท่านประธานจอมรัท

คำโปรย ได้เกิดใหม่เป็นหนุ่มหน้าใส วัยยี่สิบทายาทไฮโซทั้งที แต่ไหงต้องมาอยู่ในกำมือของประธานหนุ่มศัตรูคู่อาฆาตด้วย ยัง..เรื่องซวยยังไม่จบ เพราะหนุ่มสุดแซบที่ว่าดันเกิดอาการรัท มีแต่ฮีทของเขาเท่านั้นจะบำบัดได้ เรื่องย่อ คำมร ไฮโซหนุ่มหน้าสวยแต่พฤติกรรมเหลวแหลก เขาคือศัตรูเบอร์หนึ่งของเดวิสประธานหนุ่มรูปหล่อของลาโฮมกรุป คำมรคือคนที่ทำให้ชีวิตของท่านประธานพังจนสิ้นไร้ความสุข เพราะหลายปีก่อนคำมรขับรถโดยประมาท จนทำให้พ่อของเดวิสเสียชีวิต การินคือชายวัยกลางคนผู้มีบาดแผลในใจ จากการสูญเสียลูกและเมียเพราะอุบัติเหตุ เขาทำงานที่ลาโฮมกรุปไปวัน ๆ อย่างไร้เป้าหมาย มีแต่เหล้าเป็นเพื่อน วันหนึ่งมีเหตุอะไรสักอย่างทำให้การินตกตกน้ำเสียชีวิต ปาฏิหาริย์มีจริง การินได้รับโอกาสของชีวิตที่สอง แต่มีคนตั้งเยอะแยะ ดันมาเกิดใหม่ในร่างของคำมรที่นอนเป็นโคม่าเพราะเสพยาเกินขนาด ซึ่งก่อนหน้านี้ เดวิดลักพาตัวคำมรที่นอนหลับใหล มาเก็บไว้ในที่ซ่อนเพราะจะรอให้ฟื้นแล้วแก้แค้น เรื่องยุ่งเริ่มเกิด การินในร่างคำมรอยู่ ๆ ก็ฟื้นขึ้นมาท่ามกลางความฉงนของคนรอบตัว แต่ที่วายป่วงยิ่งกว่าคือเดวิสดันรู้สึกแปลก ๆ ที่ดูยังไงก็เหมือนอาการรัท มันเกิดขึ้นทันทีที่ฟีโรโมนจากตัวของคำมรสัมผัสตัวของเดวิส แล้วมันเป็นแบบนี้ได้ยังไง เอาเป็นว่า ตอนนี้เดวิสหักห้ามตัวเองไม่ไหวแล้ว กลิ่นของคำมรช่างยั่วยวนจนยั้งใจไม่อยู่ และเขาจะต้องทำอะไรบางอย่าง แค่แก้แค้นอย่างเดียวคงไม่พอ... คำแนะนำในการอ่าน 1. ตัวละคร พฤติกรรม สถานที่ หน่วยงาน วิชาชีพ และเหตุการณ์ต่าง ๆ ในนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสมมุติที่สร้างขึ้นมาเพื่อความบันเทิงทั้งสิ้น 2. บางตัวละครในนิยายอาจแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน 3. ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ในเรื่องนี้ไม่ถูกต้อง 4. นิยายเรื่องนี้ยืมบางคอนเซปต์ในธีม Omegaverse มาใช้ คือ การรัท การฮีท การกัดคอเพื่อผูกพันธะ แต่ไม่ใช่นิยายธีม Omegaverse เต็ม ๆ 5. พฤติกรรมมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้เครื่องป้องกันของตัวละครในเรื่อง ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำตาม

telltopia · LGBT+
Not enough ratings
17 Chs

5 คำมร

ชายหนุ่มผู้มาใหม่คือคุณเดวิส นายชนรพ หงษทัศน์พิพัฒน์ หรือคุณหนูเดวี่ตามที่เขาเคยเรียก เดวิสคือทายาทเพียงคนเดียวของคุณชนะกับคุณรัมภาผู้ล่วงลับ

และตอนนี้เขาคือท่านประธานบริษัทที่ยังหนุ่มแน่นของลาโฮมกรุป

ครั้งแรกที่ได้รู้จักเดวิส การินอายุสามสิบห้า ส่วนคุณหนูเดวี่ของเขาอายุแค่สิบขวบ เดวิสเป็นเด็กชายหน้าตาหมดจดที่กำพร้าแม่ตั้งแต่แบเบาะ แม้จะอยู่ในวัยแค่สิบขวบ แต่การินก็มองออกว่าเด็กชายเดวิสดูมีออร่าบางอย่าง เหมือนฟ้าส่งเขามาเพื่อเป็นอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่แค่คนธรรมดา ราวกับถูกส่งมาเพื่อเป็นผู้นำ เกิดมาเพื่อมายิ่งใหญ่ มาเพื่อรวยล้นฟ้า อะไรแบบนั้น

อีกสิบปีต่อมาเดวิสอายุยี่สิบ เขากลายเป็นหนุ่มน้อยรูปงามที่มีบุคลิกลักษณะโดดเด่นไม่ธรรมดา แต่ปีแห่งการบรรลุนิติภาวะของเขาก็เป็นปีแห่งความสูญเสียครั้งใหญ่ของเขาเช่นกัน ทายาทของลาโฮมกรุปต้องบินจากต่างประเทศกลับบ้านเกิด เพื่อมาร่วมงานศพของบิดาบังเกิดเกล้า และหลังงานศพผ่านไป เขาก็ต้องบินกลับไปศึกษาต่อ จากปริญญาตรีแล้วก็ปริญญาโท หลายปีแห่งการศึกษาเล่าเรียนในต่างแดน ดูเหมือนเดวิสแทบไม่ได้อยู่เมืองไทยเลยด้วยซ้ำ

ในงานศพของคุณชนะ พ่อของเดวิส เมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว การินกับเดวิสแทบไม่ได้คุยอะไรกัน และพอการินต้องย้ายถิ่นพำนักมาอยู่และทำงานที่แท่นขุดเจาะกลางทะเลกว้างใหญ่ ทำให้ตลอดสิบปีที่ผ่านมา เขาทั้งสองไม่มีโอกาสเจอกันเลย

หากการินจะรู้ว่าในงานศพนั่นคือครั้งสุดท้ายที่จะมีโอกาสได้เจอเดวิส หรือคุณหนูเดวี่ของเขา เขาคงใช้เวลากับอีกฝ่ายให้มากเท่าที่จะทำได้ ก็เขารักและเอ็นดูคุณหนูของเขามาแต่ไหนแต่ไร

นับตั้งแต่คุณชนะจากไป ลาโฮมกรุปถูกดูแลโดยคุณชินผู้เป็นลุง จนกระทั่งวันที่เดวิสสำเร็จกลับการศึกษากลับมาเมืองไทย

การินจำได้จากภาพข่าวสังคมและเศรษฐกิจที่มีให้เห็นตามแหล่งต่าง ๆ ว่า เมื่อสามปีที่แล้ว เดวิสเสร็จสิ้นภารกิจการศึกษาและกลับมารับตำแหน่งประธานบริษัท โดยลุงชินของเขาถอยห่างออกมาเป็นแค่ผู้ช่วยของท่านประธานแทน

บังเอิญเหลือเกินว่าเมื่อสามปีที่แล้ว การินเองก็ประสบกับมรสุมชีวิต ลูกคนเดียวกับเมียของเขาจากไปเพราะอุบัติเหตุ นับตั้งแต่นั้นสติสตังของการินเองก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเท่าใดนัก

ทันทีที่เดวิส หงษทัศน์พิพัฒน์ กลับมารับตำแหน่งประธานบริษัทของลาโฮมกรุป นับแต่นั้นบรรดาสื่อและนักข่าวสำนักต่าง ๆ ก็โปรดปรานการทำข่าวและเอารูปของเดวิสมาลง เพราะเขาคือซีอีโอเจ้าของบริษัทที่ทั้งหล่อดูดีแถมร่ำรวย พ่วงด้วยลักษณะบางอย่างที่ฉายชัดออกมาจากตัวของชายคนนี้ ต่อให้เทียบเขากับประธานบริษัทคนอื่นที่อาจร่ำรวยกว่า แต่เดวิสก็ยังโดดเด่นมีสง่าราศีกว่าใครอยู่ดี

ดังนั้นที่ผ่านมาการินจึงเคยแต่เห็นภาพของเดวิสผ่านสื่อต่าง ๆ วันนี้จึงถึงกับอึ้งไปเมื่อได้สัมผัสท่านประธานตัวจริงแบบชัดเต็มตา เขาทึ่งเหลือเกินกับภาพของเดวิสในวัยผู้ใหญ่เต็มตัว เขาน่าจะอายุสามสิบปีนี้ ความรู้สึกแรกตอนการินเห็นเดวิส นั่นคือชายคนนี้ราวกับจะเปล่งแสงเจิดจ้าออกมาได้ เหมือนเขาคือดวงอาทิตย์ ประธานสำคัญแห่งระบบสุริยะอันยิ่งใหญ่ที่มีดาวเคราะห์มากมายโคจรล้อมรอบ

หัวใจของการินเต้นตึกตัก หลังได้เห็นคุณหนูเดวี่อีกครั้งหลังผ่านมาเป็นสิบปี แม้ขนาดสายตาของคนนอก ท่านประธานของลาโฮมกรุปยังโดดเด่นกว่าใคร ดังนั้นจึงไม่ต้องพูดถึงพนักงานของลาโฮมกรุป ทุกคนต่างยอมสยบแทบเท้า ให้ความชื่นชมบูชาท่านประธานอย่างเต็มเปี่ยม ภาพลักษณ์ของเดวิสในสายตาพนักงานคงแทบไม่ต่างอะไรจากพระเจ้า

ดังนั้นการินเองเลยนิยมชมชอบท่านประธานเหมือนกันในฐานะพนักงานคนหนึ่งของลาโฮมกรุป

วันนี้เดวิสมาในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำพอดีตัว ที่ขนาดดูจากภายนอกยังรู้ว่ารูปร่างภายใต้เสื้อคงแข็งแกร่งน่ามองไม่ใช่น้อย สูทผ้าขนสัตว์สีเทาอ่อน ผิวสีแทนของเขาเปล่งปลั่ง ส่งเสริมภาพลักษณ์ชายชาตรีที่เหมาะสมเป็นผู้นำองค์กรขนาดใหญ่โต

ผมดำสนิทถูกจัดทรงเปิดหน้าผาก นั่นทำให้เขาดูเป็นผู้ใหญ่กว่าวัย หน้าผากของเขาได้สัดส่วนกำลังดี ผิวหนังตรงนั้นเรียบเนียนเปล่งประกาย ใบหน้าของเขาค่อนข้างออกรูปไข่ แต่มีโหนกแก้มเล็กน้อยทำให้ดูขึงขังขึ้น จมูกโด่งเป็นสันที่ส่วนปลายค่อนข้างกลม คิ้วเรียวเข้มที่ค่อนข้างเฉียงขึ้นบ่งบอกว่าน่าจะเป็นคนทันคน ไม่เชื่อใครง่าย ๆ ซึ่งก็น่าจะดีแล้วสำหรับการเป็นนักธุรกิจ

แววตาของเขาดำสนิทล้ำลึก เดวิสเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วเท่าที่การินจำได้ เวลาคุณหนูเดวี่มองอะไร แววตาของเขาจะสงบนิ่ง ราวกับอยู่ในห้วงความคิดอันลึกซึ้ง ตอนนี้ก็ยังเป็นแบบนี้ แต่ด้วยความเป็นผู้ใหญ่ ทำให้เวลาเขาจับจ้องสิ่งใดสิ่งหนึ่งนาน ๆ จึงดูน่าเกรงขามนิด ๆ คนที่ถูกเขามองอาจมีอาการขนหัวลุกได้

ส่วนหนึ่งบนใบหน้าที่ช่วยลดความแข็งลง ทำให้ท่านประธานดูหล่อละมุนขึ้น คือริมฝีปากที่ค่อนข้างเล็กหากเทียบกับเครื่องหน้าส่วนอื่น แต่ก็เป็นริมฝีปากที่โค้งหยักน่ามอง ดูจิ้มลิ้มราวกับปากของสตรี เนื้อปากเป็นสีระเรื่อแบบคนสุขภาพดี

แต่ตอนนี้มันกลับบิดเบ้ แถมเจ้าของของมันยังกัดริมฝีปากล่างแน่น ราวกับไม่พอใจอะไรบางอย่าง

และเสียงตะคอกจากหนุ่มหล่อผู้มาใหม่ดึงการินให้หลุดจากความคิดกลับมาสู่เหตุการณ์ตรงหน้า อันที่จริงเขาสะดุ้งสุดตัวเลยตอนได้ยินน้ำเสียงของอีกฝ่ายพูดถึงการินโดยตรง

"นั่นไง มันเพิ่งออกจากห้องน้ำพอดีเลย"

คนที่มาใหม่ ถลามาที่รถเข็นที่ออกมาจากห้องน้ำพอดี

"แกจำฉันได้ไหม" ท่านประธานยืนจังก้า ชี้นิ้วเรียวยาวทรงอำนาจมาทางเขา เสียงนั้นห้วนสั้นหยาบกระด้างอย่างยิ่ง

ทำไมเดวิสถึงต้องใช้น้ำเสียงอาฆาตมาดร้ายใส่หนุ่มน้อยคนนี้ขนาดนี้

"แกจำฉันได้ใช่ไหม ไอ้คำมร" ประธานหนุ่มเอ่ยซ้ำ

คำมร?

ในที่สุดการินก็นึกออก คำตอบเหมือนอยู่ใต้จมูก ใกล้เหลือเกินแต่กลับมองไม่เห็น เรื่องนี้ช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ

เขากลับมาเกิดใหม่ในร่างของคำมร พรอิทธิวาร์!

"จะเงียบทำไม ฮะ!"

"เอ่อ-คือผม" การินตะกุกตะกักเลยทีเดียว

"ยังจำได้รึเปล่าเปล่าว่าแกขับรถมาชนรถพ่อฉันตกทางด่วนตาย"

หนุ่มหน้าสวยบนรถเข็นเบิกตากว้าง การินในร่างนี้จดจำเรื่องราวอันน่าสลดที่เกิดขึ้นกับคุณชินโดยฝีมือของหนุ่มน้อยคำมรได้ดี

"แล้วฉันก็รอวันนี้มาตลอด วันที่แกจะฟื้นแล้วฉันจะได้จัดการกับแกสักที"

เดวิสย่างสามขุมเข้ามาใกล้ เขาอยู่ห่างจากการินแค่ไม่กี่ก้าวแล้วตอนนี้ เรือนร่างในชุดดำของเขาช่างใหญ่โตดูข่มขวัญและน่าเกรงขามเหลือเกิน ไหนจะแววตาดุดันแข็งกร้าวนั่นอีก ไหนจะนิ้วชี้ทรงอำนาจที่พุ่งออกมาด้วยท่าทีโกรธเคือง

"ตอนเกิดเรื่อง ฉันอยากฆ่าแกให้ตายแต่ก็ทำไม่ได้ ฉันยังเด็กเกินไป แต่ฉันก็รอโอกาสมาตลอด ใครจะรู้ว่าปีที่แล้วโชคจะเข้าข้าง ไอ้ลูกคนรวยแต่นิสัยชั้นต่ำอย่างแกสุดท้ายก็แพ้ภัยตัวเอง"

ประธานหนุ่มเว้นช่วงก่อนจะพูดต่อ สีหน้ากับแววตาของเขาขึงขังน่ากลัว

"ฉันโคตรสะใจเลยที่แกเสพยาเกินขนาดจนโคม่าไม่รู้เรื่องรู้ราว ฮ่า ฮ่า มึงแม่งโคตรบ้า ใช้ชีวิตแบบนี้แล้วรอดมาถึงอายุขนาดนี้ได้ก็บุญฉิบหายแล้ว"

ตอนนี้นิ้วชี้ของเดวิสแทบจะจิ้มโดนหน้าผากคนที่นั่งบนรถเข็น พลังแห่งการคุกคามของประธานตัวใหญ่ทำให้หนุ่มน้อยร่างผอมบางถึงกับตัวสั่นงันงกเลยทีเดียว

"ที่จริงมึงน่าจะเสพยาแล้วก็ตายห่าไปเลยให้รู้แล้วรู้รอด ไม่ต้องอยู่ต่อให้รกโลกหรอก เพราะคนอย่างมึงต่อให้มีชีวิตอยู่ ก็คงทำแต่เรื่องเลวระยำ ไม่ทำให้ตัวเองฉิบหายก็ทำให้คนอื่นตกระกำลำบาก เหมือนอย่างที่มึงทำกับพ่อกูไง ไอ้เหี้ย"

ลุงชินเดินตามหลังประธานหนุ่มเข้ามาในห้อง ชายสูงวัยเห็นแบบนั้นเลยกรากเข้ามาจับต้นแขนของท่านประธานจากด้านหลัง

"พอเถอะเดวิส ทำแบบนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์ เอาไว้ให้เขาดีขึ้นกว่านี้แล้วค่อยคุยกันก็ได้"

"ลุงอย่าห้าม ผมโคตรเกลียดมัน มันเป็นศัตรูเบอร์หนึ่งของผม ผมจะไม่มีวันให้อภัยมัน" เขาหันไปส่งเสียงเกรี้ยวกราดและเด็ดขาดใส่คนเป็นลุง

และสำหรับประโยคต่อมา การินฟังแล้วก็ไม่อยากจะเชื่อหู เขาไม่คิดเลยว่าคุณเดวิส คุณหนูเดวี่ของเขาจะทำเรื่องร้ายกาจได้ขนาดนี้

"พอผมรู้ว่ามันโคม่าเพราะเสือกอัปยามากไป ผมงี้โคตรสะใจเลย ถึงได้ลงทุนให้คนไปลักพาตัวมันมาเก็บไว้ที่นี่ คนที่บ้านมันไม่มีทางตามหามันเจอแน่นอน ที่ผมต้องลงทุนถึงขนาดนี้ก็เพื่อวันนี้นั่นแหละ" ประโยคต่อมาเขาหันหน้ากลับมาหาคำมร การินเลยสะดุ้งอีกรอบ แววตาและภาษากายของท่านประธานทำให้คนถูกมองถึงกับเหงื่อซึมที่หน้าผากและใต้วงแขนด้วยความหวาดผวาเลยทีเดียว

"มึงไอ้คำมร มึงได้ชำระหนี้แค้นให้กูแน่!"

แต่เสียงตะโกนโหวกเหวกกลับถอยห่างออกไป เพราะชายหนุ่มรูปงามผิวแทนร่างสูงถูกลากตัวถูลู่ถูกังออกจากห้องด้วยน้ำมือของชายฉกรรจ์คนอื่นที่คุณชินไปขอความช่วยเหลือ ก่อนที่หลานชายจะคลุ้มคลั่งไปกว่านี้

การินเอามือกุมหน้าอกที่เต้นรัวราวกับตีกลอง เขายกตัวขึ้นจากพนักเก้าอี้รถเข็นที่เมื่อครู่เขาแทบจะฝังตัวเองลงไปในนั้น อันเนื่องจากความหวาดกลัวจนบอกไม่ถูก พลังแห่งความแค้นที่อีกฝ่ายส่งมาช่างทรงพลัง ขนาดเขาไม่ใช่คำมรตัวจริง ยังกลัวขนหัวลุก

แต่แล้วการินก็นึกอะไรได้ จะไม่ใช่คำมรได้ยังไง ก็นี่มันร่างของคำมร!

แล้วหนุ่มน้อยหน้าสวยก็เริ่มก่นด่าโชคชะตา

นี่อะไรกัน ไหน ๆ จะให้โอกาสครั้งที่สองกับเขา แต่ดันให้มาติดอยู่ในร่างของคำมร ไฮโซชื่อดัง ที่เป็นถึงทายาทตระกูลเจ้าของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มูลค่าหลายหมื่นล้าน แต่ดันมีพฤติกรรมไม่ต่างจากเศษมนุษย์ เป็นคนขับรถโดยประมาทจนชนรถที่คุณชนะพ่อของเดวิสขับจนถึงแก่ความตาย

แถมดันฟื้นขึ้นมาในเงื้อมมือของคนที่ลักพาตัวเขามา เท่านั้นไม่พอ อีกฝ่ายยังแค้นเขาสุดขีดอีก

ทำไมเขาถึงซวยขนาดนี้วะเนี่ย!