webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

586

บทที่ 586 ตามีแวว

“ระวังหน่อยนะคะ”

คุณนายเผยพยุงคุณย่าเผยเอาไว้และเข้างานมาโดยมี Piech คอยนำทาง ผ้าม่านที่ถูกเอาขึ้นและไฟที่ถูกปิดเพราะกำลังจะฉายโฆษณาของ leopard ในตอนแรก ล้วนถูก Piech สั่งให้คนหยุดเอาไว้เพราะการปรากฏตัวของคุณย่าเผย

คุณย่าท่านนี้จะถูกปล่อยปละละเลยไม่ได้ ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้ ELYSEES เดือดร้อนเป็นอย่างมาก

ตอนที่คุณนายโจวเข้ามา กลุ่มของเนี่ยต้านได้มาถึงก่อนแล้ว คุณนายเผยกำลังคุยกับกลุ่มของเนี่ยต้านที่เข้ามาทักทายพร้อมรอยยิ้ม

“คุณย่าอยากออกมาเดินเล่น เลยถือโอกาสมาน่ะ”

ทีมงานของทาง ELYSEES หลายคนเปิดทางต้อนรับ โฆษณาของเจียงเซ่อที่กำลังจะฉายก็หยุดชะงักเพราะเรื่องนี้เข้ามาแทรก

ผ้าม่านถูกเปิดออกครึ่งหนึ่ง แสงที่สาดส่องภายในงาน ทำให้นักข่าวและแขกผู้มีเกียรติต่างเห็นฉากนี้ โซนสื่อมวลชนที่อยู่ข้างหลัง พลันมีคนถามขึ้นเบาๆ ว่า

“คนที่เพิ่งมาถึงเป็นใครกันน่ะ”

ผู้ที่เพิ่งมาถึงปรากฏตัวโดยมีทีมงานของ ELYSEES คอยดูแลหันหลังให้กับโซนสื่อมวลชนที่อยู่ข้างหลัง เห็นเพียงรางๆ ว่าเป็นผู้หญิงสองคน คนหนึ่งอายุมากและมีผมขาวบ้างแล้ว สวมชุดกี่เพ้าสีดำและผ้าคลุมที่ดูเข้ากับชุดเป็นอย่างมาก แต่กลับไม่เห็นใบหน้าของเธอ

ในโซนสื่อมวลชนทุกคนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันเบาๆ ไม่มีใครสามารถตอบคำถามของเจ้าของคำถามได้ แต่ทุกคนล้วนเดาออกว่าทั้งสองที่เพิ่งมาถึงต้องมีฐานะไม่ธรรมดา

สามารถทำให้ทาง ELYSEES เลื่อนเวลาฉายโฆษณาของ leopard เพราะการมาเยือนของทั้งสอง ทำให้ลำดับพิธีของงานเกิดความสับสน ต้องเปิดผ้าม่านใหม่อีกครั้ง และยังถึงขั้นที่ผู้ดูแลของ ELYSEES ในแถบเอเชียอย่างคุณ Piech ต้องไปต้อนรับด้วยตัวเอง แค่นี้ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าผู้มาเยือนไม่ได้มีฐานะธรรมดา

สิ่งที่สำคัญที่สุด คือแม้กระทั่งคุณนายโจวจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จิ่งไท่ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในประเทศยังต้องรีบเข้าไปต้อนรับ ยิ่งทำให้เหล่านักข่าวในโซนสื่อมวลชนต่างสงสัยขึ้นมา

ผู้ช่วยนักข่าวของสำนักข่าวหลงสิงที่มากับเถาเถาถามเบาๆ ว่า

“คนที่เพิ่งมาถึงคือใครน่ะ พี่สยงถ่ายใบหน้าของเขาไว้ได้หรือเปล่า”

เธอเข้าไปถามช่างภาพ ช่างภาพส่ายหน้า ในขณะที่เถาเถาเห็นว่าคุณนายโจวเองก็เข้าไปต้อนรับก็พลันใจเสียขึ้นมา

สถานการณ์อย่างเช่นงานในวันนี้ ไม่เป็นผลดีกับเจียงเซ่ออยู่แล้ว ตอนนี้ยังจะมีคนสนิทของคุณนายโจวเข้ามาอีกจำนวนหนึ่ง ไม่รู้ว่าในงานเปิดตัวในวันนี้ท้ายที่สุดแล้วจะจบลงยังไง

เธอเป็นกังวล แต่หลังจากที่ได้ยินบทสนทนาของผู้ช่วยและช่างภาพที่อยู่ข้างๆ เธอก็พยายามเก็บซ่อนความกระวนกระวายเอาไว้ แล้วห้ามช่างภาพที่กำลังจะเปลี่ยนไปถ่ายอีกฝั่งหนึ่ง

“ไม่ต้องถ่ายแล้ว”

ทันทีที่เธอพูดจบ ใบหน้าของช่างภาพที่ชื่อ ‘พี่สยง’ ก็เผยความแปลกใจ ผู้ช่วยนักข่าวจึงถามว่า

“ทำไมล่ะ”

“พวกเธอไม่สังเกตเหรอ”

ความสนใจของทุกคนในงานต่างถูกผู้ที่เข้ามาจากข้างหลังดึงดูดไว้ เพราะเป็นแฟนคลับของเจียงเซ่อ ทำให้มีเพียงเถาเถาเท่านั้นที่ไม่ได้คิดแต่จะคาดเดาฐานะของผู้ที่เพิ่งมาถึง เธอยื่นมือออกมาและชี้ขึ้นเหนือศีรษะ

“กล้องถ่ายทอดสดหลายตัวในงานและทีมงานช่างภาพของ ELYSEES ที่อยู่ข้างหลัง หลังจากที่พวกเธอเข้ามา Piech ก็คงจะออกคำสั่ง ทำให้กล้องไม่ได้หันไปทางนั้น”

นั่นก็หมายความว่า ทั้งสองที่เข้ามาจากข้างหลังนั้นไม่คิดที่จะเปิดเผยตัวตน

พอได้ยินคำพูดนี้ของเถาเถา คนรอบข้างจำนวนไม่น้อยก็ค้นพบเรื่องนี้แล้วเช่นกัน ช่างภาพจำนวนมากที่เตรียมจะหันกล้องไปทางนั้นเหมือนพี่สยงก็ต่างมองหน้ากัน เถาเถาพลันขมวดคิ้ว

“ในสถานการณ์แบบนี้ถึงเธอจะถ่ายเอาไว้แต่กลับไปก็ต้องลบอยู่ดี”

คนที่นั่งแถวหลังสังเกตเห็นว่า พนักงานรักษาความปลอดภัยที่อยู่ข้างนอกเหมือนจะมากขึ้นกว่าเดิม มีความเป็นไปได้สูงที่สถานการณ์ที่เถาเถาพูดถึงจะเกิดขึ้น

ในขณะที่เถาเถาและคนอื่นๆ กำลังพูดคุยกัน คุณนายเผยก็ได้คุยกับกลุ่มของเนี่ยต้านพอหอมปากหอมคอแล้ว จึงเดินมานั่งลงบนที่นั่งตรงกลางของศูนย์การแสดง

“เผยอี้ไม่ได้อยู่ที่ตี้ตู คุณย่าเลยคิดว่าถ้ารถคันไหนเข้าตาก็จะซื้อไว้ให้เขา” ในขณะที่คุณนายเผยกำลังคุยกับเนี่ยต้านก็สังเกตเห็นคุณนายโจวที่เดินอยู่ข้างหลังตัวเองอย่างไม่ยอมห่าง เธอหันไปมองคุณนายโจวแวบหนึ่ง คุณนายโจวรอโอกาสที่จะได้คุยกับคุณนายเผยมานานแล้ว จึงรีบโน้มตัวลงและพูดพร้อมรอยยิ้มว่า

“คุณนายเผย ไม่คิดว่าจะมาเจอคุณที่นี่เลยค่ะ”

เธอนึกถึงคำพูดที่ได้ยินก่อนหน้านี้พลันพยายามเก็บความตื่นตระหนกในใจเอาไว้

“คุณก็มาดูรถเหรอคะ”

คุณย่าเผยใส่แว่นเอาไว้ ตอนที่เธอนั่งลงก็ได้จัดผ้าคลุมให้เรียบร้อยและมองเจียงเซ่อที่อยู่บนเวทีแล้วยิ้มอย่างพอใจ

ตอนที่คุณนายโจวพูดเธอไม่แม้กระทั่งจะหันไปมอง เนี่ยต้านโน้มตัวเข้ามาข้างหูเธอและแนะนำฐานะของคุณนายโจว

ความจริงแล้วสังคมของคุณย่าเผยและคุณนายโจวไม่เกี่ยวข้องกันเลยและเธอก็ไม่ได้อยากรู้ฐานะและความเป็นไปของคุณนายโจวเลยแม้แต่น้อย แต่เพราะเจียงเซ่อ เธอกลับเคยได้ยินชื่อนี้หลายครั้งแล้ว

ถึงแม้จะรู้ว่าเธอเคยต่อต้านเจียงเซ่อในที่สาธารณะมาหลายต่อหลายครั้งและแสดงท่าทางดูถูกเจียงเซ่อ แถมที่สนามบินอิตาลีครั้งก่อนยังอยากจะให้เจียงเซ่อขายหน้าต่อหน้าสาธารณชนด้วย

แต่ว่าเพราะฐานะอันสูงส่งของคุณย่าเผยทำให้เธอไม่สามารถทำอะไรแย่ๆ เหมือนคุณนายโจวได้ ทำได้เพียงเห็นเธอเป็นอากาศ ให้สะใภ้คนโตเป็นคนไล่เธอออกไป

คนเหล่านี้มีฐานะที่ไม่ธรรมดา หลังจากพวกเธอนั่งลงเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้จะมีเก้าอี้เหลืออยู่อีกสองตัว แต่คุณนายโจวกลับไม่มีสิทธิ์ที่จะนั่ง

เธอยืนอยู่ตรงนั้นและโน้มตัวลงพูดคุยโดยที่ไม่รู้สึกอายเลยแม้แต่น้อย

เธอสังเกตเห็นท่าทางของคุณนายเวิงและคนอื่นๆ ที่อยู่ไกลออกไปดูเปลี่ยนไป ราวกับไม่เข้าใจการกระทำของเธอ แต่ถ้าพวกเธอรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ตรงนี้เป็นใคร อาจจะเข้ามาประจบประแจงมากกว่าเธอเสียอีก

ช่วงนี้อสังหาริมทรัพย์จิ่งไท่มีปัญหา เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับจำนวนที่ดินของจิ่งไท่ในหนานตง ไม่รู้ว่าเพราะอะไร รัฐบาลที่สนับสนุนอสังหาริมทรัพย์จิ่งไท่มาโดยตลอด ตอนนี้กลับเปลี่ยนไปและมีท่าทีว่าจะควบคุมจิ่งไท่ โจวเหวยไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง คุณนายโจวมาเจอคุณนายใหญ่เผยที่นี่ ช่างโชคดีราวกับคนง่วงได้หมอนเสียจริง

เธอจะต้องแสดงจุดเด่นของตัวเองออกมาให้ได้และคว้าโอกาสนี้เอาไว้ ชนะใจคุณนายเผยเพื่อสานสัมพันธ์เพื่ออนาคต แน่นอนว่าถึงตอนนั้นจะต้องมีผลประโยชน์ตามมาอีกมากมาย

“ฉันเคยเจอคุณที่งานเลี้ยงวันเกิดของภรรยาคุณหันซวงจี้ สามีของฉันแซ่โจวตอนนี้เป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จิ่งไท่ค่ะ” รอยยิ้มของคุณนายโจวดูจริงใจ คุณนายเผยพยักหน้า เธอกลับราวกับไม่เห็นท่าทางอันเย็นชาของคุณนายเผยอย่างนั้น

“หากว่าคุณมาดูรถก็ถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญมากเลยค่ะ ฉันคุ้นเคยกับ ELYSEES เป็นอย่างดี ถ้าคุณไม่รังเกียจฉันสามารถแนะนำได้หลายรุ่นเลยนะคะ”

ตอนที่เธอพูดสายตาได้สังเกตเห็นคุณย่าเผยที่อยู่ข้างๆ เห็นว่าเธอจ้องไปที่บนเวทีอย่างไม่ละสายตา ราวกับไม่เห็นตัวเองที่อยู่ข้างๆ และไม่มีท่าทีว่าจะหันกลับมาแต่อย่างใด ทำให้เธอนึกถึงก่อนหน้านี้ที่คุณนายเผยบอกว่า ‘ออกมาเดินเล่นเป็นเพื่อนคุณย่า’ คุณย่าท่านนี้ไม่รู้ว่าเป็นผู้ใหญ่ฝั่งสามีหรือญาติฝั่งตระกูลเดิม

“ฉันชอบรถของ ELYSEES มาโดยตลอดและคนที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ยังเป็นนักแสดงที่ฉันชื่นชอบด้วย เพราะฉะนั้นสิบปีมานี้ รถทุกรุ่นของ ELYSEES ฉันก็แทบจะซื้อเอาไว้ทั้งหมดเลยล่ะค่ะ”

คุณนายโจวลองใช้ประเด็นนี้ในการดึงคุณนายเผยและคนอื่นๆ เข้ามาเป็นพวก ทันทีที่เธอพูดจบ คุณนายเผยที่ท่าทางเย็นชาก่อนหน้านี้ก็หันกลับมาจริงๆ

“ดาราสาวที่ยืนอยู่ตรงนั้นน่ะค่ะ”

เธอชี้ไปที่ตำแหน่งที่เถาเฉินยืนอยู่แล้วมองเจียงเซ่อแวบหนึ่ง

“ไม่ใช่ผู้หญิงที่อยู่ฝั่งซ้ายนะคะ”

ตอนที่คุณนายโจวพูดถึงเจียงเซ่อ แน่นอนว่าน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยการดูถูกทำให้คุณนายเผยขมวดคิ้ว ในศูนย์การแสดงผ้าม่านที่ถูกเปิดออกในตอนแรกก็ค่อยๆ ถูกปิดลงอีกครั้ง แสงในงานมืดลง โดยคุณนายโจวไม่ได้สังเกตถึงเรื่องนี้เลยแต่น้อย

“เหมือนคุณจะไม่ค่อยชอบเธอนะ”

คุณนายเผยถาม พอคุณนายโจวได้ยินเธอสานต่อประเด็น ท่าทางจึงดูจริงจังขึ้นมา

“เธอน่ะเหรอคะ พอจะได้แค่เรื่องบุคลิกและฐานะเท่านั้นล่ะค่ะ แต่ฉันคิดว่าไม่เหมาะสมกับ ELYSEES เลยสักนิด จะยิ่งดึงให้คุณค่าของ ELYSEES ลดต่ำลงก็เท่านั้น”

ตอนที่เธอพูดคำนี้ เนี่ยต้านที่อยู่ข้างๆ ถึงกับหยุดบทสนทนากับคุณย่าเผยและหันมาจ้องเธอด้วยท่าทางตกตะลึง

วันนี้เป็นการเปิดตัวรถใหม่ของเจียงเซ่อ กลุ่มของเนี่ยต้านต่างก็มาเป็นหน้าม้าให้เธอ การปรากฏตัวของคุณย่าและคุณนายเผย ยิ่งเป็นการยืนยันว่าตระกูลเผยยอมรับสะใภ้ในอนาคตคนนี้

คุณนายโจวท่านนี้ยังไม่รู้ฐานะของเจียงเซ่อ จึงกล้ามาพูดจาเสียมารยาทต่อหน้าว่าที่แม่สามีของเธอ

“ดึงให้ต่ำลงงั้นเหรอ”

เนี่ยต้านยกมุมปากและมองคุณย่าเผยแวบหนึ่ง ใบหน้าเผยความขี้เล่นออกมา

กลุ่มของเซี่ยงชิวจี๋เห็นท่าทางของเขาก็รู้เลยว่า ตอนนี้ในใจของเขาต้องกำลังคิดชั่วร้ายอะไรอยู่แน่ แปดส่วนคงตั้งใจทำให้คุณนายโจวต้องอับอายต่อหน้าคุณย่าเผยแน่นนอน

คุณนายโจวคนนี้ก็ช่างกระตือรือร้นซะจริง ตอนนี้จิ่งไท่เองยังคิดหาวิธีการเอาตัวรอดจากปัญหาที่เข้ามารุมเร้าไม่ได้ แล้วยังมีกะจิตกะใจจะมาสนใจเรื่องพวกนี้อีก เชื่อเลยจริงๆ

“ดึงให้ต่ำลงจริงๆ ค่ะ” คุณนายโจวคิดไม่ถึงว่า เพียงคำพูดเดียวของตัวเอง ไม่เพียงแค่ทำให้คุณนายเผยยอมเปิดปากพูดเท่านั้น แม้กระทั่งเนี่ยต้านเองก็หันกลับมาและเผยรอยยิ้มที่เบิกบานมากกว่าเดิม

“คุณดูสิคะ ทันทีที่ทั้งสองปรากฏตัว ก็เห็นแล้วว่าใครโดดเด่นกว่ากัน ดาราเล็กๆ แซ่เจียงนั่น สวมเสื้อผ้าอะไรก็ไม่รู้ ฉันดูแล้วก็รู้สึกบ้านๆ ไม่เห็นจะมีคุณค่าที่เข้ากับแบรนด์ ELYSEES ได้เลย”

เธอพูดถึงตรงนี้ก็หยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อว่า

“ทาง ELYSEES จ้างเธอมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของรถรุ่นใหม่ โดยมีสโลแกนใหม่คือ การฉีกกฏและศักราชใหม่ แต่เธอกลับต่างจากสโลแกนมาก เธอสวมสร้อยไข่มุกเป็นเครื่องประดับ เหอะ ช่างดูตระหนี่เสียจริง”

“ตระหนี่เหรอ”

เมื่อคุณย่าเผยได้ยินคำพูดแบบนี้ก็หมดความอดทน

“ฉันกลับรู้สึกว่าดีมากนะ”

“ไข่มุกน่ะค่ะ แน่นอนว่าดีอยู่แล้ว แต่ไข่มุกใหญ่ๆ ยังไม่ใช่คนในอายุและฐานะอย่างเธอจะรับมือได้ ยิ่งใส่เป็นพวงเล็กๆ แบบนี้อีก ดูเหมือนอะไรกัน...”

คุณนายโจวหัวเราะร่วน คุณย่าเผยพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

“บางคนก็มีความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับไข่มุกนะ แม้ไข่มุกนี้จะไม่ใหญ่ แต่ได้มาจากหอยเท้าช้าง สีสันสมบูรณ์แบบและผิวของเธอก็ขาว ใส่แล้วเหมาะมาก”

คุณย่าเผยดึงผ้าคลุมไหล่ขึ้น ยื่นมือออกไปราวกับปัดเศษฝุ่น

“อีกอย่างฉันเห็นว่าใส่แล้วก็ดูมีกาลเทศะดี ไม่ได้ดูน่าเกลียดเลย”

คุณนายโจวงุนงง เธอเหมือนกับรู้สึกว่า คุณนย่าเผยท่านนี้เหมือนกำลังพูดเข้าข้างเจียงเซ่อ แต่เมื่อคิดทบทวนดูดีๆ แล้วก็รู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้

แม้กระทั่งฐานะอย่างตัวเองยังดูถูกดาราอย่างเจียงเซ่อเลย อย่างคุณผู้หญิงท่านนี้ก็คงจะยิ่งตาสูงมากกว่าอีก จะมาพูดเข้าข้างเจียงเซ่อได้ยังไง

ไฟในงานมืดลงแล้ว โฆษณาของ leopard กำลังอยู่ในขั้นตอนเตรียมฉาย Piech มองคุณนายโจวแวบหนึ่ง จางเชาหยางเข้าไปเชิญคุณนายโจวกลับที่ของตัวเองพร้อมรอยยิ้มอย่างมีมารยาท เพื่อไม่ให้รบกวนแขกผู้มีเกียรติอีก

คุณนายโจวเองก็รู้ว่าถ้าตอนนี้ตัวเองยังฝืนอยู่ต่อ อาจจะทำให้คนอื่นไม่พอใจได้และเธอก็เตรียมจะหาโอกาสเข้ามาอีกครั้งหลังจากจบโฆษณา

เพราะฉะนั้น หลังจากลาคุณนายเผยแล้ว เธอก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ยืดตัวตรงและเดินกลับที่นั่งของตัวเอง

คุณนายเวิงและคนอื่นๆ แปลกใจกับการกระทำก่อนหน้านี้ของเธอเป็นอย่างมากมาตั้งนานแล้วตอนนี้พอคุณนายโจวกลับมา คุณนายหลายคนก็รีบเข้ามาถามฐานะของหญิงสาวทั้งสองจากบ้านตระกูลเผยทันที

คุณนายโจวดูกระวนกระวาย แต่สำหรับเรื่องที่ตัวเองคุยกับคุณนายเผยเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอกลับรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ตอนนี้พอมีคนถามขึ้น เธอก็ไม่ปิดบังและพูดถึงคุณนายเผยเบาๆ

ตอนนี้ไฟทั่วทั้งงานได้มืดลงแล้ว ตรงกลางเวที เจียงเซ่อและเถาเฉินต่างลงจากเวที เตรียมจะกลับไปนั่งที่ของตัวเอง เพื่อให้ผู้ชมในงานเห็นโฆษณาบนหน้าจอได้ชัดเจนมากกว่าเดิมและไม่ถูกรบกวนสมาธิ

มีผู้ช่วยคอยพยุงให้ลงจากเวทีและกลับไปนั่งบนที่โซนแขกพิเศษที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ในขณะที่เซี่ยเชาฉวินเข้ามาพยุงเจียงเซ่อ Piech ก็กำลังเตรียมจะให้คนพาเจียงเซ่อไปอยู่อีกด้านเพื่อไม่ให้เธอกับเถาเฉินนั่งด้วยกันแล้วรู้สึกอึดอัด แต่คิดไม่ถึงว่าเจียงเซ่อจะหันมากระซิบว่า

“พี่เชาฉวิน ฉันขอไปนั่งฝั่งโน้นสักพักนะคะ”

คุณย่าและคุณนายเผยมา เด็กอย่างเธอจะต้องเข้าไปนั่งด้วยสักพัก

เธอไม่ได้สังเกตเห็นว่า ท่ามกลางความมืดมีผู้คนที่เดินไปทางตรงกลางเวทีโดยมีทีมงานคอยนำทาง พอเธอคุยกับเซี่ยเชาฉวินจบ เซี่ยเชาฉวินก็พยักหน้า ท่ามกลางสายตาอันตะลึงเป็นที่สุดของ Piech เมื่อเธอเห็นเซี่ยเชาฉวินจูงมือเจียงเซ่อเดินไปยังตำแหน่งที่คนในตระกูลเผยนั่งอยู่ก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที

“เจียง ไม่ได้นะ”

Piech รีบเข้าไปขวางเอาไว้

แม้เจียงเซ่อจะเป็นหนึ่งในแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ ELYSEES และคุณกาโรก็พอใจในตัวเธอเป็นอย่างมาก แต่เธอจะเข้าไปหาแขกผู้มีเกียรติตอนนี้ไม่ได้

ก่อนหน้านี้ที่คุณนายโจวพรวดพราดเข้าไป อาจจะทำให้คนของตระกูลเผยไม่พอใจแล้ว ถ้าในงานโชว์รถของ ELYSEES ในครั้งนี้ ทำให้คนเหล่านี้ถูกรบกวนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก สำหรับการพัฒนาในอนาคตของ ELYSEES ในหัวเซี่ยอาจจะมีปัญหาตามมาก็ได้

ก่อนหน้านี้เธอประทับใจเจียงเซ่อในระดับหนึ่ง ตอนนี้แม้เจียงเซ่อจะทำอะไรโดยไม่คิดก็ช่างเถอะ แต่เซี่ยเชาฉวินก็ยังจะทำตามเธออีกหรือ

“ไม่ต้องกังวล คนในครอบครัวของเธอน่ะ”

เซี่ยเชาฉวินสัมผัสได้ถึงความตื่นตระหนกในคำพูดของ Piech จึงอธิบาย Piech ยังไม่ทันได้ทำความเข้าใจความหมายของคำพูดนี้ เจียงเซ่อก็โน้มตัวลงและเดินไปทางกลุ่มของคุณย่าเผยท่ามกลางความมืดสลัว

เก้าอี้ที่วางเอาไว้สองที่ก่อนหน้านี้ หลังจากคุณย่านั่งลงก็ไม่ได้สั่งให้คนมาเอาเก้าอี้ออกไป อาจจะเพราะเหลือที่ไว้ให้เธอ

ตอนที่เธอเข้ามาบนหน้าจอที่อยู่ข้างหลังมี LOGO ขนาดใหญ่ของ ELYSEES ปรากฏขึ้น จึงทำให้ภายในงานสว่างขึ้นเล็กน้อย เก้าอี้ที่ว่างเอาไว้สองที่ในตอนแรก ตอนนี้เหลือเพียงที่หนึ่งเดียวที่ว่างอยู่ เจียงเซ่อเบิกตาโตมองไปที่เฝิงจงเหลียงที่ปรากฏตัวอย่างไม่คาดฝันแล้วพูดเบาๆ ด้วยความตะลึง

“คุณปู่ มาได้ยังไงคะเนี่ย”

เฝิงจงเหลียงเองก็มางานนี้ด้วย ตอนที่เธอเดินเข้ามา เฝิงจงเหลียงกำลังคุยกับคุณย่าเผยอยู่ พอได้ยินเสียงของเจียงเซ่อ เขาก็เงยหน้าขึ้น

“มาสัมผัสบรรยากาศอันคึกคักน่ะ คิดไม่ถึงเลยว่าจะมาเจอคุณผู้หญิงเผยที่นี่”

“เซ่อเซ่อ มานั่งสิ”

คุณย่าเผยชื่นชอบชุดของเจียงเซ่อที่ถูกคุณนายโจวต่อว่าจนไม่เหลือชิ้นดีมาก สำหรับเธอแล้ว การแต่งตัวมีกาลเทศะแบบนี้ ถือว่ามีคลาสเป็นอย่างมาก จุดประกายบุคลิกในตัวเธอออกมา ไม่โชว์โน่นโชว์นี่ แต่กลับให้ความรู้สึกสูงส่ง

เธอเองก็ไม่คิดว่าจะมาเจอเฝิงจงเหลียงในงานวันนี้ คุณท่านคนนี้ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายเป็นอย่างมากไม่ชอบออกงานเป็นที่สุด หลายปีก่อนหน้านี้ ถึงขั้นเก็บตัวไม่ออกมาเลย

หลังจากเฝิงหนานหมั้นกับคนอื่น อาจจะเป็นเพราะรู้สึกผิด หลายปีมานี้ในเทศกาลตรุษจีนเท่านั้นที่เขาจะมาเยี่ยมตามธรรมเนียมและรีบกลับ สองปีมานี้จึงได้เจอกันมากขึ้น

คุณย่าเผยนึกถึงตอนที่เจียงเซ่อเผลอเรียกเฝิงจงเหลียงว่า ‘คุณปู่’ ก่อนหน้านี้แล้วยกมุมปากขึ้น