เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว การินไม่อยากเชื่อว่า เขาใช้ชีวิตใหม่อยู่ในร่างใหม่ ลืมตาแล้วหลับตาตื่นขึ้นมาในร่างนี้ครบหนึ่งเดือนเต็มแล้ว
ข่าวดีที่ทำให้เขามีกำลังใจก็คือพัฒนาทางร่างกายของคำมรค่อนข้างดี อาจเพราะร่างนี้ยังอายุไม่มาก รวมถึงการินเองก็ดูแลสุขภาพอย่างเต็มที่ ตอนนี้เขาเริ่มเดินเหินได้มากขึ้น เลยลดการใช้รถเข็นลง ทำให้ไปไหนมาไหนได้สะดวกเพราะบางทีใช้แค่ไม้ค้ำสองอันก็พอ
การินมัวแต่ยุ่ง ๆ กับธุระส่วนตัว คุยกับหมอที่มาที่แท่นเดือนละครั้ง และการทำกายภาพประจำวัน ซึ่งกว่าจะเรียบร้อยก็บ่าย การินหันหน้าออกไปมองวิวนอกหน้าต่าง วันนี้ที่แท่นอากาศดี ลมไม่แรง คลื่นสงบ อากาศกำลังสบายและแดดไม่แรงเท่าใดนัก เหมาะสำหรับการเดินเล่นข้างนอก
หนุ่มหน้าสวยเหลือบมองรถเข็นแวบหนึ่ง แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ วันนี้เขาจะลองไปไหนมาไหนด้วยไม้ค้ำอย่างเดียวก็พอ
สักพักต่อมา ชายหนุ่มร่างบางก็มาถึงดาดฟ้าของแท่นย่อยอีกแท่นหนึ่ง
ชายหนุ่มใช้มือป้องดวงตา แม้ตอนนี้จะเป็นยามบ่ายแต่แดดไม่แจ่มจ้านัก เพราะมีเมฆกรองแสงให้พอสมควร เขาเห็นพนักงานสองสามคนเดินผ่านไปมา ถ้าเป็นช่วงหลังเลิกงาน ที่ดาดฟ้าของแท่นแห่งนี้จะเป็นที่ที่คนที่ทำงานที่นี่มักออกมาเดินเล่น มาออกกำลังกายกลางแจ้งกัน ซึ่งแต่ก่อนตอนอยู่ในร่างเดิม การินก็มาเดินออกกำลังกาย เล่นกีฬากับเพื่อนร่วมแท่นบ้าง
จนกระทั่งช่วงหลัง ๆ ที่เขาเริ่มหันไปพึ่งเหล้า
บนดาดฟ้าของแท่นนั้น เขาเดินออกกำลังกายไปมาด้วยไม้ค้ำอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงทีเดียว การออกแรงทำให้ผิวหน้าที่เคยซีดเซียวเริ่มมีเลือดฝาด เหงื่อซึมที่หน้าผากเนียนใสจนต้องใช้หลังมือซับ
เขาหยุดนั่งพักบนม้านั่งทำจากเหล็กหล่ออยู่ครู่หนึ่ง แหงนหน้ารับลมเย็นที่พัดผ่านมา แล้วก็เห็นเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งบินตรงมาที่นี่
สักพักต่อมาเสียงปีกของเฮลิคอปเปอร์ก็ดังปัด ๆๆ ใกล้เข้ามา แล้วอีกไม่นานแมลงปอเหล็กก็ร่อนลง แล้วเขาก็เห็นคนที่ออกมาจากมัน เดวิสกับผู้ช่วยพลที่ติดตามตัวท่านประธานดังเงา
เดวิสมาอีกแล้วเนี่ยนะ
ทำไมประธานบริษัทต้องมาที่แท่นอีกแล้ว เขามีธุระอะไรถึงต้องมาที่นี่ถี่ ๆ งั้นหรือ
การเห็นเดวิสมานี่ทำให้การินห่อไหล่ทันที เขานึกถึงประสบการณ์การพบกันครั้งที่แล้วที่ไม่โสภานัก ชายหนุ่มประธานบริษัทเล่นงานเขาในร่างของคำมรเสียแทบแย่ เขาเกือบถูกอีกฝ่ายบีบคอจนตายด้วยซ้ำ ขนาดการินลองพูดเตือนความจำเรื่องหุ่นกันดั้ม เผื่อเดวิสจะสนใจและรับฟังเรื่องราวของเขาที่ไม่ใช่คำมรตัวจริง แต่บังเอิญมาติดอยู่ในร่างนี้ แต่สุดท้ายเดวิสก็ไม่เชื่อ
การินผ่อนลมหายใจเบา ๆ แต่ถ้าเขาเป็นเดวิส ก็คงไม่เชื่อเหมือนกันละ ในเมื่อเรื่องมันเหลือเชื่อเสียขนาดนี้
พอรู้ว่าตัวเองติดอยู่ในร่างของคำมร เขาก็สืบค้นข้อมูลของฝ่ายนั้น จากมือถือที่ขอยืมจากพยาบาลหนุ่มที่รับหน้าที่เป็นนักกายภาพให้การินไปด้วย
การินพอจำเรื่องของคำมร หรือไฮโซหนุ่มที่ตกเป็นข่าวโด่งดังเรื่องอุบัติเหตุชนรถเจ้าของลาโฮมกรุปจนเสียชีวิตเมื่อสิบปีที่แล้วได้ พอค้นข้อมูลล่าสุดของไฮโซหนุ่มหน้าสวยก็พบว่า เมื่อประมาณหนึ่งปีเศษ ๆ ที่ผ่านมา นายคำมร พรอิทธิวาร์ ทายาทตระกูลดังธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยอดขายหลายหมื่นล้าน หายตัวลึกลับจากโรงพยาบาลชื่อดังกลางกรุงเทพฯ ที่เขานอนเป็นโคม่า ก่อนหน้าถูกลักพาตัว ในข่าวระบุว่านายคำมรมีโรคประจำตัวและแพ้ยาที่รักษาอาการโรคดังกล่าวขั้นรุนแรงจนทำให้หลับไปไม่ได้สติ แต่แน่นอนที่มีข่าวซุบซิบลืออีกว่า หากพิจารณาจากพฤติกรรมของคำมรในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ เหตุผลที่คำมรโคม่าคือเขาเล่นยาเกินขนาดแล้วเกิดช็อกไปมากกว่า
นั่นแปลว่าเดวิสถือโอกาสลักตัวคำมรที่นอนไม่รู้เรื่องรู้ราว มาเก็บซ่อนไว้ที่แท่นอัญชันแห่งนี้ เดวิสคงมีแผนการบางอย่างเตรียมไว้สำหรับร่างนี้
พอรู้พฤติกรรมก่อนหน้าของคำมร เลยทำให้การินนึกได้ มิน่าร่างกายนี้ถึงได้ผอมแห้งและอ่อนแรง แต่ก็แปลกดีที่พอการินฟื้นขึ้นมาในร่างนี้ เขากลับไม่มีอาการอยากเสพยาแต่อย่างใด มีอาการแค่ร่างกายอ่อนแอไม่มีแรงเดิน ซึ่งนั่นนับว่าเป็นเรื่องดี
ยังมีข้อดีอีกข้อด้วย นั่นคือคำมรยังอายุไม่มาก การินรู้สึกทันทีว่าพอมาอยู่ในร่างกายของคนที่ยังหนุ่ม แม้จะอยู่ในสภาวะที่อ่อนแอกว่าปกติ แต่ก็มีพลังที่มีชีวิตชีวาไปอีกแบบ ซึ่งหากเทียบกับการินที่เมื่อไม่ถึงเดือนก่อนยังติดอยู่ในร่างวัยใกล้เกษียณ การฟื้นขึ้นมาในร่างนี้ก็นับว่าให้ความรู้สึกที่ต่างกันมากทีเดียว
และการินยังพบข้อดีอีกข้อของการเกิดใหม่
ตอนอยู่ในร่างของคำมรเขาไม่มีอาการอยากดื่มเหล้าเลย นับว่าเป็นอะไรที่น่าประหลาดใจ เพราะการินในร่างก่อน ความอยากเหล้าของเขาเข้าขั้นทุรนทุราย เขาขาดมันไม่ได้ และอาจเป็นโรคพิษสุราเรื้อรังไปแล้วโดยไม่รู้ตัว
พอการินในร่างคำมรคิดได้แบบนี้ เขาก็คิดว่าหรือโชคชะตาอาจอยากให้โอกาสครั้งที่สอง เพื่อให้เขาได้แก้ตัวจากสิ่งที่เคยทำพลาดไป ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริง โอกาสที่ว่านี้ก็ไม่แย่เท่าใดนัก
เพียงแต่ต้องหาทางหลบเลี่ยงเดวิสให้ดี ๆ เท่านั้น
แต่การินก็เชื่ออย่างหนึ่งในใจ เขาคิดว่าลึก ๆ แล้วคนอย่างเดวิสมีเหตุผลและไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำขนาดจะฆ่าใครได้ เขาแค่ต้องหาวิธีพิสูจน์ให้อีกฝ่ายรู้ก็แค่นั้น
และพอรู้สึกว่าชีวิตนี้ของตัวเองยังมีความหวัง ก็ทำให้การินในร่างของคำมรร่าเริงขึ้น จนแทบผิวปากออกมาขณะนั่งพักเหนื่อยเลยทีเดียว
+++++
อย่างไรก็ตามการได้เห็นเฮลิคอปเตอร์ร่อนลงจอดแบบชัด ๆ เมื่อกี้ ทำให้การินหวนนึกถึงความหลังที่เจ็บปวดแสนสาหัสที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีที่แล้ว เป็นปีที่เขาพบเรื่องเศร้าอย่างรุนแรง
นั่นคือในวันสุดท้ายที่เขาทำงานที่แท่นแห่งนี้ คือวันที่เกิดโศกนาฏกรรมกับลูกและเมียของเขานั่นเอง
ก่อนหน้าเกิดโศกนาฏกรรม การินตัดสินใจลาออกจากลาโฮมกรุปหลังทำงานที่นี่มาเกือบสามสิบปี และเกือบสองปีในนั้นคือช่วงเวลาที่เขาแทบตัดขาดจากครอบครัว ย้ายมาอยู่ที่แท่นอันห่างไกลจากลูกและเมีย
พอเมียกับลูกรู้ว่าเขาลาออกกลับไปอยู่กรุงเทพฯ สองคนนั้นก็อยากทำให้เขาประหลาดใจ ด้วยการมาหาเขาถึงที่นี่ในวันที่เขาทำงานที่แท่นวันสุดท้าย ราวกับคิดว่า การินคงอดใจจะเจอหน้าทั้งสองคนไม่ไหวแล้ว
แต่เรื่องนี้คือความเซอร์ไพรส์อย่างแท้จริง เพราะการินไม่รู้เลยว่าทั้งคู่วางแผนเอาไว้ เมียของเขาคุยกับเจ้าหน้าที่เพื่อขอขึ้นฮ.ลำที่จะมารับการินกลับฝั่งนั่นเอง
แต่อย่างไรก็ตามทั้งคู่ไม่เคยมาถึงแท่นแห่งนี้
เพราะเฮลิคอปเตอร์เกิดอุบัติเหตุตกกลางทะเลระหว่างทาง สาเหตุที่แจ้งมาคือเผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวนยากจะควบคุม คนขับบาดเจ็บแต่ว่ายน้ำหนีรอดมาได้ ส่วนลูกเมียของเขาไม่รอดจากการจมน้ำ จนป่านนี้ศพของทั้งคู่ยังหาไม่พบ
ชะตากรรมต้องสาปของครอบครัวของเขาที่ทุกคนต้องมาจบชีวิตกลางทะเล ทั้งหมดมีส่วนเกี่ยวข้องกับแท่นอัญชันแห่งนี้
หลังรู้ข่าวการินคนเก่าแตกสลายแทบไม่เป็นผู้เป็นคน เขารักทั้งคู่มาก น้องเกมส์ลูกชายของเขาอายุแค่สิบสองเท่านั้น ไม่น่าต้องมาพบเจอกับเรื่องแบบนี้เลย
เขาโทษตัวเอง ถ้าเขาไม่ลาออก ยังคงอยู่ทำงานที่ลาโฮมกรุปต่อ ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
นั่นคือตราบาปที่เขาเฝ้าโทษตัวเองมาตลอดสามปีที่ผ่านมา สุดท้ายเขาก็ใช้ชีวิตแบบคนไร้วิญญาณอยู่ที่แท่นนี้ต่อไป ทุ่มเทให้กับงานอย่างเดียว แต่เพราะความตรอมตรมมันยากจะข้ามผ่าน การินเลยต้องใช้ตัวช่วยคือเหล้า ที่กลายเป็นคนรู้ใจเพียงคนเดียวที่ช่วยให้เขายังพอนอนหลับได้ในตอนกลางคืน ทำให้เขาไม่แตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ
และหลังเหตุการณ์นั้นเขาก็ไม่เคยคิดจะกลับเข้าฝั่งอีกเลย เพราะรู้ว่าไม่มีใครให้ไปหา