webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

126

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

 

 

 

บทที่ 126 ยามค่ำคืน

 

“นอนรึยังครับ?” 

ปลายสายคือเผยอี้ที่โทรมา น้ำเสียงของเขาฟังดูไม่ค่อยดีนัก มันดูขึ้นจมูกอย่างบอกไม่ถูก ราวกับว่ากำลังอยู่ในที่ที่หนาวจัดอย่างไรอย่างนั้น

“กำลังจะนอนแล้วล่ะ” เจียงเซ่อดูเวลาบนคอม ตอนนี้มันใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะวันนี้รายการที่ถ่ายค่อนข้างเลิกช้า ไปทานข้าวกล้บมาก็ดึกมากแล้ว ไหนจะอาบน้ำอีก ป่านนี้เธอก็คงจะนอนไปตั้งนานแล้ว “เดี๋ยวเป่าผมเสร็จแล้วก็จะปิดคอมนอน แล้วนายถึงบ้านรึยัง?” 

เขาสูดหายใจเข้า “ลองเดาดูสิ?”

“เดาไม่ออกหรอก” เธอยังส่ายหัวไปมาอีกด้วย เผยอี้ถอนหายใจออกมา “ฉันอยู่หน้าห้องเธอ” 

พอเจียงเซ่อได้ยินอย่างนั้นก็รีบหันไปมองที่ประตูห้องทันที

กลางคืนอุณหภูมิจะลดลงต่ำ ถ้าเกิดว่าเขายังอยู่ข้างนอกนั่นมาร่วมชั่วโมงจริงๆ ตอนนี้เขาก็คงหนาวจนแข็งเป็นน้ำแข็งแล้ว

“จริงเหรอ?” 

เธอถามออกไป เผยอี้หัวเราะกลับมา

“แน่นอนว่าไม่จริงหรอกน่า หนาวขนาดนี้ จะมายืนโง่ๆ ทำไมเป็นชั่วโมง?” 

ตอนที่เขาพูดก็มีเสียงแทรกเข้ามาด้วย เหมือนเป็นเสียงกำลังล้วงกระเป๋าเสื้ออะไรแบบนั้น “เลิกเล่นได้แล้ว พรุ่งนี้ฉันมีเรียนบ่ายนะ”

เธอสวมรองเท้าแตะแล้วเดินไปที่ประตู พอลองเปิดประตูดูแล้ว ก็พบว่าเผยอี้กำลังยืนพิงกำแพงอยู่ข้างๆ ประตูห้องเธอนี่เอง น้ำเสียงของเขายังคงอบอุ่นเสมอ มือข้างหนึ่งถือมือถือเอาไว้ ส่วนอีกข้างก็เหมือนกำลังล้วงกระเป๋าเสื้อหาผ้าเช็ดหน้า ดูก็รู้ว่าคงคิดไม่ถึงว่าเธอจะเปิดประตูออกมาแบบนี้ เขาผงะถอยไปเล็กน้อยจนเกือบจะล้ม และพูดอะไรไม่ออกอีก

เจียงเซ่อมองเขาด้วยความเหนื่อยใจ ใบหน้าของเขายังมีรอยยิ้มโง่ๆ ประดับอยู่เหมือนเดิม ท่าทางเหมือนเด็กที่โดนจับผิดได้ แล้วไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อ

ด้านนอกยังมีลมหนาวพัดมาเป็นระลอก พอตกกลางคืนแล้วอากาศก็จะหนาวกว่าตอนกลางวันพอสมควร

เสื้อด้านในที่เขาสวมเป็นแค่สเวตเตอร์ขนสัตว์ตัวบาง ส่วนข้างนอกก็สวมแค่เสื้อคลุมสีน้ำเงินเข้ม เจียงเซ่ออยากจะเข้าไปลูบมือเขา แต่เผยอี้ก็ดันสูดลมเย็นเข้าไปแล้วยกมือขึ้นสูง

“อย่าจับเลย มันเย็นน่ะ” 

“เข้ามาก่อนสิ” 

ในห้องไม่มีรองเท้าแตะที่พอจะให้เขาใส่ได้เลย แต่แค่เชิญเข้ามาในห้อง เผยอี้ก็ยิ้มหน้าบานแล้ว เขารีบแทรกตัวเข้าไปทันที ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

“โคตรหนาวเลย” 

พอเจียงเซ่อปิดประตูเรียบร้อยแล้ว ก็เดินไปหยิบรองเท้าแตะที่ใช้ใส่ตอนอาบน้ำให้เขา แล้วใช้สีหน้าบอกให้เขาเปลี่ยนรองเท้าซะ จากนั้นก็หมุนตัวเดินเข้าไปในห้องครัวเปิดเตาตั้งกาน้ำร้อนเอาไว้ 

“ที่จริง ฉันกะว่าจะรอให้เธอเข้านอนก่อนแล้วค่อยกลับน่ะ” 

เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ท่าทางสง่าผ่าเผยไม่มีอีกแล้วในตอนนี้ ขนาดนั่งอยู่บนโซฟาก็ยังสั่นไม่หยุด แต่ก็ยังจะทำตัวเหมือนว่าไม่ได้เป็นอะไรอยู่อีก ท่าทางแบบนั้นทำเอาเจียงเซ่ออยากจะหัวเราะออกมาจริงๆ

พอเผยอี้เห็นว่าเธอยิ้มออกมา เขาก็ทำใจกล้าหน้าด้านเขยิบเข้าไปหาเธออีกนิด 

“เมื่อกี้ดูอะไรอยู่เหรอ?” 

เจียงเซ่อเป่าผมเสร็จก็หอบคอมขึ้นไปบนเตียง เขาเองก็อยากจะเข้าไปดูด้วย แต่เธอก็ดันยื่นเท้าออกมายันขาเขาเอาไว้ เป็นการห้ามว่าไม่ให้ขึ้นเตียงนั่นเอง

“ฉันต้มน้ำร้อนเอาไว้ให้ในครัว ไปล้างมือล้างหน้าก่อน” 

เขาพยักหน้ารับอย่างขันแข็ง พอกำลังจะก้มลงไปประคองเท้าของเธอ เจียงเซ่อก็ชักขากลับเข้าไปในผ้าห่มอย่างรวดเร็ว

ห้องทั้งห้องเงียบฉี่ ได้ยินเพียงเสียงกาน้ำร้อนที่พอเดือดก็ดังขึ้นมาจากห้องครัว ในห้องที่ตกแต่งแบบเรียบง่ายไม่มีอะไร กับหญิงสาวที่นั่งอยู่ไปห่างจากเขานัก กำลังสนใจแต่เครื่องคอมที่อยู่ตรงหน้า

แสงจากหน้าจอส่องสะท้อนไปบนหน้าของเธอ ทำให้ผิวขาวๆ นั้นดูวาววับสวยงาม

 

น้ำในห้องครัวเดือดแล้ว เขารีบเช็ดหน้าเช็ดมือล้างเท้าให้เรียบร้อย ในห้องน้ำก็ยังมีแปรงสีฟันที่เธอซื้อมาแล้วยังไม่ได้ใช้แกะตั้งไว้ให้อีกด้วย พอจัดการกับตัวเองเสร็จเรียบร้อย เขาก็ค่อยๆ ปีนขึ้นเตียง และขยับเข้าไปใกล้ๆ เธอเรื่อยๆ ก่อนจะชะโงกหน้าเข้าไปดูหน้าจอคอมกับเธอแล้วได้เห็นว่าเจียงเซ่อกำลังดูข้อสอบในปีที่ผ่านๆ มาของทางมหา’ลัย พร้อมกับลองทำมันไปด้วยเรื่อยๆ

เขาเขยิบตัวเข้าไปอีก ก่อนจะแอบเอื้อมมือไปโอบเธอเอาไว้กลายๆ จนเหมือนว่าทั้งเธอและคอมนั่นได้เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของเขาแล้ว

ท่าทางแบบนี้ดูใกล้ชิดไม่น้อย เจียงเซ่อเงยหน้าขึ้นมา พอกำลังจะพูดอะไรเผยอี้ก็ก้มลงไปมองบนหน้าจอคอม

“ยังไม่นอนอีกเหรอ?” 

“เดี๋ยวตอบพวกนี้เสร็จก็จะนอนแล้ว” 

ถึงแม้ว่าช่วงปีหนึ่งที่ผ่านมานี้เธอมีการรับเล่นหนังมาตลอด แถมยังต้องไปฝึกการแสดงอีกต่างหาก แต่ก็ไม่มีผลการเรียนของวิชาไหนเลยที่ลดลง เพราะทุกคาบทุกวิชาเธอเข้าเรียนหมด ไม่มีเลยสักครั้งที่ขอลาหยุดเพื่อไปแสดงหนัง

คนในคณะประวัติศาสตร์เองก็ดีกับเธอไม่น้อย หรือแม้แต่ศาสตราจารย์ที่แสนเข้มงวดก็ยังชมเปราะเธอทุกครั้งที่พูดถึง

เผยอี้ไม่ได้รบกวนสมาธิเธออีก เขานั่งดูจนเธอตอบคำถามจนครบทุกข้อ คำตอบเกือบจะถูกหมดแล้วแต่ก็ยังมีผิดอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มากนัก เธอนั่งดูและจำข้อที่ตัวเองผิดอีกครั้งก่อนจะปิดคอมเพื่อเข้านอนแล้วจริงๆ

แต่หน้าอินเทอร์เน็ตยังมีแถบข่าวเกี่ยวกับจูพ่านที่ยังไม่ได้ปิดอีกด้วย และตอนนี้ก็มีพวกชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนท์กันอย่างดุเดือด ตอนแรกเธอก็กะว่าจะดูหน่อย แต่พอเผยอี้มาเธอก็ลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท 

ตอนนี้เธอเลยเลื่อนมันดูคร่าวๆ เพื่อใหรู้สถานการณ์ในตอนนี้บ้าง

ตอนค่ำที่เธอกลับมากับเผยอี้ จูพ่านที่ตามออกมาทีหลังก็โดนพวกนักข่าวมาดักรออยู่ตรงหน้าตึก ในรูปนี่หล่อนกำลังใช้กระเป๋าปิดบังใบหน้าตัวเองเอาไว้และสวมเสื้อตัวใหญ่ ท่าทางรีบร้อนและขึ้นรถไปทันที ดูท่าทางจะลำบากและน่าสงสารไม่น้อย

เผยอี้เองก็เลื่อนสายตาดูข่าวนั้นอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรกับข่าวแบบนี้นัก แต่กลับหันไปจ้องใบหน้าของเจียงเซ่อแทน ไม่นานนักเธอก็ปิดเครื่องแล้วพับหน้าจอคอมลง ยกมันไปตั้งไว้ตรงขอบหน้าต่าง ก่อนจะพูดกับเขาขึ้นมาเป็นนัยว่า

“ดึกมากแล้วเนอะ” 

เขาพยักหน้าหงึกหงัก ท่าทางน่าสงสารน้อยเสียที่ไหน

“ดึกแล้วจริงๆ นั่นแหละ” 

แขนข้างหนึ่งของเขาถูกเธอหนุนเอาไว้ ส่วนแขนอีกข้างก็พาดไปกอดเอวเธอ และมือที่อยู่บนเอวเธอก็จับเอาไว้แน่นแล้วดึงเธอให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอด ถึงจะเป็นการกอดแบบธรรมดาๆ ทั่วไปแต่ก็ทำให้เลือดในร่างกายของเขามันวิ่งพล่านไปหมด และเขาไม่อยากจะปล่อยมือออกเลยสักนิด

ร่างกายอันสวยงามและอ่อนนุ่มแบบนี้ มันนิ่มไปหมด ผิวเนื้อก็ละเอียด แถมมีกลิ่นหอมจนทำให้เคลิ้ม ถึงแม้ว่าเธอจะสวมแค่ชุดนอนผ้าฝ้ายเก่าๆ แต่หน้าอกนั่นก็ดูกลมและโค้งสวยจนเผยอี้แทบจะกำเดาไหลอยู่แล้ว

มันทำให้เขานึกถึงวันเกิดเธอวันนั้น ที่เธอเมาจนถอดเสื้อออกหมดทั้งตัว

เขาเคยฝันที่จะได้นอนบนเตียงเดียวกับเธอแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่จะรู้สึกขนาดนี้มาก่อน มันช่างดีจนเขาไม่อยากปล่อยเธอไปไหนอีกแล้ว

เจียงเซ่อดูเวลาครู่หนึ่ง นี่มันจะตีหนึ่งแล้ว ดูท่าว่าจะดึกมากจริงๆ แล้วสิ เธอเกิดนึกถึงเรื่องที่ทั้งสองคนคบกันมา ตัวเขาเองก็ประพฤติตัวดีและซื่อตรงเสมอมา เธอเองก็รู้จักเผยอี้มาหลายปีแล้ว นิสัยของเขาเธอรู้ดีแก่ใจ

เพราะตั้งแต่วันเกิดเธอที่ตัวเองเมาจนไม่ได้สตินั่นก็เห็นแล้ว ว่าเขาไม่ใช่พวกที่ชอบฉวยโอกาส เธอคิดอยู่ครู่หนึ่ง เจียงเซ่อก็ปิดเครื่องมือถือแล้วหาวออกมา

“วันหลังจะไม่ให้ทำแบบนี้แล้วนะ” 

เขาพยักหน้าอย่างขันแข็ง แล้วหันตัวไปปิดไฟทันที

ท่ามกลางความมืดนั่นเธอกลับได้ยินเหมือนว่าเขากำลังถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ เธอถึงรู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจก่อนหน้านี้ขึ้นมาซะเฉยๆ

เขาปีนขึ้นเตียงกลับมา แล้วเปิดผ้าห่มออก

“เซ่อเซ่อ หนาวจังเลยอ่ะ” 

 มือข้างหนึ่งของเขาพาดลงมากอดเธอ พอเจียงเซ่อยื่นมือไปจะผลักเขาออก นิ้วมือก็เหมือนกับว่ากำลังสัมผัสลงไปบนแผ่นอกแข็งแรงของเขา! นี่แม้แต่เสื้อเสวตเตอร์ก็ถอดออกงั้นเหรอ!

“เผยอี้! อ้ะ……” เธอลุกขึ้นนั่งแต่ก็โดนเขาดึงลงไปเหมือนเดิม จนตอนนี้ศีรษะของเธอมันหนุนอยู่บนแขนของเขาเสียแล้ว 

แต่ถึงแม้ว่าจะดึกแค่ไหน ที่คฤหาสน์ของจ้าวจวินฮั่นก็ยังมีแขกมาเยือนในยามวิกาล

กว่าเฝิงหนานจะมาถึงที่คฤหาสน์ส่วนตัวของเจ้าจวินฮั่นก็ปาเข้าไปเกือบจะเที่ยงคืนครึ่งแล้ว พอเข้ามาในตัวบ้านเธอก็ถอดเสื้อคลุมสีขาวตัวใหญ่ออกทันที เผยให้เห็นชุดเดรสผ้าถักสีดำรัดรูปของ Armani ที่แค่เธอโค้งตัวลงเพื่อถอดรองเท้าบูททั้งสองข้างออก สะโพกกลมงอนของเธอก็กระดกขึ้นมาจนล่อตาล่อใจ จนจ้าวจวินฮั่นที่มองอยู่อดใจไม่ไหว ยื่นมือไปแปะลงบนสะโพกของเธอและลูบไปมา