webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

114

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 114 ตำแหน่งที่เหนือกว่า

การกระทำที่ไร้ขอบเขตแบบนี้มันก็ง่ายเหลือเกินที่จะดึงแฟนคลับกลุ่มอื่นๆ เข้ามาร่วมถกเถียงกันด้วย มันเกินที่จะหยุดได้แล้ว แถมพวกคอมเม้นท์ไม่ดีๆ เกี่ยวกับจู่พ่านก็ต้องจัดการมันให้หมด

ที่จริงเรื่องแบบนี้มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ailsa ทำ เธอโทรออกหาใครบางคน อาศัยตำแหน่งของตัวเองในซื่อจี้หยินเหอที่ เธออยู่มานานหลายปีและมีคอนแทคไม่น้อย ก็หาแฟนคลับปลอมๆ ที่มาทิ้งคอมเม้นท์ไว้ให้กับจูพ่านได้แล้ว และสิ่งที่เธอได้คือมันก็เกี่ยวข้องกันกับบริษัทเถิงเฟยเน็ตเวิร์ค

หลังจากที่ตรวจสอบชื่อบริษัทที่กำลังเผยแพร่เรื่องพวกนั้นได้เรียบร้อยแล้ว ailsa ก็ถอนหายใจยาวออกมา เรื่องที่กวนใจมาสักพักก็เริ่มปล่อยวางลง

บริษัทเถิงเฟยเน็ตเวิร์คก็ถือว่ามีชื่อไม่น้อยในวงการนี้ ก็นับว่าบริษัทเน็ตเวิร์คนี่ก่อตั้งมาก่อนสักพักหนึ่ง ส่วน ailsa ก็เคยพาเด็กปั้นมารู้จักอยู่สองสามคนด้วย มันก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการติดต่อกันบ่อยๆ และแน่นอนว่าเธอก็ยังได้ติดต่อกับคนในบริษัทนั่นอยู่บ้าง

ผู้ที่ก่อตั้งบริษัทเถิงเฟยเน็ตเวิร์คขึ้นมาก็คือคังเถิงเฟย ailsa เองก็เคยติดต่อพูดคุยกัน หลังจากที่เลื่อนหน้าจอมือถือจนเจอเบอร์เขาแล้ว หล่อนก็กดโทรออกทันที

เสียงสัญญาณรอสายดังขึ้นอยู่เจ็ดแปดรอบ แต่ปลายสายก็ยังไม่รับ

Ailsa ขมวดเริ่มขมวดคิ้วเข้าหากัน รอจนเสียงสัญญาณมันดังจนตัดไปเอง คังเถิงเฟยก็ยังไม่รับสายหล่อนเสียที สถานการณ์แบบนี้มันผิดปกติเกินไปแล้ว

ถึงตอนนี้มันจะตีสามกว่าแล้วก็เถอะ แต่การทำงานวงการนี้ การนอนกลางวันทำกลางคืนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเสียหน่อย โดยเฉพาะกับตอนที่คนในบริษัทเถิงเฟยกำลังท่องเน็ตไปอย่างสนุกสนานแบบนั้น เรื่องใหญ่ขนาดนี้ คังเถิงเฟยไม่ทีทางที่จะนอนและไม่ได้รับสายเธอแน่ๆ

“หรือเขาอาจได้รับสายของใครไปก่อนหน้านี้แล้ว เลยไม่รับสายของฉันงั้นเหรอ?”

Ailsa มีสีหน้ากังวลขึ้นมา จูพ่านที่นั่งอยู่ก็หาวขึ้น “งั้นฉันไปอาบน้ำนอนก่อนละกัน”

ช่วงนี้เป็นช่วงที่นักแสดงหลักของเรื่อง ’99 Love Letter’ ออกโปรโมท ดังนั้นในทุกๆ วันหล่อนจะต้องวิ่งวุ่นไปทุกที่ แถมคืนนี้ยังได้ไปร่วมงานปฐมทัศน์ของหนังอีก บทที่หล่อนแสดงก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ถูกยกยอ หล่อนเลยต้องจงใจทำเป็นว่าเพิ่งจะออกมาจากโรงหนังในตอนตีสอง และให้ ailsa นัดพวกสื่อเอาไว้ก่อน เพื่อถ่ายตอนที่หล่อนเดินออกมาจากโรงหนังนั่นเอง ถึงจะกลับมาได้

แต่พอกลับมาก็ได้รับข่าวใหญ่จากผู้จัดการ ส่วน ailsa เองก็ตกใจไม่น้อย

ตอนนี้เธอกำลังโมโหโบรกเกอร์เป็นอย่างมาก เธอยกมือขึ้นห้าม ก่อนจะเปิดดูสมุดบันทึกอย่างอารมณ์เสียพลางหันมาหาจูพ่าน

“เธอลองดูสิ ตอนนี้ในเน็ตเขาพูดถึงเธอกันยังไงบ้าง?”

สงครามประสาทยังไม่มีวี่แววว่าจะสงบลง เพราะคนในบริษัทเถิงเฟยเน็ตเวิร์คสวมรอยเป็นแฟนคลับของจูพ่าน จนตอนนี้ไปหาเรื่องและโดนแฟนคลับกลุ่มอื่นๆ ด่ากลับมามากมาย มันวุ่นวายเสียจนไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดแล้ว

จูพ่านลอบมองครู่หนึ่ง มองดูคำพูดประโยคที่กำลังยกยอปอปั้นตัวเองเหล่านั้น หล่อนอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

“มันก็เป็นเรื่องจริงไม่ใช่เหรอ?”

“เรื่องจริง?” ailsa ยิ้มเยาะออกมา “ตอนนี้เป็นช่วงกอบโกยงาน เป็นช่วงขาขึ้นของตัวเธอเองนะ แต่ถ้าเรื่องมีเกิดวุ่นวายขึ้นมาแบบนี้......” ยังไม่ทันจะได้พูดจบ ผู้จัดการของจูพ่านก็ถือมือถือเดินเข้ามา แล้วพูดขึ้นเบาๆ “พี่ซา มีคนต้องการคุยกับพี่น่ะ”

Ailsa ระงับความโกรธของตัวเองลง แล้วรับมือถือนั่นมา ปลายสายที่โทรมาคือเพื่อนในวงการของเธอคนหนึ่ง การโทรมาของเขามีความนัยมากอีกด้วย

“นี่พี่ซา จูพ่านเด็กปั้นของพี่น่ะ ได้ไปทำอะไรให้นักแสดงหน้าใหม่ของ ’99 Love Letter’ เขาไม่พอใจหรือเปล่า?”

คำพูดนั้นเหมือนยังไม่ได้ตัดสินอะไร แต่การที่ถามมาอย่างนั้นก็ทำให้ ailsa งงขึ้นมาไม่น้อย

หล่อนเป็นคนดูแลและจัดการเรื่องงานของจูพ่านทุกงานทุกเรื่อง และเวลาส่วนมากของหล่อนเอง คนที่อยู่กับจูพ่านนอกจากตัวหล่อนแล้วก็เป็นคนที่หล่อนติดต่อและไว้ใจได้ทั้งนั้น เรื่องที่จูพ่านจะเกิดไม่ชอบใครขึ้นมา หรือเป็นคนไปเริ่มหาเรื่องดาราใหม่อะไรนั่นหล่อนไม่ค่อยมั่นใจนัก

แต่พอเพื่อนคนนี้พูดถึงขึ้นมา ailsa เองก็ชักเริ่มรู้สึกว่าเรื่องนี้มันเริ่มมีอะไรๆ ขึ้นมาอีกแล้ว เธอกดความรู้สึกไม่แน่ใจเอาไว้ แล้วถามออกไปพร้อมเสียงหัวเราะ

“พูดตรงๆ นะ เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ ฉันเองก็วุ่นวายจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รู้ต้นสายปลายเหตุจริงๆ เลย นาย ไปได้ยินอะไรมาใช่ไหม?”

“การฉายรอบแรกของหนังเรื่องจดหมายรักเก้าสิบเก้าฉบับน่ะ ในเน็ตก็เริ่มมีการคอมเม้นท์ด้านลบของ ‘หญิงสาวในฝัน’ แล้ว”

ชายหนุ่มปลายสายกำลังแอบๆ เตือน “ส่วนมากก็เอาแต่พูดถึงเรื่องฝีมือการแสดงของนักแสดงใหม่คนนั้น ว่าเทียบไม่ได้เลยกับจูพ่านน่ะ”

หลังจากที่ ailsa ได้ยินประโยคนั้นแล้ว ก็เหมือนว่าจะเริ่มคิดอะไรขึ้นมาได้

ถ้าย้อนดูสถานการณ์ดูดีๆ แล้ว วงการนี้มันก็เหมือนกับการที่ยืนอยู่ท่ามกลางสนามรบที่ไม่เห็นแม้แต่ควันระเบิด ก็เหมือนกับเรื่องในตอนนี้ที่ก็เป็นเรื่องปกติทั่วไป ดาราใหม่คนนั้น ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์หรือเบื้องหลังและจุดยืน ยังไงก็คงเทียบไม่ได้กับพระเอกนางเอกหรอก แต่แน่นอนว่าส่วนมากก็ต้องแลกอะไรมามากแบบไม่คุ้มเสีย

การที่จูพ่านรับเล่นหนังเรื่อง ’99 Love Letter’ นี่ รับเป็นนางเอกให้กับผู้กำกับจ้าวร่าง แต่ก็เป็นเพราะจ้าวร่างได้ไปเล่นกับพวกคนที่วิพากษ์วิจารณ์กันตอนที่โปรโมตหนัง แถมเขายังใช้ประโยชน์จากบทที่แม้แต่หน้าก็ไม่ได้เห็นที่ดาราใหม่เป็นคนแสดงอีกด้วย ทำให้สื่อส่วนใหญ่กลับไปให้ความสนใจต่อดาราใหม่คนนั้นแทน และแน่นอนว่าต้องแบ่งความสนใจจากจู่พ่านไปด้วย

แน่นอนว่าแบบนั้นก็เหมือนกับดาราใหม่กำลังมาทับเส้นกับจูพ่าน ทำให้เธอนั้นน่าสนใจกว่า และการที่จูพ่านจะไปลงมืออะไรเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ก็วงการบันเทิงมันไม่ได้มีกฎเกณฑ์อะไรเขียนกำกับไว้เสียหน่อย ดาราใหม่ที่ไม่มีแบค ถึงจะโดนเหยียบย่ำไปบ้าง ก็ทำได้แต่โมโห ไม่กล้าจะออกมาพูดอะไรหรอก

แต่ในเมื่อเพื่อนโทรมาพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาแล้ว แถมยังถามว่าจูพ่านได้ไปทำอะไรกับดาราใหม่คนนั้นหรือเปล่า ก็เหมือนกับจะทำให้เธอรู้ว่าดาราใหม่คนนั้นก็คงจะไม่ธรรมดาๆ เสียแล้ว

“แล้วดาราใหม่คนนั้นมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรงั้นเหรอ?” ailsa ถามออกไป ชายหนุ่มปลายสายก็กระแอมไอขึ้นมาหนึ่งที

“ว่ากันว่าเป็นคนในกลุ่มทายาทสั่งมา นี่พี่ซา เรื่องนี้น่ะ พี่อยากจะโต้ตอบแทนบริษัทซื่อจี้หยินเหอหน่อยไหมล่ะ ปล่อยให้พวกข้างบนนั่นปวดหัวกันเล่นๆ?”

หลังจากที่ได้ยินข่าวแบบนั้น ในใจของ ailsa ก็เริ่มเย็นลงไปมากแล้ว

มิน่าล่ะ ตั้งแต่ที่เกิดเรื่อง คังเถิงเฟยก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์เธอเลย ดูท่าว่าเรื่องที่เพื่อนคนนี้พูดจะเป็นเรื่องจริงสินะ ดาราหน้าใหม่คนนั้นมีภูมิหลังที่น่าทึ่งจริงๆ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่กล้าก่อกวนขนาดนี้แน่!

เธอยิ้มออกมา ก่อนจะพูดขอบคุณเพื่อนไปสองสามคำ หลังจากที่วางสายเรียบร้อยแล้วเธอก็หันไปมองจูพ่าน กลั้นอารมณ์โมโหเอาไว้แล้วถามออกไป

“พ่านพ่าน ดาราใหม่ที่ผู้กำกับจ้าวเลือกมาแสดงในหนัง ‘99 Love Letter’ เธอแอบก่อกวนอะไรเขารึเปล่า?”

พอจูพ่านได้ยินอย่างนั้น หล่อนก็ลุกนั่งตัวตรง ตอนนี้ท่าทางของ ailsa ไม่ค่อยดีนัก หล่อนเองก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกตินั้น

“ทำไมเหรอ?”

“เธอแอบทำอะไรกันแน่!” เสียงของ ailsa ดังขึ้นอีก ตั้งแต่ที่จู่พ่านเริ่มจะมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา บริษัทก็เริ่มมีท่าทีต่อเธอดีขึ้นกว่าตอนแรกๆ และ ailsa เองก็ดูจะเกรงใจเธอมาตลอด น้อยมากที่เธอจะใช้คำพูดและอารมณ์แบบนี้กับหล่อน จูพ่านเองก็เริ่มมีสีหน้านิ่งเรียบไป

“งานหนังในคืนนี้ มีหลายคนที่เอาฉันไปเรียบเทียบกับดาราใหม่อะไรนั่นอย่างไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร ฉันแค่ให้คนไปหาพวกบริษัทปล่อยข่าว แกล้งทำคำวิพากษ์วิจารณ์ออกมาแค่นั้นเอง ทำไมล่ะ?”

เพราะนี่มันก็เป็นวิธีที่ทุกคนใช้กันอยู่แล้วนี่ และมันก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่หล่อนทำเสียหน่อย หล่อนไม่เข้าใจเลยว่าทำไมailsa ต้องโมโหอะไรขนาดนี้ด้วย

“ครั้งนี้เธอก่อเรื่องใหญ่แล้ว!” ailsa ไม่มีอารมณ์จะคุยกับหล่อนอีกแล้ว เธอรีบหยิบมือถือขึ้นมาเพื่อติดต่อไปถึงเบื้องบน ให้พวกเขาจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย

ในค่ำคืนนี้โบรกเกอร์ของจูพ่านวุ่นวายกันไม่น้อย ส่วนเนี่ยต้านและคนอื่นๆ ก็แค่นั่งคุยอะไรกันนิดหน่อย ดื่มเหล้ากันตามธรรมเนียมที่สร้างขึ้นมาเองแล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน

เช้าวันต่อมา เมื่อเจียงเซ่อลองเปิดคอมพิวเตอร์ดู หัวข้อข่าวของวงการบันเทิงในวันนี้ก็เด้งพรวดขึ้นมาเต็มไปหมด มันพาดเอาไว้ว่า ‘เริ่มไม่แน่ใจ ‘หญิงสาวคนนั้น’ คู่ควรกับบท ‘หญิงสาวในฝัน’ ใน ‘99 Love Letter’ หรือไม่ แฟนคลับสองฝ่ายยังทำสงครามกันไม่หยุด!’

และเธอยังไม่ทันที่จะได้เลื่อนลงไปดูเนื้อหา ก็ต้องมารับสายจากทีมงานของจ้าวร่างเสียก่อน คนที่โทรมากบอกให้เธอเตรียมตัวให้พร้อมเสียหน่อย เพราะภายในสองวันนี้จ้าวร่างอาจจะเชิญเธอไปพบกับสื่อมวลชนแล้ว

ยอดสถิติการขายบัตรของหนังรอบแรกออกมาแล้ว ที่ได้มาคือ สิบหกล้านห้าแสนแปดหมื่นใบ ตามแนวโน้มที่เกิดขึ้น ถ้าในวันนี้บัตรจะขายได้เกินร้อยล้านก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้