webnovel

จวนสกุลฉู่

ฉู่หยวนเซวียนภายหลังจากกลับมาถึงจวนนางขังตัวเองอยู่ภายในห้องนอนนานกว่าหนึ่งชั่วยาม จวนสกุลฉู่แห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ด้านทิศเหนือจัดเป็นหนึ่งในสกุลใหญ่แห่งฉางอาน ด้วยเคยมีลูกหลานกินตำแหน่งเป็นถึงราชครู ทั้งยังเคยมีพระสนมคนสำคัญเป็นบุตรีสายตรงสกุลฉู่ ในรัชสมัยปฐมกษัตริย์หลี่ยวนฮ่องเต้ จนสกุลฉู่สิ้นทายาทสายตรงกระทันหันในรัชสมัยจักรพรรดิหลี่ซื่อหมิ่น สกุลฉู่แห่งฉางอานจึงถูกลดบทบาทหน้าที่ในราชสำนักลงไปหากแต่ฐานอำนาจเดิมยังคงมีอยู่ไม่น้อยจึงทำให้คนสกุลฉู่ยังจัดเป็นชนชั้นสูงในเมืองหลวง

"เซวียนเอ๋อร์ยังไม่ยอมออกมาจากห้องอีกหรือ?"

ฉู่เหยียนเจิ้งพี่ชายฝาแฝดของฉู่หยวนเซวียนทั้งยังเป็นบุตรชายสืบสกุลคนสำคัญเพียงคนเดียวของสกุลฉู่ บุรุษหนุ่มดวงหน้าคมคายหล่อเหลาผู้มีดวงตาดอกท้องดงามได้รูป หากแต่ผิวพรรณซีดเซียวผิดธรรมดาด้วยมีโรคร้ายติดตัวมาแต่กำเนิด ถึงกระนั้นฉู่เหยียนเจิ้งยังคงมีใบหน้างดงามละม้ายคล้ายฉู่หยวนเซวียนถึงแปดส่วน

"คุณชายใหญ่ช่วยด้วยเถอะเจ้าค่ะ...คุณหนูไม่ยอมออกมาจากห้องเกือบสองชั่วยามแล้วเจ้าค่ะ บ่าวเรียกอย่างไรคุณหนูไม่ตอบรับเจ้าค่ะ"

หย่งเอ๋อสาวใช้ประจำตัวของฉู่หยวนเซวียนยามนี้น้ำตาปริ่มขอบตาทั้งสองข้าง ด้วยเป็นห่วงที่นายหญิงของตน ทรมานตัวเองอยู่ในห้องเล็กอุดอู้ตลอดบ่าย

"เซวียนเอ๋อร์...พี่ขอเข้าไปได้หรือไม่?"

ฉู่เหยียนเจิ้งเอ่ยคำขออนุญาตผ่านบานประตูเข้าไป ด้วยสุขภาพไม่สู้ดีนักน้ำเสียงเขาจึงไม่สดใสเท่าที่ควร ยังไม่ทันได้เอ่ยถ้อยคำซ้ำอีก พลันบานประตูไม้แกะสลักรูปนกเป็ดน้ำคู่เปิดออกทันทีพร้อมกับร่างงดงามอรชรโผเข้ามาหา

"อาเจิ้ง....ท่านออกมาจากเรือนชิงฟงใยไม่นั่งเกี้ยวเล็กมา....ท่านเหนื่อยมากหรือไม่เจ้าคะให้ข้าดูท่านหน่อย..."

ฉู่หยวนเซวียนมือไม้วุ่นอยู่กับการสาละวนยกผ้าเช็ดหน้าผืนบางซับเหงื่อบนหน้าผากให้พี่ชาย พลางบ่นพึมพำเด็กรับใช้ไม่หยุด ที่ปล่อยให้ฉู่เหยียนเจิ้งเดินมาหานางถึงเรือนพัก

"ให้พี่ออกมารับลมบ้างเถิด....เจ้าให้คนเฝ้าพี่อยู่ในเรือนเสียจนพี่อุดอู้แทบแย่อยู่แล้ว"

ฉู่เหยียนเจิ้งตัดพ้อน้องสาวคนเล็กได้แต่เพียงคำพูด ส่วนแววตานั้นทั้งรักทั้งเอ็นดูตามใจน้องสาวคนนี้ยิ่งนัก ยามที่เด็กรับใช้มาแจ้งข่าวที่เรือนชิงฟงว่าน้องสาวคนดีของเขา หลังจากกลับมาถึงจวนก็ขังตัวเองอยู่ในห้องไม่ยอมพบผู้ใดตลอดบ่าย...ฉู่เหยียนเจิ้งจึงหาข้ออ้างออกมาจากเรือนชิงฟง

"อาเจิ้งข้าเปล่าขังท่าน....ข้าเพียงแต่เป็นกังวล เห็นท่านมีกำลังเดินเหินได้เช่นนี้ตัวข้าไม่ถือว่าออกไปเสียเที่ยวแล้ว"

ฉู่หยวนเซวียนแย้มยิ้มเต็มหน้าพลันอากาศที่สดใสอยู่แล้วยิ่งเปล่งประกายขึ้นไปอีก

"ข้าเดินไปส่งท่านกลับเรือนชิงฟงดีหรือไม่?"

ฉู่หยวนเซวียนดั่งนางฟ้านางสวรรค์ ทั้งอ่อนโยนอ่อนหวาน มีครั้งเดียวเท่านั้นที่นางอาละวาดบ่าวรับใช้เมื่อหลายปีก่อนด้วยสะเพร่าไม่ลงกลอนหน้าต่างให้สนิททำให้ฉู่เหยียนเจิ้งต้องความเย็น จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด หลังจากนั้นไม่มีผู้ใดกล้าละเลยคำสั่งของนางอีกต่อไป

สองพี่น้องสกุลฉู่เป็นคู่หงห์มังกรเพียงหนึ่งเดียวในฉางอันยามนี้ ทั้งมีชาติกระกูลสูงส่งรูปงาม เสียแต่เพียงสวรรค์เลือกเอาความอาภัพทั้งหมดของคนสกุลฉู่ฝากไว้กับฉู่เหยียนเจิ้งผู้พี่ให้เขาเกิดมามีโรคประจำตัวตั้งแต่เกิด

ชีวิตตลอดสิบเจ็ดปีที่ผ่านมาฉู่เหยียนเจิ้งมีลมหายใจเสมือนหม้อต้มยาเดินได้เห็นจะไม่ผิดนักผิดกันกับฉู่หยวนเซวียนน้องสาว ผู้ที่ยิ่งเติบโตยิ่งงดงามเปล่งประกายดั่งเทพเซียนใบหน้านางคล้ายดั่งเด็กสาวแรกรุ่นไม่มีเค้าของสตรีผู้พ้นวัยปักปิ่นแม้เพียงนิด

"เจ้าเอ่ยได้ตรงใจพี่...ไม่ได้เดินชมสวนกับเจ้านานมากแล้วเราไปกันเซวียนเอ๋อร์"

สองพี่น้องจับมือเดินเคียงกันไปตามระเบียงทางเดินโค้งเก้าชั้น บ่อปลาในสวนยามนี้เต็มไปด้วยปลาหลีฮ้อ สีเหลืองสด ว่ายวนไปมากับดอกบัวสีเขียวสดงดงาม

แต่ก่อนยามอยู่กันแต่เพียงลำพังฉู่เหยียนเจิ้งผู้พี่จะเรียกขานฉู่หยวนเซวียนว่า "หยุนหยุน" มีความหมายว่าก้อนเมฆน้อยเป็นชื่อเรียกขานที่มารดาผู้งดงามมอบให้ ยามเป็นทารกฉู่หยวนเซวียนมีผิวขาวนุ่มละเอียดดุจปุยเมฆ เมื่อนางเติบโตขึ้นมาจำต้องแบกรับภาระดูแลจวนสกุลฉู่จึงไม่ยอมให้พี่ชายเรียกนางเช่นเดิมอีก

ทันทีที่กลับมาถึงเรือนเฟิ่งอวี้ฉู่หยวนเซวียนเรียกหาเหลียงซานทันที เมื่อครู่ในใจนางยินดีอย่างยิ่งที่เห็นพี่ชายอาการดีขึ้นหากแต่เรื่องสำคัญที่สุมอยู่ในอกยามนี้หนีไม่พ้นบุรุษหนุ่มท่าทางซอมซ่อ..จิ้นซื่อจากขุยโจวผู้มีนามว่า

'หยางเล่ยอี้'

วันนี้นางยอมออกจากจวนด้วยจำต้องไปรับตัวยาสำคัญเอามาให้อาเจิ้ง หากไม่มีผู้ที่วางใจได้เรื่องตัวยาเช่นนั้นนางคงไม่ก้าวออกจากจวนไปไหน ที่ผ่านมาฉู่หยวนเซวียนดูแลฉู่เหยียนเจิ้งด้วยตัวเองทุกอย่างทั้งอาหารข้าวของเครื่องใช้ รวมไปถึงตัวยาบรรเทาอาการ นางจึงไม่เคยออกจากจวนไปเที่ยวเล่นที่ใดเป็นเวลาหลายปี ข้างกายนางเหลือพี่ชายเพียงคนเดียว ดังนั้นสิ่งใดที่เป็นเรื่องราวของพี่ชายจึงนับรวมเป็นของนางเช่นกัน

ไม่นึกไม่ฝัน...เพียงนางก้าวท้าวออกจากจวนครั้งแรก ในรอบหลายปี กลับได้พานพบศัตรูในตรอกแคบเสียได้... ปัญญาชนแก้แค้นสิบปียังไม่สาย นับภาษาอะไรกับสกุลฉู่ของนางมีมลทินมาเกือบร้อยปี คราวนี้ถึงเวลาที่นางจะแก้แค้นคนสกุลหยางให้สาแก่ใจ!!!

ฉู่หยวนเซวียนนึกตรองแผนการในหัว....จะเป็นหยางเหลยอี้หรือหยางเล่ยอี้ก็ดี ช่างเลือกเกิดมาได้พอเหมาะพอดีนัก ใบหน้าถอดแบบบุคคลผู้นั้นเต็มทั้งสิบส่วน ในที่สุดสวรรค์ก็เห็นใจสกุลฉู่ คนแซ่หยางไม่ว่าใครก็ไม่คู่ควรอยู่ร่วมแผ่นดินกับนางทั้งนั้น!!

"เหลียงซาน....เจ้าจงออกไปสืบหาที่อยู่ของคนแซ่หยางคนนั้นให้ข้า"

"หากเจ้าหาที่อยู่ของเขาไม่พบข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้า....เข้าใจหรือไม่!"

"ขอรับคุณหนู"

ภายหลังเหลียงซานออกไปตามคำสั่งของฉู่หยวนเซียน หย่งเอ๋อบรรจงรินน้ำชาใบใผ่เอ่อผู่บนโต๊ะยื่นให้ผู้เป็นนายได้ดับอารมณ์เดือดดาลยามนี้

-----------------------

โปรดติดตาม