webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

489

บทที่ 489 นาฬิกาข้อมือ

เรื่องราวดำเนินมาจนถึงตอนนี้ จึงได้ข้อสรุปมาว่า แม้จะกลับประเทศไปแต่ด้วยความที่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ร้ายแรง จึงยังต้องให้ศาสตราจารย์เฉพาะทางด้านจิตวิทยามาสอบปากคำพวกเขาทั้งสองคนอีกครั้ง

แต่ว่า ครอบครัวตระกูลเฉินรู้ดีว่า เรื่องนี้อาจจะเป็นอย่างที่เผยอี้พูด เฉินหมิ่นซูรนหาที่เอง ไม่ว่าจะพิสูจน์อย่างไร ผลลัพธ์ก็อาจจะเป็นเหมือนตอนนี้

ตอนนี้เธอก็อยู่ในสภาพนี้ก็ทำให้ครอบครัวตระกูลเฉินปวดหัวมากพอแล้ว

สิ่งที่ทำให้ตระกูลเฉินตื่นตระหนก คือเรื่องราวหลังจากนี้ต่างหาก

ล่วงเกินตระกูลเผย ทำให้เผยอี้ต้องตกอยู่ในอันตรายเพราะการกระทำของเฉินหมิ่นซู แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ตระกูลเผยและตระกูลเฉินเป็นศัตรูกันแล้ว เรื่องนี้ ตระกูลเฉินไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งจะขอความช่วยเหลือจากตระกูลเผยด้วยซ้ำ

ตระกูลเผยไม่ยอมแน่ นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ของพวกเด็กๆ แล้ว แต่มันเกี่ยวข้องกับทายาทของตระกูลเผย คุณปู่เผยจะไม่ยอมปล่อยตระกูลเฉินไปง่ายๆ แน่

จนถึงตอนนี้ ตระกูลเฉินยังต้องเครียดและรอคอยให้เฉินหมิ่นซูฟื้น เพื่อถามเธอว่า ตอนที่เธอถูกจับตัวไปเธอได้พูดอะไรที่ไม่ควรพูดกับกลุ่ม ‘อีกา’ จนทำให้ตระกูลเฉินเดือดร้อนหรือไม่ จึงไม่มีเวลาไปหาเรื่องคนอื่นอีก

และเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมา กลัวว่าหลังจากฐานะที่แท้จริงของเผยอี้ถูกเปิดเผย พวกเอเย่นค้ายาอาจจะกลับมาแก้แค้น ตระกูลเผยและทางตำรวจสหราชอาณาจักรจึงร่วมมือกันกวาดล้างพวกมันอย่างรวดเร็ว โดยเผยอี้ยังคงอยู่ที่ลอนดอน เพื่อปิดคดีนี้

ในประเทศ คุณปู่เผยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ตอนนี้บิดาตระกูลเฉินจึงถูกสั่งพักภารกิจทั้งหมดชั่วคราว

ตระกูลเฉินไม่เคยคิดฝันเลยว่า เฉินหมิ่นซูที่เพิ่งจะเข้าร่วมภารกิจครั้งแรกก็ต้องแลกกับจุดจบแบบนี้

ตอนแรกคิดเพียงว่ากลุ่มของเผยอี้ตามกลุ่ม ‘อีกา’ มานานเกือบครึ่งปีแล้ว ภารกิจได้ดำเนินมาถึงช่วงท้าย การที่เฉินหมิ่นซูมาเข้าร่วม อย่างมากก็แค่ได้รับคุณงามความดีไปด้วย ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ใครจะรู้ว่าเรื่องราวมันจะกลับกลายเป็นแบบนี้ ตอนนี้แม้ตระกูลเฉินจะเสียใจแต่ทุกอย่างก็สายเกินไปแล้ว

เจียงเซ่อกลับไปที่กรุงปารีส เพื่อหารือเกี่ยวกับรูปแบบการถ่ายทำนาฬิการคอลเลคชั่น ‘Prince’ ของ Federer ในครั้งนี้

เป็นครั้งแรกที่บริษัท Federer ใจกล้าใช้ดาราหัวเซี่ย ผู้บริหารจึงให้ความสำคัญกับการถ่ายทำในครั้งนี้เป็นพิเศษ นอกจากจะใช้สไตล์ลิสคนดังของฝรั่งเศสมาช่วยดูกล้องแล้ว ชุดของเจียงเซ่อก็ยังคัดเลือกอย่างพิถีพิถันมากกว่าปกติด้วย

เจียงเซ่อไม่ใช่คนเดิมเหมือนตอนเซ็นสัญญากับบริษัท Federer แล้ว จากการที่เธอมีชื่อเข้าชิงสาขา ‘นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม’ ในเทศกาลหนังฝรั่งเศส จนเป็นที่รู้จักในยุโรปและอเมริกา ทั้งยังได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารใหญ่ๆ จากหลายสำนัก

ในขณะเดียวกัน หลังจากที่หนังเรื่อง ‘Evil’ เข้าฉายในอเมริกาเหนือ รายได้ก็พุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง ยิ่งพอรู้ว่าเธอแสดงเป็น ‘โต้วโค่ว’ ในเรื่อง ‘The Occasion of Beijing’ ยิ่งทำให้เจียงเซ่อมีฐานแฟนคลับในอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้น

ในสถานการณ์แบบนี้ ผู้บริหาร Federer ยิ่งให้ความสนใจกับเจียงเซ่อมากกว่าเดิม การถ่ายทำโฆษณาในครั้งนี้ คณะผู้บริหารจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ถึงกับมาแปลงโฉมเจียงเซ่อด้วยตนเอง

เพียงแค่คุยเรื่องการแต่งหน้าและเสื้อผ้าก็ใช้เวลาไปเกือบสัปดาห์แล้ว ในตอนนี้คอลเลคชั่น ‘Prince’ ของ Federer กำลังจะเข้าสู่ตลาด

ในประเทศ รายได้ของหนังเรื่อง ‘Evil’ ยังคงมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ระหว่างการฉายจะมีเรื่อง ‘The Incident’ แทรกเข้ามา แต่ก็ไม่สามารถล้มบัลลังก์ ‘Evil’ ได้เลยแม้แต่น้อย

การแสดงของเถาเฉินในเรื่อง ‘The Incident’ ก็เป็นไปตามที่ควรจะเป็น แม้เนื้อเรื่องจะไม่ธรรมดา แต่เพราะฐานะของเถาเฉินเมื่ออยู่ประเทศถือว่าสูงมาก ทุกคนประเมินฝีมือการแสดงของเธอสูงอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น หลังจาก ‘The Incident’ เข้าฉาย ก็เลยไม่ได้สร้างความฮือฮามากนัก

ประเด็นทั้งสื่อและนักวิจารณ์หนัง ยังคงชื่นชมเถาเฉินเหมือน ‘ที่ผ่านมา’ เท่านั้น กลับเป็นเจียงเซ่อที่ประสบการณ์น้อยกว่าเถาเฉิน แต่พลิกบทบาทครั้งแรก ทั้งยังลดน้ำหนักเพื่อตัวละครที่ชื่อจางยวี่ฉินในเรื่อง ‘Evil’

ตอนแรกผู้ชมไม่ได้คาดหวังในตัวเธอสูงมากนัก จนกระทั่งหนังเข้าฉาย กลับรู้สึกว่าเธอแสดงออกมาได้ดีกว่าที่คิด ในขณะเดียวกันก็ร่วมงานกับหลิวเย่ที่ความสามารถไม่มีใครยอมใคร ยิ่งทำให้ได้รับคำชื่นชม

หลังจากผู้บริหารบริษัท Federer หารือกับช่างแต่งหน้าและช่างกล้องมาหลายรอบแล้ว ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการแปลงโฉมของเจียงเซ่อเสียที

สถานที่ถ่ายทำถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ในฉากการถ่ายทำเป็นครั้งแรกที่เจียงเซ่อเห็นนาฬิกาข้อมือคอลเลคชั่นใหม่ที่มีชื่อว่า ‘Prince’ ของ Federer

“คอลเลคชั่น ‘Prince’ เป็นคอลเลคชั่นที่มีจำนวนจำกัด มีแค่สองร้อยเรือนเท่านั้นและมีขายเพียงห้าประเทศ”

เซี่ยเชาฉวินฉวยโอกาสตอนที่เจียงเซ่อแต่งหน้า แอบกระซิบบอกเธอเบาๆ

“สินค้าที่ปล่อยออกไปก่อนหน้านี้ ตอนนี้ถูกลูกค้า VIP จองทั้งหมดแล้ว”

เป้าหมายการถ่ายโฆษณาในครั้งนี้ เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเจียงเซ่ออย่างไม่ต้องสงสัย

กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของแบรนด์ Federer ไม่ใช่ทุกคน แต่เป็นผู้บริโภคระดับสูง ในขณะที่คอลเลคชั่นใหม่ที่ชื่อ ‘Prince’ ยังไม่เข้าสู่ตลาด Federer ก็เปิดเผยต่อลูกค้า VIP ก่อนแล้ว แม้นาฬิกาจะยังไม่เข้าสู่ตลาด แต่ก็ถูกลูกค้า VIP จองทั้งหมดแล้ว สำหรับประชาชนธรรมดาแม้จะมีอำนาจซื้อแต่ก็ไม่ได้เห็นแม้กระทั่งเงาของนาฬิกาคอลเลคชั่นนี้ เพียงแค่รู้ข่าวสารจากในเว็บไซต์เท่านั้น

ในอนาคตหากต้องการจริงๆ ก็ต้องติดตามช่องทางการประมูล ดูว่ามีผู้สะสมนาฬิการุ่นนี้ต้องการขายหรือไม่ แค่นี้ก็เพียงพอกับการประเมินคุณค่าของนาฬิกาข้อมือ Federer คอลเลคชั่น ‘Prince’ นี้แล้ว

“ตอนแรกมีแผนจะวางขายเพียงแค่ในกรุงลอนดอน ปารีส โรมและเจนีวาประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สี่ประเทศนี้เท่านั้น แต่เพราะมีเธอ จึงแบ่งไปให้ปักกิ่ง หัวเซี่ยด้วย”

ราคานาฬิกาข้อมือ Federer ในคอลเลคชั่น ‘Prince’ อยู่ที่หกแสนแปดหมื่นหัวเซี่ยปี้ แต่ Federer ไม่ขาดทั้งในด้านยอดขายและลูกค้า ที่เซ็นสัญญาให้เจียงเซ่อเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ก็เพราะสินค้านี้ต้องการใช้ชื่อเสียงของเจียงเซ่อ ในการสร้างชื่อเสียงในหัวเซี่ยก็เท่านั้น

แต่ว่า การเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของนาฬิกาแบรนด์ Federer ในคอลเลคชั่นที่มีจำนวนจำกัดแบบนี้ มีความสำคัญต่อเจียงเซ่อมาก จากนี้ ชื่อของเธอจะมีส่วนร่วมกับแบรนด์ระดับสูงอันหรูหรา ยิ่งช่วยส่งเสริมให้ภาพลักษณ์ของเธอดีขึ้นเป็นอย่างมาก

“หลังจากถ่ายโฆษณาเสร็จแล้ว บริษัท Federer จะมอบนาฬิกาให้เธอเรือนหนึ่ง เพื่อเป็นการแสดงความจริงใจในการร่วมงานกันระหว่างทั้งสองฝ่าย”

เชี่ยเชาฉวินพูดถึงตรงนี้ ก็ยกมือขึ้นจัดผมที่ปรกหน้าเจียงเซ่อและมองเธอด้วยสายตาอบอุ่น

“เซ่อเซ่อ เธอต้องทำให้สุดความสามารถ นี่เป็นโอกาสที่ดีมาก เธอน่าจะรู้ดีว่ากับแบรนด์ Federer เธอเซ็นสัญญาเพียงแค่หนึ่งปี การแข่งขันในปีหน้าจะรุนแรงขึ้น จะแพ้หรือชนะอยู่ที่ผลงานในครั้งนี้แล้วนะ”

ก่อนหน้านี้เพราะบริษัท Federer ไม่ร่วมการกับนักแสดงหัวเซี่ย แบรนด์แอมบาสเดอร์ที่เชิญมามีส่วนใหญ่เป็นนักแสดงในยุโรปที่มีฐานแฟนคลับแน่นหนาและมีอิทธิพล เพราะฉะนั้นนักแสดงในหัวเซี่ยไม่เคยมีใครกล้าเข้าใกล้แบรนด์ Federer ด้วยตนเอง

เพราะอย่างไร การออกอีเว้นท์ก็ยากที่จะยืมสินค้าจากแบรนด์นี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เลย คนส่วนใหญ่ไม่กล้าแม้กระทั่งจะคิดด้วยซ้ำ

แต่หลังจากเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ ทันทีที่ฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของเจียงเซ่อถูกเปิดเผย แม้ทุกคนจะรู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้จะสร้างความฮือฮาให้กับหัวเซี่ย และจะเป็นประเด็นที่ถูกโจมตีและชื่นชมมากเพียงใด แต่ในขณะเดียวกัน หากบริษัท Federer ขยายช่องทางการร่วมงานกับนักแสดงหัวเซี่ย ฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของเจียงเซ่อก็จะถูกจับจ้อง ถึงตอนนั้นจะต้องมีคนเข้ามาแย่งชิงอีกไม่รู้เท่าไหร่

ในการแข่งขัน มีคู่แข่งขันที่สร้างความกดดันเป็นอย่างมากคนหนึ่ง นั่นคือเถาเฉิน

การถ่ายทำในครั้งนี้ เจียงเซ่อจะต้องสร้างความประทับใจให้กับทีมงานในบริษัท Federer เมื่อถึงเวลาต่อสัญญาในปีหน้า จึงจะสามารถทำให้ทีมงานในบริษัท Federer พิจารณาเธอเป็นคนแรก