588

บทที่ 588 พ่อสามี

นี่เป็นวิดีโอสั้นๆ ที่กระตุ้นอารมณ์ให้คนรักรถต่างก็ตื่นเต้นกัน แต่สำหรับคุณนายโจวกลับเป็นช่วงเวลาที่ผ่านไปช้ามาก

ในช่วงเวลาสองนาทีนี้ คนจำนวนมากคิดว่ายังไม่เพียงพอ แต่เธอกลับรู้สึกราวกับเสียเวลาไปแล้วครึ่งวัน

เธอเห็นว่าข้างๆ คุณนายเผยนอกจากคุณผู้หญิงเผยและชายแก่อีกคนที่เพิ่มเข้ามาแล้ว เก้าอี้อีกตัวที่ว่างอยู่กลับมีเจียงเซ่อเข้ามานั่งอยู่ข้างๆ

“เป็นไปได้ยังไง”

คุณนายโจวอารมณ์พลุ่งพล่านขึ้นมา เหมือนมีคนเอาน้ำเย็นมาสาดบนศีรษะ ทำให้รู้สึกเย็นเยียบขึ้นมาทันที

ก่อนหน้านี้ข้างๆ คุณนายเผยมีเก้าอี้ว่างอยู่สองตัว ตอนที่เธอเข้าไปทักทายก็ไม่ได้ถูกเชิญให้นั่งลงแล้วตอนนี้มีเจียงเซ่อมีสิทธิ์อะไรไปนั่งข้างๆ

“ทาง ELYSEES ไม่ได้จัดที่นั่งไว้ให้เธอหรือยังไง”

เธอพึมพำ คุณนายเวิงที่อยู่ข้างเองก็เห็นถึงความผิดปกติ

“นั่นคุณลุงเหลียงจากวิสาหกิจจงหนานไม่ใช่หรือ” เธอชี้ไปที่เฝิงจงเหลียงด้วยความรู้สึกแปลกใจ

“เขามาได้ยังไงน่ะ”

ตระกูลเฝิงมีหน้ามีตาในฮ่องกงอยู่แล้ว วิสาหกิจจงหนานเองก็มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก รวมทั้งหลายปีมานี้ได้ร่วมมือกับเจียงหัวกรุ๊ป บุคคลสำคัญในวงการเห็นด้วยกับการร่วมมือของทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างมากและคาดว่าอีกสองปีหลังจากนี้โรงแรมฮอลิเดย์ที่ทั้งสองกลุ่มร่วมกันจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ถึงตอนนี้หุ้นของทั้งสองก็เป็นไปในทางที่ดีมาก

แต่ผู้ก่อตั้งอย่างเฝิงจงเหลียงกลับเก็บเนื้อเก็บตัว ตรงข้ามกับวิสาหกิจจงหนานที่มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ

เขาแทบจะวางมือจากงานสำคัญทั้งหมดแล้ว นอกจากถืออำนาจการตัดสินใจโดยชอบธรรมในวิสาหกิจจงหนานแล้วก็ไม่ค่อยเปิดเผยตัวต่อหน้าสาธารณชน

งานเปิดตัวของ ELYSEES ในครั้งนี้มีดีอะไร ไม่เพียงแค่เหล่าคุณชายในวงการมาเป็นจำนวนมากแม้กระทั่งคุณนายเผยยังพาผู้ใหญ่ในบ้านออกมาปรากฏตัว รวมทั้งเฝิงจงเหลียงก็มาแล้วยังนั่งแถวหน้าสุดด้วย

คุณนายโจวเริ่มนั่งไม่ติด เธอกำลังคาดเดาว่าการที่เจียงเซ่อไปนั่งข้างๆ คุณนายเผยเป็นเพราะทางผู้จัดงานไม่ได้จัดเตรียมที่นั่งตามหน้าที่หรือมีเหตุผลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง

หลังจากโฆษณา ก็ถึงขั้นตอนที่ Piech ขึ้นไปรายงานบนเวที

โฆษณาสั้นระหว่าง leopard และเจียงเซ่อแสดงความหมายออกมาอย่างลึกซึ้ง ปัญหาระหว่างวัยของคุณพ่อและลูกสาวหมายความถึงความแตกต่างของ leopard และตัวแบรนด์ที่ผ่านมาและเป็นการจุดประกายประเด็นออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ในระยะเวลาสองนาทีสั้นๆ ที่เจียงเซ่อขับ leopard แสดงถึง ‘การเติบโตและความก้าวหน้า’ ออกมาได้อย่างชัดเจน การขับรถด้วยความเร็วสูงในช่วงหนึ่งนาที ให้ความสำคัญกับถ่ายทอดให้เห็นถึงอัตราความเร็วและคุณสมบัติของ leopard เป็นการยืนยันให้ผู้ชมได้เห็นว่าไม่เพียงแค่มีรูปลักษณ์อันงดงามเท่านั้น ซึ่งก็เข้ากับเจียงเซ่อที่ปรากฏตัวพร้อมความงดงามและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังในตอนแรกได้เป็นอย่างดี

แต่สิ่งที่ควรค่าแก่การวิเคราะห์มากที่สุดก็คือ การที่คุณพ่อที่ขับรถรุ่นเก่าของ ELYSEES ยอมวางมือ แสดงให้เห็นถึงยุคสมัยและแนวความคิดที่แตกต่างกันของรถทั้งสองคันที่ได้แยกจากกันไปคนละทาง ออกจากสีขาวดำอันคลาสสิคเดินเข้าสู่โลกที่เต็มไปด้วยสีสัน นี่แสดงให้เห็นว่ารถสปอร์ตรุ่นใหม่อย่าง leopard นั้นได้สลัดหลุดจาก ‘ผู้เป็นพ่อ’ และได้ก้าวไปสู่อิสระและความก้าวหน้า

พูดได้เลยว่า โฆษณานี้ของ ELYSEES ได้ตอบทุกคำถามของชาวเน็ตหัวเซี่ยผ่านโฆษณาอันมีความหมายลึกซึ้งนี้

ความเห็นอกเห็นใจ ความเข้าใจ การเติบโตและปล่อยวาง ล้วนแสดงให้เห็นว่ายุคที่เถาเฉินครอบครองตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ ELYSEES ไม่สามารถหวนกลับมาได้อีกแล้ว

ในขณะนี้เอง โซนสื่อมวลชนที่อยู่ข้างหลัง แม้ว่าจะเป็นนักข่าวรุ่นใหญ่ ที่ก่อนจะเห็นโฆษณานี้และมีความคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเถาเฉินและ ELYSEES คงจะไม่สามารถแยกออกจากกันได้ แต่หลังจากเห็นดังนี้ก็จึงอดคิดไม่ได้

ในขณะที่ ELYSEES กำลังตามหาความแปลกใหม่และความก้าวหน้า ในวินาทีที่คุณพ่อที่ขับรถรุ่นคลาสสิคของ ELYSEES ต้องยอมวางมือและหันไปจากไป นักข่าวจำนวนมากก็เกิดคำถามขึ้นมาว่า เถาเฉินจะยอมวางมือง่ายๆ หรือไม่

พอฉายโฆษณานี้จบ เถาเถาก็ถอนหายใจยาว เธอสังเกตเห็นว่าสีหน้าของคนจำนวนมากในโซนสื่อมวลชนได้เปลี่ยนไป

ความลงตัวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันที่เกิดขึ้นระหว่างเจียงเซ่อและรถสปอร์ต leopard คันนี้ คนที่ได้ดูโฆษณาสั้นนี้นั้นล้วนไม่สามารถปฏิเสธได้

วินาทีนี้มีคนจำนวนไม่น้อยเห็นใจเถาเฉิน เธออาจจะเป็นคนที่รู้สึกแย่ที่สุดในโฆษณานี้ คนจำนวนมากเริ่มเชื่อมโยงเธอกับภาพลักษณ์อันคลาสสิคของ ELYSEES และผู้ชายในโฆษณาเข้าด้วยกัน เธอเป็นตัวแทนของ ELYSEES ในยุคก่อน แต่ในยุคถัดไปก็เห็นได้ชัดว่าจะต้องมีคนอื่นมาสานต่อ มาพัฒนาต่อ

ในสถานการณ์แบบนี้ ง่ายมากที่จะทำให้ผู้คนคิดถึงฐานะของเถาเฉินในวงการบันเทิง ในตอนนี้เธอได้เป็นนักแสดงหญิงอันดับต้นๆ ของหัวเซี่ยแล้ว ชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมในหัวเซี่ย

“เถาเฉิน....กำลังจะสี่สิบแล้วใช่ไหม”

ในโซนสื่อมวลชน อยู่ๆ ก็มีคนถามคำถามนี้ออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

อายุของเถาเฉินไม่น้อยแล้วจริงๆ แต่เป็นเพราะออร่าที่เปล่งประกายอยู่บนตัวเธอตลอดมาทำให้แวบแรกที่เห็นเธอ ผู้คนก็มักจะมองข้ามอายุของเธอไปและไปสนใจจุดอื่นๆ ในตัวของเธอแทน

ตอนนี้โฆษณาสั้นๆ นี้ทำให้ผู้คนคิดถึงอายุของเธอขึ้นมาอย่างกะทันหัน ข้อได้เปรียบของเธอไม่ชัดเจนแล้วจริงๆ

เหล่านักข่าวต่างเงียบไป แม้กระทั่งคนที่เขียนข่าวนักแสดงเป็นงานหลักในตอนนี้ก็ไม่อยากพูดถึงอายุของเถาเฉิน

หน้าที่การงานของเธอก้าวหน้าไปมาก ไม่ใช่ช่วงที่กำลังรุ่งเรืองอีกต่อไปแล้ว ก่อนหน้านี้เธออยู่บนแท่นนานเกิน ไม่มีนักแสดงหญิงที่สามารถเทียบกับเธอได้ สิ่งที่ทุกคนติดตามคือผลงานและสิ่งต่างๆ ในตัวเธอมาโดยตลอด

แต่พอมีเจียงเซ่อที่สามารถไล่ตามได้ทัน ถึงขั้นประสบความสำเร็จเทียบเท่ากับเธอ ชื่อของเธอที่เป็น ‘ตำนาน’ แน่นอนว่าต้องอ่อนแอลง

คนรอบข้างต่างมีความคิดที่แตกต่างกันออกไป มีคนตั้งใจฟัง มีคนหันไปมองเถาเฉินด้วยความเห็นใจ ยังมีคนจำนวนหนึ่งคาดเดาถึงฐานะของกลุ่มคุณนายเผยและก็มีคนที่รู้สึกร้อนใจเหมือนคุณนายโจว

บนเวที Piech ยังคงแนะนำรายละเอียดเกี่ยวกับ leopard ที่ ELYSEES เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

ทุกอิริยาบถของคุณนายเผยล้วนถูกคุณนายโจวจับจ้องเอาไว้ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอขมวดคิ้ว

Piech ยังคงพูดอยู่ โทรศัพท์มือถือของคุณนายเผยดังขึ้นทีหนึ่ง เธอหยิบขึ้นมาดู Piech เบนความสนใจมาทางนี้อยู่ตลอดเวลา รวมทั้งคุณนายโจวและคนอื่นๆ ต่างเห็นปฏิกิริยานี้ของเธอทันที

ตอนที่เจียงเซ่อนั่งลงก่อนหน้านี้ Piech ยังกลัวว่าจะทำให้คนของตระกูลเผยไม่พอใจ คิดไม่ถึงว่าตระกูลเผยจะไม่แสดงปฏิกิริยาอื่นใด ซึ่งทำให้เธอแอบโล่งใจ

ในขณะที่คุณนายเผยดูโทรศัพท์ ก็ทำให้ Piech รู้สึกว่าเป็นเพราะตัวเองพูดนานเกินไป จนทำให้คุณนายท่านนี้เบื่อหน่ายหรือไม่

ความคิดนี้วนเวียนอยู่ในหัวของเธอ เธอคิดกระทั่งว่าการที่คุณนายเผยดูโทรศัพท์จะเกี่ยวข้องกับเจียงเซ่อหรือไม่ วินาทีต่อมาเธอจึงรู้ว่าตัวเองคิดมากเกินไป เพราะหลังจากคุณนายดูโทรศัพท์ก็เผยรอยยิ้มออกมา

“ข้อความจากอาอี้น่ะ”

เธอถือโทรศัพท์มือถือเอาไว้ โน้มตัวเข้าไปข้างหูคุณย่าเผยแล้วกระซิบว่า

“เขาเองก็เห็นโฆษณาของเซ่อเซ่อแล้ว”

พูดถึงหลานชาย คุณย่าเผยเองก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว คุณนายเผยถือโทรศัพท์มือถือเอาไว้

“ฉันจะโทรหาเขาสักหน่อยนะคะ เหมือนว่าพวกอาต้านจะบอกเขาแล้วว่าเรามาที่นี่”

คุณย่าเผยพยักหน้าเบาๆ จากนั้นคุณนายเผยก็ลุกขึ้น

ทุกอิริยาบถของเธออยู่ในสายตาคุณนายโจวมาโดยตลอด เห็นว่าเธอลุกขึ้นและเดินไปตรงมุมหลังจากนั้นก็เดินออกจากงานไป พนักงานรักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านนอกก็ราวกับจะสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวทางนี้จึงแอบเปลี่ยนตำแหน่งกัน คุณนายโจวลังเลอยู่ครู่หนึ่งใหญ่ ก่อนจะกัดฟันและถือกระเป๋าค่อยๆ ลุกขึ้น

คนในงานต่างฉลาดหลักแหลมกันเป็นอย่างมาก มีเหตุผลอะไรที่จะดูไม่ออกว่าคุณนายโจวต้องการจะทำอะไร

ความจริงมีหลายคนก็อยากตามไป คุณนายเวิงลุกขึ้นมาแล้วครึ่งตัว แต่ก็ยังคงลังเล

เธอไม่เหมือนคุณนายโจว ก่อนหน้านี้ไม่เคยเจอคุณนายเผยมาก่อนเลย บริษัทของสามีเธอก็ไม่ได้โด่งดังมากนัก ไม่สามารถเทียบได้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลโจวได้เลย ในสถานการณ์ที่ฐานะของทั้งสองไม่เท่ากัน ถ้าพรวดพราดเข้าไป อาจจะทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจได้

ถ้าคุณนายโจวสามารถสานสัมพันธ์กับคุณนายเผยได้ ไม่แน่ว่าในอนาคตจะมีโอกาสได้ทำความรู้จักกัน ไปเล่นไพ่นกกระจอก แล้วค่อยสานสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากขึ้น

พอมีความคิดเช่นนี้ ก้นที่ยกขึ้นของเธอก็นั่งลงไปเหมือนเดิม

คุณนายเผยหามุมเงียบๆ เพื่อโทรหาลูกชายถามถึงความเป็นอยู่ของเขาที่คิวชู สองแม่ลูกคุยกันหลายประโยค สำหรับเรื่องที่คุณแม่และคุณย่ามาเป็นหน้าม้าให้กับเจียงเซ่อดูใช้ได้ผลมาก ทำให้เขาปากหวานและออดอ้อนจนใบหน้าของคุณนายเผยเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“หยุดเมื่อไหร่ก็กลับมา คุณย่าของลูกบอกว่าที่มาวันนี้ก็เพื่อจะมาดูรถให้ลูกนะ”

เธอพูดด้วยท่าทางมีความสุข สายตาไปหยุดอยู่ที่กระจกที่อยู่ตรงหน้า แต่กลับพบว่าในกระจกมีเงาๆ หนึ่งในบริเวณไม่ไกลนักส่องสะท้อนอยู่ รอยยิ้มบนใบหน้าของคุณนายเผยค่อยๆ จางหายไป

“เอาเถอะ แค่นี้ก่อนนะ คืนนี้หลังจากจองรถเสร็จจะโทรไปหา ดูแลตัวเองด้วยช่วงนี้อากาศหนาวอย่าลืมใส่เสื้อหนาๆ ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหนก็ต้องดูแลสุขภาพ แล้วก็อย่ามัวทำแต่งานจนลืมกินข้าวล่ะ”

เธอเน้นย้ำไปหลายคำ หลังจากวางสายไปก็เห็นคุณนายโจวถือกระเป๋า เหมือนเดินออกมาจากห้องน้ำ

“บังเอิญจังเลยค่ะที่เจอคุณอีกแล้ว”

ใบหน้าของคุณนายโจวเต็มไปด้วยความดีใจ เงยหน้าขึ้นเหมือนเห็นคุณนายเผยโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยหยุดชะงักฝีเท้าก่อนแล้วค่อยวิ่งเหยาะๆ เข้ามา

เธอต้องไม่รู้แน่ๆ ว่าการแสดงในตอนนี้ของเธอดูไม่แนบเนียนเป็นอย่างมาก คุณนายเผยถูกรบกวนตอนคุยกับลูกชาย แม้กระทั่งรอยยิ้มก็ไม่อาจจะฝืนยิ้มออกมาได้ เพียงแค่พยักหน้าหันหลังและถือโทรศัพท์เอาไว้เตรียมจะเดินเข้างานอีกครั้ง คุณนายโจวจึงรีบเดินตามไป

“คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะมีดวงสมพงษ์กับคุณ เจอกันหลายครั้งเหลือเกิน”

คุณนายเผยพยักหน้า

“พอดีพาคุณย่าออกมาเดินเล่นน่ะ มาเปิดหูเปิดตา”

คำตอบของเธอทำให้สีหน้าของคุณนายโจวดูตะลึง พลันรู้สึกว่า ก่อนหน้านี้ตนเอง ไม่รู้จักแยกแยะเอาเสียเลย เห็นว่าเจียงเซ่อนั่งข้างเธอก็คิดไปต่าง ๆ นานา

ถ้าเจียงเซ่อรู้จักกับตระกูลเผยจริงๆ อยู่ในวงการบันเทิงแบบนี้ ถ้าเธอมีเบื้องหลังเช่นนี้ คงจะลือกันไปทั่วตั้งนานแล้ว แล้วจะยอมให้ชาวเน็ตต่อว่าขนาดนั้นได้อย่างไร แม้กระทั่งแฟนคลับของเถาเฉินที่หลายปีมานี้เข้าไปแสดงความคิดเห็นและโจมตีเพจต่าง ๆ ของเจียงเซ่อ ก็ไม่เห็นว่าเธอจะมารับหน้าแทนแต่อย่างไร

“ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญมากเลยล่ะค่ะ เพราะงานในวันนี้คึกคักมากทีเดียว” ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันคุณนายเผยก็ใกล้จะเดินเข้ามาถึงในงานแล้ว คุณนายโจวยังคงตามเธอมา

“ฉันซื้อรถของ ELYSEES มาหลายปีแล้วค่ะ มีหลายรุ่นที่นั่งสบายมากเลย”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ” คุณนายเผยได้ยินคำพูดนี้ของเธอก็ปฏิเสธอย่างไม่แสดงสีหน้า

“ที่เรามาในวันนี้ก็เพราะอยากจะเห็นรถใหม่ที่ ELYSEES เปิดตัว”

“leopard น่ะเหรอคะ เมื่อครู่นี้ฉันเองก็เห็นโฆษณาแล้ว แม้ภายนอกจะดูดีแต่เมื่อเทียบกับรุ่นคลาสสิคแล้วก็ยังถือว่าด้อยกว่าอยู่ดี”

ราคาของรถสปอร์ต leopard ไม่น่าจะต่ำ และในฐานะที่ทาง ELYSEES นำเสนอรถรูปแบบคลาสสิคมาโดยตลอดนั้น ทั้งราคา เกรดของรถก็คงไม่ต่ำไปกว่ารถสปอร์ต พอคุณนายโจวพูดจบคุณนายเผยก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่งและหยุดฝีเท้า

“แล้ว leopard ไม่ดีตรงไหน”

ใบหน้าของเธอยังคงมีรอยยิ้ม แต่สายตาเคร่งขรึม ความเคร่งเครียดและแรงกดดันที่ไม่สามารถอธิบายได้ทำให้คนนายโจวรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาบ้าง เธอนิ่งไปครู่หนึ่ง พอเห็นว่าคุณนายเผยไม่ได้ไปไหนยังคงจ้องเธอเหมือนกำลังรอคำตอบของเธอ เธอจึงตอบว่า

“แม้ว่า leopard จะดี แต่ก็ยังเป็นของใหม่ ไม่มีชื่อเสียงและมีเจียงเซ่อเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ รุ่นคลาสสิคของ ELYSEES เป็นรุ่นที่ดีที่สุดตั้งแต่แบรนด์ของพวกเขาเข้าสู่หัวเซี่ยมาตลอดระยะเวลาสิบปี” ในขณะเดียวกันก็เป็นตัวเลือกแรกที่เหล่าเศรษฐีจะเลือก โดยปกติแล้วคนที่มีรสนิยมและมีเงินก็จะต้องเลือกรุ่นที่คุณนายโจวแนะนำแน่นอน คุณนายโจวเผยรอยยิ้ม

“ถ้าคุณหญิงเผยชอบและเห็นว่าดี หลังจากลองนั่งแล้วรู้สึกสบายล่ะก็ จบงานฉันจะให้คนไปส่งให้ที่บ้านของคุณค่ะ”

คำพูดนี้ของเธอทำให้คุณนายเผยจ้องเธอครู่ใหญ่จนคุณนายโจวขนลุกขึ้นมา

“มีรสนิยมและมีเงินงั้นเหรอ” คุณนายเผยยิ้ม

“แต่ฉันมีเงินทองมากมาย”

ที่เธอพูดแบบนี้ไม่รู้ว่าต้องการจะสื่ออะไร คุณนายโจวยังคงสับสน วินาทีต่อมาคุณนายเผยก็ถามว่า

“คุณคงจะเป็นคุณนายโจวจากอสังหาริมทรัพย์จิ่งไท่ใช่รึเปล่า”

คุณนายโจวคิดไม่ถึงว่าก่อนหน้านี้ตนเองเพียงแนะนำไปประโยคเดียว คุณนายเผยก็จำได้แล้ว เธอรู้สึกดีใจและพยักหน้าหลายที

“คุณยังจำได้เหรอคะ”

“ฉันก็ไม่รู้ว่าสะใภ้ของฉันไปทำอะไรให้คุณไม่พอใจคุณถึงต้องตำหนิเธอทุกทางแบบนี้ กลับไปฉันจะสั่งสอนเธอให้มีมารยาทต่อผู้ใหญ่มากกว่านี้แล้วกันค่ะ” ตอนนี้สายตาของคุณนายเผยดูเรียบนิ่ง แต่ท่าทางแบบนี้กลับทำให้คุณนายโจวหนังตากระตุกไม่หยุด คำพูดของเธอทำให้คุณนายโจวรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา หลังจากนั้นคุณนายเผยก็พูดอีกว่า

“ถ้าเธอทำอะไรผิด ฉันก็ต้องขอโทษแทนเธอด้วยนะคะ หวังว่าผู้ใหญ่อย่างคุณจะใจกว้าง ยกโทษให้และไม่ถือสา”

เมื่อคุณนายโจวได้ยินคำพูดนี้จิตวิญญาณก็เหมือนล่องลอยออกจากตัวไปทันที

คุณนายเผยพูดแบบนี้ ทำให้เธอรู้สึกหวาดผวามากกว่าการดูถูกเธอต่อหน้าสาธารณชนเสียอีก

วินาทีนี้เธอรู้สึกว่ามือและเท้าเย็นเฉียบไปหมด ริมฝีปากเริ่มสั่นขึ้นมา เธอไปทำให้ลูกสะใภ้ของคุณนายเผยไม่พอใจตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทำให้คุณนายท่านนี้ถึงกับพูดแบบนี้กับเธอ

ตอนนี้คุณนายโจวยังมีความหวัง หวังว่าคุณนายท่านนี้จะงานยุ่งจนจำผิด ตอนนี้เธอไม่รีบร้อนจะสานสัมพันธ์กับคุณนายเผยแล้ว แต่กลับอยากจะรีบอธิบาย พยายามไม่สร้างปัญหาให้กับสามี

“จะกล้าได้ยังไงกันคะ สะใภ้ของคุณคือใครเหรอคะ จำคนผิดหรือเปล่า”

ท่าทางของเธอดูตื่นตระหนกเป็นที่สุด พอพูดจบ คุณนายเผยก็เผยรอยยิ้มบางๆ ทีหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปเรียก

“เซ่อเซ่อ มานี่สิ!”

ตอนที่เธอพูด คุณนายโจวก็ได้ยินทุกคำพูดของเธอกับหูของตนเอง แต่เมื่อรวมกันแล้วกลับรู้สึกอึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูก

เสียงของคุณนายเผยไม่ถือว่าดังมาก แต่ก็ไม่ได้เบา เธออยู่ห่างจากเจียงเซ่อไม่ไกลมากนัก หลังจากเสียงเรียกดังขึ้น กลุ่มของคุณนายเวิงที่จ้องเธออยู่ตลอดเวลาก็ถูกเสียงของเธอดึงดูดความสนใจไว้

แม้กระทั่ง Piech ที่พูดอยู่บนเวทีก็ชะงักและมองไปที่เจียงเซ่อตามเสียงเรียกของคุณนายเผย

เจียงเซ่อไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงยืนขึ้นและคุณนายเผยก็โบกมือมาทางเธอ

“มานี่หน่อย”

คุณย่าเผยยกมุมปากหลายที สายตาของเฝิงจงเหลียงเผยความพอใจ เฉิงหรูหนิงควักโทรศัพท์ขึ้นมาพลางหัวเราะ ‘ฮ่าฮ่า’

“มีเรื่องน่าสนุกให้ดูแล้วสิ”

เจียงเซ่อเดินเข้ามาหาคุณนายเผย หลังจากที่คุณนายโจวเห็นชัดแล้วว่าเธอเป็นใครและได้ยินคุณนายเผยเรียกชื่อของเธอเมื่อครู่นี้ เธอก็เริ่มคิดเชื่อมโยงไปถึงสิ่งที่คุณนายเผยพูดเมื่อครู่ มือเท้าของคุณนายโจวเริ่มสั่นอย่างไม่อาจควบคุมได้ ‘เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้...’ เธอท่องในใจ